เวทีของ หมายเลข13

9.5

เขียนโดย jundee

วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 13.26 น.

  1 ตอนเดียวจบ
  17 วิจารณ์
  4,517 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

              "ต่อไปหมายเลข13..นางสาวมิ่งขวัญ ...     จาก.....    ส่งเข้าประกวดค่ะ"  

             มิ่งเดินเยื้องย่างราวนางพญา พลาง กรีดกราย   อย่างงดงามตามที่โดนสอนมาตลอดครอสสั้นๆ     ยิ้มหวานละไมของมิ่ง   ดั่งจะหยุดทุกสายตาให้หันมาชื่นชมในตัวเธอเพียงผู้เดียวในคำคืนนี้    

            ชุดสวยที่รุ่มร่ามเครื่องประดับตกแต่งอย่างเลิศหรูเกินที่คนธรรมดาสามัญจะสวมใส่เข้าไปได้ในวันปกติ  ถูกพาเชิดด้วยร่างระหง  สมส่วน  และงามผ่องไปทั่วสรรพางค์  ใบหน้าที่หวานเป็นทุนอยู่แล้วพอมาเจอการแต่งแต้มสีสรรจากฝีมือที่เจนจัดของช่างระดับชาติอย่างเจ้ร้าฯคนดังของวงการความงาม   ยิ่งเพิ่มดีกรีความงามเพริดพริ้งให้เธออย่างล้นเหลือ  

           แต่ในใจขณะที่เธอเดินนวยนาดและยิ้มหวานชวนเชิญคะแนนทั้งหลายอยู่นั้น  ใจของเธอมันแทบจะเต้นตูมตามกระโดดลงสระน้ำที่ตกแต่งหรูให้กลายเป็นเวทีไปให้รู้แล้วรู้รอด.

            "น่านะ...แกช่วยพี่หน่อยสิ  พี่จำเป็นจริงๆ  แกก็รู้"  พี่คุ่แฝดของมิ่ง  แทบจะลงทุนกราบไหว้มิ่ง  เพื่อให้เธอมาปรากฎตัวในคืนนี้

            "เจ้..เจ้ก็รู้นี่เวทีนี้มันโหดขนาดใหน?  เค้าไม่ต้องกระอักเลือดเลยเหรอ  ถ้าความแตกอ่ะ  ทีน  ท้างน้านเลยนะ." มิ่งอดสยองไม่ได้เมื่อหากมีคนจับได้

            "อุ้ย..ไม่หรอก  ทีมงานเราเนียนๆกันทั้งน้าน  เชื่อดิ"

            "เอางี๊    เงินนะให้หมดเลย...."  ละแล้วสิ่งที่มิ่งอยากได้ก็ไหลออกมาจากปากพี่ในที่สุด     มิ่งฝันอยากไปเที่ยวแบบลุยๆต่างประเทศบ้าง  เหมือนเพื่อนบางคนที่ไปมาแล้ว  เหมือนในหนังที่มิ่งได้ดู  แค่ประเทศใกล้ๆอย่างภูฎานก็ยังดีมิ่งชอบความเงียบ  ความหนาว  ทิเบตก็ยิ่งอยู่ในฝัน  และฝันนั้นก็ทำให้มิ่งมาก้าวย่างอยู่เหนือสระน้ำที่ปูด้วยกระจกใสแผ่นหนาที่พอจะรับน้ำหนักเป็นตันๆได้ ในคืนนี้

         "อีกแค่สองชั่วโมงเท่านั้นๆ"  มิ่งท่องเอาไว้ในใจ  ก่อนที่จะเดินไปยืน"ยิ้มค้างปากกระตุก"ข้างๆสาวงามอีกคน  "แอ่นอก  เชิดหน้า ดันก้นๆๆ"  อีกชุดประโยคที่มิ่งห้ามลืม    สองชั่วโมงกลายเป็นสองศตวรรษเมื่อต้องพยายามทำอาการดังว่ามา

       .......  " ... เอาล่ะค่ะท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน  อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้  เราจะได้ทราบผลของการประกวด มิสเฟอร์เฟคโปรแจ็ทประจำปี2010กันแล้วค่ะ......"

  เสียงประกาศนี้  เหมือนจะยิ่งดันให้ความอดทนของมิ่งลดน้อยลงไปอีกอย่างช่วยไม่ได้

               " เฮ้อ!  เอาเถอะๆ  มาซะทีๆ" นางสาวมิ่งขวัญยืนร่างระหงหน้ายิ้มงาม   ท่ามกลางสาวงามจากหลายๆที่  แม้จะเหมื่อยแสนเหมื่อย    แต่ก็ไม่มีทีท่าจะอ่อนแรงลงแม้แต่น้อย  ในใจคิดเร่งเร้าขั้นตอนต่างๆให้จบสิ้นเร็วๆ     

            เมื่อสองเดือนก่อนพี่ของมิ่งสมัครเข้าประกวดมิสเฟอร์เฟคโปรเจ๊ทนี้  และเข้ารอบผ่านการคัดเลือกมาตลอด  จนมาถึงรายการสุดท้ายคือคืนนี้ คืนที่ต้องออกมาอวดสายตากรรมการทุกคน   คืนที่จะเห็นตัวจริงจะๆเป็นๆของผู้เข้ารอบสุดท้าย   ที่ก่อนหน้านั้นจะมีเพียงเรียลลิตี้ที่ออกอากาศเหมือนรายการดังๆทั่วไป  แล้วเรียกคะแนนโหวตจากผู้ชมทางบ้าน   อาการปวดเอวและขาของมิ่งขวัญที่ต้องฝึกซ้อมหนักมานานติดๆกันหลายวันก็ส่อขึ้น  ทำให้ไม่สามารถเดินได้  หมอสั่งให้งดเดินโดยเด็ดขาด

            แต่ข่าววงในและเชื่อถือได้พากันกล่าวว่า นางสาวมิ่งขวัญมาเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน   ทำให้มิ่งขวัญไม่อาจละทิ้งโอกาสของเธอได้  จึงต้องขอร้องน้องของเธอเข้าประกวดแทน    เพราะจากร่างที่สูงเพียว  ซึ่งถือเป็นข้อสำคัญแล้วรูปร่างที่งามไร้ที่ตินั้นก็เหมาะสมกับการเป็นนางแบบที่ดีที่สุดของโลกด้วย   อีกทั้งดวงหน้าที่แสนหวานและหยาดเยิ้มเหมือนลูกครึ่งแขกฝรั่ง  อิตาลี  หรือที่เค้าว่ากันว่า"แขกขาว"  ยิ่งชวนให้ความงามของมิ่งโดดเด่นกว่าใครๆในค่ำคืนนี้

                 "ผู้ได้รับตำแหน่งมิสเฟอร์เฟคโปรแจ๊ทปี2010ได้แก่....

...........(ดนตรี)..................................นางสาวมิ่งขวัญค่า....สมกับที่พวกเราต่างลุ้นเลยนะคะ  เธอสวยสมบูรณ์แบบจริงเลยค่ะ...ฯลฯ ...สารพัดคำพูดล้วนแต่ยกย่องเชิดชูในความงามหาที่ติไม่ได้ของมิ่งขวัญ ไม่รู้ว่าเธอโดนจับจ้องจากสายตากี่ร้อยกี่พันคู่  จากกล้อง     จากนักข่าว  จากพวกหัวงูทั้งหลาย   " อื้มใกล้แล้วๆ"  มิ่งคิด  พลางส่งยิ้มหวานไปให้กล้องนับสิบๆตัว....  ในที่สุดคืนที่แสนโหดร้ายสำหรับมิ่งก็กำลังจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

             ....ข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับในเช้าวันรุ่งขึ้น   ลงข่าวอุบัติเหตุที่ไม่น่าเกิดขึ้น   ของวงการความงามที่ถือว่าได้มาตรฐานที่สุดของเมืองไทย

           เกิดเหตุไม่คาดฝัน มิสเฟอร์เฟคโปรเจ๊ท  ตกบันไดเหล็กด้านหลังเวทีตอนไฟดับจนต้องหามส่งร.พ.  คาดว่าคงเดินไม่ได้ไปนานกว่าสัปดาห์  แต่ทางกองประกวดเชื่อแน่ว่า  ปีนี้ประเทศไทยต้องได้รับอย่างน้อยหนึ่งรางวัลแน่นอนจากเวทีโลก. 

           มิ่งเมืองสะพายเป้ใบใหญ่พร้อมหอบหนังสือพิมพ์2-3ฉบับ  วิ่งตามขบวนรถไฟสายใต้   โดยมีเสียงเพื่อนร้องตะโกนเรียกอยู่บนขบวนรถ  การเดินทางของมิ่งเมืองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว  ใต้เข้ามาเลย์แล้วค่อยไปอินเดีย  ทริปเล็กๆใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์  แลกกับการหลอกลวงเพื่อก่อผลประโยชน์ให้พี่สาวตัวเองและความสุขของการเที่ยวเตร่แบบลุยๆของมิ่งเมือง  แผนการณ์ที่ไม่ซับซ้อนมากที่มาจากไอเดียแจ๋วๆของมิ่งขวัญผู้เป็นพี่สาวคู่แฝดแต่แตกต่างเพศ พร้อมกับเพื่อนๆที่ช่วยกันเป็นพี่เลี้ยงและตัวช่วยสับไฟให้ดับ   ที่ต่างช่วยกันให้ความร่วมมืออย่างดีตั้งแต่ต้นจนจบ

                 " เฮ้...ดูดิไอ้ชัย...ไอ้มิ่ง  แม่ง.......ง...ง..ขนคิ้วไม่มีว่ะ"

                  " เออ...พี่แกเป็นไงบ้างวะ  ตกบันไดเหรอ  เป็นน้องงัยว้า  ปล่อยให้พี่สาวสวยๆตกได้  แต่พอแกไม่มีขนคิ้ว  ข้าว่า  แกก็ชักดูสวยๆเหมือนพี่แกอยู่นะ   ถึงจะเป็นผู้ชายก้อดูสวยเหมือนกันนะเฟ้ย  ไอ้มิ่ง  แกน่ะ..5555..."

   เอกกับชัยเพื่อนที่ไม่รู้ว่าเมื่อคืนมิ่งไปทำอะไรมา  ต่างหัวเราะขำที่คิ้วของมิ่งหายไปกว่าครึ่งในความดกหนาที่เคยมี    มิ่งคว้าเอาแว่นกันแดดมาสวมทับ   พลางอมยิ้มเล็กๆที่มุมปาก  นึกในใจว่า  "ตอนใส่ชุดแนบกระชับรัดสัดส่วนแล้วยัดก้นปลอมน่ะ  แย่กว่าขนคิ้วบางๆนี่ตั้งเยอะ".แล้วมิ่งก็เอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนทอดสายตามองเส้นทางที่รถไฟวิ่งผ่าน.

 

                                        จบค่ะ.

                                      *---* 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา