Hades And Persephone : ตำนานรักของเฮดีส

7.3

เขียนโดย ปลาบู่

วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.43 น.

  11 ตอน
  5 วิจารณ์
  16.56K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2561 23.59 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

11) จบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

   ฉันตื่นมาบนเตียงบนความว่างเปล่า ข้างๆฉันไม่มีใคร มีแค่ฉันคนเดียวที่อยู่ในห้องแห่งนี้ เสียงประตูดังขึ้น เหมือนคนกำลังเข้ามา ดีที่ฉันไม่ได้โป็เปลือยอะไรมากนัก 

"ตื่นแล้วหรอ" เฮดิสเดินมาอย่างอารมณ์ดี พร้อมเข้ามาหอมแก้มฉันแบบงงๆ

"เมื่อคืน...?" 

"เจ้านอนหลับสบายไหม?" เขาพยายามเปลื่ยนเรื่อง 

"เฮดิส!" ฉันดุเขาทันที เขามองหน้าแล้วเดินมานั่งข้างๆเตียง

"เมื่อคืนเจ้านอนหลับ ข้าไม่ได้ทำอะไรเจ้า"

"ฉันไม่ถึงเรื่องนั้น!"

"แล้วเจ้าหมายถึงอะไร?" เฮดิสทำหน้าสงสัย - -'

"แบบชุดของข้า" ฉันมองเสื้อแล้วมองหน้าเขาแบบงอนๆ 

"ข้าไม่ได้เปลื่ยนให้เจ้า :D"

"แล้วไป ข้านึกว่าท่านเปลื่ยนให้" ฉันถอดหายใจใหญ่ๆออก

"แล้ว..ทำไมอยู่ดีๆสรรพนามของเจ้าเริ่มเปลื่ยนแล้วละเพอร์เซฯ?" นั้นไงคำถามจุกมาอีกครั้ง 

"ข้าก็ไม่รู้ ชักอยู่ไปนานๆข้าก็เริ่มพูดเหมือนกับพวกท่านนั้นและ"

"อยู่ไป เดียวเจ้าก็ชิน"

"แต่ที่แน่ๆ ข้าไม่มีวันอยู่ที่นี้โดยเด็ดขาด!" ยังไงฉันก็ยื่นคำขาดอยู่ดีนั้นและ ว่ายังไงๆฉันก็ไม่มีทางรักเขา 

"ก็แล้วแต่เจ้านะเพอร์เซฯ วันนี้ต้องลองดูว่า เจ้าจะทำสำเร็จหรือป่าว?"

"สำเร็จ? สำเร็จอะไร?"

"เจ้าลืมแล้วหรอ? เพอร์เซฯ" จริงด้วย! ฉันต้องผ่านประตูหมาเซอร์เบอรัสนิ ตายๆ 

"จริงด้วย งั้นท่านลงไปรอข้าที่ประตู อีก 5 นาทีข้าลงไป"

"อาหารเช้า"

"ข้าไม่ทาน ตามนั้นนะท่านเฮดิส" ฉันกระโดดลงจากเตียงทันที

 

 

  ณ ประตูเซอร์เบอรัส

    ฉันเดินมาที่ประตูได้ทันเวลา เฮดิสมองหน้าฉันและดูการกระทำต่อหมาของเขา ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วลบตาลง แสงในร่างของฉันเริ่มเปล่งประกายออกมา ตัวตนของฉันเริ่มออกมาจากภายใน เฮดิสมองฉันอย่างตะลึง ฉันลอยอยู่ในหวงอากาศ เสื้อผ้าของฉันเปลื่ยนไป ผมฉันกลายเป็นผมหยักโศก มีมงกุฎหญิงอยู่บนหัว เสื้อคลุมตัวยาว ที่ฉันไม่เคยใส่ ฉันพร้อมที่จะพูดต่อหมาเซอร์เบอรัส 

"ข้าเทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิ บุตรของดิมีเตอร์เทพีแห่งความอุสมบูรณ์ และบุตรของซุส เทพแห่งสายฟ้า ข้าขอให้ท่านเปิดประตูผ่านไปยันเขาโอลิมปัสเถิด" สิ่งข้าพูดขึ้นมานั้น จำมาจากแจ็คล้วนๆ 

    เซอร์เบอรัสหมอบลง ประตูก็เริ่มปรากฏขึ้น ฉันยิ้มทันทีแล้วมองมาทีเฮดิส เฮดิสยิ้มอย่างอบอุ่นพร้อมยินดีให้กับฉัน ฉันยืนที่พื้น เฮดิสเข้ามาหาฉันพร้อมจับหน้าฉันเบาๆ

"เจ้าทำได้แล้วเพอร์เซฯ ข้ายินดีกับเจ้าด้วย" เขามองหน้าฉัน ความรู้สึกเขาฉันสัมผัสได้ เขาจะร้องไห้ 

"ท่านเป็นอะไร?" ฉันถามสั้นๆ น้ำตาของเขาคลอเบาทันทีแล้วหลบสายตาจากฉัน

"ข้าไม่เป็นอะไร เจ้าจงไปเถอะ" เขาถอดกอดออกแล้วปล่อยให้ฉันไป "ข้าเชื่อว่ายังไง เจ้าคงจะไม่ได้รักข้า"

"ท่าน..." ฉันมองหน้าเขาแปลกไป ทำไมดูเขามั่นใจว่าฉันไม่ได้รักเขา 

 

    ฉันเดินเข้าประตูไปทันที....

 

    นี่ฉันอยู่ที่ไหน?.....

 

    ยอดเขาหรือป่าว?

 

    ฟืบบบบบ!!!!!!

 

 แสงประกายเริ่มจ้าขึ้น ฉันหลับตาทันที ผ่านไปไม่กี่นาที แสงก็หายไป ฉันลืมตาขึ้นมาช้าๆ ฉันได้มาอยู่ในห้องประชุมของเทพอย่างหน้าตาเฉย เทพทุกองค์หันมามองฉัน แม่ฉันวิ่งมาหาฉันทันที พร้อมกับคราบน้ำตา 

"ลูกแม่! " แม่กอดฉันแน่น "ลูกหายไปไหนมาตั้ง 2 วัน"

"แม่ ข้าไม่เป็นไร ข้าผ่านไปนรกเพื่อผ่านประตูหมาของเฮดิสเท่านั้นเอง"

"พระเจ้า" ฉันกอดแม่ตอบ "แม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไรไป"

"ข้าสบายดี เฮดิสดูแลข้าอย่างดี"

"เขาทำอะไรเจ้าหรือป่าวเพอร์เซฯ" พ่อถาม 

"ป่าวค่ะ ท่านลุงไม่ได้ทำอะไรข้า"

"อย่าเรียกว่าท่านลุง เจ้าเป็นของเขาแล้ว" แม่ดุฉัน 

"ค่ะ ท่านแม่" 

"แล้วเจ้าขึ้นมาทำไม วันแต่งของเจ้าพรุ่งนี้เองนะ"

"ข้าจะมาพูด เกี่ยวกับเฮดิส ข้าก็ไม่ได้กินเมล็ดทับทิมนั้น " ทุกคนในห้องต่างพากันตกใจ ตอนนี้ฉันเหมือนพูดอะไรไม่ออก ฉันไม่กล้าโกหกท่านพ่อเลย 

"แล้วสิ่งที่เจ้าบอกว่า กินเพราะ..หิว"

"นั้นไม่ใช่ข้าไม่ได้กินลงไป ข้าคลายออกมาเสียก่อน แปลว่าข้าไม่ได้กิน ที่ข้าโกหกเพราะไม่อยากให้เฮดิสจับได้ แต่เฮดิสได้ขืนใจข้า! โดยที่ข้าไม่ยืนยอม!"

"ไม่จริงใช่ไหม?" เสียงทุกคนพึมพม 

"หยุด!" ทุกคนหยุดพูดทันทีหลังจากที่สุดพูด "ถ้าคำพูดของเจ้าเป็นจริง ข้าจะให้เจ้าดื่มน้ำแห่งเขาโอลิมปัส เป็นน้ำร่วมสาบาน" ซุสหยิบแก้วที่ใส่น้ำมาให้ฉัน ฉันถือแก้วแล้วดื่มทันที เวลาผ่านไป 2 นาที ไม่มีอะไรเกิดขึ้น "นางพูดจริง..." ซุสหน้าเสียทันที พร้อมโมโหจนท้องฟ้าเริ่มแปรปวน

"ท่านพี่ใจเย็นเถอะคะ" เฮร่าพยายามช่วยดึงสติของซุส แต่ไม่มีผลสำเร็จ ซุสโกธรมาก จนเสียงของท่านดังไปทั่วแดนเขาโอลิมปัส 

"เทพเฮดีส เจ้าจงมารับผลกรรมของเจ้าซะ ก่อนที่ข้าจะโมโหไปมากกว่านี้ เพอร์เซโฟนีลูกของข้า ไม่ได้กินผลเมล็ดทับทิมไป แต่เจ้าก็ยังพยายามขืนใจนาง ฆ่าจะเนรเทศเจ้าเสีย เหล่าเทพทั้งหลาย โปรดฟังข้า เวลาสายพรุ่งนี้ พวกเจ้าจงมาร่วมตัวกันที่ ลานรับโทษพร้อมกัน!"

 

 

 วันถัดมา 

    ฉันทำอะไรลงไป ฉันรู้สึกสงสารเขาทันที ทำไมฉันต้องสงสารเขาด้วย เฮดิสเคยทำอะไรไม่ดีกับฉันไว้เยอะนะ วันนี้เป็นวันตัดสิ้นโทษของเขา ฉันควรทำไงดี ฉันนั่งคิดทบทวนอยู่บ่อน้ำ แจ็คในร่างคิวปิดมานั่งใกล้ๆ พร้อมปลอมใจฉันที่กำลังเศร้าอย่างเห็นได้ชัด

"เจ้ารักเขา เพอร์เซฯ"

"ข้าไม่ได้รักเขา"

"ทำไมเจ้าถึงพูดเช่นนั้น"

"เขาทำอะไรไม่ดีกับข้าไว้เยอะนะแจ็ค เจ้าไม่รู้หรอกหรอ?"

"มันก็จริงของเจ้า แต่ทำไมเจ้าไม่ให้โอกาสเขาละ?"

"โอกาส?"

"ใช่ โอกาสนะ เขาเคยทำผิดต่อเจ้า มนุษย์ยังมีโอกาสเหล่าเทพทำไมจะไม่มีโอกาสละ" ฉันถอดหายใจ "เพอร์เซฯ เจ้ารักเขา เจ้าคิดได้อยู่นะว่ายังไงเจ้าก็ต้องเป็นเขาอยู่ดี"

"มันเปลื่ยนประวัติศาสตร์ของมันไม่ได้เลยใช่ไหม?"

"มันเปลื่ยนไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าเจ้ารักเขา ทำไมไม่บอกซุสว่าให้ยกเลิกการรับโทษละ"

"ไปกันเถอะแจ็ค" ฉันลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วคิดอะไรดีๆออก 

"ไปไหน?" แจ็คทำท่าสงสัยกับตัวฉันมาก

"ไปช่วยชีวิตคู่ชีวตของข้าไง ถ้าไม่มีเขาประวัติศาสตร์จะไม่มีเขา" แจ็คยิ้มแล้วอุ้มฉันไปลานรับโทษ

 

 

  ลานรับโทษ

    เทพรับพันมารวมกันในนี้เยอะจนหลายตา ซุสเริ่มเข้าไปนั่งบัลลังค์กลางสนามคือเฮดิส ที่ถูกลามโซ่อย่างทารุณ เทพทั่วพิภพมารวมกัน หลายสายตามองมาที่ซุสหมด ทุกคนต่างกันรักเฮดิสไม่แพ้ซุส ดิมิเตอร์ร้องไห้แล้วโกธรแค้น เฮดิสมาก ซุสยืนขึ้น

"มากันพร้อมหน้าพร้อมตา วันนี้! เฮดิสได้ทำผิดกฏของเทพ ที่ขืนใจลูกสาวของข้า! เพอร์เซโฟนี มันต้องรับโทษ!"

"เฮ่!!!!" เสียงเหล่าเทพพร้อมใจเฮ่ใส่เฮดิส เฮดิสสีหน้าพร้อมรับโชตะของตนเอง แล้วเสียใจที่เฟอร์เซโฟนีนั้นได้บอกว่า เธอไม่กินเมล็ดลงไป เขาโกธร แต่ก็โกธรไม่ลง เพราะรักมากจนไม่อยากโทษเธอ 

"เสียงตัดสิ้นที่จะทำโทษมีดังนี้ คือ การประหารชีวิต และ เนรเทศลงไปยันโลกมนุษย์อย่างถาวร"

ทุกคนเริ่มทำการโหวตการตัดสินของเขา ทุกคนตันสินอย่างเอกชันท์คือโทษประหาร ทุกคนต้องเคารพการตัดสินของเหล่าเทพทั้งหมด ซุสเริ่มถอดหายใจทันที ตนก็เสียใจกับการตัดสิน เฮดิสมีความรู้สึกสิ้นหวังทันที 

"เดียวก่อน!!" ฉันลงมาจากหลังของแจ็ค แล้วเดินมาข้างหน้าเฮดิส "ข้าจะทำตามหัวใจของข้า"

"เพอร์เซโฟนี..." เขาอึ้งไปพักใหญ่ 

"ท่านพ่อข้ามีเรื่องจะคุยเดียวนี้!"

"เจ้าไม่มีสิทธิ์เข้ามาในลานแห่งนี้"

"ข้ามี เพราะข้า คือราชินีแห่งเมืองบาดาล"  ทุกคนอึ้งไปตามๆกัน ร่วมถึงท่านแม่ด้วยที่ยืนขึ้น

"เพอร์เซโฟนี" แม่พูดกับฉัน ฉันยิ้มให้ท่าน

"ข้าต้องทำตามหัวใจตัวเอง" ฉันหันไปหาเฮดิส "ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้กินเมล็ดทับทิม 3 เมล็ด ถึงข้าจะโดนเขาขืนใจ แต่มันก็สายไปแล้ว ข้าได้รักเขา"

"เพอร์เซ...."เฮดิสลุกขึ้น โซ่ที่ล่ามเขาเริ่มหายไป เขาเดินเข้ามาหาฉันแล้วโอบเอว "ที่รักของข้า"

"ท่านพ่อ ได้โปรดเถอะ อย่าประหารเขาเลย ข้ารักเขาสุดหัวใจ ยังไงประวัติศาสตร์ของกรีกก็ไม่มีวันเปลื่ยนอยู่ดี ท่านพ่อเข้าใจลูกเถอะ" ซุสพยักหน้าแล้วเปลื่ยนสถานที่กลายเป็นงานแต่งงานทันที ทุกคนในลานเริ่มยิ้มแล้วยินแก่ฉัน 

   เราสองคนวันนี้เป็นงานแต่งของเราสองคน เฮดิสเขามาโอบกอดฉัน

"เพอร์เซโฟนีภรรยาของข้า"

"เฮดิสสามีของข้า"

   เฮดิสจุมพิษทันทีหลังทีพูด ฉันคิดไว้เสมอว่า ตำนานมันก็คือตำนาน ถึงเราจะพยายามเปลื่ยนมัน ยังไงก็ไม่สามารถเปลื่ยนมันได้ เพราะมันได้ลิขิตมาแบบนี้แล้ว :D

 

 

 

------------------------------------------------------------------------------

พูดคุยกับนักเขียนนน

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านด้วยจ้า ปลาบู่ได้ทำตามคำข้อแล้ว จบซะที ตำนานมันก็คือตำนาน เกือบจะจบไม่สวยแล้วละสิ แต่ยังไงก็สวย เพราะนางเองมาชวนได้ทัน ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ ที่เป็นกำลังใจอยู่เสมอ แล้วคนอ่านทุกคน ปลาบู่จะมีผลงานอะไรอีกต้องติดตามกันะคะ 

รักทุกคนนนนน <3

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา