The inflict War : สงครามพิฆาต หน่วยรบถล่มโลกันต์

สูงขึ้นไป 10000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล  ท่ามกลางหมู่เมฆหมอก ที่บดบังลำตัวเครื่องบิน C130 ที่กำลังบินมุ่งหน้าไปยังที่แห่งหนึ่งด้วยความเร็วสูงเพื่อส่งพลร่มนายหนึ่งไปทำภารกิจ

                “แน่ใจแล้วนะ อแลนด์ ว่างานนี้คนเดียวไหวน่ะ ไม่รอจ่ารอร์ท ก่อนแล้วค่อยไปไม่ดีกว่าหรือไงงานนี้มันเสี่ยงกว่าทุกครั้งนะ”นายทหารประจำเครื่องพูดเตือนสิบเอกอแลนด์ที่กำลังจะไปทำภารกิจลับ

                “ไม่หรอกน่าผู้พันผมพร้อมแล้วน่าอย่าห่วงไปเลย มันก็เหมือนกับงานทุกๆครั้งนะแหละ แล้วอีกอย่างก็มาถึงที่แล้วถึงอยากจะถอยแต่ก็คงทำไม่ได้หรอกนะครับผู้พัน”ทหารหนุ่มตอบกลับไปด้วยความมั่นใจในตนเองที่มีอยู่เต็มเปี่ยม

                “นั่นสินะ  พยายามอย่าเข้าไปเสี่ยงถ้าไม่จำเป็นเพราะอย่างไงนี่ก็เป็นงานลับ หากมีปัญหาให้เรียกศูนย์บัญชาการแอตแลนติกเหนือนะ”นายทหารย้ำเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับทหารอีกครั้ง

                “จะถึงเป้าหมายในอีก 30 วินาที”เสียงของนักบินที่ดังออกมาจากลำโพงดังขึ้นเพื่อเตือนอแลนด์

                “ผมไปล่ะผู้พัน” อแลนด์พูดแล้ว นำเอากล้องอินฟาเรดที่ติดอยู่บนเหนือหมวกเหล็กของเขา ลงมาอยู่ในระดับสายตาของเขา พร้อมกับเดินมุ่งหน้าไปยังท้ายเครื่องบินที่เป็นประตูที่เขาจะใช้กระโดดลงไป

                “เอี๊ยดดดด.....”เสียงของบานประตูท้ายเครื่องเปิด ลงพร้อมด้วยกระแสลมที่พัดเข้ามาตามแรงดันลม

                “จะถึงพื้นที่เป้าหมายในอีก 10...9...8...7...6...5...4...3...2....1 “เสียงของนักบินพูดขึ้น ทันทีที่นักบินนับถึง 1 อแลนด์ก็พุ่งตัวออกไป ท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บในช่วงกลางคืน ไม่ถึงนาทีอแลนด์ก็ร่อนลงพิ้นได้สำเร็จ

                “ทดสอบ... ทดสอบ... อแลนด์เรียกศูนย์”ทันทีที่อแลนด์ถึงพื้นเขาได้ทดสอบสัญญาณเครื่องสื่อสารทางไกลติดต่อไปยังศูนย์บัญชาการแอตแลนติกเหนือ

                “ศูนย์รับทราบ กรุณายืนยันตัวพร้อมรหัสปฏิบัติการ”เสียงตอบกลับจากเจ้าหน้าที่สือสารประจำศูนย์

                “สิบเอกอแลนด์ เทล ภารกิจ AE2075 เปลี่ยน”อแลนด์รายงานกลับไป

                “ยืนยันภารกิจเรียบร้อย  เริ่มปฏิบัติการ 2075 ได้”คำสั่งตอบกลับมาจากศูนย์

                “รับทราบ”อแลนด์ตอบรับกลับไป พร้อมปลดร่มชูชีพออกแล้วคว้าปืนไรเฟิลสังหารแบบเก็บเสียง เพื่อทำหน้าที่ของเขา อแลนด์ค่อยๆแหวกแนวป่าไปอย่างช้าๆพร้อมทั้งสอดส่ายสายตาไปรอบๆ เพื่อทำการสำรวจ เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน ทำให้การรักษาความปลอดภัยค่อนข้างเข้มมากกว่ากลางวัน เขาเดินผ่านไปราวสามถึงสี่กิโลเมตร สัญญาณสื่อสารของเขาเริ่มมีเสียงคลื่นแทรกดังขึ้น

                “อแลนด์เรียกศูนย์ อแลนด์เรียกศูนย์”

            “ศูนย์บัญชาการรับทราบ”

                “ขณะนี้สัญญาณสื่อสารถูกรบกวนจากคลื่นรบกวนของศัตรูคาดว่าหากเขาไปมากกว่านี้อาจจะขาดการติดต่อได้”อแลนด์รายงานกลับมา

                “ศูนย์รับทราบ ให้ทำการปฏิบัติภารกิจต่อไปแล้วหลังจากนั้นให้ทำการตัดสัญญาณรบกวนของศัตรู ซึ่งน่าจะมีต้นกำเนิดมากจากหอส่งสัญญาณวิทยุ หรือ จานเรดาห์ ของศัตรู”

                “อแลนด์รับทราบ” อแลนด์ตัดสัญญาณเชื่อมต่อกับทางศูนย์บัญชาการ แล้วค่อยมุ่งหน้าเดินต่อไป “ให้ตายสิงานนี้ชักเริ่มยุ่งซะแล้วสิ”

            การแทรกตัวของอแลนด์ดูเหมือนจะเป็นได้ด้วยดี เมื่อเขาเข้ามาพบกับหอส่งสัญญาณ แล้วเข้าไปค้นหาชิ้นส่วนที่ได้รับคำสั่งมา มีทหารสองคนเฝ้ารักษาการอยู่ อแลนด์รอจนสบโอกาสสังหารทหารสองคนนั้นแล้วทำตามที่ศูนย์แอตแลนติกเหนือสั่งการมา จนสำเร็จ เขาตัดสัญญาณรบกวนแล้วเรียกกลับไปยังศูนย์

                “อแลนด์เรียกศูนย์ ภารกิจเสร็จสมบูรณ์ ขอยานขนส่งมารับในพิกัดที่นัดหมายเอาไว้ด้วยเปลี่ยน”

                “รับทราบ จะถึงที่หมายใน 15 นาที”ศูนย์บัญชาการตอบกลับมาก อแลนด์ก็รีบมุ่งหน้าหลบหนีออกจากทางหอส่งสัญญาณโดยด่วนมุ่งหน้าไปรอยานขนส่งที่ถูกส่งมารับเขา เวลาผ่านไป เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ก็มาถึงพร้อมทั้งได้ส่งบันไดแขวนลงมาจากเครื่องเพื่อรับตัวเขาขึ้นไป อแลนด์ปีกบันได้ขึ้นไปและกำลังจะบินออกไปจากที่นั้นแต่ทว่า

                “ฟีตตตต!!!” เสียงของหัวรบที่แหวกอากาศมาดังขึ้น พร้อมพุ่งเข้าใส่เฮลิคอปเตอร์จนเฮลิคอปเตอร์ระเบิดและบินส่ายไปมาจนเหวี่ยงร่างของอแลนด์ไปไกล