[Yaoi] BEFORE U GO - ก่อนเธอจะไป

-

เขียนโดย ช็อกโก้พาย

วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.09 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  13.82K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 15.13 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

8)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ


8

 

 

วันเปิดเรียนวันแรกของสัปดาห์ ชั่วโมงบ่ายหลังจากเด็กๆพักทานอาหารกลางวัน ล้างหน้าแปรงฟันปะแป้งจนหอมฟุ้งทั่วห้อง ครูดินก็ให้ออกมาเล่าประสบการณ์หรือไม่ก็นิทานที่แต่ละคนชอบก่อนเข้านอน มันเป็นแบบนี้แทบทุกวันของการเรียนการสอน เพื่อฝึกให้นักเรียนกล้าพูดกล้าแสดงออก สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปวันละสองสามคนแล้วแต่เวลา แต่ถ้าเด็กคนใดบกพร่องทางการพูดและภาษา หรือการได้ยินดินก็จะให้เล่าโดยใช้ภาษามือ และเขาแปลให้เด็กคนอื่นๆในห้องฟังอีกที

 

เรื่องราวน่ารักๆจากประสบการณ์ของเด็กๆเปรียบดั่งข้อมูลขั้นปฐมภูมิที่ถูกถ่ายทอดโดยปราศจากการกลั่นกรองเติมแต่ง มีเพียงนวนิยายยอดฮิตแบบฉบับเจ้าหญิงเจ้าชายเท่านั้นที่เนื้อเรื่องมักถูกดัดแปลงไปตามที่เด็กน้อยอยากให้เป็น ดินชอบฟังเรื่องราวเหล่านั้น มันมีรูปแบบของมันและลงท้ายด้วยความสมหวังทุกที ซึ่งมันต่างจากเขาที่ไม่สามารถกำหนดหรือคาดเดาอะไรได้เลย

 

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันนี้ พรุ่งนี้ จะได้เจออีกไหม

ราวกับสายฝน เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและหายไป

 

นาฬิกาแฮนด์เมดผลงานชิ้นเยี่ยมของเด็กๆที่แขวนอยู่บนผนังห้องบอกเวลาบ่ายสาม เหล่านักเรียนตัวน้อยของดินหลับกันหมดแล้ว นิทานเล่มสีฟ้าขาวซึ่งเล่าค้างไว้ตั้งแต่วันศุกร์ถูกนำมาเล่าต่อจนจบและถูกปิดลงหลังจากเด็กๆหลับไป มือเรียวหยิบมันไปเก็บไว้บนชั้นตามเดิมก่อนจะเดินกลับมาห่มผ้าให้ลูกศิษย์ที่นอนเรียงกันอยู่ ไม่ต่างจากคลาสเรียนชั้นอนุบาลทั่วไป ดินไม่เคยมองว่าเด็กๆเหล่านี้ผิดปกติ เพราะจริงๆแล้วไม่มีใครที่ไม่แตกต่าง

 

ความผิดปกตินั่นแหละคือความเป็นปกติของมนุษย์

พรุ่งนี้โทรปลุกกูด้วย’

 

 

ดินเดินกลับมานั่งเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานซึ่งตั้งอยู่มุมห้อง ประโยคเมื่อวานทำให้ดินนึกถึงอีกครั้งเมื่อสายตามองไปเห็นโทรศัพท์ของตัวเองวางอยู่ไม่ไกล ชั่งใจตัวเองสักครู่ก่อนจะสุ่มเติมหมายเลขสุดท้ายแล้วกดโทรออก

 

 

ถ้าใช่ตั้งแต่ครั้งแรกนี่เนื้อคู่เลยเอ้า!..

 

 

คิดอะไรตลกๆอยู่คนเดียวแล้วก็ขำเอง ถ้าแบงค์รู้ว่าเขาคิดอะไรแบบนี้คงต้องหาว่าเขามโนเพ้อเจ้อแน่ๆ เสียงสัญญาณยาวๆดังขึ้นหลายต่อหลายครั้งก่อนที่ปลายสายจะกดรับ ลุ้นยิ่งกว่าซื้อลอตเตอรี่

 

 

“ซาหวาดลี ลื้อโทรมาหาคาย” ประโยคภาษาไทยสำเนียงออกแนวอากงอาม่าดังมาตามสาย ดินเลิกลั่กทำอะไรไม่ถูก นี่มันก็ไม่ต่างจากโทรไปก่อกวนชาวบ้านสักเท่าไหร่

 

 

“ขะ..ขอโทษครับ โทรผิด”

 

 

ตัดเรื่องเสี่ยงทายเนื้อคู่เมื่อกี้ไปได้เลย มันเหมือนเป็นการตอกย้ำความหวังอันริบหรี่ของตัวเองเสียมากกว่า แต่คิดไปคิดมาคนเราก็อยู่ได้ด้วยความหวังไม่ใช่เหรอ ดินเป็นผู้ชายนับสามนะ พลาดไปแค่หนึ่งยังเหลือตั้งสอง

 

 

ลองอีกครั้ง ถ้าครั้งนี้ใช่ เนื้อคู่จริงๆ

 

 

เล่นอะไรตลกๆเหมือนเด็กๆ คิดเพ้อไปคนเดียวเสร็จสรรพดินก็ลองสุ่มโทรไปอีกครั้งที่สอง โดยใส่เลขห้าต่อท้ายไป

“ผู้ใดโทรมาตอนนี่ ตัดอ้อยอยู่ สิบ่ทันหมู่ (ใครโทรมาตอนนี้ ตัดอ้อยอยู่ เดี๋ยวไม่ทันเพื่อน)” สำเนียงอีสานชัดถ้อยชัดคำทำเอาคุณครูคนสวยรีบขอโทษขอโพย แล้วฝั่งนั้นก็กดตัดสายไป คงจะรีบมากจริงๆ ดินสุ่มโทรไปอีกหลายครั้ง ลืมไปชั่วขณะว่าตัวเองถือคติผู้ชายนับสาม

 

 

“แก๊สหมดโทรไปสั่งร้านอื่นไป” เสียงทุ้มที่ดังมาตามสายคือเสียงที่         ดินจำได้ดี อีกทั้งการรับโทรศัพท์ที่แปลกแหวกแนวแสนกวนนั่นยิ่งเป็นสิ่งยืนยันว่าปลายทางคือแบงค์

 

 

“แบงค์!” ดินเผลอเรียกชื่ออีกคนเสียงดังเพราะความดีใจ เมื่อรู้ตัวถึงได้ลดระดับเสียงลงและหันไปมองเด็กๆที่นอนอยู่เพื่อเช็คว่ามีใครตื่นขึ้นมาเพราะเสียงของเขารึเปล่า

 

 

 “หืม? ใครวะ?” คนปลายสายถามกลับมา

 

 

 “กูเอง ดิน” ดินตอบกลับไป แบงค์คงไม่คิดว่าเขาจะโทรไปหาจริงๆ

 

 

“เมียเก่านี่เอง ก็นึกว่าใครเสียงแก่ยังกับแม่ลูกสอง” น้ำเสียงกวนๆดังขึ้นมาตามสายพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

 

 

“เสียงมึงเพราะมากกก”  กัดฟันพูดเสียงยานออกไปให้อีกคนรู้ว่าประชด แต่แบงค์กลับไม่สะทกสะท้าน

 

 

“ไม่ต้องชม กูรู้ว่ากูหล่อ ไม่คิดว่ามึงจะโง่โทรมาจริงๆ” คำพูดต่อมาของแบงค์ทำให้คนอารมณ์ดีเมื่อครู่หุบยิ้มลง

 

 

“ไม่คิดว่าจะโง่โทรไปจริงๆเหมือนกัน..” ก็เล่นให้มาแค่เก้าตัว ใครบ้าสุ่มโทรหาก็สมควรเรียกว่าโง่จริงๆนั่นแหละ

 

 

“เออๆ แล้วนี่ลงทุนสุ่มโทรไปกวนชาวบ้านเขากี่ครั้ง ถึงโทรมาถูก” ได้ยินน้ำเสียงหงอยๆที่ตอบกลับมาแบงค์ก็ส่ายหน้า

 

 

“ครั้งนี้ครั้งเดียว กูเทพ” คุณครูคนสวยโกหกคำโต แน่นอนว่าอีกคนไม่คิดจะเชื่อ

 

“เหรอ คงไม่ใช่แค่โทรมาปลุกกูหรอกนะ” เมื่อวานแค่พูดเล่นๆเลยแกล้งให้เบอร์จริงๆกับดินไปแต่แค่เก้าตัว ไม่คิดว่าจะโทรมาถูก ความพยายามที่มันมีมากเกินไปของดินเป็นอีกอย่างที่แบงค์ไม่ชอบ

 “มึงทำไรอยู่” ดินเปลี่ยนเรื่อง มันก็จริงอย่างที่แบงค์พูดทุกอย่าง คุณครูคนสวยหันไปดูเด็กๆอีกครั้งก่อนจะกลับมาให้ความสนใจกับการคุยโทรศัพท์ต่อ

 

 

“ดูมวย มึงรู้จักไหมไทยไฟท์น่ะ”

 

 

 “รู้จักสิ กูแฟนคลับอองตวน” ดินพูดชื่อนักมวยในดวงใจออกไป

“เออ กำลังชกเลยดูสิ” ไม่ต้องให้พูดครั้งที่สองดินเปิดโน้ตบุ๊คเข้าดูทีวีออนไลน์ทันที ช่วงที่เด็กๆหลับอย่างที่บอกคือช่วงเวลาพักของครูสอนอนุบาล มันก็ต้องมีกิจกรรมทำฆ่าเวลารอเด็กตื่นกันบ้าง แต่วันนี้แปลกไปกว่าทุกวันแค่นั้น

 

 

 “ช่องไหน” ดินถามคนที่อยู่ในสาย

 

 

 “ช่อง XX” แบงค์บอกช่อง ดินกดเลือกที่เว็บไซต์ซึ่งมันขึ้นช่องต่างๆมาให้ ไม่นานศึกมวยชิงแชมป์ประเทศไทยที่ชื่อว่าไทยไฟท์ก็ปรากฏบนหน้าจอ

 

 

 “มาแล้ว” ดินพูดบอก

 

 

“เออ มึงเชียร์อองตวนใช่มั้ย กูเชียร์เกงขาวใครชนะเลี้ยงข้าว ตกลงตามนี้” พูดเองเสร็จสรรพแบบเผด็จการทั้งที่ดินยังไม่ตกลงอะไรด้วย แล้วเสียงเชียร์ก็ดังมาจากปลายสายเมื่อฝ่ายที่แบงค์เชียร์ออกหมัดใส่คู่ต่อสู่อย่างได้เปรียบในตอนนี้

 

 

“มึงดูมวยหรือนั่งสมาธิวะ” แบงค์ถามขึ้นเมื่อมวยไทยไฟท์โฆษณา

 

 

“เด็กๆหลับอยู่ เสียงดังไม่ได้” ดินตอบตามความจริง

 

 

“แล้วมึงจะโทรมาหากูในเวลางานทำไม เกเรใหญ่แล้วนะคุณครู” แบงค์บ่นเสียงเรียบ ถ้าอยู่ใกล้ๆคงจะเขกให้สักทีสองที

 

 

“คุยได้” ดินรีบพูดดักขึ้นมากลัวว่าอีกฝ่ายจะวางสาย

 

 

“นี่เหรอแม่พิมพ์ของชาติ” แบงค์ส่ายหัว ตอนนี้เขาพอจะรู้ว่าดินทำหน้ายังไง

 

 

“พ่อพิมพ์ พูดให้ถูก” แก้ให้ด้วยตัวเอง คำว่าแม่พิมพ์มันเอาไว้ใช้กับครูผู้หญิงไม่ใช่รึไง เขาเป็นผู้ชายก็ต้องใช้พ่อพิมพ์สิ ดินคิดในใจ

 

 

“เออๆ ดูไปเล่นแล้ว” แล้วทั้งคู่ก็ดูมวยด้วยกันไปเรื่อยๆจนยกสุดท้ายดำเนินมาถึง เสียงระฆังหยุดการแข่งขันดังขึ้นและฝ่ายที่แบงค์เชียร์เป็นฝ่ายชนะ คนปลายสายตะโกนออกมาอย่างดีใจ พร้อมกับบอกว่าถ้าว่างจะไปหาให้เลี้ยงข้าว

 

 

“เด็กมึงตื่นยัง” ผ่านมาครึ่งชั่วโมงที่เขาคุยโทรศัพท์กัน

 

 

 “ยัง” ดินตอบ

 

 

“อยากเล่นเกมไหม?” ประโยคเหมือนคำชวนเอ่ยถามขึ้น อยู่บ้านเฉยๆในวันที่ไม่มีเรียนแบบนี้มันน่าเบื่อ แต่วันนี้แบงค์ก็ไม่อยากออกไปไหนเพราะเบื่ออีกนั่นแหละ บางทีมันก็ดีที่ดินโทรมาถูกเวลา อย่างน้อยก็มีคนให้แกล้งให้เถียงด้วย

 

 

“เกมอะไร?” ดินถามกลับ คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย

 

 

“ทายใจจากเลข กูจะเดาใจมึง เกมนี้เล่นประมานสิบนาที” แบงค์บอกอธิบายถึงเกม

 

 

“อือ” ฟังดูคุ้นๆ แต่ดินไม่ได้พูดออกไป

 

 

“เดี๋ยวกูจะมีเลขมาให้มึงเลือก 6 ตัว ให้เลือกเลขที่ชอบกับไม่ชอบ อย่างละ 3 ตัว ดูเวลาตอนนี้เอาไว้” แบงค์บอกถึงขั้นตอนต่างๆ และดินทำตาม “แล้วกูจะเขียนเลขในอนาคตเอาไว้ เลขนั้นคือเลขที่จะตรงกับมึง งงไหม”

 

 

“อือ ไม่งง” ดินตอบรับและพยักหน้าตามเมื่อเข้าใจถึงวิธีการเล่นเกม

 

 

“เอาละ เลือกเลข 2 , 7, 13, 18, 1, 4” แบงค์บอกตัวเลขหกจำนวน ให้    ดินเลือกเลขที่ชอบสามจำนวนและไม่ชอบอีกสาม ดินเอากระดาษโน้ตมาจดตามกันลืม

 

 

“เลือกแล้ว” บอกอีกฝ่ายไปเมื่อเลือกจนครบ เลขที่ดินชอบคือ 2 ,7 ,4ไม่ชอบ 13 ,18 ,1

 

 

“เลือกอย่างละสอง” ผู้คุมเกมให้ลดจำนวนลง ดินก็ทำตาม

 

 

“เรียบร้อย” เหลือฝั่งละสองจำนวนตามที่แบงค์บอก เลขที่ชอบดินเลือกให้เหลือไว้คือ  2, 7 ไม่ชอบ 13,1

 

 

“เลือกเลขที่มึงชอบไว้ตัวเดียว” แบงค์บอกถึงขั้นตอนสุดท้าย ดินก็ทำตาม เลขที่เหลือไว้คือเลข 2 เลขที่ดินชอบที่สุด

 

 

“เลขที่มึงเลือกคือ 2 ใช่ไหม?” แบงค์บอกตรงตามที่ดินคิดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน

 

“มันแปลว่ามึงรู้ว่ากูคิดอะไรงั้นเหรอ?” ดินพูดขึ้นหลังจากที่แบงค์เฉลยเลขที่เขาคิดได้ถูกต้อง แบงค์รู้ทุกอย่างว่าดินคิดอะไร “จริงๆมึงควบคุมกูใช่ไหม”

 

 

“คิดได้วุ้ย โดนจับได้แล้วสิกู” แบงค์ขำ ทุกครั้งที่แกล้งไม่เห็นดินจะคิดทัน เดี๋ยวนี้พัฒนาแหะ

 

 

“กูเคยเล่นแล้วไง”

แม้รู้กลของเกม แม้รู้ว่าแบงค์ควบคุมทุกอย่างเอาไว้หมด แต่ดินก็ยอมเล่น เล่นไปตามเกมของแบงค์ เหมือนความรู้สึกของเขา...

 

 

ถึงจะรู้ปลายทาง ถึงจะรู้ว่าถูกควบคุม ดินก็ยังอยากให้มันเป็นไปแบบนั้น แต่ถ้าแบงค์รู้ว่าดินเองก็รู้ทุกอย่าง เพียงแค่ยอมให้อีกฝ่ายได้เล่นสนุก แบงค์จะยังอยากเล่นเกมนี้ต่อไปไหม แบงค์จะยังสนุกกับมันอีกรึเปล่า

 

 

“กูเคยเล่นตอนมอต้น เมื่อกี้เพื่อนมันเอามาเล่น เลยเอามาเล่นกับมึงอีกที” แบงค์บอกถึงต้นเหตุที่เอาเกมมาเล่น แต่ไม่ได้ฉุกคิดถึงอีกฝ่ายที่บอกว่าเคยเล่นแล้วแต่ก็ยอมเล่นด้วยอีก

 

 

“ฮ้าววว” ดินหาวออกมาเสียงดังจนคนปลายสายได้ยิน

 

 

“ขี้เซาแบบนี้ระวังผัวทิ้ง” แบงค์ก็ยังเป็นแบงค์ หาเรื่องมาพูดกวนเขาจนได้

 

 

“กูนอนดึกไง” ดินพูดบอก

 

 

“ทำไมนอนดึก” มวยจบไปนานแล้ว แบงค์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงยังไม่บอกวางสายจากดิน ทั้งที่เรื่องคุยกันแทบหาสาระอะไรไม่ได้      แต่เขาก็ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้น จนเวลาล่วงเลยมาเกือบชั่วโมง

 

 

“ไม่รู้ทำไมช่วงนี้นอนไม่หลับ เมื่อวานไปซื้อขนมให้เด็กมา เห็นช็อคโก้พายกล่องใหญ่ด้วย” ดินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นถึงขนมโปรดของอีกคนที่ไปเจอและซื้อมาแช่แข็งเมื่อวาน

 

 

“ใคร?” เสียงเข้มตอบกลับมา

 

 

“ไอ้มุกใครถามนี่เล่นไปแล้ว ไม่ได้ผลหรอกไอ้ขี้เหร่” พูดดักอย่างรู้ทัน    คนปลายสายขำออกมาให้ได้ยิน สงสัยดินจะพัฒนาขึ้นแล้วจริงๆ แบบนี้จะหาเรื่องอะไรมาแกล้งดีล่ะ

 

 

“กูว่ากูไม่ขี้เหร่นะ ไม่งั้นมึงไม่หลงกูมาจนถึงทุกวันนี้หรอก” พูดออกมาเต็มปากเต็มคำ พร้อมกับเผลอยักคิ้วอย่างเป็นต่อ ลืมไปเลยว่าคุยโทรศัพท์นั้นต่อให้แบงค์ทำหน้ากวนแค่ไหน ดินก็ไม่เห็นอยู่ดี อดดูตอนใบหน้าหวานนั้นบูดบึ้งยามที่โดนแกล้งเลย

 

 

“กล้าพูดว่ะ” ดินตอบกลับไป หันมองเด็กๆอีกครั้ง ใกล้ถึงเวลากลับบ้านแล้ว อีกหน่อยคงต้องวางสายและไปปลุกลูกศิษย์ตัวน้อย

 

 

“ถามจริง” จู่ๆแบงค์ก็พูดขึ้น

 

 

“อะไร?” ดินขมวดคิ้วอย่างสงสัยที่อยู่ดีๆฝ่ายนั้นก็พูดมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

 

 “ทำไมมึงชอบกินอะไรตามกู เริ่มใช้ชีวิตคล้ายกู” ดินตั้งใจฟังสิ่งที่อีกคนกำลังพูด ความรู้สึกบางอย่างกำลังกลืนกินก้อนเนื้อตรงบริเวณอกด้านซ้ายของเขาอีกครั้ง

 

 

กลัวคำถาม กลัวคำตอบ กลัวผลของมัน…

 

 

“เมื่อก่อนมึงไม่นอนดึก แต่ตอนนี้...มึงกินช็อคโก้พาย ทำผัดผงกะหรี่”  แบงค์พูดออกมาเรื่อยๆ น้ำเสียงไม่ได้บ่งบอกว่าคำถามที่ถามออกมานั้นอีกคนกำลังพูดกวนเล่นๆ

 

 

“มันดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ ที่กูนอนดึก กูกินขนมที่มึงชอบ กูทำอาหารที่มึงชอบ มันดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ..”เหมือนก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม้แต่น้ำเสียงตัวเองที่พูดตอบคนปลายสายดินก็รู้สึกว่ามันไม่มั่นคงเอาเสียเลย 

 

 

“ไม่ได้แย่” เสียงนิ่งเรียบนั้นยิ่งทำให้ดินอึดอัด เหมือนแบงค์บังคับให้เขาตอบสิ่งที่พยายามเก็บไว้ ถึงแม้การกระทำเขาจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่าหัวใจกำลังเป็นของใครอีกคนอีกครั้ง แต่ดินก็ไม่คิดจะพูดมันออกไปให้ช่วงเวลาที่ดีนี้จบลง

 

 

“มันทำให้มึงไม่ชอบใจเหรอ” ถามออกไปอีกเหมือนเด็กน้อยที่สงสัยไปเสียทุกอย่าง แต่ถ้าดินเป็นเด็กคงไม่เจ็บปวดกับคำถามและกังวลถึงคำตอบอย่างในตอนนี้

 

 

ถึงว่าใครต่อใครถึงได้โหยหาช่วงเวลาเมื่อครั้งยังเป็นเด็กกันนัก

 

 

“กูแค่อยากรู้ กูก็เคยเป็น” แบงค์ตอบไม่ตรงคำถาม ไม่ได้บอกว่าชอบหรือไม่ชอบที่ดินเป็นแบบนี้

 

 

“คำตอบมันเลี่ยน มึงไม่ได้อยากฟังหรอก” ดินกรอกเสียงพูดลงโทรศัพท์ไป ถ้าแบงค์สังเกตสักนิดคงได้รู้ว่าในตอนนี้เสียงของดินสั่นมากแค่ไหน แต่ถึงรู้อีกฝ่ายอาจจะไม่สนใจเลยก็ได้ 

 

 

“ตอนที่แอบชอบใคร กูก็อยากรู้ว่าเขาฟังเพลงแบบไหน กินข้าวกับอะไร แล้วกูก็จะลองตาม มันใช่..ใช่มั้ย ความรู้สึกตอนนี้ของมึง” ดินกำลังชอบเขาอีกครั้งใช่รึเปล่า ไม่ใช่ไม่รู้ แต่แบงค์แค่อยากได้ยินจากปากของดินถึงเหตุผลที่อีกคนเริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเอง

 

 

มันไม่ใช่ทั้งหมดหรอกที่ดินลองทำตาม บางอย่างก็เป็นสิ่งที่ดินชอบอยู่แล้ว เพียงแต่อยากทำมันอีกครั้งเพราะแบงค์เท่านั้นเอง

“แบงค์..”

 

 

อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ปลายสาย น้ำเสียงหวานที่บ่งบอกว่าคนพูดไม่ใช่ผู้ชายทำเอาดินชะงักคำตอบที่กำลังพูดออกไป ก่อนที่ร่างโปร่งจะเงียบฟัง

 

 

“ซันนี่..”แบงค์เรียกชื่อผู้หญิงคนนั้นด้วยความแปลกใจ ก่อนจะหันมาพูดกับดินสั้นๆแล้วกดตัดสายไปในที่สุด

 

 

“ไว้ค่อยคุยกันนะ”

 

 

สายตัดไปแล้ว ดินยังคงนิ่งค้างอยู่ในท่าเดิม หลากหลายคำถามที่มันสาดเข้ามาแต่อีกคนไม่อยู่ตอบทำให้ดินรู้สึกเหนื่อยล้าที่หัวใจ เกลียดความรู้สึกตอนนี้ชะมัด ดินจะต้องแบกหัวใจที่หนักอึ้งของตัวเองไปอีกนานแค่ไหนใครคนนั้นถึงจะมา

 

 

...........................................................................

 

To be con.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา