รักเธอนิรันดร

8.7

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 21.08 น.

  10 ตอน
  98 วิจารณ์
  12.95K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

Chapter 3

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"หวัดดีป๊อปปี้" แก้วเข้าไปทักทายป๊อปปี้ ตอนนี้เขากำลังยืนมองวิวอยู่ที่สะพานข้ามแม่น้ำข้างๆหอของเขา

 

 

 

"หวัดดี มาดูวิวเหมือนกันหรอ" ป๊อปปี้ถามเปิดประเด็น

 

 

 

"ป่าวหรอก ฉันผ่านมาทางนี้ เห็นนายก็เลยเข้ามาทัก"

 

 

 

"ฉันพึ่งรู้ว่าที่นี่สวยมากขนาดนี้" ป๊อปปี้มองไปข้างหน้าที่เป็นแม่น้ำและสองข้างทางมีต้นไม้ใหญ่หลายต้นพร้อมนกที่บินเป็นปกติ อาจจะเป็นวิวที่ธรรมดา แต่ที่นี่กลับเงียบสงบ

 

 

 

"ใช่ สวยมาก และน่ากลัวมากเช่นเดียวกัน" แก้วมองไปข้างหน้าแล้วสูดดมกลิ่นธรรมชาติ

 

 

 

"หมายความว่าไง"

 

 

 

"ไม่รู้สิ ที่สวยๆมักน่ากลัวทั้งนั้น" แก้วพูดพร้อมยิ้มเหนื่อยๆ

 

 

 

"ได้ข่าวว่าเธอถูกทำร้าย เป็นอะไรมากไหม" ป๊อปปี้นึกขึ้นได้ว่าเมื่อสองวันก่อนมีคนมาทำร้ายแก้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ถามเพราะคลาสเรียนเขาและแก้วไม่ตรงกัน

 

 

 

"ฉันปลอดภัยดี อันที่จริงมีคนมาช่วยฉันไว้ทันน่ะ" แก้วมองวิวบนสะพาน ในหัวคิดถึงเรื่องวันนั้นที่โทโมะมาช่วยเธอ

 

 

 

"ใคร ฉันขอถามได้ไหม"

 

 

 

"พี่โทโมะ กับพวกครอบครัวของเขา" แก้วพูดด้วยสีหน้าที่ยังไม่หายสงสัยกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น

 

 

 

"พวกนี้อีกแล้ว"

 

 

 

"ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เขาช่วยฉัน ครั้งแรกเขาเป็นคนอุ้มฉันมาส่งที่ห้องพยาบาล คุณหมอโจลี่ เป็นคนบอกฉันเอง"

 

 

 

"เธอไปทำอะไร"

 

 

 

"ฉันเคยเดินออกไปเพ่นพล่านในคืนจันทร์ดับ และจู่ๆฉันก็รู้สึกวูบไป ทุกอย่างมืดไปหมด รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ห้องพยาบาลแล้ว" แก้วเล่าถึงความหลังให้ป๊อปปี้ฟัง "ตอนนั้นฉันคิดว่าตัวเองจะตายด้วยซ้ำ"

 

 

 

"แต่เธอก็ยังอยู่นี่" ป๊อปปี้พูดขำๆ

 

 

 


"อืมใช่ ฉันยังอยู่"

 

 

 

"เเล้วเธอไม่เคยสงสัยหรือคิดที่จะหาคำตอบเกี่ยวกับลูกอุปถัมภ์ของครูใหญ่ไมเคิลเลยหรอ" ป๊อปปี้หันไปถามแก้ว เขาพอจะเดาออกว่าตัวเธอนั้นอยากรู้เรื่องราวของพวกนั้น แต่เพราะอะไร..ทำไมเธอไม่คิดจะหาคำตอบล่ะ

 

 

 

"เพราะว่าฉันไม่เคยหาคำตอบได้เลยสักครั้งยังไงล่ะ"

 

 

 

"เพราะ?"

 

 

 

"ในเวลาที่ฉันพยายามจะหาคำตอบ กลับไม่เป็นไปตามที่ฉันคิด และฉันก็ไม่เคยเชื่อที่พวกนั้นพูดเลยสักครั้งเดียว"

 

 

 

"แปลกดีนะ พวกนั้นน่ะ" ป๊อปปี้คิดบางสิ่งบางอย่าง "ทั้งๆที่มันเป็นยามวิกาล ห้ามให้ใครออกไปข้างนอก แต่หมอนั่นกลับมาช่วยเธอได้"

 

 

 

"นายหมายความว่ายังไง"

 

 

 

"ไม่รู้สิ ฉันจับตาดูพวกนั้นมาเป็นอาทิตย์ ฉันรู้สึกว่าพวกนั้นไม่เหมือนเรา"

 

 

 

"..."

 

 

 

"พวกนั้นไม่เคยกินหรือดื่มอะไร ไม่เคยออกไปเจอแสงแดด ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ ยังไม่รวมไปถึงสีดวงตา ที่พวกนั้นอ้างว่าใส่คอนแทค" ป๊อปปี้จับขอบสะพาน พร้อมพูดออกมาด้วยความสงสัยและอึดอัดที่ไม่สามารถรู้ได้

 

 

 

"และชอบทำตัวลึกลับ" แก้วเพิ่มขึ้นมาอีกประโยคนึง

 

 

 

"ใช่ พวกนั้นทำตัวลึกลับ เธอลองทายดูสิว่าวันหยุดนี้ฉันชวนใครไปเที่ยวทะเลด้วยกัน"

 

 

 

"นายชวนฟางใช่ไหม"

 

 

 

"เธอรู้ได้ไง"

 

 

 

"ฉันมองตั้งแต่ครั้งแรกที่นายมาที่นี่ นายไม่ละสายตาจากเธอเลย" แก้วกอดอกหันหลังพิงขอบสะพานแล้วมองป๊อปปี้ "และฉันพอจะเดาออกว่านายไม่ได้สังเกตุพวกนั้นธรรมดาแน่ๆ นายกำลังสนใจฟางใช่ไหม"

 

 

 

"ท่าทางฉันมันดูง่ายขนาดนั้นเลยหรอไง" ป๊อปปี้พูดยิ้มๆ พลางส่ายหน้า

 

 

 

"แล้วฟางตอบว่าไง ฉันขอเดาเลยว่าไม่"

 

 

 

"ใช่ เธอปฏิเสธฉัน"

 

 

 

"พวกนั้นไม่เคยออกแดดอยู่แล้ว ทำตัวอย่างกับผีงั้นแหละ ฮ่าๆ" แก้วพูดขำๆ ทั้งสองคุยกันอยู่นานสองนาน โดยมีสายตาหนึ่งจับจ้องพวกเขาทั้งสองอยู่อย่างไม่ละสายตา..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


"สวัสดี ฉันดีใจที่ได้เจอนักเรียนที่หน้าตาดีทุกคนนะจ๊ะ วันนี้เรามาเริ่มเรียนกันดีกว่า" คุณครูนาตาลีทักทายนักเรียนทุกคนและวิชานี้คือวิชาโลกและดาราศาสตร์

 

 

 

"ขออนุญาตเข้าห้องครับ" ป๊อปปี้วิ่งเข้ามาด้วยความเร่งรีบ เพราะเขาดันลืมว่าวิชานี้เขาเรียนในเวลาบ่ายโมง

 

 

 

"เลทไป5นาทีนะจ๊ะภาณุ เราเหลือที่นั่งตรงนั้นเพียงที่เดียว เชิญจ้ะ" ครูนาตาลีว่าก่อนจะชี้ไปที่โต๊ะเกือบท้ายสุดซึ่งนั่นเป็นที่นั่งของฟาง ป๊อปปี้เดินเข้าไปก่อนจะนั่งลงข้างๆเธอ

 

 

 

"หวัดดี" ป๊อปปี้กล่าวทักทายหญิงสาว

 

 

 

"มัวแต่ไปหาหนังสืออะไรในห้องสมุดล่ะ ถึงได้ช้า" ฟางจดบนกระดานพร้อมพูดกับป๊อปปี้

 

 

 

"เธอรู้ได้ยังไง"

 

 

 

"นายคงไม่ได้สังเกตุว่าฉันก็อยู่ในนั้นด้วยเหมือนกัน" ฟางพูดบ่ายเบี่ยงเพื่อไม่ให้มีพิรุธ เพราะแท้ที่จริงเธอรู้ได้เพราะอ่านใจเขาออก

 

 

 

"ก็คงงั้น" ป๊อปปี้ยิ้มนิดๆ ก่อนจะหยิบสมุดและปากกาขึ้นมาจด "เธอจะไม่เปลี่ยนใจจริงๆใช่ไหม เรื่องที่ฉันชวนเธอไปทะเลน่ะ"

 

 

 

"ไม่ล่ะ นายไปเถอะ" ฟางไม่สบตาเขาแม้แต่นิด และตั้งหน้าตั้งตาจดอย่างเดียว

 

 

 

"ลองไปกับฉันสักครั้งเถอะนะ ถือว่าฉันขอ"

 

 

 

"ขอโทษที่ต้องปฏิเสธนายซ้ำแล้วซ้ำเล่านะ แต่เป็นเพราะฉันมีนัดแล้ว พวกนายไปสนุกกันเถอะ"

 

 

 

"รู้ไหมว่าเธอน่ะเป็นคนที่เข้าถึงยากกว่าที่ฉันคิดอีกนะ"

 

 

 

"ไม่รู้สิ ฉันไม่ใช่แบบที่นายคิดหรอกนะ" ฟางพูดจบก็เก็บของเดินออกไปจากห้องเรียนทันที ปล่อยให้ป๊อปปี้มึนงงอยู่ตรงนั้น เพราะเหตุใดทำไมเธอถึงพูดเช่นนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


"น้องคงไม่ได้ทำให้ใครสงสัยใช่ไหม เรื่องของพวกเรา" เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นในระหว่างที่ป๊อปปี้กำลังจะเดินกลับเข้าหอเพราะตอนนี้ก็จวนจะสองทุ่มแล้วที่เขานั่งอ่านหนังสือเล่นที่สะพานริมแม่น้ำที่เขาชอบไปบ่อยๆ ซึ่งที่นั่นมีม้านั่งอยู่ที่ริมขอบสะพาน

 

 

 

"พี่ได้ยินมาว่าเด็กใหม่นั่นกำลังสงสัยและพยายามหาคำตอบ" ป๊อปปี้เดินไปหลบที่มุมกำแพงก็พบโทโมะและฟางยืนคุยกันอยู่ โดยที่ป๊อปปี้ขมวดคิ้วมุ่น เพราะแก้วบอกเขาว่าโทโมะไปต่างเมืองหนึ่งอาทิตย์ แล้วนี่ก็ยังไม่ถึงด้วยซ้ำ เขาไม่เห็นโทโมะอยู่ในโรงเรียนเลยแม้แต่แว๊บเดียว

 

 

 

"ฟางว่าเราต้องทำอะไรสักอย่าง ถ้าขืนหมอนั่นยังอยู่ต่อไป เรื่องของเราก็ไม่สามารถปิดได้อีกต่อไป หมอนั่นไม่เหมือนคนอื่น" ฟางพูดพร้อมนึกถึงสีหน้าและท่าทางของป๊อปปี้ที่คอยจับผิดเธออยู่ตลอดเวลา

 

 

 

"เมื่อวานพี่ได้ยินหมอนั่นคุยกับแก้ว เด็กใหม่นั่นสนใจน้องนะ"

 

 

 

"พี่ควรรู้ไว้ว่าการสนทนาระหว่างเราไม่เป็นความลับอีกต่อไป" ฟางหันขวับไปมองยังกำแพง

 

 

 

"นี่มันกลิ่นมนุษย์" โทโมะหันมองตามฟาง ป๊อปปี้รีบวิ่งออกจากตรงนั้นทันทีที่สองคนนั้นมองมา

 

 

 

"นั่นใครน่ะ" โทโมะไปที่กำแพง กลับพบว่าไม่มีใครอยู่เลย ฟางได้แต่ยืนมองอยู่กับที่ตรงนั้น เพราะเธอรู้ว่าคนที่แอบอยู่หลังกำแพงคือใคร

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


"เเม่ครับ ผมคิดถึงแม่มากเหลือเกิน" ป๊อปปี้นั่งมองท้องฟ้าในยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดินที่สะพานริมน้ำ พลางนึกถึงแม่ที่ตายแล้ว

 

 

 

แกร๊บ!!

 

 

 

"นั่นใคร" ป๊อปปี้หันไปตามเสียงนั้น ซึ่งทางที่เขามองไปเป็นอีกฝั่งหนึ่งของโรงเรียน เป็นป่าใหญ่ ป๊อปปี้นึกถึงวันที่เขาไปอบรมกฎระเบียบของโรงเรียนคุณครูนาตาลีบอกว่านั่นเป็นป่าต้องห้าม ห้ามเข้าไปเป็นอันขาด

 

 

 

"ลองเข้าไปคงไม่เสียหาย" ป๊อปปี้เดินเข้าไปไกลพอสมควร แล้วมองไปรอบๆ ต้นไม้ใหญ่และสูงรายล้อมเต็มไปหมด

 

 

 

"นายมาทำอะไรที่นี่" ป๊อปปี้หันไปตามเสียงนั้น และพบว่าฟางยืนอยู่ข้างหลังเขา

 

 

 

"ฉันได้ยินเสียงเหมือนคนเหยียบกิ่งไม้ ก็เลยเข้ามาดู" แม้เขาจะตกใจที่เห็นฟาง แต่เขาก็ตอบตามความจริง

 

 

 

"ที่นี่มันอันตรายมาก เป็นไปได้นายอย่าเข้ามาที่นี่อีก ฉันถือว่าฉันเตือนนายแล้ว" พูดจบฟางก็เดินออกไป แต่ก็ต้องหยุดเมื่อป๊อปปี้พูดขึ้น

 

 

 

"แล้วเธอล่ะ เธอเข้ามาทำไม"

 

 

 

"ฉัน.."

 

 

 

"หึๆๆ" ก่อนที่ฟางจะตอบ เสียงหนึ่งดังขึ้นเป็นเสียงหัวเราะในลำคอ ป๊อปปี้รีบหันไปมองอีกเสียงทันที และพบชายคนหนึ่งกำลังเดินมาทางเขา

 

 

 

"แกเป็นใคร" ป๊อปปี้พูดขึ้น พร้อมมองอย่างตกใจ

 

 

 

"คำถามซ้ำซาก แกเป็นใคร ต้องการอะไร" ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาป๊อปปี้ก่อนจะสูดดมเขาอย่างกระหาย พร้อมเอามือไปแตะที่คอของป๊อปปี้ โดยเจ้าตัวมองอย่างไม่เข้าใจ

 

 

 

"อย่าแตะต้องเขานะ" ฟางเดินมาด้วยความว่องไว และจับแขนของชายคนนั้นพร้อมผลักเขาจนกระเด็น

 

 

 

"เธอ.." ป๊อปปี้ยิ่งตกใจหนักเข้าไปอีกที่เห็นฟางผลักชายคนนั้น ผู้หญิงตัวเล็กนิดเดียวแต่กลับผลักชายคนนั้นกระเด็นออกไปไกลได้

 

 

 

"อย่าพึ่งถามอะไรตอนนี้ รีบไปจากตรงนี้ก่อน" ฟางจับแขนป๊อปปี้แล้วรีบออกไปจากตรงนั้น แต่ชายคนนั้นจับแขนอีกข้างของป๊อปปี้ไว้และกัดเข้าที่ไหล่ซ้ายของป๊อปปี้

 

 

 

"อ้ากกกกกก!!!!" ป๊อปปี้ร้องด้วยความเจ็บปวด ฟางรีบหันไปมองก่อนจะตกใจที่ป๊อปปี้ถูกกัด เธอจึงจับป๊อปปี้มาขี่หลังและรีบไปห้องพยาบาลอย่างเร็วไว

 

 

 

 

"ทนหน่อยนะป๊อปปี้ ฉันจะไม่ยอมให้นายเป็นอะไรแน่ๆ" ฟางพูดและแบกป๊อปปี้ไปให้ไวที่สุด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


โปรดติดตามตอนต่อไป..

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา