เพลิงร้อนไฟริษยา

9.7

วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.31 น.

  1 ตอน
  14 วิจารณ์
  3,470 อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

1

 

 

 

 

 

 

กรุงโรม อิตาลี

 

 

 

 

ปึ้ก!!

 

 

 

"Sorry!!" หญิงสาวชนเข้ากับชายคนหนึ่ง ท่าทางของเธอดูรีบร้อนอย่างมาก เธอรีบเก็บของที่ตกไว้แล้วเดินออกไปอย่างเร็วไว ชายหนุ่มมองตามหลังอย่างไม่คิดอะไร ก่อนจะเหลือบไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งเป็นปกหนังคล้ายสมุดไดอารี่ เขาจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู

 

 

 

"My Lady" ชายคนนั้นพูดขึ้นหลังจากเปิดสมุดแล้วพบรูปภาพของเธอคนนั้นที่ติดอยู่ไดอารี่ว่าเธอไปที่ไหนมาแล้วบ้าง เธอช่างสะดุดตาเสียเหลือเกิน เขาเงยหน้ามองดูอีกทีเธอคนนั้นได้หายไปแล้ว เขาไม่รู้จะนำสมุดนั้นไปคืนเธอยังไงดีจึงเก็บไว้กับตัว เผื่อสักวันจะได้เจอกัน..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"เฮ้อ เหนื่อยจะแย่" แก้วเดินกลับเข้ามาที่โรงเเรมที่ตนจองไว้ ก่อนจะเปิดกระเป๋าหาอะไรบางอย่าง

 

 

 

"ตายละ สมุดไดอารี่ของฉัน" พูดจบเธอพลันนึกคิดว่าเธอนั้นเอาสมุดไปวางไว้ที่ไหน

 

 

 

"จริงสิ ตอนที่ฉันชนผู้ชายคนนั้น" ไม่ว่าเปล่า แก้วรีบเดินดุ่มๆออกไปจากห้อง ตรงไปยังที่ที่เธอชนกับชายคนนั้นอีกรอบ แล้วก็พบชายคนนั้นกำลังนั่งอยู่จึงรีบเดินไปทัก

 

 

 

"Excuse Me" แก้วทักชายคนนั้นแบบยิ้มๆ เขามองหน้าเธอสักพักก็นึกออก

 

 

 

"My Lady" เขาชี้หน้าเธออย่างดีใจ แก้วขมวดคิ้วงงกับสิ่งที่เขาพูด

 

 

 

"What?"

 

 

 

"My Lady" เขาไม่ว่าเปล่าหยิบสมุดสีน้ำตาลออกมาให้เธอ

 

 

 

"นึกว่าหายไปแล้ว" แก้วพูดอย่างดีใจพร้อมจับสมุดมาเปิดดู

 

 

 

"คุณเป็นคนไทยหรอครับ" เขารีบทักทันทีที่ได้ยินแก้วพูดภาษาไทย

 

 

 

"ใช่ค่ะ คุณก็คนไทย" แก้วยิ้มดีใจที่เจอคนประเทศเดียวกัน "ฉันขอบคุณคุณมากเลยนะคะ ถ้าไดอารี่ฉันหายไปคงแย่แน่ๆ"

 

 

 

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเต็มใจ" เขาพูดยิ้มๆ

 

 

 

"เดี๋ยวเย็นนี้ฉันจะเลี้ยงข้าวนะคะ เป็นการตอบแทนที่คุณช่วยเก็บหนังสือฉันไว้"

 

 

 

"ด้วยความยินดีครับ แต่ผมขอเปลี่ยนเป็นเที่ยวได้ไหมครับ วันพรุ่งนี้ช่วยเป็นไกด์พาเที่ยวได้รึเปล่า"

 

 

 

"นึกยังไงถึงให้ฉันพาเที่ยวคะ"

 

 

 

"ก็ในสมุดของคุณมีรูปถ่ายคุณกับสถานที่ที่คุณไปเต็มเลยครับ ผมว่าคุณน่าจะพาผมเที่ยวได้ อีกอย่างแม่ผมก็ไม่อยู่ที่โรม ท่านไปเที่ยวต่างเมืองกับเพื่อน ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว มันเหงานะครับ" เขาทำหน้าออดอ้อน แก้วยิ้มกับท่าทางของชายตรงหน้าก่อนจะตอบตกลง

 

 

 

"โอเคค่ะ เดี๋ยวฉันพาเที่ยวเอง เรื่องเที่ยวฉันถนัดค่ะ"

 

 

 

"เยส!! ผมดีใจมากครับ พรุ่งนี้ 9 โมง เจอกันที่นี่นะครับ" เขาพูดจบก็เดินออกไป แก้วนั่งยิ้มให้กับความกระตือรือร้นของเขาที่จะได้ไปเที่ยวกับเธอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 


"ฮัลโหลแก้ว เป็นยังไงบ้างลูก จะกลับมาหาลุงเมื่อไหร่" เสียงของชายวัยกลางคนกล่าวทักทายหญิงสาวผ่านโทรศัพท์

 

 

 

"อีกสองสามวันแก้วก็จะเตรียมตัวกลับแล้วค่ะ ลุงนุมีอะไรรึเปล่าคะ"

 

 

 

"ลุงอยากให้หนูรีบกลับมาไวๆ มาช่วยลุงทำงาน มาสานงานต่อจากลุง" อนุวัฒน์พูดจบ แก้วขมวดคิ้วสงสัยทันที

 

 

 

"คุณลุงมีอะไรรึเปล่าคะ"

 

 

 

"ลุงไปตรวจร่างกายมา แล้วเขาพบว่าลุงเป็นมะเร็ง ลุงก็ไม่รู้จะอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหน แก้วหนูต้องกลับมาช่วยลุงนะ แค่กๆ" เสียงไม่ค่อยสู้ดีนักของอนุวัฒน์ทำให้แก้วสงสารจับใจ เธอต้องกลับไปทำงานเพื่อลุงผู้มีพระคุณของเธอ

 

 

 

"ค่ะ แล้วแก้วจะรีบกลับไป" แก้วกดวางสายพลันนั่งอยู่ปลายเตียงเธอนึกถึงช่วงเวลานั้น ช่วงที่พ่อของเธอล้มละลายและเป็นหนี้สินมหาศาล อนุวัฒน์กลับมาช่วยเธอไว้

 

 

 

 

 

"พ่อ!!! พ่อคะ นี่คุณจะเอาพ่อฉันไปไหน" ร่างบางรีบวิ่งไปกอดพ่อผู้เป็นที่รักเอาไว้ก่อนที่ตำรวจจะจับพ่อของเธอไปพร้อมด้วยน้องสาวของเธอ

 

 

 

"คุณพ่ออย่าไปนะคะ คุณพ่อต้องอยู่กับฟาง ฮึก" ฟางกอดพ่อของเธอพลันร้องไห้ออกมาไม่ขาดสาย

 

 

 

"พ่อของคุณถูกจับในข้อหาเล่นการพนันจนหมดตัว บ้าน ที่ดิน รถของพ่อคุณถูกยึดไปหมดแล้วครับ"

 

 

 

"ไม่นะ!! พวกคุณจะเอาของฉันไปไม่ได้!!"

 

 

 

"คุณตำรวจครับ ผมขอคุยกับลูกสาวทั้งสองของผมก่อนจะไปได้ไหมครับ" ธีระเดินไปหาลูกสาวทั้งสองคน เขาเดินไปในขณะที่ใส่กุญแจมืออยู่พร้อมน้ำตาไหลพราก

 

 

 

"คุณพ่อคะ!!" แก้วและฟางเข้าไปกอดพ่อของเธอ

 

 

 

"แก้ว ฟาง พ่อขอโทษ" ธีระมองหน้าลูกสาวทั้งสองคนอย่างสงสารที่เขาทำให้พวกเธอเดือดร้อน

 

 

 

"พ่อคะ มันเกิดอะไรขึ้น แก้วไม่เข้าใจ พ่อคะ บอกแก้วสิ บอกแก้วมา!!" แก้วเขย่าตัวพ่อของเธอพร้อมมองอย่างเจ็บปวด น้ำตาที่กลั้นเอาไว้อยู่นาน เธอปล่อยอกมาด้วยความโกรธและเสียใจ

 

 

 

"พ่อหมดตัวแล้ว พ่อขอโทษ พ่ออยากให้เราสองคนดูแลกันดีๆ มีกันแค่สองคนพี่น้อง ดูแลกันดีๆนะ" ธีระพูดจบตำรวจก็ลากเขาออกไปปล่อยให้แก้วและฟางนั่งร้องไห้โฮอยู่ตรงนั้น

 

 

 

"ฮึก พี่แก้ว พ่อทิ้งเรา ฮึก ฮื่อ" ฟางร้องไห้ออกมาอย่างหนักโดยมีแก้วกอดปลอบอยู่ตรงนั้น

 

 

 

"พี่จะเอาทุกอย่างของเรากลับมาให้ได้ พี่สัญญาฟาง พี่สัญญา" แก้วกอดน้องสาวแน่น น้ำตาแห่งความโกรธไหลออกมาไม่ขาดสาย

 

 

 

"ไม่ค่ะ! พี่แก้ว ฟางจะไปจากที่นี่ ฟางไม่อยากอยู่แล้ว ฟางจะไปตามทางของฟาง ฮึก" ฟางพูดจบก็ปาดน้ำตาเดินออกไปจากตรงนั้นโดยทิ้งให้แก้วนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว

 

 

 

"ฟางเดี๋ยว อย่าทิ้งพี่ไป ฟาง!!" แก้วตะโกนไล่หลังฟาง แต่หญิงสาวสะพายกระเป๋าเดินไปอย่างเร็วไวโดยไม่สนคำทักท้วงของเธอ

 

 

 

หนทางอันมืดมิดทำให้จริญญาผู้เคยเข้มแข็งอ่อนแอลงทุกที แก้วเดินออกมาตามทางบนสะพานแห่งหนึ่งพลางร้องไห้กอดตัวเองไม่หยุดหย่อน ก่อนที่เธอจะมองลงไปข้างล่างที่ซึ่งมีแต่สายน้ำอันชุ่มฉ่ำ

 

 

 

"อย่าได้มีลมหายใจในโลกใบนี้อีกเลยแก้ว" แก้วค่อยๆปีนไปยังระเบียงสะพาน แต่แล้วก็มีใครคนหนึ่งดึงเธอลงไป

 

 

 

"อย่าทำอะไรแบบนั้นนะหนู" เสียงชายวัยกลางคนจับแขนแก้วแน่นไม่ให้แก้วโดดลงไป

 

 

 

"ลุงปล่อยหนูเถอะค่ะ หนูไม่อยากอยู่อีกแล้ว"

 

 

 

"อย่าคิดอะไรตื้นๆแบบนั้นเชียวนะ ลุงชื่ออนุวัฒน์ หนูคงจะงงใชไหมว่าลุงมาห้ามหนูทำไม" แก้วพยักหน้าให้ชายตรงหน้าเธอ

 

 

 

"ลุงจะบอกไรให้นะคนเราน่ะ ไม่ควรแก้ปัญหาด้วยการตายหรอก มันเป็นวิธีที่โง่เขลามากๆ มาเดี๋ยวลุงจะช่วย ช่วยให้หนูมีชีวิตใหม่ ชีวิตที่ดีขึ้น" อนุวัฒน์มองด้วยสีหน้าท่าทางเอ็นดู แก้วมองเขาด้วยสายตาที่ไม่แน่ใจว่าควรจะทำอย่างไรดีจึงลังเลไปพักใหญ่

 

 

 

"ลุงมีธุรกิจมากมายไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าเอย โรงแรมเอย แต่ลุงยังขาดพนักงานอยู่เนี่ยสิ หนูจะช่วยลุงได้รึเปล่าล่ะ" อนุวัฒน์พูดยิ้มแย้มมองแก้วที่ทำหน้าเหมือนคิดหนัก "นี่นามบัตรลุงนะ ถ้าหนูพร้อมเมื่อไหร่ก็โทรหาลุงได้" เขาพูดจบก็เดินออกไปจากตรงนั้น

 

 

 

"เอ่อ ลุงคะ ฉัน.."

 

 

 

"ตกลงแล้วใช่ไหม" รอยยิ้มอบอุ่นนั้นทำให้แก้วคิดถึงพ่อของเธอจนน้ำตาไหลพราก อนุวัฒน์จึงปลอบใจพาเธอไปทำงานด้วยและส่งเสียให้เธอเรียนปริญญาตรีจนจบต่อด้วยปริญญาโทที่อิตาลีด้วย

 

 

 

 

 

"ป่านนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างฟาง" แก้วมองรูปถ่ายสมัยเรียนมัธยมที่เธอถ่ายกับฟางขึ้นมาดู เธอกับฟางไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่ครั้งนั้นและเธอคิดถึงน้องสาวของเธอเหลือเกิน "ถ้าวันนั้นแก้วไม่ได้คุณลุงมาช่วย แก้วก็คงไม่ได้อยู่ถึงวันนี้หรอกค่ะ" แก้วพูดอย่างภูมิใจ พร้อมจะตอบแทนบุญคุณของอนุวัฒน์ผู้มีพระคุณของเธอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ที่นี่สวยมากเลยนะคะ มีวัฒนธรรมเก่าๆเต็มไปหมด" แก้วพูดพร้อมยืนมองสถานที่ที่เธอกำลังพาชายตรงหน้ามาเยือน

 

 

 

"ใช่ครับสวยจริงๆ" เขามองหน้าแก้วตาไม่กระพริบพลางยิ้มอ่อนให้เธอจนเธอหันมามองแต่เขาก็ยังจ้องอยู่ตรงนั้น

 

 

 

"คุณคะ ตกลงที่นี่สวย หรือฉันสวยคะ" แก้วพูดไปยิ้มขำไป โทโมะสะดุ้งทันทีอันที่จริงเขาคือคนที่เก็บสมุดไดอารี่ให้แก้วนั่นเอง

 

 

 

"ก็สวยทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ เอ่อ ว่าแต่คุณชื่ออะไรหรอครับ ตั้งแต่เที่ยวด้วยกันมาผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย ผมชื่อโทโมะ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ" โทโมะพูดพร้อมยื่นมือเป็นการทักทายหญิงสาวตรงหน้า

 

 

 

"ฉันชื่อแก้วค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะ" แก้วยื่นมือไปจับโทโมะทั้งสองยิ้มให้กันอย่างมีความสุข

 

 

 

"เวลาแห่งความสุขมันผ่านไปเร็วจังนะครับ แปปๆก็เย็นแล้ว"

 

 

 

"นั่นสินะคะ แต่เวลาทุกข์กลับทุกข์ทรมานนานมาก กว่าจะผ่านมันไปได้" แก้วพูดอย่างเศร้าๆ โทโมะคว้ามือแก้วขึ้นมาจับ

 

 

 

"อย่าเครียดเลยนะครับคุณแก้ว เวลาคุณทำหน้าแบบนี้มันเหมือนโลกทั้งใบหม่นหมองเลยนะครับ"

 

 

 

"ขนาดนั้นเลยหรอคะ" แก้วหัวเราะชอบใจกับคำพูดของโทโมะ

 

 

 

"เห็นไหมครับ คุณยิ้มได้แล้ว" โทโมะยิ้มดีใจที่เห็นแก้วยิ้มได้ ก่อนจะมีโทรศัพท์โทรเข้ามาหาเขา "เอ่อ สักครู่นะครับ" โทโมะเดินออกไปจากตรงนั้นไม่ไกลนักก็กดรับสายทันที เขาคุยโทรศัพท์สักพักก็เดินกลับมาหาแก้วด้วยสีหน้าไม่ดีนัก

 

 

 

"มีอะไรหรอคะ"

 

 

 

"เอ่อ แม่ของผมโทรตามให้กลับบ้านน่ะครับ ขอโทษที่ต้องบอกลาคุณนะครับ"

 

 

 

"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ" แก้วยิ้มให้โทโมะ เขายิ้มตอบ

 

 

 

"ขอบคุณนะครับ เอ่อ คุณแก้วครับ ถ้าคุณกับผมเราใจตรงกันให้มาเจอกันที่นี่นะครับตอน10โมง ผมจะรอคุณนะครับ" โทโมะหยิบโปสการ์ดใบหนึ่งเป็นรูปสถานที่ท่องเที่ยวยื่นให้แก้ว

 

 

 

"นี่มันโปสการ์ดของฉันนี่คะ คุณ.."

 

 

 

"ผมหยิบมาจากไดอารี่ของคุณ ที่นี่คุณยังไม่เคยไป เพราะผมไม่เห็นรูปในไดอารี่คุณ เราไปด้วยกันนะครับ"

 

 

 

"ขี้โกงจังเลยนะคะ คุณเนี่ย"

 

 

 

"ตกลงไหมครับคุณแก้ว"

 

 

 

"ค่ะ ฉันตกลง"

 

 

 

"แล้วเจอกันนะครับ" โทโมะดีใจก่อนจะรีบเดินอิกไปจากตรงนั้นด้วยท่าทางที่มีความสุข แก้วมองตามแล้วส่ายหัวแก้เขินน้อยๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"อะไรนะ นังนั่นมันกำลังจะกลับไปหรอ" เสียงหญิงสาวพูดอย่างโกรธแค้นกับคนที่นำเรื่องมาบอกเธอทางโทรศัพท์ก่อนจะกดวางสายไป

 

 

 

"อีฟนิ่งครับแม่ ทำไมแม่กลับมาเร็วจังไหนว่าจะไปต่างเมืองกับเพื่อน เอ่อ แล้วนี่แม่เป็นอะไรหรอครับ" ชายหนุ่มเดินเข้ามากอดแม่ผู้เป็นที่รักทั้งเห็นสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ของเธอจึงถามขึ้น

 

 

 

"โทโมะ เราจะต้องกลับไปที่บ้านของเรา เราต้องกลับไปไทยานนท์" กานดาพูดอย่างแค้นเคืองอดทำให้ลูกชายเกิดอาการสงสัยไม่ได้

 

 

 

"กลับไปทำไมครับ อยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้วนะครับแม่"

 

 

 

"เราต้องกลับ แม่จะไม่ยอมให้นังนั่นเอาทุกสิ่งทุกอย่างของเราไป"

 

 

 

"แต่ผมไม่อยากกลับไปที่นั่น แม่ครับ ผมว่าอยู่ที่นี่มันก็ดีอยู่แล้วนะครับ"

 

 

 

"เอ๊ะ เดี๋ยวนี้ลูกขัดคำสั่งแม่หรอ"

 

 

 

"เปล่าครับ แต่ถ้าเขาอยากได้แม่ก็ให้เขาไปเถอะครับ"

 

 

 

"โทโมะ แม่จะไม่ยอมให้ใครเอาสมบัติที่มันควรจะเป็นของลูกไป ลูกต้องไปกับแม่"

 

 

 

"แต่แม่ครับ.."

 

 

 

"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น นังแก้วมันจะเอาสมบัติเราไปหมดแล้ว"

 

 

 

"ผมบอกแล้วไง ถ้าเขาอยากได้ก็ให้เขาไปเถอะครับ กลับไปก็มีแต่ช้ำใจเปล่าๆ ผู้หญิงคนนั้นใช้ตัวเข้าแลก ใช้มารยาให้คุณพ่อตายใจ" โทโมะพูดเพื่อปลอบใจแม่ของเขา แม้เขาจะโกรธแต่เขาก็ปลงกับเรื่องนี้มาพักใหญ่แล้ว แต่จะว่าไปชื่อแก้วงั้นหรอ คงไม่ใช่คนเดียวกันหรอก โทโมะแอบคิดในใจ ได้แต่หวังว่าไม่ใช่

 

 

 

"ลูกจะว่ายังไงก็ชั่ง เพราะแม่จองตั๋วไว้แล้ว ตั๋วมันแลกเงินคืนไม่ได้ด้วยสิ" กานดายิ้มกรุ้มกริ่ม

 

 

 

"แต่แม่ครับ.."

 

 

 

"โนๆๆ คราวนี้ลูกปฏิเสธแม่ไม่ได้แล้วล่ะ พรุ่งนี้ 4โมงเย็นเครื่องออก หวังว่าลูกคงจะไม่ทำให้แม่ผิดหวังนะจ๊ะ เพราะแม่อยากจะเห็นหนังหน้าเมียน้อยพ่อของลูกเหมือนกัน" กานดาแสยะยิ้มเดินออกไป ปล่อยให้โทโมะยืนนิ่งไปพักใหญ่ๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

"ฉันขอโทษนะคะคุณโทโมะ แต่ฉันยังไม่อยากเปิดใจให้ใครเลยในตอนนี้" แก้วพูดขึ้น เป็นเวลาสักพักใหญ่ๆแล้วที่โทโมะกลับไปหาแม่ของเขา แก้วเดินเล่นตามทางพลางนึกถึงคนรักเก่า เขายังคงมีอิทธิพลทางใจของเธออยู่ "ฉันขอโทษจริงๆค่ะ" แก้วน้ำตาไหล แล้วเดินจากไป ถึงเวลาที่เธอควรกลับไปช่วยงานอนุวัฒน์สักที เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


หญิงเขียดTalk
สวัสดีค่า หญิงเขียดคนเดิม เพิ่มเติมคือฟิคใหม่ ขอบคุณสำหรับการติดตามฟิครักเธอนิรันดรนะค้า วันนี้หญิงมาเปิดฟิคใหม่เป็น ฟิค2เพลิงร้อนแรง โดยเพลิงร้อนไฟริษยานี้จะเป็นพาร์ทของโมะแก้ว และ เพลิงร้อนกลายรักจะเป็นพาร์ทของป๊อปปี้ฟาง มาเปิดไว้ก่อน รออีกเรื่องจบจะมาอัพต่อ ว่าแต่แต่งโมะแก้วจะมีคนอ่านไหมน้อ ยังไงก็ฝากติดตามกันหน่อยนะคะ จะแซ่บ จะดราม่าขนาดไหน ต้องติดตาม เม้นโหวตเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะทุกโคนนนนน ^_____^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา