{Fic Free!} [SouRin]

10.0

เขียนโดย sakitsuke

วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 22.01 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  7,719 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม พ.ศ. 2562 22.07 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) {Fic Free! } [SouRin] Omegaverse - Get me out of here. Part 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                                      


ตึกสูงใหญ่เสียดฟ้า การจราจรที่แสนคับคั่ง ผู้คนเดินขวักไขว่รีบเร่งเข้าทำงาน ถนนที่แสนคุ้นตา ความคิดถึงและโหยหาที่ได้จากบ้านเกิดไปนานหลายปี  แม้ผมจะไม่อยู่ออสเตรเลียมานาน แต่ผมก็ยังคิดถึงบรรยากาศราบเรียบของที่นี่เสมอ

ผมเป็นเลือกที่ถอยออกมา อยากที่จะพัฒนาให้ตนเองดีขึ้น เพื่อที่จะต่อสู้กับเขาได้อย่างสูสี อ่าเรื่องมันยาวครับไม่เล่าหรอก แล้วคนแต่งมันก็ลืมเนื้อเรื่องไปแล้วครับ

คนส่วนใหญ่มองว่าโอเมก้านั้นไร้ความสามารถเป็นได้แค่พวกไร้ประโยชน์และเครื่องมือระบายอารมณ์ตัณหา แต่ผมจะพิสูจน์ให้พวกเขาทั้งหลายได้รู้ว่ามันไม่ใช่

ครับผมคนนี้ มัตสึโอกะ ริน นักกีฬาว่ายน้ำม.ปลายปี2 โรงเรียนซาเมะซึกะ เป็นโอเมก้า แต่โชคดีที่โรงเรียนซึ่งผมเลือกที่จะเขานั้น ที่ชมรมว่ายน้ำมีนโยบายรับสมัครทุกเพศสภาพ ดังนั้นบางคนในชมรมก็เป็นโอเมก้าเช่นเดียวกับผม

โอเมก้าส่วนใหญ่ยามปกติก็มักจะมีฟีโรโมนอ่อนๆโชยออกมาเพื่อยั่วยวนเชิญชวนเหล่าอัลฟ่าให้หื่นกระหาย แต่ก็ระงับได้ด้วยการทานยาเป็นประจำ และนั่นมันอาจจะนำปัญหามาสู่แก่คนในชมรมได้ ทำให้บางชมรมนั้นไม่รับโอเมก้า

 

กลไกลทางร่างกายของผมนั้นค่อนข้างแปลกประหลาด เพราะจนป่านนี้แล้วก็ยังไม่เคยฮีทเลยสักครั้ง  แล้วผมก็ไม่มีไอ้ฟีโรโมนที่ว่านั่นเลยสักนิด ผมก็แปลกใจกับตัวเองเช่นกัน แต่ก็ดีแล้วมันจะได้ไม่ต้องวุ่นวาย

คุณคิดดูสิครับ พวกอัลฟ่าหรือเบต้าบางคนที่สัมผัสถึงฟีโรโมนได้ จ้องมองมาที่โอเมก้าอย่างหื่นกระหาย แค่เดินผ่านพวกมันก็อยากจะกระชากเข้าห้องแล้วอะครับ

.................................................

 

ผมกำลังเดินจากชมรมผ่านถนนเส้นเปลี่ยว แถวนี้มันเปลี่ยว เพราะผู้คนสัญจรผ่านไปมาน้อยครับ และยังมีตึกร้างหลายหลังอยู่เต็มไปหมด ถ้าจำไม่ผิดมันก็น่าจะเส้นนี้นะผมว่า

 

การที่ผมเลือกทางนี้เพราะมันเป็นทางลัดที่จะกลับถึงบ้านได้เร็วที่สุดครับ ปกติแล้วผมพักอยู่ที่หอในแต่เพราะช่วงนี้หยุดยาว เลยขอกลับบ้านไปหาน้องสาวเสียหน่อย

"นี่น้องคนสวย คืนนี้ไปเล่นจ้ำจี้กับพวกพี่มั้ยจ้ะ" แล้วจู่ก็มีพวกจิ๋กโก๋มาดักหน้าผม อือหือ กลิ่นบุหรี่นี่อย่างหึ่งเลยครับ
ผมไม่ตอบแล้วเลือกที่จะหันหลังกลับ แต่ปรากฏว่าถูกพวกมันล้อมหน้าหลังไว้หมดแล้วครับ

"แหม หยิ่งจะเลยนะ ไม่เป็นไรไม่ต้องกลัว รับรองน้องจะต้องติดใจ" คำพูดคำจาช่างน่ารังเกียจ พอๆกับหน้ามันนั่นแหละครับ แล้วพวกมันก็เดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ จนต้องก้าวถอยหลังหนี

สายตานั่นมันอะไรกันหรือว่าฟีโรโมนผมจะออก แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะผมทานยาทุกวัน แล้วเมื่อเช้าก็ทานไปแล้วด้วย ต้องเรียกว่า วันซวยแล้วสินะ

พวกมันหัวเราะอย่างกับคนโรคจิต หน้าตาหนวดเคราขึ้นเขียว กลิ่นก็เหม็นหึ่ง แล้วผมก็ถอยหลังจนหลังสัมผัสกับผนังปูน
ผมไม่น่าเลือกทางนี้เลยให้ตายสิ

"มามะอีหนู มาให้พี่ได้เชิญช-"

พลั้วะ!!!!! บังอาจ มันบังอาจมากที่ใช้มือสกปรกโสโครกนั่นมาสัมผัสกับใบหน้าเฝ้าถนุถนอมทุกคืนวันของผม มือกำสายอันยาวของกระเป๋านักเรียนไว้แน่น ก่อนจะยกฟาดเข้าใส่หน้าของไอ้คนโรคจิตนั่น

 

แล้วพวกมันก็เข้ามารุมผมโดนทันที จังหวะนั้นพอดีกับสายตาที่เหลือบไปเห็นท่อนไม้ทรงสี่เหลี่ยมด้านยาว คล้ายกับเคยเห็นในหนังซักเรื่อง
ผมรีบก้มหยิบแล้วจับฟาดเข้าที่พวกมันซึ่งกำลังรายล้อมผม

แม้ผมจะเป็นโอเมก้าแต่ก็ไม่ได้ตัวบางจนปลิวลม และที่สำคัญผมเป็นนักกีฬาแน่นอนว่าพละกำลังก็ไม่ใช่น้อยครับ

คุณอาจจะคิดว่ามันดูเวอร์ที่ผมคนเดียวจะสามารถจัดการกับกลุ่มคนโฉดเกือบสิบคนได้ ครับมันเวอร์จริงๆนั่นแหละ
ผมทิ้งไม้คมแฝกในมือ แล้วก็เดินเหยียบพวกมันออกมา รีบตรงกลับบ้านโดยไม่หันไม่มองอีก

ที่สำคัญสุดคืออย่าลืมไปแจ้งความครับ โดนดักทำร้ายอย่างนี้ปล่อยไปก็เป็นอันตรายกับผู้อื่นด้วย ไว้ถึงบ้านแล้วพรุ่งนี้ ค่อยให้น้องสาวพาไปแจ้งความไว้ครับ

เพราะตอนนี้แรงผมแทบหล่นหายไปหมดแล้วครับ ยังดีที่เดินมาถึงบ้านได้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ นอนคว่ำเป็นซากไม่มีใครผ่านมาช่วยแน่
.............................................

"พี่คะ" น้องสาวของผมมัตสึโอกะ โกว ร้องเรียกทันทีที่เดินเข้ามาในบ้าน ก่อนที่เจ้าหล่อนจะกระโจนกอดคอผมจนแทบทรงตัวไม่อยู่

"กลับมาแล้วนะ" ผมพูดยิ้ม แล้วก็ยกมือลูบกลุ่มผมสีแดงม่วงที่เหมือนกับของตนเองเบาๆ

"ยินดีต้อนรับกลับค่ะ โกวเองก็กล่าวยิ้มตอบ ก่อนที่จะดึงมือผมลากไปยังห้องครัว วันนี้หนูทำกับข้าวไว้เยอะแยะเลยนะ พี่ต้องกินให้หมดด้วย ไม่งั้นจะโกรธ" ผมเบิกเนตรกว้างเลยครับ บนโต๊ะอาหารไม้ตัวยาว มีทั้งสลัดผัก ไก่ย่างราดซอส ทามาโกะยากิ ซุปข้าวโพด และที่สำคัญมีผัดยากิโซบะของโปรดผมด้วยล่ะครับ

ความจริงคือทำอะไรมาให้ตอนนี้ก็กินได้หมดแหละครับ ระหว่างทางใช้พลังงานไปเยอะต้องรีบเติมแล้วล่ะงานนี้

พวกเราสองพี่น้องนั่งทานข้าวแล้วก็คุยสัพเพเรหะไปเรื่อย แล้วจู่ๆโกวก็เอ่ยปากถามผม

"พี่ริน จะลงแข่งว่ายน้ำรอบนี้ด้วยไหมค่ะ" ผมมองหน้าเธออย่างแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะยกซุปข้าวโพดซดจนหมดชาม

"ลงสิ แต่จะลงเดี่ยวน่ะ" ไม่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะยกน้ำดื่มล้างปาก อิ่มครับอิ่มมาก กินเข้าไปหมดได้ยังไงผมก็ไม่รู้ตัวเลย

"เอ๋ นึกว่าจะลงว่ายพลัดซะอีก" โกวพูดเสียงสูงพร้อมตาโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผมส่ายหัวเล็กน้อย

"ไว้ครั้งหน้า" ก่อนที่จะลุกเพื่อเก็บจานไปล้าง แต่ดูเหมือนคำตอบผมจะไม่ค่อยถูกใจคนถามซักเท่าไหร่

"ทำไมล่ะคะ พวกเราน่ะ อุตส่าห์ซ้อมอย่างหนักตั้งหน้าตั้งตารอแข่งกับพี่โดนเฉพาะเลยนะ" ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ

"แข่งพลัดมันต้องแข่งเป็นทีมไม่ใช่หรอ จะมาแข่งกับพี่คนเดียวได้ไงกัน" ผมยกมือขยี้ผมเธออย่างหมั่นเขี้ยว โกวหรี่ตามองผมอย่างจับผิดจนต้องผงะ

"หึ" เอ๊ะ! ไอ้การยกมุมปากหนึ่งข้างเหมือนกระตุก แล้วหัวเราะในลำคอนั่นคืออะรายยย

ก่อนที่จะหันไปล้างฟองบนจานในมือ แล้วก็ทำท่าทีไม่สนใจผม แม้จะสงสัยมากเบอร์ไหน แต่ก็ต้องเงียบไว้ครับ ล้านเปอร์เซนต์ยิ่งถามก็ยิ่งมีปริศนาเพิ่มเข้ามาแน่นอน เพราะงั้นเงียบมาเงียบกลับครับ



 

รุ่งเช้าพระอาทิตย์สาดส่องไปทั่ว ต้นไม้ใบหญ้าพลิ้วไหว สายลมพัดโชยกลิ่นดินเข้ามาปะทะโพรงจมูก มันสดชื่นมีชีวิตชีวา นี่คือสิ่งที่ผมไม่ได้รับตอนที่ไปออสเตรเลีย เพราะมีแต่ตึกใหญ่โตมโหฬาร ถนนก็คับคั่ง มีแต่ไอควันเขม่า สูดทีอย่างกับดูดบุหรี่เข้าปอด

ผมเป็นคนตื่นเช้าครับ และทุกเช้าก็ต้องมาวิ่งเพื่อฝึกฝนกล้ามเนื้อ เป็นนักกีฬาก็ต้องขยันหน่อย
ต้นหญ้าสีเขียวขจีชุ่มช่ำขึ้นไปทั่วบริเวณพื้นดินเอียงลาดกับถนนปูนซีเมนต์เส้นเล็กคลองแม่น้ำสีใส

ผมวิ่งบนนถนนแล้วก็มองไปยังแม่น้ำด้านล่าง ผมชอบน้ำมากเลยล่ะ โดยเฉพาะน้ำใสๆจากธรรมชาติแบบนี้ยิ่งชอบที่สุด
ขณะที่เผลอตัวมองไปด้านข้าง จู่ๆผมก็ไปจนกับใครคนหนึ่งเข้า

ตุบ!!! มันไม่ได้ชนแรงมาก แต่ผมกลับเป็นฝ่ายที่จะล้มเองเสียอย่างนั้น ทว่าคนสวมฮู้ดสีดำที่ผมชนนั้นก็จับคว้าเอวผมไว้

ผมไม่อาจรู้ได้ว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ตัวสูงใหญ่มากครับสูงกว่าผมอีก ผมสูงตั้ง177เชียวนะ ผมเดาเลยว่ายังไงก็ผู้ชาย

แล้วหน้าผมก็กระแทกเข้ากับหน้าอกของเขาอย่างจัง รับรู้ได้ถึงกล้ามเนื้อกันแข็งแรง ผมเมื่อกี้มันแข็งมากเลยครับ

ตอนนี้เขากำลังใช้มือขวาวางพาดที่เอวผม เพื่อดึงรั้งไม่ให้ล้มลง มือซ้ายจับกุมมือยกขึ้นระดับศีรษะไว้ มันเป็นท่วงท่าอัตโนมัติที่ผมมักเห็นในละครหลังข่าวของประเทศหนึ่งในโซนเอเชียใต้ครับ

ผมรีบผละตัวออก ก่อนที่จะเดินถอยหลังขยับห่าง เพราะจู่ๆผมก็รู้สึกแปลกประหลาด ใจมันเต้นตึกตัวอย่างแรง แถมยังได้กลิ่นแปลกๆจากคนตรงหน้า มันไม่ใช่กลิ่นเหม็นสาบหรืออะไรนะครับ มันเป็นกลิ่นที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน มันรู้สึกซาบซ่านในอก

"เอ่อ ขอโทษด้วยนะครับ แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยไว้" ผมก้มหัวให้ขณะกล่าว ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเลยครับ ไม่รู้สิ จู่มันก็รู้สึกแปลกโดยที่ไม่สามารถอธิบายได้

"ริน" ผมนี่หูผึ่งเลยครับ แล้วรีบเงยหน้าขึ้นมองคนพูดทันที แปลกใจที่เขารู้ชื่อผมหรือบางทีอาจเป็นคนในชมรมก็ได้

เขาคนนั้นเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี จัดว่าดีมาก แต่ผมก็เห็นไม่ชัดเพราะฮู้ดมันคลุมเอาไว้อยู่ แล้วก็ดูเหมือนเขาจะอ่านใจผมออก เลยยกมือดึงมันลงไปด้านหลัง เผยให้เห็นใบหน้าของเขาได้อย่างหมดจด ผมสีดำน้ำเงินตัดสั้น ดวงตาเรียวคมสีฟ้าใส มันสวยมากเลยครับ จนทำให้ผมนึกถึงใครบางคนขึ้นมา ก่อนที่ปากจะเอ่ยเรียกชื่อนั้นออกมา

"โซสึเกะ" แล้วมันก็ใช่จริงๆด้วย เพราะเขายิ้มกว้างออกมาจนตาปิด ก่อนที่จะดึงรั้งร่างของผมเข้าไปกอดแทบจมมิดอก ผมตาโตด้วยความตกใจ

ไอ้บ้านี่แรงจะเยอะไปไหน กอดอย่างกับไม่เจอกันมาสิบชาติ จะว่าไปก็ไม่เจอกันมาเป็นชาติจริงๆนั่นแหละ หมอนี่เป็นเพื่อนผมสมัยประถมครับ เราอยู่ห้องเดียวกันและสนิทกันมาก จนกระทั่งผมย้ายโรงเรียนไป

"รินจริงๆด้วย ทำไมไม่ติดต่อมาหาบ้าง ชั้นเป็นห่วงแทบแย่" แล้วหมอนั่นก็ยกมือลูบศีรษะผม อ่า ได้กลิ่นมันแปลกๆแต่กลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

 

ผมไม่ได้เอ่ยปากตอบซ้ำยังซุกหน้าเข้าที่อกของอีกฝ่ายยิ่งกว่าเดิม เหมือนร่างกายจะทำไปเองโดยอัตโนมัติ ผมไม่ได้คิดออกคำสั่งใดๆทั้งสิ้นเลยนะ มือผมซึ่งจับเข้าที่แขนเสื้อของโซสึเกะ ก็ขยุ้มมันแรงขึ้น

"ริน" เขาเอ่ยเรียกชื่อผมที่ข้างหูเบาๆ ทันใดนั้นก็ได้สติแล้วรีบผลักตัวออกจากอ้อมกอดนั้นทันที ใจผมเต้นรัวเร็ว รับรู้ได้ว่าเลือดส่วนใหญ่มากองอยู่ที่ใบหน้าหมดแล้ว สมองเริ่มคิดอะไรไม่ค่อยออก แต่ปากมันกลับเอ่ยพูดออกไป

"ปะ..ไปคุยกันที่บ้านหน่อยไหม" ผมเอ่ยปากบอกโดยไม่มองหน้าของเขา

โซสึเกะไม่ได้ก็พูดตอบอะไร ก่อนที่เขาจะจับมือผมเบาๆเป็นเชิงบอกให้นำทาง ตลอดทางเราไม่มีการพูดคุยใดๆกันซักประโยค 

 

 

เมื่อมาถึงบ้านผมก็พาเขาไปยังห้องรับแขก จากนั้นก็ไปยกน้ำกับขนมมาให้ ยืนบิดไปมา บ้านตัวเองแท้ๆแต่ตอนนี้ผมกลับไม่รู้จะไปอยู่มุมไหนดี ได้แต่ยืนเก้งๆกังๆอยู่อย่างนั้น

"เอ่อ...ชั้นไปอาบน้ำก่อนนะ...เอ่อ...เดี๋ยวมา" เป็นข้อแก้ตัวที่ดี เพราะตอนนี้เหงื่อนี่ไหลโชกไปหมด

ผมเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้น2 ก่อนจะรีบเข้าไปในห้องของตนเอง พร้อมกับมือที่กุมแน่นที่หน้าอกไว้
บรรยากาศตอนที่อยู่ในห้องกับโซสึเกะ มันอึดอัดจนผมแทบหายใจไม่ออก รู้สึกทรมานในกายมันร้อนผ่าวไปหมด แล้วตอนนี้ขาก็แทบจะไม่มีแรงจะพยุงตัว

ผมไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน แล้วฉับพลันสมองอันชาญฉลาดก็เริ่มประมวลผล ว่านี่อาจเป็นอาการที่เรียกว่า ฮีท จึงรีบควานหาแผงยาในกระเป๋า ทั้งที่เมื่อก่อนจะออกไปวิ่งผมก็ทานมันเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าทำไมกันนะ

"บ้าเอ้ย หมดได้ยังไงกัน" จากนั้นผมรีบเปิดลิ้นชักเพราะผมจำได้ว่าซื้อมาเก็บเอาไว้อยู่

แกร็ก!! ระหว่างที่ผมกำลังค้นหายาในลิ้นชัก ก็มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามา นี่ผมลืมล็อคประตูได้ไงกัน

"ริน" เป็นโซสึเกะที่เปิดประตูเข้ามา ผมมองร่างสูงใหญ่นั้นด้วยความสั่นกลัว

“ไหวรึเปล่า” เขาเดิมเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ เสียงหอบหายใจของผมดังไปทั่วห้อง เหงื่อสีใสไหลมาตามกรอบหน้า

ผมรีบถอยหลังจนชนเข้ากับขอบเตียง แววตาของโซสึเกะมันดูน่ากลัวราวกับสัตว์ป่าที่หื่นกระหาย เขาไล่สายตามองตั้งแต่หน้าผมและต่ำลงไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าตัวผมจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ พร้อมขาสั่นมากกว่าเดิมจนยืนไม่แทบอยู่ล้มลงไม่นั่งกับพื้น

 

"อย่า...เข้ามา" ผมหาเสียงตัวเองแทบจะไม่เจอ มันสั่นไปหมด

ผมรู้ว่าหมอนี่เป็นอัลฟ่าตั้งแต่ที่ชนกันตรงข้างแม่น้ำแล้ว แต่ถึงกระนั้นทั้งที่ผมก็มีเพื่อนเป็นอัลฟ่า แล้วทำไมถึงต้องมารู้สึกแบบนี้กับหมอนี่ด้วย

โถ่เว้ย! โกวก็ไม่อยู่ด้วยสิ ต้องรีบทำอะไรซักอย่าง ไม่เช่นนั้นล่ะก็ผมต้องไม่รอดแน่ๆ

......................................................................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายฟิคชั่นเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา