นิยายรักสุดโรแมนติก

-

เขียนโดย เจ้าคำเบียร์

วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553 เวลา 16.20 น.

  1 ตอน
  10 วิจารณ์
  4,698 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) เจ้าหญิงเมี่ยงหยา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

     ณ ดินแดนอันแสนอบอุ่น และเต็มไปด้วยน้ำใจไมตรี ที่แห่งนี้เอง ที่ที่เป็นซึ่งที่พักกาย ที่พักใจ ของเขา ดินแดนที่เต็มไปด้วยเพื่อนบ้านที่แสนดี มีน้ำใจ และความปรองดอง เขาเองก็รู้สึกเช่นนี้ตั้งแต่ก้าวเข้ามาเมื่อครั้งสมัยยังเด็ก ในความทรงจำของเขายังจำ ภาพเหล่านั้น ได้แม่นยำยิ่งนัก ราวกับว่ามันผ่านมาแล้วเพียงเมื่อวาน ภาพหญิงวัยกลางคนที่ถือข้าวของรุงรัง พร้อมกับเด็กน้อยที่ถือกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอเอง หนึ่งใบ เดินมาขึ้นรถ เพื่อไปต่อรถไฟในตัวอำเภอ

“ขะใจ๋ไปเวยๆ เตอะ จั๋นหอม เดวจะขึ้นรถ บ่ะตันเน้อ”

สตรีวัยกลางคน ดูมีสง่า ราศี กล่าวด้วยเสียงอัน เฉียบขาดหนักแน่น แต่ทว่าในแววตา กลับเศร้ามอง

 

“ไปเตอะลูก แหมบ่อกี่วัน แม่จะโตยไปเน้อ ฮักษาเนื้อ ฮักษาตั๋วหื้อดีเน้อลูก ถ้าแม่เสร็จธุระตางนี้แล้ว แม่จะโตยไปหื้อเวยตี้สุดเน้อ ฟังกำ จั๋นหอม ตวยเน้อลูก”

เด็กน้อย ยืนน้ำตาคลอ เมื่อได้ยินที่แม่กล่าวมาเช่นนี้ เพราะในใจเขา คิดว่า แม่จะเดินทางไปด้วย เขาจึงโผเข้ากอดสตรีผู้นี้ด้วยความกลัวที่จะต้องจากลากันไปยังดินแดนที่ไม่รู้จัก

 

“แม่สัญญา ลูกบ่ะถ้ากั๋วเน้อ แม่ตึงจะตวยไป จั๋นหอมก่ออยู่ลอ เน้อ คนดีของแม่”

เด็กน้อยจึงคลายจากอ้อมกอดของแม่ แล้วร้องไห้ด้วยความอาลัยต่อสตรีผู้นี้ อย่าทรมานใจเหลือเกิน ทำให้พี่เลี้ยง และข้าราชบริพาร มองดูด้วยความหดหู่ใจ บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความสงสารออกมาโดยไม่รู้ตัว

             ภายในคุ้มหลวง เจ้าศรีอโนชา เจ้าผู้ครองเมือง เชียงคำ ทรงว้าวุ่นพระทัยเป็นอย่างมากกับเรื่องที่หลานสาวของตนจะต้องเดินทาง ออกจากคุ้มหลวงเพื่อไปอยู่ ดินแดนอันไกลโพ้น เพราะเรื่องของความไม่สงบทางการเมือง ของเมืองเล็กๆแห่งนี้ ที่ถูกกุมอำนาจโดยหัวเมืองฝ่ายใต้ ทำให้บัลลังก์ของราชวงศ์เชียงคำ สั่นคลอน จึงต้องลี้ภัยพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ ออกจากพื้นที่เมืองเชียงคำเป็นการกระทันหัน

 

“ส่งคนไปตวยเมี่ยงหยา กี่คน แสงคำ”

เจ้าศรีอโนชา รับสั่งถาม เจ้าแสงคำลูกสาวของตน

 

“คนเดียวเจ้า เจ้าป้อ ลูกกั๋วจะเป๋นตี้สังเกตุ กะเลยหื้อจั๋นหอมปาไปคนเดียวก่อนเจ้า”

 

“อืมดีล่ะลูก ถ้าเสร็จก๋านตางนี้ หื้อลูกขะใจ๋ไปตวยหาเมี่ยงหยาเลยเน้อ ป้อกั๋วว่าเมี่ยงหยาจะกั๋วเน้อลูก แล้วหื้อเอา คนไปแหมสักสองคน หื้อลูกกับเมี่ยงหยา เอาไว้ใจ้เน้อ”

เจ้าศรีอโนชากล่าวด้วยความห่วงหาอาลัย ในตัวหลานสาวของตน

 

“บ่ะเป๋นหยังก้าหาเจ้า เจ้าป้อ จั๋นหอมคนเดียวก่ะปอล่ะเจ้า เดวจาวบ้านจะสงสัยเอาเจ้า

 

“อืม จะอั้นก่ะต๋ามใจ๋ลูกเน้อ ขาดเหลืออะหยังก่ะหื้อบอกป้อเน้อลูก”

 

        ณ เมืองเชียงใหม่ บรรยากาศครึกครื้น เต็มไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของ ที่ตลาดวโรรส กันวุ่นวายดีนัก ทำให้ จันทร์หอม พี่เลี้ยงของเมี่ยงหยา ผู้เคยมาเที่ยวตลาดวโรรส ครั้งที่เจ้าแสงคำยังเป็นสาวรุ่นอยู่ ขณะนั้น จันทร์หอม อายุก็รุ่นราวคราวเดียวกันกับ เจ้าแสงคำ แม่ของเมี่ยงหยาเอง

 

            จันทร์หอม เป็นชาวเชียงตุงเดินทางมาค้าขายกับพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก สิ่งของที่พ่อและแม่ของจันทร์หอมนำมาขายในเมือง เชียงคำนั้น เป็นเสื้อผ้า แพรพรรณ มากมายหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งผ้าทอเมืองน่าน หม้อฮ่อมเมืองแพร่ ผ้าทอเมืองฮอด และผ้าซิ่นตีนจกเมืองแจ่ม(แม่แจ่ม) ครอบครัวของจันทร์หอม ถือว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะดีครอบครัวหนึ่ง ในเมืองเชียงตุง ก็ว่าได้ แต่ครั้งที่ เงี้ยวมารุกรานเมืองเชียงตุง พ่อและแม่ของจันทร์หอม จึงย้ายครอบครัวพร้อมจันทร์หอม มาอยู่ที่เมืองเชียงคำ และดำเนินงานค้าขายเช่นเดิม แม่ของจันทร์หอม ชอบนำเสื้อผ้า อาภรณ์ รูปแบบใหม่ๆ เข้ามาให้เจ้าศรีคำมา เจ้าแม่ของเจ้าแสงคำเป็นประจำ ที่คุ้มหลวงเมืองเชียงคำ ทุกครั้งก็จะหอบหิ้วเอาจันทร์หอมเข้ามาทุกครั้ง จันทร์หอม และเจ้าแสงคำ ขณะนั้นยังเด็กซึ่งอายุก็รุ่นราวคราวเดียวกันด้วย เมื่อเจ้าแสงคำอยู่ในคุ้มก็หาได้มีเพื่อนไม่ เมื่อจันทร์หอมเข้ามาเจ้าแสงคำจึงมีเพื่อนเล่น และเจ้าศรีคำมาก็ชอบที่จันทร์หอมเป็นเพื่อนเล่นกับลูกของตน เจ้าแสงคำ และ จันทร์หอมจึงนับว่าเป็นมากกว่านายกับบ่าวทั่วไป ทำให้เมี่ยงหยาที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กเรียกจันทร์หอมว่าแม่จั๋น

      พอถึงคราวหนึ่ง จันทร์หอมอายุได้ ประมาณ 15 ปี พ่อและแม่ของจันท์หอม เดินทางไปหาซื้อผ้า มี่เมืองยอง ระหว่างทางทั้งสองได้ถูกโจรเสือปั๋น ได้ดักซุ่มอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ได้ลอบปล้นทั้งสอง พ่อของจันทร์หอมได้ต่อสู้กับเสือปั๋นจนสิ้นชีวิต ส่วนแม่ของจันทร์หอมได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านเมืองยอง และเมื่อคนส่งข่าวไปยังราชสำนักเมืองเชียงคำ เจ้าศรีคำมาก็เสียพระทัยเป็นอย่างยิ่ง ได้รับสั่งให้ คนไปตามจันทร์หอมและแม่ เข้ามาอยู่ในคุ้ม และให้ทั้งสองถวายตัวรับใช้อยู่ในคุ้มหลวง จนแม่ของจันทร์หอมเสียชีวิตด้วยไข้ป่า เมื่อตามเจ้าศรีอโนชา และเจ้าศรีคำมาเมื่อไปหัวเมืองเชียงแสนทำให้เจ้าศรีคำมาเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่ง ที่เสียเพื่อนรักไป...

 

     บรรยากาศภายในตลาด ผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของ ต่างเดินกันขวักไขว่ เลือกซื้อหาของกินของใช้สำหรับที่ตัวเองต้องการ ผู้คนที่มากมายเช่นนี้ กลับทำให้ เมี่ยงหยา เด็กน้อย รู้สึกตื่นเต้น และประหลาดใจยิ่งนัก เพราะตั้งแต่เกิดมา เมี่ยงหยาเอง ยังไม่เคยเห็นบรรยากาศนอกคุ้ม เช่นนี้มาก่อน

 

      “แม่จั๋น เฮาจะไปตางใดเจ้า”

เมี่ยงหยากล่าวถาม จันทร์หอม เมื่อเห็น นางทำหน้าตาเลิ่กลัก

 

      “เอ่อ.........จั๋นหอม ว่า เฮาลองเตวไปตางนี้บ๋อ เจ้านางน้อย”

จันทร์หอมกล่าวบอก เมี่ยงหยา ไปโตยที่ตนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปทางไหนต่อ เพราะครั้งสุดท้ายที่มาเที่ยว ตลาดวโรรสกับเจ้าแสงคำ จันทร์หอมอยุได้ 26 ปี แต่บัดนี้นางอายุ 45 ปีแล้ว นับเป็นเวลากว่า 19 ปีผ่านมาแล้ว นางก็คงจำทางไปไม่ถูกเหมือนกัน

 

      “แม่ก้าเจ้า แม่ก้าเจ้า ตางไปคุ้มเจ้าปิมปา(พิมพา)ไปตางใดเจ้า”

จันทร์หอมกล่าวถามแม่ค้าในตลาดวโรรส ถึงทางไปบ้านเจ้าพิมพา เพื่อไปค้างคืนตามที่เจ้าแสงคำได้แจ้งไปแล้วล่วงหน้า เพราะจันทร์หอม และเมี่ยงหยา ไม่ทราบว่าบ้านเจ้าพิมพาอยู่แห่งหนตำบลไหน ในเมือง เชียงใหม่

 

        “อี่นาย เตวซื่อไปตางวันตก เลาะกิ่วหน้อยขึ้นไปต๋ามฮิมน้ำปิง อยู่

ตี๋นขัวนวรัฐ(เชิงสะพานนวรัฐ) บ้านหลังใหญ่ๆ ฮั้นนะก่า โป้ดโทะ อี่นายอยู่บ้านไหนเมืองไหน บ่ะฮู้จักบ้านเจ้าปิมปา อี่นาย เหย”

 

แม่ค้าบอกทางพร้อมกับบ่น ให้จันทร์หอม ว่าเป็นคนที่ไหน ทำไมไม่รู้จักบ้านเจ้าพิมพา จันทร์หอมยิ้มปนหัวเราะกับแม่ค้า และพร้อมกับกล่าวขอบคุณ แม่ค้าด้วย

        “ยิ้นดีจาดนักเน้อเจ้าปี้สาวคนงาม

แม่ค้าผู้สูงวัย อายุอานามราวๆ 70 กว่า ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความเขินอาย พร้อมทั้งส่งสายตาหวานให้ทั้งสอง เพราะตั้งแต่ไหนมา ไม่เคยมีคนรุ่นอายุประมาณจันทร์หอม เรียกแกว่าพี่สาวเลย อีกทั้งจันทร์หอมยังกล่าว่า “คนงาม” อีก ทำให้แม่ค้ายิ้มจนเห็นฟันหลอของแกเอง และยังดำมะเมื่อมเพราะยางสนที่ใช้ขัดฟันมาตั้งแต่สาวรุ่น ทำให้ เมี่ยงหยาเอง อดขำไม่ได้ เมี่ยงหยาได้แต่เอามือกุมปากไว้ ไม่ให้แม่ค้าเห็นกลัวถูกว่า ทำให้จันทร์หอม รีบจูงมือเมี่ยงหยา ออกมานอกตลาด ทั้งคู่จึงระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง พอได้ยินกันสองคน

            

            *** อ่านแล้วอย่าลืม โหวตเป็นกำลังใจด้วยนะคะ

เรื่องนี้เอง แต่งเป็นครั้งแรกในชีวิตนะคะ อยากรู้ว่าผู้อ่านมีความคิดเห็นอย่างไร และอยากติดตามอ่าน มากน้อยเพียงใด นะคะ ถ้าเกิดว่าท่านอ่านแล้วมีข้อแนะนำหรือ อยากอ่านต่อมากน้อยเพียงใด ทางผู้แต่งจะพิจารณา เอามาลงตามความเหมาะสมอีกที ขอบพระคุณคะ

                                         เจ้าคำเบียร์ ณ ท่ากอม่วง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา