แพร่ง

9.2

เขียนโดย Hotaru

วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 11.01 น.

  7 chapter
  33 วิจารณ์
  16.31K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) โบก !!! Part 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

โบก !!!! Part 3

 

สัปดาห์ก่อน...............

 

      รถหลายๆคันกำลังวิ่งออกจากมหาลัย มุ่งเพื่อจะกลับบ้าน แต่ละคันก็มีคน 2 บ้าง 3 บ้าง เป็นธรรมดาของกลุ่มนักศึกษา มีรถคันหนึ่งจอดคอยนักศึกษาอยู่ที่หน้าวิทยาลัย เป็นรถสีดำ ยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่งจากต่างประเทศ  แต่เมื่อดูให้ดีแล้วที่แท้รถคันนั้นเป็นรถสำหับเช่า ในรถมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งคอยอยู่แล้ว หญิงสาวคนดังกล่าว เมื่อเห็นว่ารถจอดคอยอยู่นานแล้ว จึงรีบบอกลากลุ่มเพื่อน แล้วรีบวิ่งตรงมายังรถคันดังกล่าวทันที.....................

 

“มาคอยนานรึยังจ๊ะ” หญิงคนดังกล่าวส่งเสียงเจื้อยแจ้วมา ขณะกึ่งเดินกึ่งวิ่งมายังรถ

“ก็พอได้แล้วล่ะ” ฝ่ายชายตอบสั้นๆอย่างรัดกุม

“เป็นไงบ้างวันนี้ เรียนยากรึเปล่า”

“ก็ไม่นากเท่าไหร่หรอก เป็นแค่วิชาเสริม ไม่ได้เป็นวิชาหลักน่ะ”

“ไปกันได้ยัง” ฝ่ายชายถาม

“เดี่ยวพี่เก้าคอยนิดอยู่นี่ก่อนนะคะ เดี๋ยวนิดรีบไปหาอะไรกินก่อน แป้ปเดียว เดี๋ยวมานะ”

“เร็วๆล่ะ” ฝ่ายชายสำทับ

“ค่ะ” ว่าแล้วก็รีบวิ่งไปที่ร้านค้าหน้าวิทยาลัย เพื่อหาซื้ออะไรกินรองท้อง

 

ครู่หนึ่งต่อมา................

 

“ไปกันเถอะค่ะ” นิดกล่าวขึ้น เมื่อมาถึงรถแล้ว

“ตกลง” เก้าตอบ

“แล้วจะไปต่อที่ไหนดีคะ หนูต้องรีบกลับบ้านอย่าให้ทันค่ำนะคะ เดี๋ยวโดนสงสัย”

“อืม..... ไปไม่ไกลหรอก ไปนั่งรถเล่นกับพี่ซักพัก แล้วเดี๋ยวไปหาอะไรกินเป็นมื้อค่ำนะ”

“ค่ะ” นิดตอบ เธอไม่ได้สงสัยอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อไปข้างหน้า

 

     รถคันดังกล่าวค่อยๆวิ่งอย่างช้าๆออกจากหน้าวิทยาลัย มุ่งสู่ถนนใหญ่ เพื่อไปยังที่ท่องเที่ยวต่างๆ รถวิ่งไปเรื่อย ทัศนียภาพก็เปลี่ยนไปตามทางที่ผ่านมา เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งเย็น แล้วจู่ๆเก้าก็เลี้ยวรถเข้าร้านอาหารเพื่อเลี้ยงข้าวนิดอย่างที่บอกไว้...............

 

“นี่ไง ถึงร้านอาหารที่บอกไว้แล้ว เดี๋ยวลงจากรถแล้วไปนั่งที่โต๊ะพลางๆนะ เดี๋ยวพี่ขอไปเข้าห้องน้ำหน่อย ปวดฉี่เหลือเกิน”

“ค่ะ รีบๆนะคะ”

“อืม เดี๋ยวพี่มานะ” เก้าตอบ แล้วรีบตรงไปยังห้องน้ำ

 

     เมื่อมาถึงห้องน้ำ แทนที่เก้าจะเข้าไปถ่ายปัสสาวะ แต่กลับตรงไปข้างนอกเพื่อหาร้านสะดวกซื้อ เพื่อที่จะซื้อสิ่งของบางอย่าง มันเป็นยากล่อมประสาทชนิดแรง สามารถทำให้กลายเป็นคนประสาทหลอนได้ในชั่วพริบตาเดียว ที่จริงแล้วยาชนิดนี้เป็นยาที่ผิดกฎหมาย ไม่สามารถนำออกมาวางขายได้ แต่เนื่องจากเก้ามีความสนิทสนมกับร้านนี้เป็นอย่างดี จึงติดต่อกันอย่างลับๆได้ เมื่อได้ยาตัวนี้มาแล้ว เก้าก็รีบกลับมายังร้านอาหารร้านเดิม เพื่อไปกินข้าวกับนิด เพราะเหตุที่นิดเป็นหญิงสาวที่น่าตาดี แล้วมีคนมาจีบเยอะแยะ แต่เก้าก็ไม่ได้รักเธออย่างแท้จริง เพราะที่แท้เก้าต้องการแค่ความใคร่เท่านั้น ไม่มีอะไรนอกจากนั้น..............................

 

“พี่กลับมาแล้วจ๊ะ เป็นไงมั่ง รอนานรึเปล่า สั่งอะไรทานยัง”

“กว่าจะมานะคะพี่ นิดรอจนเหนื่อยแล้ว พี่ไปทำอะไรอยู่หรือคะ” เธอถามอย่างสงสัย

“เอ่อ...... พอดีพี่ท้องเสียนิดหน่อยน่ะ กะว่าจะฉี่ แต่พอไปถึงมันดันปวดซะนี่ ฮ่าๆๆ”

“โธ่พี่ พูดอะไรไม่รู้ เดี๋ยวอาหารกร่อยหมดพอดี” เธอค้อน

“เอ้า......ก็คุณน้องถามไม่ใช่เหรอ ฮะ ฮ่าๆๆ”

“อืมๆๆ งั้นรีบกินสิคะ เนี่ยกำลังร้อนๆเลย เดี๋ยวเย็นหมด”

“จ้าๆๆๆ”

 

     ทั้งสองกินอาหารกันเรื่อยๆ จนกระทั่งเกือบๆ 2 ทุ่มแล้ว เสียงโทรศัพท์ของนิดก็ดังขึ้น เพราะตอนนี้ค่ำแล้ว ทางบ้านของนิดจึงโทรหา เพราะนิดยังไม่กลับบ้าน ตั้งแต่เลิกเรียน..........

 

“พี่เก้าคะ ขอตัวแป้บนะคะ โทรศัพท์” ว่าแล้ว เธอจึงรีบลุกจากไป

“รีบมานะ” เก้าตะโกนไล่หลัง

 

     เมื่อสบโอกาสเหมาะเก้าก็ไม่รอช้า รีบล้วงเอายาชนิดดังกล่าวออกมา แล้วค่อยๆเทลงในแก้วน้ำ แล้วคนให้ละลายกับน้ำช้าๆ จนทั้งสองสิ่งหลอมรวมกลายเป็นสภาพเดียวกัน ยาชนิดนี้มีความพิเศษอยู่ที่การที่มันไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีรสชาติด้วย ดังนั้นจึงจับพิรุธไม่ได้เลยง่ามีมันเจือปนอยู่ กว่าเธอจะมากเก้าก็ทำทีว่ากินอาหารต่อจนเกือบจะหมดจานแล้ว เมื่อเธอมาถึงเก้าก็ทำเป็นถามว่า

 

“เป็นไงบ้าง ใครโทรมาหรือ”

“ที่บ้านเค้าโทรมาหาน่ะค่ะ ว่าทำไมยังไม่กลับบ้าน”

“แล้วนิดตอบว่าไงล่ะ”

“นิดก็ต้องโกหกอีกละสิคะ ว่าทำรายงานอยู่กับเพื่อน บอกว่าจะกลับสัก 4 ทุ่มน่ะค่ะ”

“อืม งั้นมาๆๆ รีบมากินต่อซะ เดี๋ยวพี่จะพาไปส่งแล้ว”

“ก็ได้ค่ะ” ว่าแล้วเธอก็เดินกลับมานั่ง แล้วกินอาหารต่อ

 

     กินไปได้สักพัก เธอก็รู้สึกหิวน้ำเนื่องจากอาหารที่เธอสั่งมานั้นมีรสจัดมาก เธอจึงหยิบแก้วน้ำดังกล่าวขึ้นมากิน เมื่อกินเสร็จ ก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่เก้าก็เสร็จด้วยเช่นกัน ทั้งสองจึงเช็คบิล แล้วออกจากร้านมา เดินกันมาไม่ทันจะถึงรถยาตัวดังกล่าวก็ออกฤทธิ์ทันที นิดมีความรู้สึกเหมือนกับว่า รอบๆข้างเธอตอนนี้หมุนติ้ว เธอมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง แล้วไม่ช้า เธอก็ล้มลง แต่ไม่ทันที่จะถึงพื้น เก้าซึ่งคอยดูท่าทีอยู่ก่อนแล้ว ก็รีบพุ่งเข้าไปประคอง แล้วแสร้งถามว่า “คุณๆๆ เป็นอะไรรึเปล่า ไปๆเดี๋ยวผมอุ้มไปที่รถนะ” นิดตอนนี้เธอไม่มีสติแล้ว และไม่รู้ชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าว่าเป็นอย่างไร....................

 

     เก้า เมื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นไปตามแผนการที่คิดอยู่ในใจ ก็อุ้มร่างอันไร้สติของนิดตรงไปยังรถ แล้วรีบขับรถออกไปยังที่แห่งหนึ่ง เพื่อทำการตามแผน.................

 

     มาถึงป่าละเมาะ ริมทางเข้าสถานีมูลนิธิกู้ภัย มันมีทางแยกเล็กๆเข้าไปในป่านั้น ซึ่งก็เป็นทางที่เก้าสร้างขึ้นเอง เพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพราะนิสัยของเก้านั้นเป็นคนโผงผาง ไม่ยอมใคร และค่อนข้างจะโรคจิตด้วย แต่นิสัยทั้งหมดนี้ เขาเพิ่งเป็นเพราะ เมื่อหลายปีก่อนเขาถูกผู้หญิงหักอก แล้วทิ้งไปอยู่กับผู้ชายคนใหม่โดยเขาไม่สามารถทำอะไรได้ ตั้งแต่นั้นนิสัยของเขาก็เปลี่ยนไป เก้าเดินอุ้มร่างที่ไร้สตินี้เรื่อยๆ จนเข้าไปลึกพอสมควรแล้ว เก้าก็ค่อยๆถอดเสื้อของเธอออก และถอดส่วนอื่นตามลำดับจนหมดแล้วเก้าก็ข่มขืนเธอ เมื่อทำไปได้สักพัก นิด....เด็กสาวผู้ที่ถูกหลอกก็ค่อยๆรู้สึกตัว เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองในขณะนั้น ก็พยายามขัดขืน และตะเบ็งเสียงอย่างสุดเสียงเพื่อให้คนมาช่วยแต่เธอไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เธออยู่ไหน เธอพยายามรวบรวมแรงแล้วตะโกน จนกระทั่งเก้าทนไม่ไหว เขาก็คว้าเอามีดที่เหน็บอยู่ที่ข้างหลังเขาออกมา แล้วแทงสวบ!!! เข้าที่ชายโครง และอีกสวบ!!! ที่จุดอื่นๆอีกหลายจุดจนร่างที่เขาข่มขืนนี้มีแผลเหวอะหวะไปทั่ว ไม่ถึง 5 นาที ร่างดังกล่าวก็สิ้นใจ เก้าเมื่อทำลงไปแล้วก็หยิบมีดยัดเข้าใส่ในมือของเธอ แล้วก็ใส่เสื้อผ้าให้เธอเหมือนเดิม เพื่อทำลายหลักฐาน และเพื่อให้เหตุการณ์นี้ดูเหมือนการฆ่าตัวตายมากที่สุด..............

..........................................................................................................

 

     เก้าเมื่อวางสายจากต้นน้องชายแล้ว ก็รีบชวนกล้าเพื่อออกรถไปทันที ตอนนี้ฝนหยุดตกแล้ว แต่บรรยากาศก็ยังอึมครึม บนพื้นถนนยังเจิ่งนองไปด้วยน้ำ กล้าจึงเหลียวไปดูนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังว่าเป็นเวลาเท่าไรแล้ว ปรากฏว่า ตอนนี้เกือบๆจะตี 2 แล้ว ทั้งสองจึงรีบเดินไปที่จอดรถ เพื่อสตาร์ทรถของมูลนิธิ...............

 

‘บรืนๆๆๆ’ เสียงกล้าเหยียบคันเร่งรถ

“เร็วๆสิวะ น้องกูกำลังคอยอยู่นะโว้ย รีบๆหน่อย” เก้ารีบสำทับมา

“เออๆนี่กูกำลังรีบอยู่คอยให้เครื่องรถมันร้อนกว่านี้หน่อยสิวะ อากาศเย็นๆมันวิ่งไม่ค่อยดี”

“ไปได้แล้ว” เก้าบอก

“เออๆๆ” กล้าตอบ

 

     รถของมูลนิธิคันของกล้าค่อยๆออกตัวช้าๆเพื่อเลี้ยวออกจากสถานี ซึ่งทางยังไม่ค่อยได้รับการพัฒนามากนัก ผ่านออกมาจากหน้าสถานีแล้ว กล้าก็เหยียบคันเร่งอย่างแรงทันที เพื่อให้สมความต้องการของเก้า รถขับไปเรื่อยๆผ่านป่าละเมาะ ซึ่งเป็นที่ซึ่งเคยมีเหตุการณ์ๆหนึ่งเกิดขึ้น คนที่กระทำย่อมรู้ดี แต่คนขับอย่างกล้าไม่รู้อะไรเลย เมื่อขับสถานที่ดังกล่าวผ่านสถานที่ดังกล่าวไป จู่ๆเก้าก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา แล้วหันมาสะกิดเพื่อนที่กำลังขับรถอยู่แล้วกระซิบว่า

 

“เฮ้ย ไอ้กล้า เอ็งรู้สึกเหมือนกูรึเปล่าวะ” เก้าเริ่มถาม

“รู้สึกอะไรวะ กูไม่เห็นรู้สึกอะไรเลยว่ะ” กล้าตอบ

“จริงหรือ กูรู้สึกเสียวสันหลังยังไงไม่รู้ว่ะ”

“อย่าบอกนะว่ามึงเห็นผีอีกแล้ว กูขี้เกียจคอยให้มึงฟื้นอีกนะเว้ย”

“เปล่าๆ กูไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้นแหละ แต่มันเสียวๆยังไงไม่รู้”

“เออๆ”

 

     แล้วเมื่อรถออกมาสู่ถนนใหญ่แล้ว กล้าก็เหยียบคันเร่งเต็มที่มุ่งตรงไปยัง บขส. ตอนนี้เวลาเกือบจะ ตี 4 ครึ่งแล้ว และแล้ว ในเวลาที่ไม่ถึง 30 นาทีถัดจากนั้น ทั้งสองก็มาถึงหน้า บขส. สมดังความคาดหมาย เมื่อไปถึงก็เห็นต้นยืนคอยอยู่ก่อนแล้ว แต่เขายังไม่เห็นจึงยืนชะเง้อมองหารถคันดังกล่าวอยู่ แต่คนในรถทั้งสองได้เห็นต้นแล้ว เก้าจึงสั่งให้กล้ารีบตรงเข้าไปจอดที่หน้าท่ารถทันที

 

“เฮ้ยๆ ไอ้น้องเป็นไงบ้างสบายดีรึเปล่า” เสียงตะโกนทักทายดังโหวกเหวกจากในรถ แต่ต้นยังไม่รู้ว่าใครเป็นใคร จึงรีบหันมาทางต้นเสียง

“เอ้านั่นๆ มันยังไม่เห็นเอ็งอีก เรียกให้ดังอีกสิวะ” กล้าแสร้งบอกมา

“เฮ้ยๆ ไอ้ต้น เป็นไงบ้างวะ” กล้าตะโกนคำเดิมแต่ใช้เสียงดังว่าปกติ

“เอ้าพี่ นึกว่าใครที่แท้ก็พี่เก้านี่เอง นึกว่าใครเรียก สวัสดีครับ เป็นไงบ้างครับ สบายดีรึเปล่า” ต้นส่งเสียงทักทายบ้าง เมื่อเห็นเป้าหมายแล้ว

“เออๆ ก็สบายดีแล้วเอ็งล่ะ”

“ก็สบายดีครับ แต่ก่อนมาที่นี่น่ะสิครับ เกิดเรื่องนิดหน่อย”

“เกิดอะไรขึ้นวะ” เก้าถามด้วยความสงสัย

“อ๋อ เรื่องมันยาวน่ะครับ เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง”

“เออๆ งั้นขึ้นรถ เอ็งคงคอยอยู่นานแล้วสินะ มาๆๆๆ”

“ครับ ค่อยน่ะไม่นานหรอกครับ แต่น่าเบื่อตรงที่ฝนก็ตก แล้วต้องมายืนอยู่คนเดียวอย่างนี้อีก คนก็ไม่มีวังเวงยังไงชอบกลน่ะครับ” ต้นตอบ

“งั้นไปๆ เร็วเข้า ดูท่าว่าจะมาอีกระลอก”

“อะไรหรือครับ” ต้นถามด้วยความสงสัย

“จะอะไรอีกล่ะ ก็ฝนไงเล่า รีบๆหน่อย” กล้าแซมขึ้นมา

“ครับๆ งั้นไป”

 

     ว่าแล้วทั้งหมดก็ออกรถจาก บขส. มุ่งสู่สถานีของมูลนิธิทันที แต่ก่อนที่จะออกไปนั้น โดยที่ทั้งสามไม่ทันสังเกต ที่เก้าอี้คอยรถของ บขส. ปรากฏร่างๆหนึ่งนั่งอยู่ ร่างนั้นค่อยๆแสยะยิ้มออกมาช้าๆอย่างน่าสยดสยอง เนื้อตัวของเค้า มีเลือดกระกรัง ค่อยๆมองตามหลังรถคันนั้นออกไปช้าๆ......................

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา