Angel's quest Part I Staff of angel

7.2

เขียนโดย imppreal

วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14.48 น.

  20 บท
  67 วิจารณ์
  33.80K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) Staff of angel บทที่1 จุดเริ่มต้นแห่งโชคชะตา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Angel Quest

  จุดเริ่มต้นแห่งโชคชะตา

 

                        ''แย่แล้วนายหญิง''  

                                     หญิงสาวในชุดสีขาวส่งเสียงด้วยความหวาดกลัวมาตั้งแต่ไกล ทำเอาหญิงชราชุดขาวสะดุ้งเฮือก  รอบๆกายของหล่อนมีหญิงในชุดขาวแบบเดียวกัน อีกหลายคน  พวกเธอทั้งหมดสีหน้าอาการเดียวกัน  อาการหวาดกลัวทำให้พวกเธอลุกลี้ลุกลน มือไม้สั่น บ้างก็สวดมนต์ขอชีวิตกับเทพเจ้า บ้างก็บ่นงึมงำ

                    ''มัวชักช้ ทำอะไรกันอยู่ พวกมันมากันจะถึงอยู่แล้  พวกเจ้าก็รู้ว่าจะต้องทำอะไร''

                                      หญิงชราพูดขึ้น  หญิงสาวต่างเงยหน้ามองนางอย่างชื่นชม พลางนึกขึ้นได้ ในสิ่งที่นางพูด  มันคือสิ่งที่ดีที่สุดในสถานการณ์แบบนี้  ''เร็วเข้าสิ  ไปห้องผนึกกัน''

                                         หญิงชราสาวเท้าเดินนำหญิงสาวคนอื่นๆออกไปทางด้านหลังของห้องนั่น  ความเร็วของนางแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นความเร็วของหญิงชราคนหนึ่ง   นางเดินต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน เดินขึ้นบันไดด้านหน้า มุ่งสู่ห้องผนึก พลางหันดูเหล่าสาวๆที่เหลือที่ตามนางมา  พวกหล่อนก็ตามนางมาติดๆเหมือนกัน  หญิงชราหันกลับไป เปิดประตูห้องผนึก ในนั้นมีบรรยากาศที่ทำให้คนที่เห็นมัน ต่างก็หลงไหลในความสวยงามของมัน พื้นผนังห้องทาด้วยสีขาวประกายเพชร  ใจกลางห้องมีสัญลักษณ์คล้ายปีกของนกคู่กันอยู่ หญิงชรายืนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปบอกพวกสาวๆให้พร้อม พวกนางจะทำการปดผนึกบางอย่างกันในห้องนี้

                    ------------------------------------------------------------------

                                         ภายนอกห้องผนึก ออกมาเป็นวิหารสีขาวขนาดใหญ่  เวลานี้เป็นเวลากลางคืน ไร้ซึ่งแสงของดวงอาทิตย์ ยิ่งกว่านั่นคืนนี้ยังเป็นคืนเดือนมืด บรรยากาศรอบๆวิหารจึงน่ากลัว แทบไม่มีผู้ใดกล้าย่ำกลายเข้ามา  ทุกสิ่งทุกอย่างมืดไปหมด มีเพียงแสงจากคบเพลิงที่เหล่าทหารเฝ้าวิหาร จุดเพื่อไล่ความมืดเท่านั่น ใกล้ๆกับจุดที่ทหารจุดคบเพลิงจุดหนึ่ง ด้านหน้าของวิหาร มีศพทหารนอนเกื่อนกราด ทหารบางคนยังร้องโอดโยด้วยความเจ็บปวด เป็นสิ่งบ่งบอกว่าพวกทหารเหล่านั้นเพิ่งโดนทำร้ายได้ไม่นาน 

                       ''อ้ากกกกกกก!!!!!!!!!''

                                     เสียงทหารด้านในวิหารกรีดร้อง แย่กว่านั่นผู้ที่เป็นตัวการ ทำให้เหล่าทหารกรีดร้องยังยืนอยู่ข้างๆศพผู้เคราะห์ร้าย   ผู้นั่นสวมผ้าคลุมปิดหน้าสีดำ ในมือถึงดาบอาบเลือดทั้งสองมือ ความยาวของดาบไม่มากนัก ท่ายืนห้าวๆบ่งบอกความเป็นชายของเขา  เขายืนรอทหารที่จะมาอีกกลุ่มหนึ่ง  ซึ่งเสียงฝีเท้าของคนพวกนั้นกำลังใกล้ดข้ามาอย่างรวดเร็ว   ชายผู้บุกรุกหันไปทางต้นกำเนิดเสียงทันที   สีหน้าแรกที่ชายคนนั้นได้เห็นจากทหารกลุ่มใหม่คือ สีหน้าของความหวาดกลัวบนความตกใจ  พวกทหารกลุ่มใหม่ไม่รอช้ารีบเอาอาวุธประจำตัวออกมาตั้งท่าเชิงเตรียมพร้อมก่อนที่ชายผู้บุกรุกจะเดินเข้ามาหา

                        ''ยอมมอบตัวซะ โทษหนักจะกลายเป็นเบา''

                                     ชายผู้บุกรุกไม่สนใจคนพูดของหัวหน้าทหาร เขาเดินมาทางกลุ่มทหารช้าๆ พวกทหารต่างถอยเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ๆ  ''เจ้าคิดจะทำอะไรมิทราบ''

                                     แทนคำตอบ ชายผู้บุกรุกฟันทหารที่ใกล้มือที่สุด แล้วยิ้มเยาะให้หัวหน้าทหารที่กำลังตกใจในภาพที่เห็น คือลูกน้องของตัวล้มลงนอนอาบเลือดของตน  

                               ''ก็ทำอย่างนี้ไง''

                               ''ฆ่ามัน!!!!!!!''

                                       พวกทหารพุ่งเข้าหาชายผู้บุกรุกตามคำสั่ง ส่วนเขาได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงสามารถหลบการโจมตีของพวกทหารได้ และปัดอาวุธที่มุ่งมาทางตน ก่อนที่จะสังหารเจ้าของอาวุธตายตามชายคนแรก    

                                ''บ้าน่ะ''

                                        หัวหน้าทหารอุทานด้วยความแปลกใจที่ชายผู้บุกรุกสามารถปัดเพลงดาบที่ในหมู่ทหารเฝ้าวิหารไม่มีใครรอดพ้นความพ่ายแพ้ไปได้  หัวหน้าทหารรีบกระโดดถอยออกมาก่อนจะเห็นลูกน้องอีก 2 คนโดนฟัน  

                                 ''ตาแกแล้ว หัวหน้าทหาร''

                                        สิ้นเสียงของชายผู้บุกรุก หัวหน้าทหารกระเด็นถอยหลังเพราะแรงถีบของผู้บุกรุก หัวหน้าทหารล้มกลิ้งไปไกล ก่อนรีบลุกขึ้นเช็ดเลือดที่อาบปาก  ชายผู้บุกรุกยิ้มที่มุมปากแสดงกิริยาเยาะเย้ยออกมา  หัวหน้าทหารเริ่มโกรธ เขาควงดาบเป็นวง2-3รอบ  ก่อนพุ่งไปหาผู้บุกรุก

                                 ''มาแล้วสินะ''

                                       หัวหน้าทหารฟันผู้บุกรุกทันทีแต่ร่างของผู้บุกรุกเปลี่ยนไปเป็นอากาศธาตุ หัวห้าทหารรีบหมุนตัวกลับ เสียงโลหะประทะกัน  ดาบของผู้บุกรุกถูกดาบของหัวหน้าทหารกันไม่ให้โดนเจ้านายของมัน ผู้บุกรุกเริ่มออกเพลงดาบเป็นเพลงดาบที่รวดเร็วและน่ากลัว ดาบของผูบุกรุกเริ่มได้ดื่มเลือดของหัวหน้าทหารจนเต็มคมดาบ ชายผู้บุกรุกกลับหลังหัน แล้วเดินเข้าไปด้านในวิหารของวิหารใน ปล่อยให้ร่างอันปวกเปียกของหัวหน้าทหารค่อยๆล้มลงไปช้าๆ

 

                                     ''ไลล่าใช้คาถาปกป้องแห่งแสง   มิเชลใช้คาถาไร้เงา  จีนี่ใช้คาถาขออนุญาตแห่งแสง  ส่วนพวกที่เหลือใช้คาถาพื้นที่แห่งแสง''

                                        หญิงชราชุดขาวออกคำสั่ง พวกสาวๆก็ทำตาม พวกหล่อนเริ่มท่องคาถาที่ได้รับมอบหมายทันที ทำให้ภายในห้องผนึกสว่างจ้าด้วยแสงสีขาว สัญลักษณ์รูปร่างคล้ายปีกหงค์คู่เรื่มเปล่งแสง หญิงชราก็เริ่มท่องคาถาปลดผนึกทันที สัญลักษณ์ใจกลางห้องเปล่งแสงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สักพักแสงสีขาวทั้งหมดก็ค่อยๆมารวมกันใจกลางห้องเหนือสัญลักษณ์ปีกคู่  แสงสีขาวค่อยๆแปลเปลี่ยนรูปร่างเป็นทรงยาวคล้ายด้ามหอก ก่อนที่จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมที่ด้านบนและล่าง หญิงชรารีบคว้ามันมาไว้ในมือ แสงสีขาวแตกกระจายทำให้สามารถมองเห็นมันชัดขึ้น มันเป็นคทาสีขาวเพชร ส่วนบนของมันมีอัญมณีสีแดงทรงข้าวหลามตัดอยู่ระหว่างปีกคู่สีขาวโพลนหิมะ ลงมาจากส่วนหัวของคทาเป็นรองหัวสีทอง ส่วนล่างของมันมีลักษณะมน แต่มีอัญมญีสีแดงทรงสามเหลี่ยมยอดลงเป็นปลายคทา พวกผู้หญิงทั้งหมดต่างตะลึงกับสิ่งที่พวกนางคอยเฝ้าอยู่ตลอดมา จนลืมว่าตอนนี้กำลังเกิดการบุกรุก   

           ปัง!!!ๆๆๆๆ 

                                        เสียงดังมาจากประตู เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ผู้บุกรุกได้บุกมาถึงหน้าห้องผนึกแล้ว ความกลัวค่อยๆกลับมายังใจของพวกผู้หญิงอีกครั้ง ที่เครียดที่สุดคือหญิงชรา เธอพยายามครุ่นคิดถึงวิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ เธอหันไปมองพวกสาวๆครู่หนึ่งก่อนคิดขึ้นมาได้

                                      ''ไลล่า เจ้าจงพาเพื่อนๆของเจ้าหนีออกไปทางหลังวิหาร ข้าจะล่อมันไว้ให้เอง''

                                      หญิงสาวคนที่มีนามว่า ''ไลล่า'' สะดุ้งและเริ่มเรียกสติคืนได้ เธอหันไปทางหญิงชราช้าๆ พยายามคิดทบทวนคำพูดของหญิงชรา

                                      ''แต่ว่า...''

                                      ''ไม่มีแต่ ไล่ล่า ข้าจะล่อไว้ให้ จงเอาคทาแห่งนางฟ้า ไปซ่อนให้พ้นจากเงื้อมมือพวกปิศาจร้าย ไม่ต้องเป็นห่วงข้า   เอาไปสิ''

                                        ไลล่ารับคทาจากหญิงชราก่อนรีบพาเพื่อนๆของหล่อนวิ่งออกไปทางประตูหลังของห้องผนึก  ทิ้งหญิงชราให้รับชะตากรรมของนาง ภายในใจของไลล่าก็เจ็บปวด แต่ภารกิจต้องมาก่อนเสมอ เธอคิดอย่างนั่น   พวกสาวๆวิ่งผ่านประตูออกไป หญิงชราเห็นดังนั้นจึงเสกคาถาให้ประตูปิดและผนึกให้มันล็อคโดยที่มีนางเท่านั่นที่จะปลดผนึกมันได้

                                        ชาบผู้บุกรุกก้าวเข้ามาด้านในห้องผนึก เหยียบเศษประตูทั้งพังเพราะแรงผลัก  ไม่มีความหวาดกลัวในแววตาของหญิงชรา ทำให้ชายผูบุกรุกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาสำรวจด้านในห้องผนึกโดยไม่สนใจว่าหญิงชรายืนอยู่ตรงนั้น เพราะเจาคิดว่า ยายแก่คนนี้คงจะไร้พิษสงอะไร ชายผู้บุกรุกเริ่มมีอาการเคือง เขาแสดงออกมาทางเสียงถอนหายใจในความรำคาญ ก่อนหันไปหาหญิงชรา

                                        ''คทานางฟ้า อยู่ไหน!''

                                         หญิงชราตะแคงศีรษะเล็กน้อย มุมปากของหล่อนยิ้มเยาะเขา ทำให้ชายผู้บุกรุกโมโหขึ้นไปอีก   เขาถอนหายใจอีกทีก่อนเอาดาบมาจ่อคอหญิงชรา

                                        ''มันอยู่ไหน!''

                                        ''ก็หาลองดูสิ''

                                         หญิงชรายั่วโมโหผู้บุกรุก เขาเริ่มจะบ้าคลั่งด้วยความโกรธ

                                         ''บอกมานะ ไอ้แก่ ไม่งั้น ดาบของข้าจะดื่มเลือดจากคอแก!!''

                                         ทันใดนั้นเองร่างของชายผู้บุกรุกกระเด็นถอยหลัง ก็ล้มลุกคลุกคลานบนพื้นห้องผนึก เขารีบลุกขึ้นมองหน้าหญิงชราอย่างโกรธแค้น หญิงชราอยู่ในท่าเตรียมพร้อม หล่อนถืมคทาสีทองไว้ในมือ มันต่างคทานางฟ้า เพราะมันไม่มีปีก และอัญมณีด้านบนมีสีเขียวมรกต  ชายผู้บุกรุกบุกเข้าไปใหม่ หญิงชราร่ายเวทมนต์โล่วิเศษญ์ไว้ระหว่างตนกับชายผู้บุกรุก เขาวิ่งชนโล่วิเศษณ์ของหญิงชรา ล้มเซไปอีกรอบ

                                       ฉึก!!!!!!

                                         ดาบทะลุอกของหญิงชราจากด้านหลัง เลือดสีแดงสดออกมาจากอกของหญิงชรา หล่อนมองไปที่ชายผู้บุกรุก เขาไม่ได้อยู่ตรงนั่นอีกต่อไปแล้ว  เขามาอยู่ด้านหลังของหญิงชราในพริบตาเดียว สีหน้าของหญิงชราบ่นบอกถึงความเจ็บปวด

                                          ''นี่มัน วิชาของพวกเผ่าดาร์ก  แกมันเป็นพวกดาร์ก  พวกที่ทรยศแผ่นดินเกิด''

                                          ''แล้วหนักหัวใครไม่ทราบ  อีกหน่อยแกก็จะไปเฝ้าเทพที่แกเคารพนักเคารพหนา อย่าอวดรู้อะไรให้มากนักเลย''

                                          ''ข้าขอทำนาย พวกดาร์กจะต้องสูญพันธ์ จะมีอัศวินมาจากดินแดนอันห่างไกล มาทำลายพวกเจ้า ขอให้คำทำนายนี้เป็นจริงเถิด!!!!''

                                           เสียงคำพูดสุดท้ายของหญิงชราดังสนั่นทั่วทั้งแผ่นดิน ผู้คนได้ยินหมดทุกคน พื้นปฐพีสั่นสะเทือน  ทำเอาชายผู้บุกรุกมองหญิงชราอย่าโกรธแค้นมากที่สุดตั้งแต่ที่เคยโกรธมา เขาดึงดาบออกจากร่างของหญิงชรา หล่อนลงล้มตายสนิททันที ชายผู้บุกรุกรำคามอย่างบ้าคลั่งเมื่อพบว่าคทานางฟ้าได้หายไปแล้วและประตูที่จะพาออกไปด้านหลังวิหารก็ถูกผนึกปิดตายไม่สามารถเปิดออกได้

                                       

                                      

                                         

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา