Fic naruto ภาค พายุโลหิต

10.0

เขียนโดย นิกซ์

วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.23 น.

  33 ตอน
  12 วิจารณ์
  46.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 16.43 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

7) บทที่ 7 ความเจ็บปวดของผู้ที่ไม่อยากฆ่า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หลังจากที่เดินทางติดต่อกันนาน ถึงหกชั่วโมง โดยไม่ได้พักนั้น ทุกคนก็ตัดสินใจนั่งพักกินอาหารเอาแรงสองชั่วโมง 

อิโนะเข้ามาดูอาการของซามุย ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะฟื้นตัวได้มากขึ้นแล้ว

“ดูท่า คุณซามุยจะต่อสู้มานานนะคะ”

“ขอรับ ห้าหกปีที่ผ่านมา งานหนักมือมาก แต่ผมก็แค่ทำตามที่พวกหัวหน้าสั่งน่ะขอรับ แต่เพราะแผนการของท่านเบนิ ทำให้อะไรๆก็ง่ายขึ้นนะขอรับ”

อิโนะเลิกคิ้ว “ยัยนั่น เป็นคนวางแผนตลอดเลยรึ”

ซามูไรหนุ่มพยักหน้า “ขอรับ นานครั้งๆท่านเบนิจะมาสั่งการเอง อย่างสงครามเมืองที่เกิดเมื่อ สามสี่ปีก่อนเนี่ยแหละขอรับ”

“แสดงว่า นายต้องเคยเจอยัยโหนกเพื่อนชั้นแน่ๆเลยใช่ป่ะ”

“ยัยโหนก?”

“ฉายาที่ชั้นชอบเรียกน่ะนะ”

“ท่านเบนิไม่โกรธเหรอขอรับ”ซามูไรหนุ่มสะดุ้งโหยง

“ก็มีบ้างแหละ อย่างมากก็วีนใส่ จะมีแต่พวกผู้ชายที่โดนตบและต่อยน่ะนะ”อิโนะนึกถึงสาพตอนที่ซาอิพูดคำนี้ใส่เพื่อนสาว นอนโรง’บาลเป็นอาทิตย์ แถมรอยตบที่แก้มทั้งสองข้างเป็นรอยอนุสรณ์

ซามุยหน้าซีดลง”นั่นยังดีนะขอรับ เพราะจริงๆแล้วท่านเบนิเป็นคนที่น้ำอดน้ำทนก็พอสมควรแต่น๊อคหลุดที ไอ้คนที่ทำให้ท่านน๊อคหลุด จะตายเอา เพราะท่านเบนิจะจัดการใคร จะไม่รู้ร่ำทำเพลงอะไร ท่านจะจัดการซัดให้หมอบในชั่วพริบตา บ้างก็โดน บีบคอแล้วต่อยทีหนึ่ง ทำเอาคนนั้นกินข้าวไม่ได้ไปสามสี่วันเลยน่ะขอรับ บางรายโดนอัดซะ นอนโรง’บาล เป็นเดือน สาหัสสุดๆก็เพื่อนของผมที่เข้ามารับราชการในหน่วยช่วงประมาณก่อนเกิดสงครามกลางเมือง แล้วไปพูดจากวนโอ๊ยใส่ ท่านเบนิไม่พูดแต่ยิ้ม จากนั้น โดนท่านเบนิจัดการอัดแทบตาย โดยที่เจ้านั่นไม่สามารถตอบโต้หรือป้องกันตัวได้เลย ทุกคนที่เห็นท่านเบนิอัดเจ้านั่นน่ะรวมถึงผม กลัวจนขี้แทบเล็ด”

อิโนะถามด้วยสีหน้าปั้นยาก“น่ากลัวขนาดนั้นเชียว”

“ขอรับ เพราะท่านเบนิไม่โวยวายเหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่ท่านจัดการกระทืบโดยที่ใบหน้าเฉยๆ แถมพูดจิกแบบเจ็บๆบวกกับขู่ตบท้าย ปัจจุบันเจ้านั่นต้องขอย้ายไปหน่วยอื่นเพราะกลัวท่านเบนิ สุดๆ”

ซาอิ ที่ได้ยินก็สะดุ้งโหยง เพราะเค้านั้นพูดไม่เข้าหู เจ้าหล่อนประจำโดนตบต่อย กระทืบมาก็มาก เค้าเคยอ่านเจอในหนังสือ ถ้าคนที่โกรธแล้วโวยวายน่ะไม่ค่อยน่ากลัวเท่ากับคนที่โกรธแล้วเงียบไม่พูดอะไรเนี่ยแหละ  น่ากลัว และยิ่งเป็นคนที่มีแรงช้างสารด้วย ยิ่งน่ากลัวกว่าเดิม

ซาสึเกะเอ่ยถาม “นายเคยเจอหน้าแล้วน่ะสิ”

“ผมไม่เคยเห็นหน้าท่านเบนิมาเจ็ดแปดปีแล้วขอรับ ถ้าท่านเบนิจะมาพบผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างผม ท่านจะสวมหน้ากากจิ้งจอกแค่ครึ่งหน้า น่ะขอรับ จนใครก็ลือกันว่า ท่านเสียโฉมจนต้องปิดใบหน้าแต่ผมไม่เชื่อหรอกครับ เพราะท่านบันไซบอกว่า หน้าท่านเบนิกับท่านบันไซ เหมือนกัน ท่านเบนิเลยสวมหน้ากากเอาไว้เพื่อให้แยกออก”

ซาอิจึงถามเรื่องบางเรื่องที่สงสัยมานาน

“แล้วการคัดเลือกเข้ามาเป็นซามูไรล่ะ เค้าเลือก หรือ คัดตัวยังไงบ้างล่ะครับ”

“นั่นสิคะ ชั้นเองก็สงสัย”

ซาสึเกะที่กินนกย่างก็หยุด เพราะตัวเค้าเองก็สงสัยเหมือนกัน

“มันแบ่งเป็น 2 แบบขอรับ แบบแรก คือ การสืบสายเลือด ตามตำแหน่งของพ่อแม่”

ซาอิออกความเห็น”แบบ พ่อหรือแม่เป็นซามูไร ลูกก็ต้องรับตำแหน่งสินะ”

“ส่วนหนึ่งขอรับ แต่จริงๆแล้ว ไม่ว่าพ่อหรือจะอยู่ในตำแหน่งไหน ลูกไม่จำเป็นต้องอยู่ตำแหน่งเดียวกัน เพราะตำแหน่งของซามูไรไม่ใช่ตำแหน่งผูกขาดสำหรับตระกูลใดตระกูลหนึ่งขอรับ แบบสืบสายเลือดคือ ถ้าพ่อแม่เป็นซามูไรยศสูง หรือมีความสามารถเข้าตาเบื้องบน ลูกก็จะถูกเอาตัวมาฝึกขอรับ แต่ก่อนหน้านั้น ต้องมีการทดสอบ มีการจับตาดูว่า ทายาทของแต่ละครอบครัว มีความสามารถในด้านใด สมควรจะเอาไปเรียนทางไหน ขอรับ ถ้าคนไหนไม่เหมาะ เค้าก็ไม่รับมาเป็นซามูไร”

ซาสึเกะจึงถามบ้าง “เค้าดูระเอียดมากเลยรึ”

“ขอรับ ผมเคยดูการคัดเลือกพวกรุ่นน้อง ก็หลายคน การคัดเลือกแบบ สืบสายเลือด เค้าดูตั้งแต่ สุขภาพร่างกาย ไหวพริบ สติปัญญา ความรู้ที่มี การสืบสายเลือดเค้าจะวางตำแหน่งให้ ว่าจะให้เด็กคนนั้น ไปในทางไหน แต่ถ้าเข้ามาแล้ว ก็สามารถเลือกสอบเข้าตำแหน่งอื่น นอกจากตำแหน่งที่เบื้องบนวางไว้ ก็ได้ขอรับ ซึ่งผมเห็นว่า หลายคนก็ถูกวางไว้ในตำแหน่งเดียวพ่อแม่ก็เยอะอยู่ มีส่วนน้อยเท่านั้น ที่จะถูกวางในตำแหน่งอื่น ที่สูงกว่าพ่อแม่ เบื้องบนเค้าจะไม่วางตำแหน่งของเด็กที่มาเป็นซามูไรต่ำกว่าแน่นอน ”

ซาสึเกะเดาได้เลยว่า ซากุระกับญาติของเธอ คงจะเป็นส่วนน้อยแน่นอน ที่เอโดะต้องทำอย่างนั้นก็เพื่อผูกใจคนสินะ

“แล้วอีกอย่างล่ะคะ ซามุยซัง”

“แบบสมัครเข้ามาขอรับ จะรับเยอะมาก รับทุกเข้ามาทุกๆสี่ปี ต้องเริ่มตั้งแต่ ตำแหน่งทหาร ธรรมดา ไม่ได้รับการอบรม สั่งสอน เหมือนกับแบบแรก ผมเองก็เข้ามาทางนี้ขอรับ แต่ก็ต้องได้รับการฝึกจากพวกหัวหน้า อยู่เหมือนกัน”

อิโนะรู้สึกเห็นใจซามุยทันที “แบบนี้ คงยากสินะคะ ที่จะได้ตำแหน่งดีๆ”

“ครับ แต่ระบบของซามูไร จะมีการสอบเลื่อนขั้นกัน ทุกๆสามปี สายบู๊ ข้อสอบยากมาก มีทั้งข้อเขียนและการประลองฝีมือ แต่ถ้าสายบุ๋น ข้อเขียน และจะนำผลงานที่ทำมา ดูด้วย”

ซาอิออกความเห็น“นับว่า หินเอาเรื่องนะครับ แต่ดูจะไม่เน้นในเรื่องทีมเลย”

“อยู่แล้วขอรับ เพราะทุกคนในหน่วย คือทีมเดียวกันขอรับ การทำงานของทหารหรือตำรวจ จะไม่ฉายเดี่ยว ยกเว้นบางกรณี ที่ท่านเบนิเคยทำ”

งานนี้ทำเอา สามนินจาและหมาปั๊กเริ่มสนใจ ซะแล้วสิ

ซาสึเกะจึงถาม”งานอะไรรึ ที่เค้าทำ นายพอจะรู้ไหม”

“พอทราบขอรับ ผมฟังจากท่านบันไซมาอีกที ไม่เชิงฉายเดี่ยว เพราะนั่นเป็นงานของท่านเมื่อแปดปีก่อนขอรับ ในหน่วยทหารองครักษ์ โดนวางยาถ่ายในขนม ทำให้ต้องนอนให้น้ำเกลือ กันหมดทั้งหน่วย จะมีคนที่รอดก็คือท่านเบนิ ที่ยังเป็นรองหัวหน้าหน่วยองครักษ์ หน่วยที่ 1กับคุณมาโมรุ ที่เป็นตำรวจมาแลกเปลี่ยน กับทหารอีกสองนายที่เข้าเวรลาดตระเวรเท่านั้นแหละครับที่ไม่ได้กินพุดดิ้งแมงโก้ เพราะโดนแย่งส่วนของตัวเองจนหมด ตอนนั้นจำได้ว่า ท่านเบนิกรี๊ดลั่น หน่วยเลย เพราะทุกคนรู้ดีว่า นั่นน่ะ คือของสุดจะโปรดของท่านเลย”

คำว่าสุดจะโปรด ทำเอาซาสึเกะหูผึ่ง

อิโนะเอะใจ”ยัยนั่นไม่ได้ชอบ อันมิทสึ รึ”

“ท่านน่าจะชอบของหวาน แทบทุกอย่างเลยนะครับ แต่ถ้าเป็น พุดดิ้งแมงโก้ ถือเป็นของแพง ที่อร่อยมาก ชาวเอโดะนิยมกินกันครับ แถมขนมชนิดนี้ก็มีจำนวนจำกัดอีก”

“แค่พุดดิ้ง ทำไมถึงแพงมากล่ะคะ”

“พุดดิ้งไม่แพงครับ ไอ้ที่แพงนะคือมะม่วง เพราะมะม่วงที่ใช้ทำคือพันธุ์ที่แพงที่สุด ขนมเลยแพง”

อิโนะทำหน้าเจื่อนๆ”ยัยนั่น ชอบของแพงน่าดู”

งานนี้ทำเอาใครบางคนคิดหนัก...นอกจากชอบของหวานแล้วยังชอบของแพงอีก เอาใจยากแฮะ...

“ผมขอเข้าเรื่องต่อนะครับ ตอนนั้นหน่วยข่าวกรอง ได้ข่าวสำคัญ ของแหล่งค้าอาวุธเถื่อน เลยส่งคนที่เหลือ คือท่านเบนิ และคุณมาโมรุ ไปสำรวจดูเชิงก่อน แล้วจะทำเรื่องส่งหน่วยอื่นไปเสริม”

ซาอิขมวดคิ้ว”หน่วยทหารมีแค่หน่วยเดียวเหรอครับ”

“ไม่ขอรับ มีสิบหน่วย แต่ละหน่วยจะมีเขตรับผิดชอบ  เขตทั้งสิบของแคว้น ไม่สามารถก้าวก่ายกันได้ขอรับ ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวของนายเหนือหัวที่รับใช้อยู่ล่ะก็ไม่มีทางขอรับ แคว้นเราถือว่ามีการแบ่งเขตการทำงานอย่างชัดเจนน่ะขอรับ  แต่ทุกคนจะอยู่ภายใต้การนำของผู้นำแคว้น ขอรับ”

ซาอิพยักหน้า ยอมรับเลยว่า พวกซามูไรมีการแบ่งเขตการปกครอง ที่ชัดเจนมาก

เล่าต่อนะขอรับ ในการปฏิบัติงานครั้งนั้น เป็นกับดักของศัตรู ท่านเบนิจับได้ว่า คุณมาโมรุเป็นกบฏที่แฝงตัวมา  นั่นทำให้ ท่านเบนิ จำต้องสังหารเค้าครับ ส่วนพวกศัตรูที่เป็น พ่อค้า อาวุธเถื่อน ก็โดนท่านเบนิ จัดการด้วยตัวคนเดียว ไอ้พวกที่หนีไปได้ ทางเราก็จัดการจับกุม ไปเป็นที่เรียบร้อย ขอรับ ในเหตุการณ์นั้น ท่านเบนิ ต้องขอกลับไปที่บ้านของท่าน นานเป็นอาทิตย์กว่าจะกลับมาทำงานได้ ท่านบันไซบอกว่า การที่ต้องฆ่าคนที่ไม่อยากฆ่าน่ะ มันเจ็บปวดมาก และอาจจะกลายเป็นแผลใจที่ฝังลึกไปเลยก็ได้ ท่านบันไซ พูดไว้แบบนี้ ขอรับ”

สามนินจาพูดไม่ออก โดยเฉพาะอิโนะ เธอรู้สึกสงสารเพื่อนรัก เธอคงจะต้องเจ็บปวดมากสินะ ต้องฆ่าคนที่ไม่อยากฆ่า แบบนั้น

หลังจากที่พักเอาแรงกันพอสมควรแล้ว ทุกคนก็เดินทางต่อ โดยที่ต้องลอบเข้าแคว้นเอโดะกันทางใต้ดิน เพราะ ทางเข้าแคว้น มีด่านตรวจคน อย่างเข้มงวดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ซาสึเกะต้องขอให้ซามุย พาไปที่ร้านสวรรค์ระทม ทำเอาซามุยหน้าซีด “ร้านของเจ๊กระเทยจอมโหด ท่านเบนิ คิดอะไรเนี่ย”

“ทำไมนายต้องกลัว”

“กระเทยควายเลยนะขอรับนั่น แถมอดีตเคยเป็นทหารในสงครามอีก คุณไปเจอก็จะรู้เอง”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา