Kiss Devil (ความรักของผู้ชายขนมหวานกับซาตานเอ๋อๆ)

8.2

เขียนโดย zeeto

วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.09 น.

  10 ตอน
  3 วิจารณ์
  14.20K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) ของหวานที่ซาตานต้องกิน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          แปลกแหะวันนี้ปิดร้านหรอไม่ได้โทรมาก่อนอยู่ไหมว่ะเนี้ย ผมเดินมองอยู่หน้าร้านเบเกอรี่ของใครบางคนที่วันนี้ผมตั้งใจเอาชุดมาคืนเพราะจะได้ไม่ต้องติดต่ออะไรกันอีก อย่างน้อยๆจะได้ทำให้ผู้ชายคนนี้รู้ว่าเขาไม่สามารถทำให้ผมยอมกินขนมของเขาแน่ๆ ลองโทรดูก็ได้เผื่อไงจะได้ไม่เสียเที่ยว

“ฮัลโลนายอยู่ไหนปิดร้านหรอ”

“อืมปิดร้าน”

“ฉันเอาชุดมาคืนแต่ถ้านายปิดร้านก็...”

“เข้ามาดิฉันไม่ได้ล๊อก”

“ห่ะ?...อ๋อโอเค”

          นับว่าโชคดีที่อย่างน้อยๆเขาก็อยู่ที่นี้ผมค่อยๆดันประตูเปิดเข้าไปก่อนจะเดินเข้าไปภายในร้านแต่... มันเกิดอะไรขึ้นขโมยขึ้นร้านหรือยังไงทำไมมันเละเทะขนาดนี้ พอเดินเข้ามาซักพักผมก็เห็นผู้ชายผิวขาวกำลังเก็บข้าวของทำความสะอาดร้านอยู่คนเดียวท่าทางดูไม่ดีเท่าไร

“เกิดอะไรขึ้นทำไมร้านเป็นแบบนี้...”

“เอาชุดมาคืนหรองั้นวานนายเอาไปไว้บนห้องให้หน่อยนะเสร็จแล้วก็กลับไปเลยแล้วกัน”

“เฮ้ย...เป็นไรเนี้ย”

“ฉันยุ่งๆแล้วก็ไม่รู้ว่านายจะมาเลยไม่ได้ทำเค้กไว้ให้ชิมนะ”

“ฉันไม่กินของหวาน”

“นี้ก็เละหมดเลยกระดาษที่จดสูตรเค้กสำหรับนายก็เละหมด...”

“เฮ้ยฟังอยู่ป่ะเนี้ยฉันบอกแล้วไงว่าไม่กินของหวาน”

“รู้แล้ว...แต่ก็บอกไปแล้วว่าจะทำให้นายยอมกินเค้กของฉัน”

“ตื้อจังว่ะว่าแต่สรุปแล้วนี้เกิดอะไรขึ้น”

“ฝีมือแฟนฉันเองพอดีทะเลาะกัน  เขาเบื่อที่ฉันวุ่นอยู่กับการทำขนมมากไปเลยพังข้าวของ...สูตรที่ทำให้นายด้วย...ฮาๆๆ”

“ยังจะขำอีกนะ งั้นเดี๋ยวฉันเอาชุดไปเก็บให้แปบเดี๋ยวมาช่วยละกันถือซ่ะว่าขอบใจเรื่องให้ยืมชุดวันนั้น”

“ถ้าอยากขอบใจฉันง่ายนิดเดียวแค่...”

“ถ้าจะบอกว่าให้กินเค้กหยุดเลย รอแปบเดี๋ยวมา”

               

          ทำไมผู้หญิงเวลาไม่ได้ดั่งใจนี่อันตรายยิ่งกว่าพายุทอนาโดระดับf5อีกหรอ ถึงได้ทำร้านสุดที่รักของผมพังได้ขนาดนี้สภาพไม่ต่างจากโดนพายุถล่มเสียอีก แล้วดูซิมาฉีกสมุดสูตรเค้กที่ผมคิดอีก เขาจะรู้ไหมว่าทุกรสชาดที่ผมคิดมามันยากแค่ไหนแต่เขากับใช้เวลาแค่ไม่ถึงนาทีฉีกซ่ะไม่เหลือชิ้นดี จบไม่สวยเลยแหะ ทีเมื่อก่อนตอนคบกันใหม่ๆก็บอกว่าชอบที่ผมทำขนมได้ชอบเวลาได้ชิม เดี๋ยวนี้พอทำอะไรให้ก็บ่นกลัวอ้วน ไม่อร่อย นั้นไม่ได้นี้ไม่ได้ คนในตอนนั้นหายไปไหนว่ะ เรารึก็ตั้งใจทำขนมแต่ไปมีคนอื่นแท้ๆดันไม่พอใจ ช่างเหอะ

“มีอะไรให้ฉันช่วยบ้าง”

“นายไม่กลับบ้านหรือไง”

“ยังอ่ะวันนี้ว่าง”

“ไม่ไปฟิตเนตละ”

“ไปมาแล้วเมื่อเช้า...ไหนมีตรงไหนให้ช่วย”

“ขอบใจงั้นช่วยเก็บของตรงนั้นทีพวกของที่ตกแตกเดี๋ยวพวกวัตถุดิบฉันจะเก็บเองเพราะนายคงไม่รู้เรื่องพวกนี้”

“โอเค...”

          ผมหันไปมองผู้ชายที่เก็บของอยู่อีกด้านแล้วอยู่ๆก็อดคิดขึ้นมาไม่ได้ นี้ผมกับเขาเจอกันแต่ละทีมีแต่เรื่องเละๆ แล้วก็เกิดจากสาเหตุคล้ายๆกัน

“ฮาๆๆๆๆ...”

           ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้ผมหลุดขำออกมาก็จะไม่ให้ขำได้ไงคราวที่แล้วเจอกันเขาโดนแฟนปาเค้กใส่หน้า มาครั้งนี้แฟนผมก็ทำร้านผมซ่ะเละ

“ขำไรว่ะ”

“ก็ขำนายกับฉันนี่แหล่ะ”

“เรื่อง?”

“ไม่มีอะไรหรอกฉันแค่ขำที่เราสองคนเจอกันแต่ละทีมีแต่เรื่องเละๆ”

“เหอะๆ...นายเนี้ยนะแล้วไม่เฮิร์ทหรอแฟนทิ้งอ่ะ”

“ไม่นะไม่รู้ทำไมหรือบางทีอาจเพราะเขาทำร้านฉันพังมั่ง”

“โกรธแทนว่างั้น”

“ก็เออดิ...แล้วเนี้ยที่โกรธก็ตรงที่มาฉีกสมุดสูตรเค้กใหม่ที่ฉันกำลังคิดให้นายนี้แหล่ะ”

“ไม่ต้องโกรธหรอกเพราะยังไงนายทำมาฉันก็ไม่กิน”

“ทำไมอ่ะของหวานไม่ดีตรงไหน”

“ตรงที่มันจะทำให้ฉันเสียรูปร่างไงเพราะฉะนั้นฉันไม่มีทางแตะมันเด็ดขาด”

“เออก็รู้ว่ากลัวอ้วน...ถึงได้อดหลับอดนอนทั้งอาทิตย์หาพวกวัตถุดิบที่ไม่มีแคลอรี่สำหรับนายไงแต่พึ่งคิดได้ยังไม่ทันได้ทำก็โดนฉีกหมดเลย”

“นี้นายจริงจังกับเรื่องนี้มากไปป่ะ”

“เออดิการทำอาหารไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ถ้าคนกินไม่มีความสุขฉันยอมไม่ได้”  

“เออ...เอาที่สบายใจเลยแต่บอกไว้ก่อนนะว่าไม่มีทางทำสำเร็จ...ดูปากฉันนะว่าไม่มีทาง” นี้ละนะผมถึงได้รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เหมือนเสาวรสไม่มีผิด

               

          ทุกอย่างภายในร้านค่อยๆจัดให้เข้าที่เข้าทางเพื่อให้กลับสภาพเดิมของร้านให้มากที่สุดแต่บางอย่างที่มันเสียหายก็ต้องหามาใหม่นั้นแหล่ะ ไม่รู้ค่าเสียหายทั้งหมดเท่าไรเหมือนกันแต่ก็คงไม่น้อยหรอก หลังจากที่ผมเก็บของช่วยเจ้าของร้านเบเกอรี่เสร็จผมก็มานั่งมองรอบๆร้าน ความจริงร้านนี้มันก็สวยดีนะออกแนวชิคๆ แต่ผมว่ามันก็เกลื่อนไปนะใครๆเขาก็แต่งร้านแบบนี้กันทั้งนั้น ทำไมเขาไม่คิดจะเปลี่ยนสไตล์หรือคิดสไตล์ของร้านใหม่ๆออกมาบ้างที่พอใครเห็นแล้วสะดุดตา พอเข้ามาแล้วเป็นอันต้องพูดถึงกันมันจะได้ดังแล้วก็คนมาเยอะๆ ทำแต่ร้านแบบนี้เดินไปที่ไหนก็เจอ

"อ่ะกาแฟ”

“ขอบใจ...”

“อือ...ฉันก็ขอบใจนายเหมือนกันนั้นแหล่ะที่มาช่วยเก็บร้าน”

“ไม่ต้องมาซึ้งหรอกฉันก็แค่ไม่อยากเห็นใครบางคนคอตกเฉยๆ ว่าแต่ร้านนี้นายออกแบบเองหรอ”

“อือ...ทำไม”

“น่าเบื่อ...เอาจริงร้านสไตล์นี้ใครๆก็ทำกันป่ะว่ะ เป็นฉันนะจะทำให้ฉีกออกจากสไตล์ทั่วไปเลย”

“ยังไงไอ้ฉีกแนวฉีกสไตล์ของนายเนี้ย”

“ก็แบบ...Ghost Coffee ไงอารมณ์แบบคาเฟ่ผีเงี้ย เพราะเดี๋ยวนี้มันจะมีพวกคาเฟ่แมว คาเฟ่หมานี้ไงร้านนายลองแบบที่ฉันบอกนะรับรองดังข้ามคืนแน่ๆ”

“คิดได้เนอะ ความละมุนของขนมฉันกลิ่นกาแฟภายในร้านพอยกแก้วจะกระดกเงยหน้าเจอผิวห้อยอยู่บนเพดานแบบนี้เนี้ยนะ คงประทับใจไม่รู้ลืม”

“นี่ไงๆเพราะคิดแบบธรรมดาอย่างนายเนี้ย ไม่ไหวเลย”

“นี้จบการตลาดออกแบบหรืออะไรมาหรือไง แล้วสมมติถ้าฉันตกแต่งร้านใหม่คิดซิว่าค่าตกแต่งมันจะเท่าไรนายจะมาทำให้ฉันฟรีหรือไง หรือจะมาเป็นหุ้นส่วนครับ”

“ไม่จบ...”

“ห่ะ?...นี้เรียนไม่จบอีกหรอ”

“ไม่ใช่ฉันหมายถึงไม่จบเนี้ยคือยังเรียนไม่จบ”

“ก็หมายความว่านายเรียนอยู่”

“ใช่...”

“นี่นายเด็กกว่าฉัน?”

“ห่ะ?...นายอายุเท่าไร”

“24...แล้วนายเรียนปีไหน”

“ปีสาม..ฉันต้องเรียกนายว่าพี่ใช่ไหมเนี้ย”

“ตามความเป็นจริงและความเหมาะสมก็ใช้ แต่ด้วยลักษณะท่าทางนายแล้วจะเรียกฉันอะไรก็เรียกเถอะ”

“พูดเหมือนฉันเป็นพวกกระด้างนักนี้ โอเคครับพี่นิว”

               

          เด็กจริงๆด้วยผมได้แต่นั่งมองหน้าคนที่ยกแก้วกาแฟเข้าปาก แต่ไม่ยอมแตะคุกกี้ในจานที่ผมวางไว้คู่กับกาแฟให้ ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเขาถึงได้คิดว่าของหวานไม่เหมาะกับเขา ทั้งที่ผมเจอเขาครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแท้ๆแต่ผมกับรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เหมาะกับของหวาน ด้วยลักษณะการออกกำลังกายสม่ำเสมอของเขาแล้วดูยังไงก็ไม่มีทางที่จะอ้วนด้วยซ้ำ ดูอย่างผมซิอยู่กับของหวานทุกวันหุ่นผมก็ยังดีแม้จะไม่เหมือนของเขาก็ตาม ต้องทำยังไงเขาจะยอมกินขนมของผมมันจะไม่มีทางเลยหรือไง ไม่ซิมันต้องมีซักวันแหล่ะ

“ขอบใจสำหรับกาแฟนะฉันว่าฉันกลับดีกว่า”

“อือ...เหมือนกันขอบใจที่มาช่วย  ว่าแต่นายจะกลับเลยไหมเพราะฉันจะออกไปข้างนอก”

“เออดิ...ว่าแต่พี่จะออกไปไหน”

“ไปซื้อพวกจานพวกแก้วใหม่ซักหน่อยแทนที่แตกไป”

“ให้ไปด้วยป่ะ”

“ถ้าอยากไปก็ไปแต่อย่ามาบ่นทีหลังแล้วกัน”

“เออนะ...”

               

          ตั้งแต่เดินเลือกของเข้าร้านช่วยผู้ชายข้างที่ตอนนี้ผมต้องเรียกเขาว่าพี่มาได้พักใหญ่ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าที่เหมือนจะมีแต่คนมองเราสองคน แต่...ก็ไม่แปลกไม่ใช่หรอก็ผมหล่อ อีกอย่างพี่นิว...ก็ดีมั่งแต่น้อยกว่าผมแน่ๆผมมั่นใจเลย ความหล่อแบบผมจะหาที่ไหนเปรียบได้รูปร่างนักกีฬา เทรนผิวสีเข้มหน้าไทยก็มาแรง ใครเห็นเป็นใจละลายทั้งนั้นแหล่ะ

“เอิร์ท...ไปดูแก้วกาแฟกันตรงนั้นเหอะ”

“ไปดิ...แล้วนี้ทำไมซื้อเยอะกว่าที่มันแตกเสียหายอีกละ”

“ก็มันสวยดีก็เลยอยากซื้อ”

“เรียบๆแบบนี้เนี้ยนะสวยไม่เท่ห์เลย”

“จะให้เอาลายหน้ากากผีหรือไม่ก็พวกของสยองขวัญอย่างที่นายบอกนะไม่มีทาง”

“เอาเลยจะเอาอะไรก็เอามันร้านของพี่”

“เออรู้แล้วก็ตามมา...ตรงนั้นๆช่วยหยิบชุดชาชุดนั้นให้ทีดิ”

“ครับ...”

หลังเลือกซื้อของอยู่นานผมและเขาก็ได้ของที่เขาต้องการจะครบ ไม่ซิต้องเรียกว่าเกินครบด้วยซ้ำเสร็จผมก็เข็นรถมาเข้าคิวรอจ่ายเงินกับอีกคนที่เดินมาด้วยกันท่ามกลางสายตาของสาวๆที่ต่างพากันหันมายิ้มให้ วันนี้ก็ไม่ได้แต่งเต็มแท้ๆยังมีสาวมองขนาดนี้ถ้าเต็มกว่านี้มีหวัง

“แกๆดูผู้ชายสองคนนั้นดิเหมาะกันเนอะเป็นแฟนกันแน่เลยแก” เดี๋ยวนะที่ผู้หญิงข้างหลังผมที่รอคิดเงินพูดนั้นคงไม่ได้หมายถึงผมกับ... ใช่ไหม

ผมหันไปยิ้มให้เจ้าของเสียงกระซิบก่อนจะหันกลับมายกของคิดเงิน

“ดูดิแกช่วยกันด้วยอิจฉาผู้ชายคนนั้นเนอะแฟนใจดีขนาดนี้”

ผมหันกลับไปมองผู้หญิงข้างหลังของผมอีกครั้งและตอนนี้ผมแน่ใจแล้วละว่า เขาหมายถึงผมกับพี่นิว

“เอิร์ทยกเร็วๆดิจะได้คิดตังเห็นไหมคนรอเยอะแยะ”

“อือ”

“กลัวแฟนด้วยแก” ทนไม่ไหวแล้วโว้ย... ผมหันหน้ากลับไปมองผู้หญิงสองคนข้างหลังอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจพูดอะไรออกไป

“ขอโทษนะครับคือผมกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ”

“แต่ว่าผมได้ยิน...”

“มีอะไรครับ”

ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบเสียงพี่นิวที่ยืนอยู่ก็หันมาพูดขึ้น ผมได้แต่มองหน้าคนที่กำลังจ่ายเงินก่อนจะหันกลับมามองผู้หญิงสองคนอีกครั้ง

“น้องทั้งสองคนไม่ต้องอิจฉาพี่นะครับแฟนพี่หล่อพี่เข้าใจแต่เขารักพี่มากเพราะฉะนั้น ต้องไม่อ้อยนะครับแฟนพี่ไม่กินของหวาน...ไปยกของดิจ่ายตังแล้ว” พูดจบพี่นิวก็ถือของบางส่วนใส่รถเข็นก่อนจะดึงผมให้เดินออกมา

“ไอ้พี่นิวพูดอะไรของพี่ว่ะ”

“ก็ตัดรำคราญไป นายจะไปยืนทะเลาะกับผู้หญิงหรือไง ไม่ดีมั่ง อีกอย่างพูดไปก็ไม่จบเขาอยากคิดไรก็คิดเดี๋ยวหายบ้าก็หยุดกันเอง”

“เปล่าไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น แต่ที่จะบอกนะ พี่แม่ง...พูดแรงอ่ะ อ้อยหรอป่านนี้ช๊อคตายไปแล้วมั่ง”

“ฮาๆๆๆๆๆ...ไอ้เด็กบ้าเอ้ยฉันก็คิดว่านายจะว่าอะไร นี้ยังจะมาแมนสุภาพบุรุษไม่ว่าผู้หญิงอีกหรอ”

“อ้าว...พี่นี้เป็นคนยังไงว่ะเนี้ย”

“เออ...เป็นทำขนมหวานที่อยากทำให้นายรับประทานไงครับ โอเคนะ” เอากับเขาซินี้ผมว่าความบ้าของผมจะลดในบางเรื่องแต่จะมาเพิ่มเพราะเรื่องของผู้ชายตรงหน้านี้แทนใช่ไหม เกินความคาดหมายในทุกๆอย่างจริงๆ หรือนี้ซินะที่เขาเรียกว่าคนกินของหวานมักจะดุ สงสัยจะจริง 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา