Black Blood ตำนานปีศาจ

7.8

เขียนโดย SilverLight

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 06.10 น.

  2 session
  9 วิจารณ์
  6,075 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) การพบกันระหว่าง มนุษย์ และ อมนุษย์ (พาท 1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

ตอนที่ 1 การพบกันระหว่างมนุษย์ และ อมนุษย์(พาท 1)

 

15 ปีต่อมา ดึกดื่นคืนหนึ่ง

สวบ...สวบ...

เสียงฝ่าหญ้ารกในป่าแห่งหนึ่งของหญิงสาวสองคนและชายหนุ่มอีกหนึ่งคน

“จะว่าไปแล้ว เมื่อไรจะถึงเมืองเสียที” ชายหนุ่มที่เดินอยู่หลังสุดพูด

“ข้าก็ไม่รู้ นี่ก็มาหลายชั่วยามแล้ว” หญิงสาวที่อยู่หน้าสุดตอบ

“ที่ถาม ไม่ใช่อะไร เพราะว่าในทางมืดๆ วังเวงแบบนี้ปีศาจที่ล่าวิญญาณมนุษย์มันเยอะด้วย แถมลิริยาก็ตาบอดอีกน่ะ” เขาพูด

“มันก็ใช่น่ะ แต่นี่เราเดินมาไม่พักเลย” เธอพูด “แล้วเจ้าเหนื่อยหรือเปล่า ลิริยา” เธอถามหญิงสาวที่มีผ้าคลุมปกปิดตัวที่ตาบอดที่กล่าวถึง

“ไม่หรอก เดินต่อไปเถอะ” เธอพูด

“เชอร์รี่ เจ้าไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ?” ชายหนุ่มคนหลังสุดถาม

“รู้สึกอะไร?” หญิงสาวที่อยู่หน้าสุดถาม

“ฉันว่าเราเดินวนไปวนมาหลายรอบแล้วนะ” เขาพูด จนทำให้เธอหยุดเดินไปชั่วขณะ แล้วสังเกตดูทางรอบๆว่าเหมือนกลับมาที่เก่า

“จริงของเจ้า โครเชล ลิริยา เราหลงแล้วล่ะ” เธอกล่าวออกมาอย่างซื่อๆ 

“หลงทางงั้นหรือ?” หญิงสาวที่สวมผ้าคลุมตัวถาม

“ใช่ เราหลงทาง...เห็นทีต้องหาทาง...” เธอกล่าวไม่ทันจบประโยค เธอก็เริ่มรู้สึกว่า บรรยากาศ และ เส้นทางที่พวกเธอผ่านมา เริ่มเปลี่ยนไป

‘บ้าน่า ทำไมมันไม่เหมือนเดิม?’ หญิงสาวที่อยู่หน้าสุดคิดแล้วก็เดินต่อไป พร้อมสั่งเพื่อนของเธอทั้งสองคนที่อยู่ข้างหลังพูด

 

“อ๊ะ!!”

                หญิงสาวคนกลางเดินไปสักพักแล้วสะดุดอะไรบางอย่างที่กลมๆ หยาบๆ ทำให้หญิงสาวคนหน้าสุดต้องหันกลับมาดู

 

“เป็นอะไรหรือเปล่า ลิริยา” เธอถาม

“ไม่หรอก แค่สะดุดก้อนหินไปเท่านั้น” หญิงสาวคนนั้นตอบ

 

                ชายหนุ่มที่มากับเธอด้วยก็มองไปที่ก้อนหินที่เธอสะดุด พร้อมหยิบก้อนหินนั้นขึ้นมาด้วยความสงสัยว่ามันคืออะไร แต่ทันทีที่เขาหยิบขึ้นมา เขาก็ตกใจจนขว้างสิ่งที่ว่านั่นออกไปทันที

“ทำไมหรือ โครเชล?” หญิงสาวผมสีน้ำตาลที่อยู่หน้าสุดหันมาถามด้วยความตกใจ

“ห...หัวกระ...โหลก” เขาตอบ แล้วเหงื่อตกไปพร้อมกับหน้าซีด

“อะไรนะ! หัวกะโหลก แสดงว่าทางนี้ต้องมี...” เธอพูดไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้น

อ๊าก~!!!!

                เสียงจากในพุ่มไม้ใหญ่ใกล้ๆ ดังขึ้น ทำให้ทั้งสามคนตกใจขึ้นมา

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” หญิงสาวผมสีน้ำตาลถาม

“ไม่รู้สิ” เขาตอบ

 

                ด้วยความสงสัย จนทำให้ทั้งสามคนเดินไปใกล้ๆ พุ่มไม้แล้วค่อยๆ แง้มพุ่มไม้แล้วดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่แล้ว ทั้งคู่ก็ตกใจขึ้นมาทันที เว้นแต่หญิงสาวที่สูญเสียดวงตาที่ไม่รู้สึกอะไร เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่หน้าเธอเป็นอะไร สิ่งที่เธอเห็น เป็นเพียงภาพสีถมไปด้วยสีดำสนิทเท่านั้น แต่สิ่งที่ทั้งคู่เห็น มันคือภาพของอมนุษย์ที่มีร่างกายเหมือนมนุษย์ทุกอย่างสวมชุดคลุมสีดำ ที่กำลังรุมกัดกินชายวัยกลางคนที่นอนอาบเลือดนิ่งจนเนื้อตัวซีด

 

“น...นั่นมัน” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนพูดอย่างแผ่วเบาด้วยความตกใจ

“ท่าจะไม่ดีแล้วสิ” หญิงสาวผมสีน้ำตาลที่ซุ่มอยู่ในต้นไม้ด้วยกันเอ่ย

“มีอะไรงั้นหรือ? อุ๊บ!” หญิงสาวที่สูญเสียดวงตาถาม แต่ก็ถูกชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนปิดปากของเธอเสียก่อน จนทำให้เธอตกใจขึ้นมาแทบทำให้พุ่มไม้สั่นไหวไประยะหนึ่ง

“เงียบก่อน อย่าเพิ่งพูดอะไร” เขาพูด

 

                แต่ทว่าเสียงของพุ่มไม้ที่สั่นไหว ทำให้พวกอมนุษย์เริ่มรู้ตัวขึ้นมาทันที พร้อมหยุดกัดกินร่างของมนุษย์ที่นอนนิ่งอาบเลือดโชกหันมามองที่พุ่มไม้ทั้งสามตน จนทำให้ทั้งสามคนตกใจจนหน้าซีดขึ้นมาอีกครั้ง

 

“พวกมัน ร...รู้ตัวงั้นหรือ” หญิงสาวผมสีน้ำตาลพูด

“เจ้าได้ยินเสียงอะไรไหม?” อมนุษย์ตนหนึ่งถาม

“เสียงหรือ ไม่นี่” อมนุษย์อีกตนหนึ่งพูด

“เหมือนข้าจะได้ยินเสียงพุ่มไม้ และ ได้กลิ่นของมนุษย์” อมนุษย์ที่อยู่ข้างๆ พูด

“ไม่มีหรอกมั้ง อย่างมากก็แค่ลมพัด” อมนุษย์ตนนั้นพูด แล้วหยิบแขนของมนุษย์มาแทะต่อ

“ไม่มีลมพัดเสียหน่อย แล้วในพุ่มไม้นั่นมันต้องมีอะไรแน่ๆ” อมนุษย์ตนแรกพูดต่อ

“ข้าก็คิดเช่นนั้น” อมนุษย์ตนที่สามเอ่ย

“กลิ่นมนุษย์ที่ว่า จากคนที่เรากำลังกินอยู่หรือเปล่า” อมนุษย์ตนที่สองถาม

“ไม่ใช่...” อมนุษย์ตนที่สามตอบ “ข้าได้กลิ่นมากกว่านั้น” เขาพูดต่อ

 

                จนมาฝ่ายของทั้งสามคนที่หลงป่ากำลังดูสถานการต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

“ทำไมเราไม่หนีเสียซะล่ะ” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนถาม

“เราหนี พวกนั้นก็รู้น่ะสิ” หญิงสาวผมสีน้ำตาลพูด

“แต่ว่านี่...” เขาพูด

“เงียบน่า!!” หญิงสาวตะคอกออกมาเบาๆจนทำให้อมนุษย์ทั้งสามตนเริ่มหันมามองที่พุ่มไม้อีกครั้ง

“พวกนั้น เหมือนจะรู้ตัวแล้ว” หญิงสาวที่สวมผ้าคลุมตัวกล่าวออกมาเบาๆ ในขณะที่ตัวเธอเริ่มมีลางสังหรณ์ไม่ดี

“ว่าแล้วสิ ว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติ” อมนุษย์ตนหนึ่งกล่าว พร้อมใช้มือปาดคราบเลือดที่ติดอยู่ที่คางของตัวเองออก

“แถมมากันสามตัวเสียด้วย” อมนุษย์อีกตนกล่าว แล้วแสยะยิ้มออกมา ส่วนอีกตน ไม่ได้พูดอะไร

 

“พวกนั้นรู้ตัวจริงๆ” หญิงสาวผมสีน้ำตาลกล่าวด้วยความตกใจ

“รีบหนีเถอะพวกเรา!!” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนพูดแล้วรีบคว้ามือมือของหญิงสาวที่สวมผ้าคลุมตัวไปด้วย ส่วนหญิงสาวผมสีน้ำตาลคนนั้นก็วิ่งตามไป แต่ระหว่างนั้นก็ชักดาบออกมาจากฝักข้างตัวของเธอออกมาด้วย ซึ่งคราวนี้ อมนุษย์ทั้งสามตนก็รู้ตัวขึ้นมาทันทีแล้วิ่งตามไปอย่างรวดเร็วโดยทิ้งร่างของชายวัยกลางคนที่ถูกกัดกินจนเละไป

 

“พวกนั้นตามมา” หญิงสาวผมสีน้ำตาลกล่าว

“หนีอย่างเดียว ไม่สนอะไรแล้ว!!” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนพูด

“โครเชล เจ้าอย่าทำลิริยาหลงนะ!” หญิงสาวผมสีน้ำตาลเอ่ยออกมา แต่เธอก็สังเกตภายในป่าอีกครั้ง ว่ามันเปลี่ยนไปอีกแล้ว

‘เปลี่ยนไปอีกแล้วหรือ?’ เธอคิด ‘ป่าบ้าอะไรนี่’ เธอคิดในใจ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะของอมนุษย์จนทำให้ทั้งสามคนตกใจจนวิ่งหนีแตกกระเจิงไปคนละทางจนทำให้หญิงสาวที่สวมผ้าคลุมตัวไว้นั้นเฝลอปล่อยมือชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนคนนั้น

“เดี๋ยวก่อน ทุกคน รอฉันด้วย!!” หญิงสาวที่สวมผ้าคลุมตัวคนนั้นพูด แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา

“อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวแบบนี้สิ ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย” เธอพูดอีกครั้ง แล้วเรียกชื่อของทั้งสองคน

“โครเชล เชอร์รี่!!” เธอเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรออกมาอีกเช่นกัน จนเริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว “ไม่นะ นี่ฉัน...” เธอพูดออกมาด้วยเสียงที่ดูสะอึกสะอื้น “อยู่คนเดียวงั้นหรือ?” เธอพูด

 

ทางด้านของเชอร์รี่

...แฮ่ก...แฮ่ก...

                เสียงหายใจหอบของหญิงสาวผมสีน้ำตาลที่กำลังวิ่งหนีอมนุษย์อยู่อย่างไม่หยุดพัก แต่ก็รู้ว่า เพื่อนของเธออีกสองคนนั้นหลงไปคนละทางกลับเธอ

‘นี่หรือ ป่าที่ว่าเข้าไปแล้วออกไม่ได้’ เธอคิด ‘แถมทั้งสองคนนั่นก็หายไปอีก’

                แต่จังหวะนั้น เธอก็เห็นดวงไฟสีส้มๆ ที่อยู่ไกลออกไปหลายเมตร ซึ่งเธอไม่แน่ใจว่ามันเป็นทางออกหรือไม่ แต่เธอก็ไม่กล้าเสี่ยงเข้าไป แต่เธอก็วิ่งไปตามทางที่ที่มีดวงไฟนั่น แล้วเธอก็สามารถหนีออกมาได้อย่างแปลกประหลาด

“อ้าว!! นี่มันอะไรกันนี่” เธอพูด “แล้วนี่???”

                เธอออกมาจากป่าที่เข้าไปแล้วออกไม่ได้นั่นเพียงคนเดียว สิ่งที่เธอเห็นอยู่ตรงหน้า คือ ประตูเข้าเมือง

“อะไรอีกกันนี่ แล้วทั้งสองคนนั่นล่ะ” เธอพูด พลางทำหน้างงๆ ไปด้วย แต่เธอก็ได้ยินเสียงพุ่มไม้ดังขึ้นมา จนเธอหันกลับไปแล้วชักดาบออกมาด้วยความตกใจ แต่เธอก็เห็นชายหนุ่มที่มากลับมากับเธอ ทำให้เธอดีใจขึ้นมาแล้ววิ่งเข้าไปหา

“โครเชล!!” เธอเรียก

“เชอร์รี่ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” เขาถาม

“ไม่เป็นอะไร แล้วลิริยาล่ะ” เธอถาม

“ลิริยา?” เขาคิด แล้วนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้อีกครั้ง เขาจำได้ว่า เขาเผลอปล่อยมือเธอไปในระหว่างที่วิ่งหนี

“ตายแล้ว!! นี่หรือว่าเจ้า!!” เธอเริ่มหัวเสียขึ้นมาและโกรธมากที่เขาลืมหญิงสาวที่สูญเสียนัยน์ตาคนนั้นไป

“แต่ข้า...” เขาเอ่ย

“ไม่ต้องแก้ตัวเลย ทำไมเจ้าขี้ลืมทุกที” เธอพูด แล้วก็จะเข้าไปในป่าอีกครั้งแต่คราวนี้ บรรยากาศในป่าเริ่มวังเวงมากกว่าเดิม จนทำให้ทั้งคู่ไม่กล้าเข้าไป

“ไม่แน่ อาจจะมีคนช่วยเธอก็ได้” เขาพูด

“ช่วยหรือ ในป่านั่นมีแต่พวกปีศาจ แล้วก็ปีศาจ!!” เธอพูด

“แล้วเราจะเข้าไปอีกรอบหรือ” เขาถาม

“จะให้ทำอย่างไรล่ะ เพราะนาย!” เธอพูด แล้วหัวเสียขึ้นมาอย่างแรง

“แต่เราตามหาเธอพรุ่งนี้ก็ได้นี่” เขาตอบ

“อย่าคิดว่าจะเจอเลย ถ้าพรุ่งนี้เจอ เธอก็คงเป็นโครงกระดูกไปแล้ว” เธอตอบ

 “แต่ว่าในป่ามัน เอ่อ...” เขาพูด จนทำให้เธอคิดอีกครั้ง เพราะว่ายิ่งมองบรรยากาศในป่าเหมือนเปลี่ยนมากกว่าเดิม

                แต่ในขณะนั้น หญิงสาวที่สูญเสียดวงตาผู้นั้น ก็ยังเดินลึกเข้าไปในป่า โดยที่ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ถ้าเธอเผลอเรียกเพื่อนของเธอทั้งสองคนขึ้นมาพวกอมนุษย์ก็จะรู้ว่า เธออยู่ที่นี่แต่เธอก็คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร ตลอดเส้นทาง เธอได้ยินเสียงของพวกอมนุษย์ที่กระหายวิญญาณเท่านั้น เป็นเหตุที่ทำให้เธอต้องวิ่งหนีไป จนทำให้เธอสะดุดกับรากต้นไม้ใหญ่แล้วล้มไปอีกรอบ

 

“โอ๊ะ!!”

เธอร้องออกมา แล้วล้มลงไป

“อีกแล้ว หรือนี่...” เธอพูดกับตัวเอง แล้วเธอก็เดินทางต่อไปด้วยตัวเองอีกครั้ง แต่เสียงของอมนุษย์พวกนั้น ทำให้เธอตกใจกลัวขึ้นมาแล้ววิ่งไปจนมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเงียบสงัด เธอแปลกใจมากว่าสถานที่นี้แทบไม่มีเสียงของอมนุษย์พวกนั้น เธอเดินแล้วคลำทางไปรอบๆ แล้วสัมผัสกับลูกบิดประตูได้

‘ประตูหรือ?’ เธอคิด แล้วเปิดเข้าไป ในขณะที่เธอไม่รู้อะไรเลย

“มีใครอยู่ไหมคะ?” เธอเอ่ย

แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา เธอจึงเดินเข้าไป เธอเดินคลำทางไปรอบๆ ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร เธอก็คิดว่าเป็นบ้านของมนุษย์ แล้วก็ค่อยๆเดินเข้าไป แต่ในระหว่างนั้น เธอลืมปิดประตู จนชายหนุ่มนัยน์ตาสีเลือดที่สวมผ้าคลุมปกปิดทั่วร่างกายตัวค่อนข้างสูง คาดว่าจะเป็นเจ้าของบ้านกระท่อมหลังนั้น เหมือนกำลังจะกลับมา แต่ชายหนุ่มคนนั้น ก็ต้องหยุดที่หน้ากระท่อมทันที พร้อมค่อยๆชักดาบออกมาแล้วเดินเข้าไปในบ้านกระท่อมของเขา ก็เห็นหญิงสาวที่สวมผ้าคลุมเดินสะเปะสะปะอยู่ในบ้านของ

“เจ้าเป็นใคร ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่บ้านข้าได้” เขาถาม ด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น จนทำให้เธอสะดุ้งแล้วค่อยๆ กันตามเสียงเรียกของชายผู้นั้น

“ข้าถามว่าเจ้าเป็นใคร?” เขาพูดอีกครั้ง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา