พิศวาสสีชมพู

9.2

เขียนโดย plaayfah

วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553 เวลา 10.20 น.

  13 ตอน
  24 วิจารณ์
  19.44K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ตอนที่ 3 จบตอนค่ะ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ทางฝั่งชายหนุ่มที่เอ่ยปากออกไป กลับนึกสงสัยตัวเองขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ทำไมเขาถึงยอมให้หญิงสาวแปลกหน้าเข้ามามีอิทธิพลกับความรู้สึกของเขา เพียงแค่เห็นสายตากับสีหน้าที่แสดงออกถึงความผิดหวัง แค่นั้นก็ทำให้เขาก็รู้สึกอดสงสารไม่ได้ ทั้งๆที่เขาไม่เคยให้ความสำคัญกับความรู้สึกของผู้หญิงคนไหนมาก่อน ทั้งๆที่บอกกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา ว่าผู้หญิงทุกคนล้วนแต่เสแสร้ง แกล้งแสดงละครตบตาเพียงเพราะอยากอยู่กับเขา บางคนต้องการเงิน บางคนต้องการชื่อเสียง และเขาก็จัดการกับสิ่งเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย หากแต่สาวน้อยคนนี้ ทำไมเขาถึงใจอ่อน ยอมให้เข้ามาใกล้ จนกระทั่งถึงเวลานัดหมายจึงเห็นสาวน้อยเมื่อเช้าในชุดเดิมทำให้เขาต้องสาวเท้าก้าวเข้าไปหาอย่างไม่เร่งรีบ

 

“พิมพ์ ยังอยู่อีก นึกว่ากลับลงไปแล้ว” เขามาช้ากว่าเวลาที่บอกไว้ในตอนแรก เพราะอยากรู้ว่าเธอจะทำอย่างไร หากถึงเวลานัดแล้วเขายังไม่มา ทั้งที่จริงแล้ว เขามาถึงพร้อมๆกับเธอ หากแต่กลับไปนั่งหลังต้นไม้ ในมุมที่สามารถมองเห็นหญิงสาวได้ชัดเจน หากแต่อีกคนจะมองไม่เห็นเขาเลย

 

“อ้าว ก็พี่ซันบอกให้มา ถ้ายังอยากเจอ พิมพ์อยากเจอก็มา”

 

“แต่พี่มาช้าไปตั้งเกือบครึ่งชั่วโมงนะ” เขายังเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อน

 

“พี่ซันบอกจะมา พิมพ์ก็เชื่อว่าพี่ซันจะมา พิมพ์ก็เลยรอ” คำตอบที่ไม่ถามถึงเหตุผลที่เขามาช้านั้น ทำให้เขามองผู้หญิงคนนี้แปลกไปก่อนจะเอ่ยสิ่งที่ทำให้อีกฝ่ายงงไม่น้อย

 

“เอาโทรศัพท์มาหรือเปล่า” ตอนได้ยินคำถาม หญิงสาวถึงกับงง หากแต่ก็พยักหน้าตอบก่อนที่จะหยิบออกมาส่งให้เมื่อเห็นเขาแบมือรอรับ

 

ดาราหนุ่มไม่เอ่ยอะไรเมื่อได้ของที่ต้องการมา หากแต่กดนั่นนี่อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นส่งคืนให้เจ้าของ ก่อนจะเอ่ย

 

“เบอร์โทรเครื่องส่วนตัวพี่ อย่าให้ใคร อย่าโทรถ้าไม่มีธุระ” เขาเอ่ยสั้นๆ หากแต่ไม่ได้มองสบตาคนฟังว่าจะรู้สึกเช่นไร หากแต่คนรับกลับงุนงง เมื่อเขาให้ในสิ่งที่ตนไม่ได้ขอ ไม่ได้คิดต้องการ

 

แต่ที่เหนือกว่าอื่นใด หญิงประหลาดใจเป็นที่สุด เธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆ ที่ไม่ได้บ้าดาราอย่างสาวๆทั่วไป ไม่ได้คลั่งไคล้จนถึงขนาดขอถ่ายรูปมาเพื่อเชยชม หากแต่อยู่ดีๆ เธอตัดสินใจเดินทางมาภาคเหนือเพียงลำพัง เพียงเพราะต้องการอยากพักผ่อนเพียงแค่สองสามวัน ก่อนจะถึงฤดูการสอบที่กำลังจะมาถึงช่วงปีใหม่ เธอมาเพราะคิดว่าจะไม่เจอคนรู้จักเพราะไม่ใช่ช่วงเทศกาลที่ใครๆนิยมมากัน หากแต่แล้วเธอกลับได้เจอชายหนุ่มที่เชื่อได้ว่ามีสาวๆเกินครึ่งประเทศใฝ่ฝันอยากเจอ นอกจากเจอแล้ว เธอยังได้นั่งพูดคุยกับเขาเป็นเวลานาน แต่ที่สำคัญที่สุด นี่เธอเพิ่งจะได้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวโดยไม่ได้ร้องขอ

 

คนให้ก็เงียบลงเหมือนอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง นานจนรู้สึกถึงเสียงท้องที่ร้องประท้วงอาหาร จนต้องเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบอีกครั้ง

 

“พี่จะไปหาอะไรทาน หิวหรือยัง” ดาราหนุ่มเอ่ยก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นดินที่ติดกางเกงขายาว

 

“นิดหน่อยค่ะ เมื่อเช้าพิมพ์ทานมาบ้างแล้ว” เมื่อเห็นเขาลุก เธอจึงลุกบ้าง

 

“พี่จะออกจากที่นี่เลย ไปด้วยกันไหม พี่ไปส่ง” ซันเอ่ยขณะออกเดินช้าๆ ก้าวนำหญิงสาวเพื่อกลับสู่ทางเดินไปยังตัวบ้านพัก

 

“ก็ดีค่ะ พิมพ์ว่าจะเข้าเมืองซื้อของฝาก แล้วจะได้กลับโรงแรมเตรียมตัวกลับ” เดินตามหลังเข้าไป พรางเอ่ยตอบ แต่ไม่รู้ตัวเลยว่า คนเดินนำข้างหน้าจะก้าวไปยังทิศทางใด เพราะมัวแต่สนใจวิวทิวทัศน์รอบๆตัว มารู้ตัวอีกที ก็เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอกับบ้านพักของเขา

 

“รออยู่นี่แหละ พี่เอาของแล้วไปกัน” หลังจากได้กระเป๋าเสื้อผ้าแล้วเดินนำกลับมายังรถยนตร์ส่วนตัว Lexus สีดำคันโปรดที่เขามักใช้ยามเดินทางไปต่างจังหวัดไกลๆ .

 

ทั้งคู่พากันแวะเที่ยวตามสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็น ถ้ำปลา ปางอุ๋ง เป็นเพราะความเข้ากันได้ดี และไม่ทำตัวน่ารำคาญของสาวน้อย และอากาศเย็นๆ ไม่วุ่นวายของบ้านเมือง ทำให้ดาราหนุ่มคนดังรู้สึกเพลิดเพลิน และแวะแต่ละที่ ให้สาวน้อยได้เก็บภาพบรรยากาศในแต่ละที่อย่างสนุกสนาน ก่อนที่จะแวะรับประทานอาหารริมทางง่ายๆ แล้วจึงไปส่งสาวน้อยหน้าโรงแรมที่เธอพัก และแยกกันไปตามความต้องการของแต่ละคน และหลังจากกลับมาแล้ว ต่างก็ดำเนินชีวิตไปตามวิถีชีวิตของตัวเอง ทำเหมือนลืมกันไป ว่าต่างก็มีเบอร์ติดต่อของกันและกัน

 

จนกระทั่งเวลาผ่านไป จนถึงวันนี้ นับได้ไม่กี่ครั้งที่สาวน้อยจะติดต่อมาหาเขา และเขาก็จำครั้งแรกได้เป็นอย่างดี เพราะอาการตื่นเต้นที่จับได้อย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากเขากดรับสาย

 

“พี่ซันหรือเปล่าคะ พิมพ์นะคะ จำได้หรือเปล่าคะ” เสียงสั่นๆที่ดูเหมือนเจ้าตัวพยายามจะทำให้นิ่งที่สุด

 

“ถ้าเป็นคนเดียวกับคนที่ไปเที่ยวเหนือคนเดียว พี่ก็จำได้” เขาตอบยอกย้อนกลับไป ทั้งๆที่เพิ่งจะหงุดหงิดกับความไม่ได้ดั่งใจผู้ร่วมแสดงละครเมื่อครู่

 

“คนเดียวกันคะ พี่ซันยุ่งหรือเปล่าคะ” คำตอบที่ดูจะละล่ำละลักตอบ ทำให้คนฟังถึงกับอดยิ้มเอ็นดูไม่ได้

 

“ยุ่ง โทรมามีอะไรหรือเปล่า” คำตอบห้วนดุ ทำเอาคนโทรแทบจะร้องไห้ ก่อนจะเอ่ยตอบ

 

“ถ้าอย่างนั้น พิมพ์ไม่รบกวนแล้วค่ะ แค่นี้นะคะ” หญิงสาวตั้งใจจะวางสาย หากไม่ได้ยินประโยคถัดไป

 

“มีธุระอะไรก็ว่ามา คุยได้ไม่นานนะ” เสียงแข็งๆเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

 

“คือ พิมพ์ไม่อยากรบกวนพี่ซัน พิมพ์เกรงใจ” แม้จะอยากคุยด้วยแค่ไหน หากแต่คำว่า “ยุ่ง” เมื่อครู่ที่เขาเอ่ยตอบก็ทำให้เธออดจะเกรงใจไม่ได้

 

“ทีหลัง ถ้าไม่มีธุระก็อย่าโทรมา เคยบอกแล้วนะ” เสียงที่ค่อนข้างดุเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อเจ้าตัวเริ่มมีอาการหงุดหงิดขึ้นมา ก็ทำให้ฟังดูค่อนข้างจะน่ากลัวอยู่ไม่น้อย หากแต่ไม่ใช่สำหรับเธอ

 

“พิมพ์มีธุระอยากปรึกษา แต่พี่ซันยุ่งพี่ก็แค่ไม่อยากรบกวน ไม่ได้โทรมาเฉยๆสักหน่อย” เธอทนไม่ได้ ถ้าหากใครจะมาเข้าใจเธอผิด

 

“งั้นก็ว่ามา ถ้าคุยไม่ได้จะไม่รับ” จากนั้นคนโทรก็เลยต้องเอ่ยปากบอกธุระที่ว่า ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆ เพราะสิ่งที่เธอต้องการนั้น คือหาที่ฝึกงาน เพราะปิดเทอมนี้ ภาควิชาที่เธอกำลังศึกษาอยู่นั้น จำเป็นต้องฝึกงานจึงจะสามารถยื่นเรื่องขอจบการศึกษาได้ และเธอก็ไม่รู้จะทำที่ไหนดี หรืออีกแนวหนึ่งคือ ไม่รู้จะเลือกที่ไหนดี เธออยากได้ที่ที่จะได้ทำงานจริงๆ ไม่ใช่แค่เดินถ่ายเอกสารหรือส่งเอกสารเท่านั้น และเขาก็ให้คำปรึกษาและแนะนำไปพอสมควร และหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ติดต่อกันบ้าง ตามแต่โอกาสและความสัมพันธ์ก็เดินหน้ามากขึ้น ทั้งสองสนิทสนมกัน เจอกันบ้างตามโอกาส หากแต่ทั้งสองก็รู้ดีว่าอยู่ในฐานะอะไร

 

พิมพ์นภา อิฐฐิกุล หญิงสาวนักศึกษา ด้วยรูปร่างผอมบาง หน้าตาสวยคมเหมือนแขก และความสามารถทั้งด้านการเรียนด้วยเกรดเฉลี่ยสูงลิ่ว และความสามารถรอบด้าน ทำให้เธอได้รับคัดเลือกจากทางคณะบริหารธุรกิจที่เธอศึกษาอยู่ ให้หลายๆงาน และที่สำคัญ เธอได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยในการเข้าโครงการต่างๆมากมาย รวมทั้งกิริยามารยาทที่ไม่ถือตัว นอบน้อม ร่างเริง จนเป็นที่รักใคร่ทั้งจากเพื่อนๆพี่น้องๆร่วมรุ่นไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย

 เธอเป็นน้องสาวคนเดียวของนางแบบสาว แพรวนภัส อิฐฐิกุล หากแต่น้อยคนนักที่จะรู้ เพราะทั้งคู่ไม่เคยออกงานคู่กัน เรื่องจะไปไหนมาไหนด้วยกันก็นับครั้งได้ ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนไม่รักกัน หากแต่เพราะอาชีพของพี่สาวที่ทำงานหนักแทบตลอดเวลา หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เพราะต้องการลดภาระของบุพารีทั้งสองที่อยู่ต่างจังหวัด ค่าใช้จ่ายของเธอจึงเป็นความรับผิดชอบของพี่สาว และเธอก็เคารพและรักพี่สาวมากพอที่จะไม่ทำอะไรก็ตามที่เขาจะไม่สบายใจ พิมพ์นภาเป็นเด็กดี ถึงแม้ภายนอกจะดูเป็นสาวมั่น เซ็กซี่ หากแต่ก็ไม่เคยทำตัวเสื่อมเสียให้ใครมาว่าเอาได้

 

“ยายพิมพ์ ตกลงแกจะควงพี่ซันมางานหรือเปล่ายะ” เสียงติ๊กเพื่อนสาว หนึ่งในบรรดาสาวๆเพื่อนร่วมสาขาที่สนิทสนมกันเอ่ยขึ้น ขณะที่หมดเวลาเรียนและนักศึกษาส่วนใหญ่พากันออกจากห้องไปแล้ว เหลือเพียงสาวๆกลุ่มนี้ไม่กี่คน

 

“เอ๊ะ หรือว่าจะควงหนุ่มหล่อคนนั้นมาเปิดตัว” ตูน สาวหมวยหน้าคมไม่แพ้ใครเอ่ยแซวขึ้น เพราะเมื่อไม่นานมานี้ มีคนเห็นเพื่อนสาวของเธอขึ้นรถไปกับนักศึกษาร่วมสถาบัน หากแต่เป็นคนละสาขาวิชาเรียนออกไปหลังเลิกเรียน

 

“โอ๊ยๆๆๆ พอๆ ไม่ต้องเดาเลย เพราะฉันจะไปคนเดียว” หญิงสาวเอ่ยตัดบทก่อนที่เพื่อนของเธอจะเดาให้วุ่นวายไปกว่านี้

 

“อ้าว ได้ยังไงกัน” กระติกสาวร่างเล็กสมชื่อเอ่ยขึ้น แทบจะทันทีพร้อมหน้าตื่นๆ เพราะปกติเพื่อนสาวคนสวยไม่ค่อยยอมไปไหนมาไหนคนเดียว แม้ขนาดจะไปห้องน้ำยังต้องมีเพื่อนไปด้วย

 

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ พี่ซันไม่ว่าง ส่วนหนุ่มๆก็ไม่มีสักคน” พิมพ์นภาเอ่ยอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ

 

“อย่างนี้พวกเราจะมีหนุ่มๆมามองบ้างมั๊ยนะ” ตูนเอ่ยขึ้น พรางทำหน้าเศร้า หากแต่ทุกคนรู้กันดีว่าพวกเธอไม่สนใจเรื่องผู้ชายมากนัก หากแต่เป็นการคุยสนุกปากเฉพาะในกลุ่มสาวๆเท่านั้นเอง

 

“สงสัย งานนี้ต้องห้ามยายพิมพ์แต่งสวยแล้วหละ พวกเราจะได้มีโอกาสกับเขาบ้าง”กระติกเอ่ยพรางทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ ก่อนจะพากันออกเดินไปยังห้องเรียนวิชาถัดไป

 

“ตามสบายเลยจ๊ะ แต่งสวยๆนะ งานนี้เค้าจัดประชันความงามกันเลยเชียวล่ะ” พิมพ์นภายังเอ่ยขณะเดินตามเพื่อนๆออกไป

 

“นี่พิมพ์ งานเลี้ยงส่งเดือนหน้า ตกลงสรุปกันได้หรือยังว่าจะเป็นที่ไหน” เสกสรร เพื่อนชายร่วมรุ่นคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาทัก

 

“ไม่รู้สิ เรื่องนี้บอมเป็นคนจัดการไม่ใช่หรอ” เธอตอบออกไปก่อนจะถามกลับถึงคนรับหน้าที่จัดการ เพราะพวกเธอกำลังจะจบการศึกษาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแล้ว จึงเป็นธรรมเนียมที่จะต้องมีการเลี้ยงส่งรวมรุ่น

 

“ก็ใช่ แต่นึกว่าพิมพ์จะรู้ด้วย” เสกสรรเอ่ยอีกครั้ง เพราะหลายๆคนก็คิดเช่นเดียวกัน เนื่องจากทั้งคู่สนิทสนมกันและคอยช่วยเหลือกันอยู่เสมอๆ

 

“ไม่รู้หรอกจ๊ะ ว่าแต่ทำไมไม่ถามบอมเองเลยล่ะ” พิมพ์เอ่ยอีกครั้ง เพราะส่วนใหญ่นักศึกษาชายมักจะจับกลุ่มไปเล่นฟุตบอลกัน

 

“ไม่เจอตัวเลยน่ะสิ ไม่รู้ไปไหน โทรไปก็ไม่รับสาย” เสกสรรเอ่ยพรางคิดหาวิธีว่าจะตามตัวอย่างไรดี

 

“ไม่เจอเลยหรอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่านะ” หญิงสาวอดที่จะเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ จึงได้เปรยขึ้นมา

 

“ไม่รู้สิ นี่อาจารย์ก็ถามๆมาแล้ว ว่าสรุปกันหรือยัง ยังไงถ้าพิมพ์เจอ ฝากถามด้วยนะ ไปแล้ว เจอที่ห้องเรียน” เสกสรรเอ่ยก่อนจะเดินกลับไปยังกลุ่มเพื่อนๆที่นั่งรอกันอยู่ตรงมุมม้านั่งที่ทางตึกเรียนจัดเอาไว้ให้ใช้กัน

 

“เดี๋ยวพวกเธอเข้าห้องไปก่อนเลยนะ” พิมพ์นภาเอ่ยกับกลุ่มเพื่อนสาว ก่อนจะแยกตัวพรางกดหมายเลขเฉพาะที่ตั้งเอาไว้เพื่อโทรออก หากแต่ปลายสายไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้แต่เก็บใส่กระเป๋าถือและเดินเข้าห้องเรียนตามเพื่อนๆไป

 

ขณะที่กำลังเดินมุ่งหน้าสู่ห้องเรียน สมองก็คิดไปเรื่อยเปื่อย เพื่อหาคำตอบกับเรื่องที่เพื่อนหนุ่มหายตัวไปหลายวันติดต่อไม่ได้ และก่อนจะถึงห้องเรียน ร่างบางกลับนึกอะไรบางอย่างได้ จึงกดโทรศัพท์ในมืออีกครั้ง ก่อนจะกรอกเสียงหวานแผ่วเบากระซิบกระซาบอยู่ครู่ใหญ่ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เพราะตอนนี้เธอหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องเรียนที่มีบรรดานักศึกษาเดินเข้าออกกันควักไขว้ จึงเกรงจะเป็นการรบกวน หากแต่คำตอบที่ได้รับยังไม่สามารถทำให้เธอคลายใจได้ แต่จำต้องกดวางสายเมื่ออีกฝ่ายขอวางเนื่องจากมีงานรออยู่แต่ยังรับปากว่าจะช่วยหาคำตอบให้ แม้จะยังไม่สบายใจแต่ก็ยังดีที่มีคนช่วยอีกไม่น้อย

 

“พี่แจงพอรู้บ้างไหมคะ ว่าบอมไปไหน เพื่อนๆเขาติดต่อไม่ได้” หลังวางสายน้องสาวไปแล้ว ก็อดเป็นห่วงคนต้นเรื่องไม่ได้ เพราะช่วงหลายวันมานี่ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย

 

“ไม่แน่ใจนะ ภัสลองโทรไปหาดูสิ” แจงเอ่ยขึ้นในขณะที่กำลังจัดแจงเสื้อผ้าให้หญิงสาวอีกครั้ง ก่อนจะต้องเริ่มงานในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

 

“ก็ว่าจะโทรไปหลังเสร็จงานนี้” พูดจบก็ต้องตั้งสมาธิ เมื่อเจ้าหน้าที่พยักหน้าส่งสัญญาณว่าถึงคิวของเธอแล้ว จึงได้ปล่อยทุกสิ่งไว้เบื้องหลัง ก่อนจะออกเดินสู่เวทีด้านหน้าเพื่อทำหน้าที่ของเธอ


*** เอามาลงแบบจบตอนค่ะ เม้นต์คุยกันเป็นกำลังให้กันนะคะ จะตอบทุกเม้นท์เลย***

**แต่ตอนหน้าเป็นต้นไป จะทยอยอัพนะคะ เพราะตอนนี้สต๊อกหมด สารภาพว่าไม่ได้ปั่นเลยช่วงวันหยุด**

*ยังรอติดตามกันอยู่หรือเปล่าค่ะ ยังไงก็ฝากไว้ด้วยนะคะ*

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา