THE LAST OF LOVED (ความรักครั้งสุดท้าย)

4.8

เขียนโดย แสงจันทรา

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 เวลา 17.46 น.

  8 ตอน
  6 วิจารณ์
  14.44K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) คนในความทรงจำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

นิศาชลเดินออกมาสูดอากาศที่หน้าบ้าน เธอกำลังมองดาวในคืนเดือนแรมท้องฟ้าเปิดทำให้เห็นถึงความสวยงามของทางช้างเผือกที่มีดาวระยิบระยับเต็มไปหมด จนทำให้เธอมยิ้มรับความสวยงามของท้องฟ้าวันนี้

“ดาวสวยใช่ไหมวันนี้ ทำให้หลานปู่ยิ้มได้ ทั้งที่วันนี้หน้าบึ้งทั้งวันเลย”เสียงของคุณปู่ดังมาจากด้านหลัง เธอหันไปยิ้มให้และพยุงมานั่งข้างๆ พร้อมโอบกอดและซบไหล่คุณปู่ผู้ใจดีที่สุดของเธอ

“คุณปู่จะดุน้ำค้างเรื่องผู้ชายคนนั้นอีกแล้วนะค่ะ”น้ำเสียงของเธอค้อนน้อยใจคุณปู่ที่เห็นคนอื่นดีกว่าตน

“ปู่ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย หลานร้อนตัวไปเองหรือเปล่า..ไหนลองเล่าให้ปู่ฟังสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกหลาน”นิศาชลจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและเธอให้คุณปู่ฟัง และสุดท้ายคุณปู่ก็ลงความเห็นว่า....

“เค้าอาจจะผิดนะหลานแต่เราเองก็ไม่ถูก ดังนั้นปู่ว่าเรื่องที่มันผ่านไปแล้วก็ให้มันแล้วไปอย่างไปติดใจเอาความอะไรเลย เราก็เป็นคนบ้านเดียวกัน ก็ควรเป็นมิตรที่ดี เค้ามาจากต่างแดนเราต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดีนะหลาน”ปู่พูด

“อะไรนะค่ะคุณปู่!.. เค้าเป็นคนที่นี้หรือค่ะ บ้านใครค่ะหนูไม่เห็นรู้จักเลย”นิศาชลพยายามนึกๆเท่าไหร่ก็ไม่ออก

“อื้ม..ไม่รู้สิปู่ไม่ได้ถาม แต่ปู่รู้สึกคุ้นๆกับใบหน้าและดวงตาของเค้ามาก”คุณปู่พูดนึกถึงหน้าของหนุ่มลูกครึ่ง

“หน้าฝรั่งอย่างนั่นยังเหมือนใครได้อีกค่ะ เอ๋..อย่าบอกนะค่ะว่าเหมือนคนที่ปู่เคยรู้จัก”นิศาชลพูดเย้าปู่เล่น

“นั่นสิ..เหมือนดวงตาของผู้หญิงที่ปู่เคยรู้จักจริงๆ มันช่างนานมาแล้วที่ไปได้เจอเธอ”ปู่พูดน้ำเสียงเศร้าจับใจ

“คุณปู่เคยมีคนรักอื่นนอกจากคุณย่าหรือค่ะ”น้ำเสียงของนิศาชลเหมือนกับน้อยใจแทนย่าที่จากไป 10 ปีก่อน

“ความรัก..มันอยากแท้ยั่งถึง บางคนมีความสุขที่ได้รักใครสักคน บางคนมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตกับใครสักคน บางคนมีความสุขที่ได้เห็นคนรักสุขสบาย และบางคนมีความสุขที่ได้ครอบครองคนที่ตนรักเพียงข้างเดียว”ปู่พูด

“แล้วคุณปู่เป็นแบบคนไหนค่ะ แล้วผู้หญิงคนนั้นหละ”นิศาชลยังคงสงสัย เพราะเธอเองก็ยังไม่เคยรู้จักความรัก

“ปู่มีก็มีความสุขที่ได้รักและเห็นคนที่ปู่รักสุขสบาย และทำให้คนที่รักปู่มีความสุข แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับความรักแล้วหละ ส่วนเธอคนนั้น ปู่เองก็ไม่รู้แน่ว่าเค้าเลือกความรักแบบไหน แต่ปู่เชื่อว่าเค้าต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ถึงแล้วว่าจะไม่ได้ข่าวคราวเธออีกเลย...”ปู่ถอนหายใจยาว ราวกับมีเรื่องหนักอก

“จริงๆแล้ว ปู่ยังรักเธออยู่ใช่ไหมค่ะ บ่อยครั้งที่หนูเห็นคุณปู่ดูเหงาๆ เหมือนกำลังคิดถึงใครบางคน ที่จริงแล้วปู่คิดถึงเธอคนนั้นไหมค่ะ”นิศาชลมองใบหน้าที่ดูเศร้า แต่เมื่อพูดถึงเธอคนนั้นแล้วเหมือนนัยตาปูจะเป็นประกาย

“ในสถานะการณ์บางอย่างก็ทำให้เราหวนคิดถึงเรื่องดีๆที่เกิดขึ้น เพราะมันอยู่ในความทรงจำของเรา”ปูตอบ

“ปู่จะช่วยเล่าเรื่องของเธอให้หนูฟังได้ไหมค่ะ”นิศาชลมองดูใบหน้าของปู่ และปูหันมายิ้มรับ...

 

                “เมื่อยังเด็ก มีเด็กผู้หญิงมันจะมาเล่นที่บ้านเราบ่อยๆ เพราะเธอเป็นเพื่อนของน้องสาวปู่ ต่อมาปู่ก็ได้รู้ว่าเธอเองก็เป็นน้องสาวของเพื่อนปู่เช่นกัน เราก็เลยดูจะสนิทมาก เธอมักจะขอตามไปไหนต่อไหนด้วยเสมอเมื่อปู่และเพื่อนไปเที่ยวงานวัดหรือนอกบ้านสมัยก่อนเด็กๆมันจะลงมาวิ่งเล่น และหาการละเล่นต่างๆ มาเล่นกันที่ลานถนนหน้าบ้าน.. มันก็เลยเป็นหน้าที่ของปู่ที่ต้องดูแลเธอเสมอ”คุณปู่พูดและยิ้มเมื่อนึกถึงมันอีกครั้ง

“แล้วเธอเป็นคนอย่างไรค่ะ”นิศาชลถามขึ้นมาขณะที่คุณปู่กำลังเงียบไป

“เธอนะหรือ แก่นแก้วเชียวหละ ดื้อซน และก็ดูจะดุๆ ห้าวๆ เห็นว่ามีเรื่องกับเพื่อนผู้ชายอยู่บ่อย ๆ แต่ปู่ก็เห็นความอ่อนโยนในตัวเธอ จริงแล้วเธอเป็นคนที่น่ารัก ขี้อ้อน คุยสนุก ปู่ชอบดูอารมณ์ที่ขัดแย้งกันของเธอ”ปู่ยิ้ม

“ถ้าอย่างนั้นปู่ก็จีบเธอใช่ไหมค่ะ..”นิศาชลผู้ไม่มีประสบการณ์ในความรักวิเคราะห์ทันควันปู่ขำและส่ายหน้า

“ไม่เลย..รู้สึกว่าเธอจะมีหนุ่มๆมีจีบเยอะทีเดียว ปู่ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว ได้พบเธอทุกวัน แกล้งเธอ ฟังเธอพูดเรื่องโน้นเรื่องนี้ ก็ดูจะมีความสุขดีอยู่แล้ว.. อีกอย่างเธอคงคิดว่าปู่เป็นพี่ชายของเธอมากกว่าเธอขี้อ้อนเหมือนหลานนี้หละ ฮื่อๆ” ปู่หันมาขยี่ศรีษะของนิศาชลเบ่าๆ อย่างเอ็นดู เหมือนภาพที่เคยทำกับเธอคนนั้นอยู่เสมอ

“ดูคุณปู่ชอบเธอหรือค่ะแล้วเมื่อปู่รู้ว่าเธอมีคนอื่นปู่ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือค่ะ”นิศาชลยังคงซักไซ้ด้วยความอยากรู้

“ปู่รู้สึกเป็นห่วงเธอมากกว่า เธอยังเด็กในสายตาปู่นะ แต่แล้วปู่ก็ตัดสินใจคบกับเพื่อนของเธอ เค้ามาสภาพรักกับปู่เค้าอยู่บ้านข้างๆ กับเธอปู่ก็มักจะไปที่บ้านของเธอทุกวันในยามเย็นหรือเมื่อมีโอกาส ไปนั่งคุยกับเธอและเพื่อนของเธอ นานๆเข้าเธอก็ตีตัวออกห่างไม่ค่อยพูดเล่นกับปู่เหมือนเคย อยู่มาวันหนึ่งเธอแกล้งปู่และปู่ตามเธอมา เห็นคุยอยู่กับเพื่อนอีกคน เพื่อนคนนั้นบอกกับปู่ว่าเธอแอบชอบปู่อยู่ไม่รู้หรือไง!..”ถึงตอนนี้คุณปู่ก็หยุดพูด

“แล้วไงต่อค่ะคุณปู่ เพื่อนของเธอพูดจริงหรือค่ะ แล้วคุณปู่ทำอย่างไงต่อ เธอหละเธอเป็นทำอย่างไง”นิศาชลถาม

“เธอก็คืนของที่ซ่อนปู่ และวิ่งหายไปในบ้าน ปู่ก็นิ่งเพราะตกใจ ที่จริงแล้วปู่ก็ไม่รู้ว่ามันเรื่องจริงไหมเพราะเธอก็ไม่พูออะไรต่อ จากวันนั้นปู่ก็พยายามที่จะผ่านหน้าบ้านเธอ แต่ก็ไม่เจอเธออีกเลย นานมากปู่ไม่ได้เจอเธออีกเลย กว่า  3 เดือนที่เธอไม่ยอมกลับบ้านเพราะไปเรียนประจำที่ต่างจังหวัด”นิศาชลเป็นฝ่ายถอนหายใจบ้าง...

“ฮื้อ..หนูว่าเธอคงเสียใจมากแน่เลยค่ะ และคุณปู่กับเพื่อนของเธอเป็นอย่างไงต่อค่ะ”นิศาชลถามคุณปู่ต่อ

“เราก็ติดต่อกันทางจดหมายบ้าง เพื่อนของเธอเล่าให้ปู่ฟังว่าเธอกำลังคบกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิงและเรื่องไม่ดีอีกหลายอย่าง ปู่เป็นห่วงเธอมาก และเมื่อเธอก็ยอมกลับมาในวันนั้นเธอมาหาน้องสาวปู่ และปู่แกล้งหลับแอบฟังพวกเธอคุยกันและเมื่อน้องสาวปู่ไปหยิบของ ปู่ก็ลุกตื่นมาเตือนเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นและให้เธอเลิกกับเค้าซะ และสุดท้ายปู่ก็บอกว่าปู่ได้เลิกกับเพื่อนของเธอแล้ว...ปู่ก็ได้แต่พูดว่าเราเปลี่ยนไปมากนะ ไม่เหมือนคนเดิมที่เคยรู้จัก..แต่เธอก็เดินออกไปโดยไม่พูดอะไรสักอย่าง” ปู่พูดเสียงเศร้า

“ที่ปู่เลิกกับเค้าเพราะเธอใช่ไหมค่ะ แต่สุดท้ายเธอก็มีคนรักอื่นน่าสงสารคุณปู่จังค่ะ”นิศาชลแสดงความเห็นใจ

“ที่แรกปู่ก็คิดว่าเธออาจไม่สนใจที่พูด แต่สุดท้ายเธอก็เลิกกับเค้า และเราก็กลับมาสนิทสนมกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ใช่เด็กอย่างที่เคยเป็นความห่างกันครั้งนั้นทำให้ปู่มองเห็นความต่างจากเดิม แต่..ก็เหมือนโชคชะตาแกล้ง เมื่อญาติผู้พี่ที่เป็นเพื่อนเก่าของปู่มาขอคบกับปู่และปู่ก็ได้ถามความเห็นเธอ และเธอก็บอกว่ายินดีด้วยปู่ก็คิดว่าเธออาจไม่เคยคิดอะไรกับปู่แบบนี้ ปู่จึงคบกับญาติของเธอ แต่ครั้งนี้ปู่กับเธอตัวติดกันมากขึ้นเพราะไปไหนมาไหนก็จะมี 3 คนปู่ได้อยู่ใกล้เธอไปเล่นกับเธอได้ทุกวัน”ใบหน้าคุณปู่ดูจะเริ่มมีรอยยิ้มอีกครั้ง

“แต่คุณปู่ค่ะ ถ้าเธอคิดกับคุณปู่มากว่าพี่ชายหละค่ะ..เธอคงเจ็บปวดมากที่ได้เห็นปู่กับคนรักทุกวัน”นิศาชลเศร้า

“ใช่แล้วหละ...เธอเริ่มตีตัวออกห่าง แต่คงเพราะเกรงใจพี่สาวก็ต้องทนอยู่ปู่คิดว่าอย่างนั้น.. ในที่สุดเมื่อเธอจะมาเรียนที่กรุงเทพ ครั้งนี้มันไกลมากการที่เธอจะกลับมาทุกอาทิตย์มันคงเป็นไปไม่ได้ ปู่ได้ให้รูปถ่ายพร้อมสลักอักษรหลังภาพไว้ว่า มอบแด่น้องสาว..จากพี่ชาย..และปู่ก็ได้รู้ว่าเธอจะเดินทางไปวันพรุ่งนี้ปู่ได้รู้เป็นคนสุดท้ายจากปากคนอื่น ปู่ถึงได้แน่ใจว่าเธอไม่ได้คิดอะไรกับปู่ทั้งนั้น ปู่รู้สึกโกรธเธอและมากคืนนั้นพวกเพื่อนปู่ฉลองเทศกาลสงกานต์จนถึงเช้ารุ่งของอีกวันไม่กลับบ้าน” นิศาชลจับมือคุณปู่เบาๆ

“เธอช่างใจร้ายจังเลยนะค่ะ.. ทำร้ายความรู้สึกของคุณปู่ได้ลงคอ”นิศาชลหันมาเข้าข้างปู่ของเธออย่างเห็นใจ

“แต่เมื่อในสายเธอเดินมาให้ปู่ไปส่งขึ้นรถ แต่ปู่ก็ปฏิเสธเธออย่างไม่สนใจ เธอพูดแค่จำไว้เลย.. แล้วก็เดินจากไปปู่มารู้ตัวอีกทีเธอก็ไปแล้ว ไปไกลมาก และเมื่อไม่มีเธอ ความรักของปู่กับญาติผู้พี่ของเธอก็เริ่มจะไปไม่รอดและมันก็ต้องจบลงในที่สุด ปู่ก็ไม่เห็นหน้าของเธออีกเลยนานกว่าครึ่งปี และเมื่อเธอกลับมาในช่วงพฤจิกาในปีนั้น.. ทันทีที่รู้ปู่ก็ไปหาเธอ เธอดูเปลี่ยนไปมากจากผมที่ยาวสวย กับสั้นจนแปลกตาแต่ก็ดูดีน่ารัก”คุณปู่อมยิ้มอีกครั้ง

“คุณปู่คงรอวันนี้มานานแล้วใช่ไหมค่ะ...แล้วคุณปู่ไม่คิดจะบอกความในใจให้เธอรู้บ้างหรือค่ะ”ผู้เป็นหลานถาม

“ใช่ปู่รอวันที่ได้เจออีกครั้ง และทุกๆเย็นที่ปู่จะไปหาเธอในช่วงเย็นจนดึกถึงกลับ เราจะพูดกับเรื่องนั้นเรื่องนี้มากมายไปหมดบางวันก็ไปตั้งแต่เช้า บ่าย และเย็นหลายเวลา จนวันที่เธอจะกลับมาเรียนต่อ ปู่อาสามาส่งเธอเองและไปรอเธอตั้งแต่บ่าย เรายังมีเรื่องคุยกันอีกมากมายระหว่างนั่งรอรถประจำทาง”คุณปู่อมยิ้ม

“มีอะไรเกิดขึ้นหรือค่ะคุณปู่ยิ้มแบบนี้ หรือว่าคุณปู่บอกรักเธอค่ะ”นิศาชลดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษที่ลุ้นอยู่นาน

“ไม่เลย ไม่ใช่ปู่ที่พูด แต่เมื่อรถประจำทางมาเธอรีบบอกอะไรบางอย่างกับปู่ เธอบอกว่าแอบรักมานาน และรักมาตลอดเธอแค่อยากให้รู้ก่อนจะตัดใจจากและไม่เจอหนีหน้าไป และก็วิ่งขึ้นรถไป”ครั้งนี้คุณปู่ยิ้มกว้างขึ้น

“ว้าว...ดีจังเลยนะค่ะ ที่จริงแล้วทั้งคู่มีใจตรงกัน แต่ก็นั้นแหละไม่มีใครพูด แล้วเป็นอย่างไรต่อค่ะ”ปู่ยิ้มให้หลาน

“ต่อมาปู่ขึ้นไปกรุงเทพ และเราได้พบกันเราคุยกันทุกวัน มันเป็นความรักที่นุ่มนวลอ่อนหวานที่สุด เราไม่เคยทะเลาะกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ก็มีบ้างที่ปู่แอบน้อยใจที่เห็นเธอมีหนุ่มๆมาวุ่นวายใกล้ๆปู่มีความสุขมาก ทุกๆเวลา แต่ก็เหมือนแอบคบเพราะแฟนเก่าปู่เธอก็คอยขัดขวางเราไม่ให้อยู่ด้วยกันแต่ปู่ก็หาทุกทางเพื่อไปพบเธอในทุกวันถึงขนาดต้องเดินไปหาในตอนกลางคืน เพราะกลัวว่าเสียงรถจะทำให้คนนั้นรู้และตามมาขวาง”ปู่เริ่มขรึม..

“อื่ม..น่าสงสารนะค่ะ..น้ำค้างสงสารปู่จังค่ะ แล้วเธอก็คงอึดอัดใจไม่น้อยและเธอดูมีความสุขไหมค่ะ”นิศาชลพูด

“ใช่..เรามีความสุขมาก แต่มันก็เพียงเวลาสั้นๆ ปู่คิดว่าเธออาจจะถูกพี่สาวของเธอแกล้งได้ แต่ดีที่เธอเป็นคนเก่ง และดูจะดุกว่าด้วยซ้ำ ความรักของเราเพียวเวลาสั้นๆ เมื่อเราเริ่มอยู่ห่างกันอีกครั้ง เพียงโทรศัพท์ที่ติดต่อกัน เธอเริ่มห่างออกไป ปู่ไม่มั่นใจจึงถามเธอว่าเราเป็นแฟนกันไหม..”เสียงคุณปู่เศร้าจับใจอีกครั้ง

“ทำไมหละค่ะ แล้วที่คบกันที่ผ่านมาไม่ใช่แฟนกันหรือค่ะ..แล้วเธอตอบปู่ว่าอย่างไง”นิศาชลจับมือปู่ให้กำลังใจ

“เธอเงียบไปนานจนปู่ใจหายและบอกว่าอย่าพึ่งตอบตอนนี้ แต่แล้วเธอก็เงียบไปนานปู่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นานๆทีเธอจะโทรมา เราก็คุยกันเรื่องอื่นเพราะเธอกำลังเรียนอยู่ วันหนึ่งปู่ลองใจเธอด้วยการบอกว่า มีคนมาจีบอยู่ แต่เธอกับบอกให้ปู่ลองคบดู เพราะเธอยังต้องเรียนอีกตั้ง 3 ปีกว่าจะจบ และสุดท้ายเราก็ห่างกันจนไม่มีวันกลับมาบรรจบกันได้อีก.... จนวันนี้ความสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นก็ยังคงมีอยู่ แต่การที่ไม่ได้เจอเธออีกเลยมันเป็นเรื่องเศร้ามากว่า”คุณปู่ถอนหายใจใหญ่เมื่อพูดจบ นิศาชลมองใบหน้าดวงตาเหมือนมีน้ำใส่ๆ คออยู่

“ผู้หญิงคนนั้นก็คือคุณย่าใช่ไหมค่ะ..”นิศสชลยิ้มรอให้คุณปู่หันมาสบตาและยิ้มตอบรับแทนคำพูด

“อื่ม..ชีวิตที่ต้องดำเนินต่อกับความรักอันไหนสำคัญกว่ากันนะค่ะ มันคงอยากมากถ้าต้องหาคำตอบ อาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตอย่างคุณปู่ที่ยังคงคิดถึงใครบางคนที่ไม่รู้ได้เลยว่าเธอจะใจตรงกันไหม”นิศาชลมองดูดวงดาว

“เมื่อถึงเวลา..หนูก็จะรู้มันเองมันอาจไม่สวยหรูอย่างปู่ หรือมันอาจจะดีเลิศกว่าใคร ก็ขอให้เรามีความสุขและถามใจตัวเองอยู่เสมอ สิ่งที่สำคัญที่สุดเราต้องรู้จิตรู้ใจตัวเองให้ได้..ไม่ว่าจะคิด พูด หรือทำต้องมีสติอยู่เสมอ”

“ค่ะ คุณปู่ น้ำค้างว่าจะไม่มีแฟนดีกว่า..จากเรื่องที่คุณปู่พูด ขณะยังไม่รักก็ทุกข์ และเมื่อรักก็ยังทุกข์ และทุกข์ยิ่งกว่าเมื่อต้องพลัดพลากจากคนอันเป็นที่รัก...”นิศาชลถอนหายใจใหญ่

“โชคชะตาฟ้าลิขิต..อาจทำให้เราเกิดมาเพื่อจะได้เรียนรู้จักความรัก ความสุข ความทุกข์ ความเศร้า  ความเสียใจ และลงที่ความเหงาอ้างว้าง นั่นก็แสดงว่าเราได้เรียนรู้มันทั้งหมด และมันจะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างแหละ ตัวเราต่างหากที่จะต้องคิดว่าบทเรียนมีไว้ทำอะไร”คุณปู่จับหัวนิศาชลเบา เธอกำลังคิดตามคำพูดนั้น

“ทั้งหมดมันคือบทเรียน หรือแค่บทเรียนค่ะปู”ผู้เป็นหลานยังคงสงสัย

“ทุกๆ นาทีที่ผ่านไป นั้นคือบทเรียนที่มีคุณค่า เพื่อให้เรานำไปใช้เมื่อเจอกับสถานะการณ์ที่คล้ายๆ กัน เราก็จะรู้ว่าต้องเดินไปทางไหนต่อ ต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดนั้นด้วยวิธีไหน”ปู่ยิ้มให้ผู้เป็นหลานที่กำลังจ้องมองตั้งใจฟังอยู่

“อย่างนี้นี้เอง...ที่เค้าว่ากันว่า อกหักดีกว่ารักไม่เป็น.. เพราะเราจะเห็นคุณค่ามันมากขึ้นเมื่อเสียมันไป”นิศาชลพูด

“สักวันหลานก็จะต้องมีบทเรียนที่เป็นแบบฉบับของตัวเอง ประสบการณ์ของผู้อื่นเป็นเพียงแนวทางให้วิเคราะห์ เพื่อหาวิธีแก้ไข เพียงบางอย่างแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เหมือนละครในแต่ละเรื่องก็ไม่ได้ดำเนินเหมือนกัน”คุณปู่ยิ้ม...

“ไปเถอะวันนี้ได้ฟังนิยายจนดึกมาแล้วได้เวลาเข้านอนสักที” คุณปู่ลุกขึ้น ผู้เป็นหลานช่วยพยุงคุณปู่เข้าบ้าน

................................................................................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
3.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา