ตำนานจ้าวยุทธภพ

4.4

วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 00.28 น.

  7 ตอน
  142 วิจารณ์
  21.07K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ศึกชิงคัมภีร์จิ่วหลง บทที่ 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 [ บทนำ ]  [ บทที่ 1 ]  [ [ บทที่ 2 ]  [ บทที่ 3 ] [ [บทที่ 4 ]


 

 

                5 ชั่วยามต่อมา ในขณะที่หลิงหลงกำลังเตรียมข้าวของอยู่นั้น ชิง ชิง ก็หอบข้าว

 

หอบของพรวดพราดเข้ามาให้ห้องของหลิงหลงที่กำลังจัดเตรียมของอยู่ทำให้นางสะดุ้งตกใจ

 

แล้วรีบหันมาดู

 


ชิง ชิง     :   ประมุขน้อย ข้ามาแล้ว (พรวดเข้ามา)

 


หลิงหลง :  ชิง ชิง ! ข้าตกใจหมดเลย นิ จะเข้ามาก็น่าจะให้สุ้มให้เสียงมั่ง โธ่เอ้ย พรวด

 

พราดเข้ามาแบบนี้ ข้าก็คิดว่าเป็นท่านแม่นะสิ (เอามือตบหน้าอกเบา ๆ )

 


ชิง ชิง     :   เอ่อ ประมุขน้อยทำไม...ทำไมท่าน...ถึงแต่งชุดนี้...(ชี้ชุดที่หลิงหลงใส่แล้ว

 

ทำหน้างง เพราะว่าหลิงหลงแต่งเป็นชาย)

 


หลิงหลง :  ข้าต้องถามเจ้ามากกว่านะสิ ทำไมถึงแต่งหญิงอีก ในเมื่อเรากำลังหนี แล้วใน

 

ยุทธภพนะ กว้างใหญ่ อันตรายรอบด้าน เราไม่ควรเป็นผู้หญิงนะ เปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้ อะนี่ เจ้า

 

เอาชุดนี่ไป (ส่งชุดให้)

 


ชิง ชิง     :   เอ่อ...แต่นี่มันชุด ของประมุขน้อย นี่ค่ะ ข้าเป็นสาวใช้ ข้าไม่กล้าอาจเอื้อมหรอก

 

ค่ะ

 


หลิงหลง  :  โธ่เอ้ย ชิง ชิง เจ้าอยู่กับข้ามาตั้งแต่เด็ก ข้าเห็นเจ้าเหมือนพี่น้องนะ เอาไปเถอะ

 

เปลี่ยนเสร็จแล้วเราจะได้ออกเดินทางกัน นิเราจะต้องแอบออกไปข้างหลังเรือนสาวใช้นะ

 

แล้วก็ลัดสระไป๋หมู่ตันออกไป แต่ว่าต้องระวังหน่อยละวันนี้ ศิษย์พี่ซาน ซาน อยู่เวร ซะด้วยสิ

 


ชิง ชิง     :   ฮ้า.....ประมุขน้อย จะทำยังไงดี ถ้า ศิษย์พี่ซาน ซาน ของท่าน จับได้มีหวัง

 

ข้าโดนท่านประมุขเอาตายแน่เลย

 


หลิงหลง :   เฮ้ย เจ้านิ อย่าตื่นตูมไปหน่อยเลย เจ้าไปกับใคร เจ้าไปกับข้าโอหยางหลิงหลง

 

นะ เรารีบไปกันเถอะ

 


             เมื่อชิง ชิง เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ทั้งสองก็แอบหนีออกไปทางหลังเรือนสาวใช้ และ

 

ก็ออกมาลัดสระไป๋หมู่ตันแต่ว่ามีอุปสรรคซะแล้วเมื่อ ซาน ซาน เห็นเข้าพอดี จึงซัดเข็มพิษมา

 

ทางที่ หลิงหลงและชิง ชิง กำลังหลบหนี หลิงหลงใช้ฝ่ามือพลัก ชิง ชิงให้หนีไปก่อนและ

 

อยู่รับมือกับ ซาน ซานเอง

 


ซาน ซาน  : นั่นใครนะ (ซัดเข็มพิษไป๋โบตั๋นมา) ออกมาเดี๋ยวนี้นะ (มองเห็นเงาตะคุม ๆ)

 


หลิงหลง   : ชิง ชิงเจ้ารีบหนีไปก่อน (ใช้ฝ่ามือซัดไป) ทางนี้ข้าจะรับมือเอง เจ้าไปรอข้าที่

 

เรือก็แล้วกัน

 


ชิง ชิง       :  เอ่อ ... แต่..ว่า ท่าน (ลังเล)

 


หลิงหลง   : ไปสิ ข้าบอกให้ไปไง ไปเร็วเข้า

 


                    แล้วชิง ชิง ก็รีบหนี ไป ในขณะที่หลิงหลง ที่แต่งกายเป็นชายก็ออกมาจาก

 

เงามืด และได้ประมือกับ ซาน ซาน เมื่อจาก เป็นตอนกลางคืนจึงทำให้ซาน ซาน มองเห็น

 

หน้าของหลิงหลงไม่ชัด จึงได้ต่อสู้กัน ซาน ซาน รุกเข้าหา หลิงหลงทันที หลิงหลงจึงเป็น

 

ฝ่ายรับซาน ซาน รุกเข้าหาหลิงหลงด้วยท่าทีอ่อนช้อยแต่แฝงไปด้วยความหนักหน่วง นาง

 

ก้าวเท้ารุกเข้าหาหลิงหลงด้วยความรวดเร็วและมั่นคงในขณะที่หลิงหลงเกร็งลมปราณตั้งรับ

 

ด้วยวิชาตัวเบาที่แข็งแกร่งของหลิงหลง ทำให้ซาน ซาน ที่เป็นฝ่ายรุกมา เสียหลักไป ถึง

 

ซาน ซานจะเป็นศิษย์พี่ของ หลิงหลง แต่ว่าหลิงหลง มีวิชาวรยุทธที่แข็งแกร่งมากกว่าซาน

 

ซานหลายเท่านัก เพราะว่า หลิงหลงนั้นชอบฝึกฝนวรยุทธ นางได้รับการฝึกฝนจากมานางมาร

 

สารพัดพิษ เมื่อเห็นซาน ซาน เสียหลักไป หลิงหลงจึงใช้วิชาตัวเบาหลบหนีไป แต่ ซาน ซาน

 

ก็ตามมาอีก ทำให้ หลิงหลงต้องเป็นฝ่ายรุกบ้าง หลิงหลง วาดฝ่ามือทั้งสองข้างมาปะกันด้วย

 

นิ้วกลางทั้งสองข้างหมุนสองที แล้วเกร็งลมปราณปล่อยพลังออกไปทำให้ ซาน ซาน ถูกซัด

 

เข้าไป

 


ซาน ซาน   :  โอ้ย~ย~ย (โดนหลิงหลงซัด) เจ้าเป็นใครกันแน่ วรยุทธเจ้าดูคุ้นเคย มาก แต่

 

ข้ารู้สึกว่าเจ้ายั้งมือตลอด เจ้าต้องการอะไร

 


หลิงหลง    :  (ยิ้มมุมปาก) ฮึ ลาก่อน น้องสาว (แล้วหลิงหลงก็รีบใช้วิชาตัวเบาเหาะจากไป

 

ทันที)

 


              แล้วหลิงหลงก็รีบไปที่เรือที่ชิง ชิง รออยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางอยู่ 2 วัน 2 คืน

 

กว่าจะถึงท่าเรือ ของแม่น้ำหวงโห แล้วทั้งสองก็ลงจากเรือ เข้ามาในเมือง ไคฟง ซึ่งเป็น

 

เมืองหลวงอยู่ในขณะนั้น ทั้งสองตื่นตา ตื่นใจกับสิ่งที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก มีทั้งร้านขาย

 

แพรพรรณ ร้านขายเครื่องประดับ ร้านขายขนม มากมาย

 


ชิง ชิง       :  โอ้ โห้ นี่หรอค่ะ เมืองไคฟง ประมุขน้อย ดูโน้นสิ มีแต่ของสวยงามทั้งนั้นเลย

 

(หันซ้ายทีขวาที และตื่นเต้นมาก)

 


หลิงหลง   : นิ ชิง ชิง อยู่ที่นี่ ห้ามเรียกข้าว่า ประมุขน้อยเด็ดขาดนะ (มองสองข้างทาง)

 


ชิง ชิง       :  อ่าว แล้วจะให้ข้าเรียกอะไรอะ คุณหนูหรอ

 


หลิงหลง   : เจ้านิ ตอนนี้เราเป็น ชาย เจ้าเรียกข้าว่า คุณชายก็ได้ เอ...แล้วชื่อละ ชื่อ ๆ ข้า

 

ชื่อโอหยางหลิงหลง งั้นเอาแซ่พยางค์ที่สองมารวมกับชื่อพยางค์ที่สองละกัน เป็นหยางหลง

 

ฮึ หยางหลง เจ้าเรียกข้าว่าคุณชาย หยางก็ได้ ต่อไปนี้ ข้าแซ่หยาง ชื่อหลง เข้าใจมั้ย

 


ชิง ชิง       :  ค่ะ ประมุขน้อย

 


หลิงหลง   :  ยังจะประมุขน้อยอีก เอ่อ ใช่เจ้าก็ต้องมีชื่อนิ อืมๆๆ ชิง ชิง ชิง ชิง อะ ได้ละ ข้า

 

จะเรียกเจ้าว่า อาชิงก็แล้วกันนะ

 


ชิง ชิง       :  อาชิง หือ ฟังน่าเกลียดจัง ท่านน่าจะหาชื่อดีกว่านี้ให้ข้านะ ประ......(กำลังจะ

 

เรียกหันมาเห็นหลิงหลงทำหน้ายุ่ง) เอ่อ...คุณชายหยาง

 


หลิงหลง   :  ดีมาก เอาละ อาชิงไว้ข้าคิดออกเมื่อไหร่ แล้วจะเปลี่ยนให้ก็แล้วกันนะ (หันไป

 

เห็นคนขายพุทราเชื่อม แบกมาพอดี) นี่ ๆอาชิง ข้าอยากกินพุทราเชื่อมเจ้าไปซื้อมาให้ข้าที

 


ชิง ชิง       :   ได้ค่ะ เอ้ย ได้ครับ คุณชาย

 


              เมื่อ ชิง ชิง เดินไปซื้อ พุทราเชื่อม หลิงหลงก็เดินไปเรื่อย ๆ จนมาหยุด อยู่ที่ร้าน

 

ขายป้ายหยก หลิงหลงเลือกดูป้ายหยกแต่ละอันแล้วก็มาหยุดอยู่ที่ ป้ายหยกอันหนึ่ง ตัวหยก

 

เป็นสีเขียวอ่อน เนื้อหยกใสเย็น แกะเป็นรูปมังกรคู่ พันเกลียว ตรงท้องมังกรของทั้งสองตัว

 

ฝังไข่มุกสีขาวนวล พู่ระย้า ทำจากไหมชั้นดีสีแดง ในขณะที่หลิงหลงกำลังจะหยิบ ก็มีมือหนึง

 

กำลังจะหยิบเหมือนกันทำให้ทั้งสองมือชนกัน

 


ซื่อหลาง   : (ทั้งสองชักมือออกพร้อมกัน) เอ่อ ข้าขอโทษ น้องชายท่านนี้ก็สนใจหยกชิ้นนี้

 

เหมือนกันหรอ

 


คนขาย     :  แหม คุณชายทั้งสองนี่ตาแหลมจริง ๆ หยกชิ้นนี้ นะ เป็นหยกชั้นดี เลย แล้วก็มี

 

ชิ้นเดียวด้วยนะครับ ดูสิครับงานฝีมือปราณีตมาก เอ่อ...แต่...(กำลังจะพูดต่อแต่ว่า ทั้งซื่อ

 

หลางและหลิงหลงไม่มีใครฟังแย่งกันทั้งคู่)

 


หลิงหลง   :  เอ่อ...เอ่อ..ฮึ หึ (กระแอมคอ แล้วทำเสียงใหญ่) ใช่แล้ว ข้า ข้า สนใจป้าย

 

หยกชิ้นนี้มาก ข้าเห็นก่อน เพราะฉะนั้น มันควรจะเป็นของข้า (เอื้อมมือไปหยิบ ซื่อหลางก็เอา

 

พัดที่ถืออยู่ในมือมาแตะกดไว้)

 


ซื่อหลาง   :  เดี๋ยว ข้าว่า ข้าไม่สนว่าใครเห็นก่อนแต่ข้า ว่าข้าหยิบก่อนเจ้านะ น้องชาย

 


หลิงหลง   :  นี่พี่ชาย ข้าก็บอกแล้วไงว่าข้าเห็นก่อนอะ ท่านก็เอาชิ้นอื่นไปสิ ส่วนชิ้นนี้ ข้า

 

ขอละกันนะ เพราะข้าเห็นก่อน

 


ซื่อหลาง   :  ในเมื่อของมันมีชิ้นเดียว ก็ต้องมีคน ๆ เดียวที่ได้ไป ถ้าเจ้าอยากได้ก็แย่งข้าให้

 

ได้สิ

 


               ว่าแล้ว ทั้งสองก็เริ่มประมือกันทันที หลิงหลงเอื้อมมือไปคว้า แต่ก็ถูกซื่อหลา

 

งสกัดไว้ ทั้งสองประมือกันประหนึ่งมือทั้งสองเป็นกระบี่ ฟาดพัดกันไปมา กระบวนท่าที่ซื่อ

 

หลาง ใช้ นั้น เรียกว่า "มังกรดำผงาด" ลีลานั้น บุกรุก หนักหน่วง เต็มไปด้วยพลังวัตรที่แข็ง

 

แกรง คล่องแคล่ว ว่องไว เมื่อโจมตีก็สามารถทำให้ศัตรูพ่ายแพ้ได้ภายในพริบตา แต่ว่า

 

กระบวนท่า "กระเรียงเหินฟ้า" ของหลิงหลงก็ใช่ย่อย  อ่อนช้อย งดงาม แต่เด็ดขาด

 

ปราศจากความปราณี ทั้งคู่ประมือกันจาก สองสามกระบวนท่า จนเกือบร้อยกระบวนท่าแล้วก็

 

ยังไม่มีทีท่าว่าผู้ใดจะ ชนะ จน คนขายหยกต้องรีบห้าม เนื่องจากทั้งสองประมือกันจนฝุ่นคละ

 

คลุ้งไปหมด แม่ค้าพ่อค้าเร่ แผงข้างทาง กลัวจนเก็บแผงหนีไปหนดแล้ว

 


คนขาย   :  โธ่ หยุดเถอะคุณชายทั้งสอง ร้านข้าจะพังหมดแล้ว เมื่อกี้ข้ากำลังจะบอกว่า ป้าย

 

หยกอันนี้อะ มันแยกได้ เพราะว่ามันเป็นหยกคู่ พวกท่านก็ไม่มีใครฟัง ข้าต้องทำมาหากินนะ

 

เนี่ย (คนขายบ่นว่า)

 


                      ซื่อหลางเหาะขึ้นไปบนหลังคา หลิงหลงก็ตามขึ้นไป ทั้งคู่ตั้งท่าประจันหน้า

 

กัน ทั้งคู่กำลังประเมินวรยุทธของอีกฝ่าย ซึ่งตอนนี้ทั้งสองคงลืมเรื่องหยกกันไปแล้ว

 


หลิงหลง  : (คิดในใจ "กระบวนท่าแบบนี้ หนักหน่วง คล่องแคล่ว ว่องไว เต็มไปด้วยพลังวัตร

 

ที่แข็งแกรง ขนาดนี้ เจ้าหมอนี่เป็นใครกันแน่นะเนี่ย" สายตายังจับจ้องไปที่ซื่อหลางอย่างไม่

 

กระพริบ)

 


ซื่อหลาง  :  (คิดในใจ "กระบวนท่าอ่อนช้อย งดงาม แต่ปราศจากความปราณี เช่นนี้ คล้าย

 

กับ วิชาของพรรคไป๋หมู่ตัน แต่ว่าน่าเสียดายที่ยังไม่เห็น กระบวนท่าที่เหลือ แต่ว่าเจ้าหมอนี่

 

วรยุทธไม่เลวเลย แต่ท่าทางมันแปลก ๆ เป็นใครกันนะ แต่ว่าเรามานี่มีจุดประสงค์อื่น ข้าไม่

 

ควรมีเรื่องกับใคร ทำเป็นยอมดีกว่า" สายตาจ้องหลิงหลงเหมือนกัน) เอาละ ข้าคงจะสู้เจ้าไม่

 

ได้ ถ้าอย่างนั้น ถือว่าเจ้าชนะ ป้ายหยกชิ้นนั้นเป็นของเจ้าแล้วน้องชาย ถ้างั้น ข้าขอตัวก่อน

 

(ทำท่าคาระวะ แล้วเหาะลงมาจากหลังคา แล้วกำลังจะเดินไป)

 


หลิงหลง  :   (เหาะตามลงมา) ช้าก่อน นานแล้วข้าไม่ได้เจอผู้ที่มีวรยุทธสูง เช่น ท่าน ใน

 

เมื่อคนขายเค้าก็บอกว่าหยกชิ้นนั้นแบ่งเป็น 2 ชิ้นได้ ถ้างั้นเรามาแบ่งกันคนละ ครึ่งก็แล้วกัน

 

(แล้วหลิงหลงก็หยิบหยกให้ซื่อหลางอันนึง)

 


ซื่อหลาง   :  (รับมา) ขอบคุณมากสหายน้อย ถ้าอย่างนั้น ข้าขอเลี้ยงน้ำชา ไม่ทราบว่าจะขัด

 

ข้องหรือไม่

 


หลิงหลง  :  มิกล้า ข้ามิกล้าปฏิเสธหรอก ในเมื่อท่านเอ่ยปากชวน ข้อก็ขอรับไมตรีของท่าน

 


ซื่อหลาง  :   ฮะ ๆ ๆ นี่เรียกว่าไม่สู้ไม่รู้จัก เชิญ

 


                 แล้วซื่อหลางก็พาหลิงหลงมาที่โรงเตี๊ยม เหม่ยลี่ ภายในโรงเตี๊ยมนั้นสะอาด

 

สะอ้าน ดูดี และมีโต๊ะอาหาร ตั้งเรียงรายอยู่มากมายแต่ละโต๊ะนั้นล้วนแล้วแต่มีผู้คนนั้นอยู่เต็ม

 

โต๊ะ บนชั้นสองของโรงเตี๊ยม เหลืออยู่อีก 5-6 โต๊ะ เสียงจ้อกแจก จอแจ ดังเป็นระยะ ๆจาก

 

การตะโกนสั่งอาหารเครื่องดื่ม และเสียงพูดคุยกัน บ้างก็เมา บ้างก็เล่าเรื่องต่าง ๆ ในขณะที่

 

ซื่อหลางกับหลิงหลงนั่นดื่มน้ำชากันอยู่นั้นก็ได้ยิน ชาวบ้านบางคนบอกเล่า และพูดคุยกันถึง

 

คัมภีร์จิ่วหลง ทำให้ทั้งซื่อหลางและหลิงหลงสนใจขึ้นมาทันที

 


เซี่ยวเอ้อ   :  เอ่อ คุณชายทั้งสองรับอะไรดีครับ

 


ซื่อหลาง   :  ขอน้ำชา สักกานะ แล้วก็เอาอาหารมาสักสองสามอย่างละกัน

 


หลิงหลง  :   เดี๋ยวก่อนวันนี้เรา สู้กันจนรู้จักกัน ข้าว่าเราน่าจะดื่มกันสักหน่อย เป็นไง

 


ซื่อหลาง   :  เอางั้นก็ได้ เซี่ยวเอ้อ งั้นเอา นารีแดง มา

 


เซี่ยวเอ้อ   :   ครับ

 


ซื่อหลาง   :   ข้าขอบังอาจ ถามชื่อของเจ้า....

 


หลิงหลง   :   อ่อ ข้าต้องขอโทษด้วย ข้าน้อย ชื่อหลง แซ่หยาง ท่านเรียกหยางหลงก็ได้

 


ซื่อหลาง   :   น้องหยางหลง ข้า ชื่อ หลาง แซ่ซื่อ ซื่อหลาง

 


หลิวหลง   :  มา ข้าขอดื่มให้ท่าน พี่ซื่อหลาง

 


ซื่อหลาง   :  เชิญดื่ม (ชนแก้วกันแล้วดื่มหมดจอก) งั้น จอกนี้ข้าดื่มให้เจ้า (รินเหล้าใส่จอก)

 

ข้าขอดื่มให้กับน้องหยางหลง ดื่ม

 


                  แล้วทั้งสองก็นั่งดื่มเหล้าด้วยกันคุยกันถูกคอ ในขณะที่หลิงหลงแอบพินิจ

 

พิจารณา ซื่อหลาง  ซ่างกวานซื่อหลางนั้นเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลา คมคาย แต่งกาย

 

สะอาดสะอ้านดูดี และมีวรยุทธสูง เป็นที่สะดุดตายิ่งนัก ขณะที่หลิงหลงกำลัง พินิจพิจารณา

 

 http://www.keedkean.com

 

 

ซื่อหลาง อยู่นั้น ก็มี หลวงจีนเฒ่า หน้าตาใจดี เดินถือไม้พองขนาดให้เข้ามา แล้วเดินไปนั่งที่

 

โต๊ะถัดไปอีกตัวหนึ่ง หลวงจีนเฒ่ารูปนี้ ดูผิวเผินเหมือนเป็นหลวงจีนเฒ่าแก่ ๆ ธรรมดา หาก

 

แต่ ซื่อหลาง และหลิงหลงก็รับรู้ได้ว่า หลวงจีนเฒ่ารูปนี้ หาใช่คนธรรมดาไม่   เนื่องจาก

 

หลวงจีนที่อายุมากขนาดนี้ ย่อม ไม่สามารถถือ ไม้พองขนาดใหญ่ที่หนักมาก แล้วเดินตัวปลิว

 

ได้ นอกจากเป็นผู้ที่มีพลังวัตรสูง 
 

 

 

            หลวงจีนเฒ่ารูปนี้เป็นใครกันแน่ แล้วชิง ชิง สาวใช้ของหลิงหลงป่านนี้ไปหลง

 

ทางอยู่ที่ไหนรึเปล่าน้า แล้วจะมีใครปรากฏตัวขึ้นมาอีกรึเปล่า โปรดติดตามในตอนต่อไปนะคะ

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
3.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
3.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา