[Yaoi] BEFORE U GO - ก่อนเธอจะไป

-

เขียนโดย ช็อกโก้พาย

วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.09 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  13.83K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 15.13 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

12)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

12

 

 

 

27 มกราคม 20XX

ผมปฏิเสธคนที่ดีกับผมอีกครั้ง เพียงเพราะต้องการมั่นคงกับความรักที่ไม่อาจครอบครองของตัวเอง

                                                                        -ดิน-

 

"ดินจริงด้วย"

 

 

"พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ" ดินถามขึ้นขณะรอกาแฟและขนมที่สั่งมาเสิร์ฟ เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วในขณะที่ดินกำลังจะข้ามถนนเพื่อไปซื้อกาแฟร้านประจำฝั่งตรงข้ามหลังจากยืนรอจนกระทั่งรถของแบงค์ขับออกไป มีรถปริศนาคันหนึ่งขับเข้ามาขวางทางเขาไว้ แล้วเจ้าของรถก็เลื่อนกระจกลงทักทาย

ฮาร์ท คือเจ้าของรถคันนั้น เขาเป็นรุ่นพี่คณะเดียวกันกับดินที่เพิ่งกลับจากเรียนต่อโทด้านบริหารที่ต่างประเทศ ดินรู้สึกแปลกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าจะเจอฮาร์ทที่นี่ พวกเขาพูดคุยกันอยู่ริมถนนเพียงชั่วครู่ก่อนที่ดินจะเป็นฝ่ายชวนฮาร์ทเข้ามาดื่มกาแฟด้วยกันเพื่อเป็นการเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของรุ่นพี่ที่เคยสนิท

 

 

"สองสามวันที่แล้ว เราพักอยู่แถวนี้เหรอ ขอบคุณครับ" ฮาร์ทตอบคำถามของดินแล้วหันไปพูดขอบคุณมีนาพนักงานสาวที่นำกาแฟมาเสิร์ฟ

 

 

"ครับ บังเอิญนะที่เจอพี่แถวนี้" ดินยิ้มกับการกระทำเหล่านั้น ฮาร์ทสุภาพและใจดีแบบนี้เสมอ ต่างจากอีกคนที่คำพูดจาเย็นชาร้ายกาจ ซ้ำยังใจร้ายกับเขาตลอด แต่ดินกลับคิดถึงใครคนใจร้ายนั่นอย่างบอกไม่ถูก 

 

 

"ไม่บังเอิญหรอกพี่เจอเราในผับตั้งแต่เมื่อคืน" ฮาร์ทพูดบอก คิ้วสวยของดินขมวดขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ ฮาร์ทจึงเล่าเรื่องที่เขาเจอดินในผับให้เจ้าตัวฟัง แต่ไม่ได้เล่าถึงขั้นว่าเขาขับรถตามร่างโปร่งมา

 

 

เมื่อคืนฮาร์ทไปฉลองที่ผับชื่อดังตามคำชวนของเพื่อนสนิท หนึ่งในนั้นสะกิดให้เขาดูดินซึ่งกำลังเดินตรงไปหน้าเวทีราวกับต้องมนต์ ฮาร์ทนั่งอยู่ไม่ไกลจากที่ร่างโปร่งของคนเป็นรุ่นน้องยืนอยู่แต่ไม่ทันได้เข้าไปทักทายอะไร    ดินก็ถูกเจมส์รุ่นน้องอีกคนลากออกไปเสียก่อน

 

 

เพราะความรู้สึกดีๆยังคงมีให้ และความคิดถึงที่มันค่อยๆเพิ่มขึ้นเมื่อต้องห่าง ทำให้ฮาร์ทละสายตาจากดินไม่ได้ จนกระทั่งดินเดินเข้าไปในห้องน้ำและกลับออกมาพร้อมใครอีกคนซึ่งฮาร์ทไม่คุ้นหน้า

 

 

ดินกับใครคนนั้นเหมือนกำลังมีปากเสียงกันอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ฮาร์ทเองก็ยังไม่เข้าใจ แต่เขาแน่ใจว่าเป็นคนๆเดียวกันกับที่ดินยืนส่งเมื่อเช้า

 

 

ดินเดินออกจากผับหลังจากที่ผู้ชายคนนั้นไปกับผู้หญิงสวยคนหนึ่งที่เดินเข้ามาตาม อะไรบางอย่างบอกให้ฮาร์ทตามดินออกมา ร่างโปร่งเดินคล้ายคนเหม่อลอยอยู่ริมฟุตบาท โอบกอดตัวเองราวกับต้องการปัดป้องความเหน็บหนาวจากสายลมซึ่งมันจะนำพาฝนมาในไม่ช้า นานสองนานก่อนที่ดินจะขึ้นแท็กซี่ไป 

 

 

เพราะท่าทางเหล่านั้นของดินทำให้ฮาร์ทอดเป็นห่วงไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจวิ่งไปที่รถและขับตาม ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือโชคร้าย รถส่วนตัวของผู้คนที่มาเที่ยวสถานบันเทิงแถบนั้นจอดเรียงรายกันมากมายจนเขาต้องจอดรถไว้ห่างจากผับที่มาพอสมควร แต่มันก็ถือเป็นความโชคดีที่ทำให้ฮาร์ทตามดินทัน

 

 

“ดิน ฟังพี่อยู่รึเปล่า” ฮาร์ทเรียกดินอีกครั้งเมื่อเห็นว่าร่างโปร่งเอาแต่จ้องหน้าจอมือถือ นิ้วเรียวเกลี่ยสัมผัสมันเบาๆไม่หยุดเพื่อให้หน้าจอสว่างตลอดเวลา

 

 

ดินเหม่ออีกแล้ว

 

 

“ดิน” มือหนาเลื่อนไปแตะเบาๆที่แขนเนียน ดินสะดุ้งน้อยๆและหันกลับมาสนใจเขาต่อ

 

 

“ครับ? ขอโทษนะครับเมื่อกี้พี่ว่าไงนะ” ดินถามออกไป เมื่อกี้ฮาร์ทตอบอะไรเขาไม่ได้ยินเลย เผลอทำตัวเสียมารยาทแบบนี้ได้ยังไงกันนะ

 

 

“พี่ถามว่าไอ้ที่เดินข้ามถนนกลับไปกลับมามันเป็นการบิ้วอารมณ์ทำงานวิธีใหม่เหรอ” ฮาร์ทพูดติดตลก อยากให้ดินลืมเรื่องที่กำลังคิดอยู่บ้าง อย่างน้อยชั่วคราวก็ยังดี เพราะเขาไม่ชอบเลยที่คิ้วสวยขมวดมุ่นอยู่ตลอดเวลาอีกทั้งดวงตาที่มันสั่นไหวฉายแววกังวลนั่นอีก

 

 

“หือ? พี่เห็นด้วยเหรอ” ดินยกมือขึ้นเกาแก้มอายๆก่อนจะคิดได้ต่อจากนั้น

 

 

“เมื่อคืนพี่เองเหรอที่ขับรถตามผมมา?” ดินถามออกไป ฮาร์ทเองเหรอที่เป็นต้นเหตุให้ลุงคนขับแท็กซี่หาว่าเขาโดนเจ้าหนี้ตามมาทวงเงิน

 

 

“อ่า..โดนจับได้ซะแล้ว” คนใจดียิ้มอย่างอ่อนโยน

 

 

“รีบไปไหนรึเปล่า พี่เห็นเรามองนาฬิกาบ่อยๆ” ฮาร์ทถามออกไป เพราะกลัวว่าตัวเองจะรบกวนเวลาของดินมากเกินไป ทางด้านดินเมื่อได้ยินแบบนั้นก็เลิกคิ้วงงๆใส่คนเป็นรุ่นพี่อีก นี่เขามองนาฬิกาบ่อยจนฮาร์ทสังเกตได้เลยเหรอ

 

 

“ก็มีธุระนิดหน่อยครับ” ดินตอบออกไป

 

 

“งั้นแยกกันเลยก็ได้ วันหลังค่อยไปกินข้าวด้วยกัน” ฮาร์ทบอก ดินจึงพยักหน้า

 

“เช็คบิลด้วยครับ” ฮาร์ทหันไปพูดกับพนักงานด้วยความสุภาพ รอไม่นานมีนาก็เอาบิลมาให้ฮาร์ทและดินหยิบกระเป๋าเงินออกมาพร้อมกัน แต่ฮาร์ทเร็วกว่ายื่นแบงค์สีเทาให้มีนาไป

 

 

“พี่ผมจ่ายเอง” ดินบอก

 

 

“เก็บไว้เถอะเด็กน้อย เดี๋ยวป๋าเลี้ยงเอง” ประโยคเดิมๆเวลาที่เขาทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกันถูกพูดขึ้นอีกครั้ง แต่ฮาร์ทไม่รู้ว่าดินจะยังจำได้ไหม

 

 

“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ ผมมีงานทำแล้ว พี่จะเลี้ยงผมไปตลอดได้ไง ขอผมเลี้ยงคืนบ้างสิ” ดินพูดประโยคยาวเหยียดออกมาเป็นครั้งแรก ฮาร์ทยิ้ม นี่สิถึงจะเป็นดินที่เขารู้จัก ต้องชอบเถียงแบบนี้ถึงจะตัวจริงเสียงจริง

 

 

“เลี้ยงไปตลอดชีวิตก็ได้นะ พี่เต็มใจ” คำพูดจาที่เหมือนไม่จริงจังหลุดออกมาจากริมฝีปากหนา แต่ทว่าสายตาฮาร์ทไม่ได้เป็นเช่นนั้น มันกำลังฟ้องว่าเขาหมายความตามที่พูดจริงๆ จนดินต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาทำเนียนหันไปรับเงินทอนจากมีนามาส่งให้

 

 

“ป๋ามากระวังหมดตัวไม่รู้ด้วย” ดินพูดขำๆ ก่อนจะลุกจากเก้าอี้    ฮาร์ทลุกตาม

 

 

“ป๋ายอม” ฮาร์ทตอบ จนดินหัวเราะออกมาเสียงดัง

 

 

“วันหลังของผมเลี้ยงคืนนะ ห้ามทำแบบนี้อีก” ดินเดินมาส่งฮาร์ทที่รถ

 

 

“เอาเป็นพาพี่ไปดูที่ทำงานเราแทนได้ไหม” ฮาร์ทพูดขอเขาติดตามข่าวคราวของดินตลอดแม้จะอยู่ที่นู้น จึงพอจะรู้ว่าดินเปิดโรงเรียนเอกชนร่วมกับเพื่อนๆ

 

 

ความบังเอิญมันมีอยู่ก็จริง แต่ก็เป็นความบังเอิญของดินฝ่ายเดียวมากกว่า เขาเป็นคนสร้างความบังเอิญเหล่านั้นให้มันเกิดขึ้นมาเอง มันคือสิ่งที่ดินไม่รู้

 

 

“หือ?” ดินทำหน้าสงสัยอีกรอบจนฮาร์ทอดยกมือขึ้นยีหัวคนเป็นรุ่นน้องเพราะความเอ็นดูไม่ได้ นี่เหรอคุณครู ยังเหมือนเด็กๆอยู่เลย

 

 

“อยากไปเห็นที่ทำงานนายไง แล้วจะไปไหนให้พี่ไปส่งไหม” ฮาร์ทเปิดประตูรถออกแต่ไม่ยอมเข้าไปนั่งข้างในสักที

 

 

“ไม่ต้องหรอกครับป๋า แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่ ไปได้แล้วมั้งคนรอส่งเมื่อยแล้ว” ดินพูดทีเล่นทีจริง

 

 

“ไล่ตลอด ไว้เจอกันพรุ่งนี้พี่จะมารับไปทำงาน” พูดเองเสร็จสรรพแบบรวบรัดตัดตอนก่อนที่ป๋าใจปล้ำจะปิดประตูขับรถออกไป

 

 

ดินกลับเข้ามาอาบน้ำแต่งตัวใหม่อีกรอบเพื่อจะตามไปขัดขวางแบงค์ให้ทันตามเวลาและสถานที่ที่อีกฝ่าบอก ตามไปขัดขวาง ดินให้เหตุผลกับตัวเองแบบนั้นในการเข้าไปก้าวก่ายกับชีวิตของแบงค์ในครั้งนี้ ปกติ  ดินไม่เคยคิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจและชีวิตจริงที่มันเป็นดั่งข้อจำกัดในความสัมพันธ์อันเลื่อนลอยระหว่างเขากับแบงค์เลย แต่เพราะครั้งนี้มันข้องเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น

 

 

ดินนั่งแท็กซี่มายังสถานที่ที่แบงค์บอก ห้างดังใจกลางมหานครในเวลาบ่ายอ่อนๆมีเหล่าวัยรุ่นเดินพลุกพล่านเต็มไปหมด ดินเดาว่าแบงค์กับข้าวฟ่างคงกำลังเดินดูเสื้อผ้าไม่ก็กระเป๋าแบรนด์ดังตามที่ผู้หญิงคนนั้นชอบทำ จุดหมายต่อไปจึงเป็นชั้นที่ของหรูพวกนั้นอยู่

 

 

ดินทั้งมองและเดินหาไปรอบๆแต่ก็ไม่เจอ สงสัยว่ายังมาไม่ถึง อีกอย่างห้างใหญ่แบบนี้คงหาไม่เจอง่ายๆ แต่ดินก็มั่นใจว่าแบงค์ไม่ได้แกล้งหลอกให้เขามา คิดได้แบบนั้นร่างโปร่งก็เดินดูของรอไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงในขณะที่ดินกำลังลังเลกับการเลือกเสื้อเชิ้ตสองตัวอยู่เสียงหนึ่งก็ดังทักขึ้น เสียงที่ดินภาวนาว่าอย่าให้ได้ยินอีกตลอดชีวิต

 

 

“บังเอิญจัง ไม่คิดว่าจะเจอกันอีกนะดิน” น้ำเสียงหวานดังมาจากริมฝีปากสีแดงสดที่หยักยิ้มแฝงยาพิษหาความจริงใจใดๆไม่ได้ของผู้หญิงที่ดินเกลียด ไม่รู้ว่าแบงค์มาด้วยไหมแต่ดินทำใจหันไปมองหน้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้จริงๆ

 

 

“สบายดีไหม แต่ดูท่าแล้วก็น่าจะลำบากหน่อยนะ ตัวคนเดียวนี่” คำพูดจาร้ายกาจยังคงดังออกมาจากริมฝีปากของข้าวฟ่างไม่หยุด ดินทำหูทวนลมพยายามกัดฟันอดทนต่อคำยั่วยุนั่นไว้

 

 

“ไม่คิดจะหันมาพูดกับม๊าหน่อยเหรอดิน”

เหมือนความอดทนที่มีขาดสะบั้นเมื่อข้าวฟ่างพูดคำที่สุดแสลงหูออกมามันเป็นตัวกระตุ้นดินได้ดีเลยทีเดียว

 

 

“เธอไม่ใช่แม่ฉัน หยุดพล่ามสักที!” ดินหันมาเผชิญหน้ากับข้าวฟ่าง แววตาที่แสดงออกชัดเจนว่าเกลียดชังทำให้ข้าวฟ่างพึงพอใจเป็นอย่างมาก    มันเป็นอย่างที่หล่อนต้องการ ยิ่งดินเดือดเท่าไหร่ เกมนี้ยิ่งสนุก

 

 

“นี่ยังไม่ลืมเรื่องเก่าๆอีกเหรอ ฉันขอโทษ ฉันรู้สึกผิดจริงๆ มันก็แค่อารมณ์พาไป นายน่าจะเข้าใจนะ” รอยยิ้มร้ายยังปรากฏอยู่บนใบหน้าของหญิงสาว ซึ่งมันขัดกับคำพูดจาสารภาพบาปเหล่านั้น

 

 

“หยุดพูดถ้าเธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ” ดินกำมือแน่น แววตาแข็งกร้าวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่ได้อยากทำร้ายผู้หญิงแต่ถ้าอยู่นานกว่านี้ก็ไม่รู้ว่าไอ้คำว่าลูกผู้ชายมันจะฉุดรั้งจิตใต้สำนึกของเขาไว้ได้นานเท่าไหร่

 

 

ไม่ได้มาเพื่อฟังเรื่องราวเก่าๆ ไม่อยากรื้อฟื้นความทรงจำเลวร้ายนั่น    แต่ที่มาแค่ไม่อยากสูญเสียคนสำคัญไปอีก มันจะไม่มีเรื่องบ้าๆแบบนั้นอีกแล้ว

 

 

“ทำอะไรอยู่ ไปได้แล้วหนังจะเล่นแล้ว” เสียงทุ้มของผู้มาใหม่พูดขึ้น      ดินจำได้ดีว่ามันเป็นเสียงของแบงค์ ร่างโปร่งหันไปมองสบตาแบงค์เองก็กำลังมองมาเช่นกัน ร่างหนาขมวดคิ้วเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่าง

 

 

“เสร็จแล้วเหรอ ฉันเจอคนรู้จักน่ะ” ข้าวฟ่างสอดแขนเข้าไปเกี่ยวแขนแกร่งของแบงค์ ดินกำมือแน่นเข้าไปอีกจนเล็บจิกเข้าที่ฝ่ามือตัวเอง

 

 

“หึ! ไม่บอกไปล่ะว่าฉันเป็นลูกเลี้ยงเธอ” ดินแค่อยากเห็นแววตากังวลเวลาจะเสียสิ่งที่ต้องการของผู้หญิงคนนั้นบ้าง 

 

 

“มันก็แค่อดีต อย่าไปฟังเลยค่ะแบงค์...”

 

 

“จะอะไรก็ช่าง ไปเถอะ” ข้าวฟ่างยังพูดไม่จบแบงค์ก็ตัดบทแล้วจูงมือหล่อนเดินจากไปต่อหน้าต่อตาของดิน

 

 

ท่าทางที่ทำเป็นเหมือนไม่รู้จักกับมือที่จับกันไปราวกับคู่รักนั่นกำลังทำร้ายดิน ฟันขบแน่นตึงถึงขมับ ดั่งเปลวไฟมันลุกโหมขึ้นกลางอก ดั่งถูกกระชากใจออกไปทั้งๆที่ยืนอยู่เล็บที่จิกลงฝ่ามือจนห้อเลือดยังทำให้รู้สึกเจ็บไม่เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้

 

 

“อย่ายุ่งกับมัน..”

 

 

อย่าไป...

 

 

 

เสียงที่ดังจากตรงนี้มันยังไม่ดังพอจะฉุดรั้งคนที่อยู่ตรงนั้นไว้ อยากตะโกนให้สุดเสียง อยากเดินไปกระชากให้สองมือที่เกาะกุมกันอยู่ออก แต่ก็ทำได้เพียงเท่านี้ เพราะรู้ดีว่าตัวเองมีสิทธิ์แค่ไหนในสถานะที่เป็นอยู่

 

 

ทางด้านแบงค์เมื่อลากข้าวฟ่างออกห่างจากดินได้สำเร็จเขาก็ปล่อยมือหล่อนให้เป็นอิสระ ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจของชายหนุ่มทำให้  ข้าวฟ่างร้อนใจ กลัวเหลือเกินว่าแบงค์จะเก็บคำพูดของดินมาคิด กลัวแบงค์รับไม่ได้และโกรธเคืองเรื่องราวในอดีตที่หล่อนปิดบังเขาอยู่

 

 

“แบงค์คุณอย่าไปฟังที่เด็กนั่นพูดนะคะ” ข้าวฟ่างเลื่อนมือไปสัมผัสแขนของแบงค์ ตอนนี้ทั้งสองยืนอยู่หน้าโรงหนัง

 

 

“บอกแล้วว่าไม่ได้สนใจ อดีตก็คืออดีต” เสียงเข้มพูดบอก เขากำลังข่มอารมณ์ความหงุดหงิดของตัวเองที่ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน เขาเริ่มเบื่อเกมนี้เต็มทน ผ่านไปแค่วันเดียวเขากลับรู้สึกเบื่อหญิงสาวตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก  

 

 

อดีตก็คืออดีตงั้นเหรอ?

 

 

จู่ๆก็สะดุดเข้ากับคำพูดของตัวเอง ถ้าอดีตก็แค่อดีตทำไมตอนนี้เขาต้องนึกถึงแต่สายตาที่เจ็บปวดของคนที่เป็นอดีต อีกทั้งน้ำเสียงที่ทั้งห้ามทั้งวอนขอให้เขาเลิกล้มความคิดนั้นอีก ทำไมเขาถึงต้องกลัวว่าดินผิดหวังกับการกระทำของเขาขึ้นมา

 

 

“คุณไม่โกรธฉันเหรอคะ ถ้าฉันมีเรื่องที่ปิดบังคุณอยู่” ว่ากันว่าเมื่อเริ่มรู้สึกดีกับใครแม้แต่คนที่แสนเลวก็มีความกลัว

 

 

“ไม่จำเป็นต้องโกรธนี่” แบงค์พูดต่อ ต่อให้เขาพึ่งรู้เรื่องราวลับๆแสนฉาวโฉ่ของผู้หญิงตรงหน้า เขาก็ไม่จำเป็นต้องโกรธเพราะไม่ได้รู้สึกอะไรอยู่แล้ว   มันก็เป็นแค่เกม เป็นแค่บทลงโทษที่ผู้หญิงคนนี้ทำให้คนมากมายเดือดร้อน          

 

 

“ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวกอดชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความรู้สึกตื้นตันอย่างไม่อายใครแม้ว่าจะอยู่หน้าโรงหนังที่มีคนเดินผ่านไปมา แบงค์คือผู้ชายในอุดมคติของเธอ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรมันก็ดูมีเสน่ห์น่าค้นหาไปเสียหมด

 

 

นานพอสมควรกว่าที่ข้าวฟ่างผละอ้อมกอด หญิงสาวมองไปยังใบหน้าคมที่คลายความตึงเครียดลงบ้างแล้ว แบงค์อายุน้อยกว่าเธอหลายปี และช่องว่างระหว่างวัยนั้นทำให้เธออดตื่นเต้นไม่ได้ ข้าวฟ่างเผลอกัดปากตัวเองยามที่มอง  ริมฝีปากหนานั่น

 

 

แบงค์ยกยิ้มมุมปาก ในเวลาที่หญิงสาวกัดริมฝีปากแบบนี้ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าหล่อนต้องการอะไร เพียงแต่มันไม่ถูกเวลาและสถานที่ที่จะมาสนองให้   เขายังมียางอายพอจะรู้ว่ามันไม่ควร

 

 

“เข้าไปรอข้างในก่อน ไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว” แบงค์บอกห้วนๆ เขาพยายามหลีกเลี่ยงการแทนตัวเองว่าผมเพราะมันไม่ใช่คำพูดที่ถนัดเอาเสียเลย

 

 

“เมื่อกี้ก็เพิ่งไปมาไม่ใช่เหรอ” ข้าวฟ่างถามอย่างสงสัย

 

 

“เออน่า ท้องเสีย” แบงค์พูดบอกด้วยเหตุผลที่เขาเองก็คิดว่ามันไม่ค่อยเข้าท่าสักเท่าไหร่ก่อนจะยื่นตั๋วหนังให้ข้าวฟ่างไปรอข้างใน หญิงสาวไม่ถามอะไรอีก ทำตามที่ชายหนุ่มบอกอย่างว่าง่าย

 

 

เมื่อข้าวฟ่างเดินเข้าไปรอข้างในตามที่บอก แบงค์ก็เดินแยกออกมา      การโกหกไม่ใช่เรื่องที่เขาชอบทำสักเท่าไหร่ แต่ไหนๆยังไงมันก็ต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของเกมนี้อยู่ดี ส่วนสำคัญเสียด้วย คงต้องทำสิ่งที่ไม่ชอบสักหน่อย

 

 

แบงค์เดินมายังที่ๆเขาเจอกับดินเมื่อครู่แต่ร่างโปร่งไม่อยู่แล้ว แบงค์ มองหารอบๆไม่นานสายตาคมก็สะดุดกับแผ่นหลังบางที่คุ้นเคยซึ่งกำลังเดินตรงไปยังลิฟต์ที่อยู่ไม่ไกล เขาจึงรีบเดินไปคว้าไหล่เอาไว้เสียก่อน

 

 

ดินหันกลับมาตามแรงคว้า คิ้วสวยขมวดขึ้นด้วยความไม่พอใจที่ถูกมือปริศนามาคว้าไหล่ไว้ ก่อนจะค่อยๆคลายปมออกเมื่อรู้ว่าเป็นใคร

 

 

“จะกลับแล้ว?” แบงค์เลิกคิ้วมอง

 

 

“อืม” ดินตอบ เป็นคำตอบสั้นๆที่ทำให้แบงค์รู้ว่าอีกฝ่ายไม่กำลังงอนก็นอยด์ ไม่นอยด์ก็คิดมากอะไรอยู่สักอย่างแบงค์ฉุดแขนให้ดินเดินตามมายังมุมลับตาคน เผื่อว่าข้าวฟ่างจะเดินออกมาเห็น

 

 

“อะไร?” ดินถามเมื่อแบงค์ปล่อยให้เป็นอิสระ

 

 

“ไม่มีอะไร” เสียงทุ้มพูดตอบ คำตอบนั้นทำเอาดินถอนหายใจออกมาหนักๆด้วยความไม่เข้าใจ อีกฝ่ายคงไม่ได้อุตส่าห์แยกกับผู้หญิงคนนั้นมาเพื่อจะกวนเขาหรอกนะ

 

 

“งั้นกูกลับแล้ว” คิดผิดแท้ๆที่ตามมา ดินไม่มีทางขัดขวางแบงค์ได้หรอกถ้าแบงค์เลือกที่จะทำแบบนั้นแล้ว มีแต่ตัวเองที่จะเจ็บเอง ดินกำลังอยากจะเดินหนีอีกครั้งเมื่อเจอสิ่งที่มันทำให้ทรมาน

 

 

“อย่าไปสนใจคำพูดของผู้หญิงคนนั้น” แบงค์พูดบอก มือหนาเลื่อนไปจับมือบางขึ้นมาดู นิ้วเรียวสวยเกินจะเป็นชายเกลี่ยเบาๆบนฝ่ามือขาวที่เห็นเป็นรอยเล็บห้อเลือด ดินเงียบฟัง

 

 

“อดีตที่แก้ไขไม่ได้ก็ปล่อยๆไปบ้าง” ทั้งคู่สบตากัน ประโยคที่ดินตีความคนละความหมายทำให้หัวใจอดสั่นไหวไม่ได้

 

 

 

“แล้วอดีตของเราควรปล่อยไปไหม?”

 

 

 

............................................................

ควรปล่อยไปไหม...

 

To be con.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา