เล่ห์กลรักเงาอสูร

-

เขียนโดย RATH

วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 00.57 น.

  30 chapter
  12 วิจารณ์
  41.39K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) บทที่ 3 ดวงตาแห่งความเศร้า_3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

http://www.keedkean.com

 

 

เล่ห์กลรักเงาอสูร

 

บทที่ 3 ดวงตาแห่งความเศร้า_3

 

            “เนด นายลองตอบคำถามของกัน มาอีกสักครั้งได้ไหม เหมือนกันจะฟังคำตอบอะไรผิดไป

            “ไม่ผิดหรอก เรก... มินตราเธออยู่ที่โรงพยาบาลจริงๆ และวันนี้ก็เป็นวันที่มินตรากำลังจะถูกย้ายออกพอดี

            “มันเกิดเรื่องอะไรกันขึ้น ทำไมมินตราถึงจะต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยน้ำเสียงดิเรกร้อนร้นใจอย่างอยากจะรับรู้คำตอบ

            “ไว้นายมาถึงแล้วฉันจะเล่าให้นายฟังเพราะเรื่องมันค่อนข้างจะยาวมากแน่นอนว่าหากธเนศมัวแต่พูดคุยโทรศัพท์กับดิเรกต่อไปนานๆ จุดประสงค์ที่ธเนศต้องการจะมาเค้นเอาคำตอบจากมินตราก็จะสูญเสียไปด้วย สู่ให้ดิเรกมาถึงโรงพยาบาลก่อนแล้วถึงค่อยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับดิเรกได้รับฟังที่หลังก็น่าจะได้เช่นกัน

            “อย่างนั้นก็ได้ ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนบอกกันมาตรงๆ ได้เลย กันจะรีบไปหา

            ธเนศบอกสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลให้กับดิเรกได้รับรู้ พร้อมวางสายโทรศัพท์ในทันทีแล้วเฝ้ารอคอยให้ดิเรกรีบมุ่งตรงมาหา ในขณะที่กำลังรอคอยดิเรกธเนศเองก็กำลังก้าวเดินตรงไปยังห้องพักผู้ป่วยของมินตรา วันนี้ธเนศจะต้องรับรู้ให้ได้ว่ามินตราเธอต้องการอะไรจากเขากันแน่ และเขาจะต้องรับรู้ให้ได้ว่ามินตราเธอมีแผนการจะแก้แค้นเขาไว้ว่าอย่างไรบ้าง

..........................

ประตูห้อง 2543 มินตรา เจ.คราส ถูกเปิดและปิดลงเบาๆ อีกครั้ง ธเนศจับจ้องมองหามินตรา ณ จุดหมายเดียวกันเสมอในทุกๆ เช้า ภายหลังจากมินตราเริ่มแข็งแรงดีเธอจะออกไปนั่งดื่มน้ำส้มหรือนมอุ่นๆ ที่เก้าอี้เล็กๆ ติดกับระเบียงด้านนอกอย่างเช่นเดียวกันกับในห้องของภูผา แต่ในวันนี้ มันแตกต่างออกไปจากในทุกๆ วันเพราะมินตราไม่ได้กำลังนั่งดื่มอะไรอยู่เลยแม้แต่น้ำส้มหรือนมอุ่นๆ สักแก้ว และที่แตกต่างออกไปจากในทุกๆ วันก็คือมินตราไม่ได้กำลังสวมใส่เสื้อผ้าอย่างเช่นคนป่วยทั่วไปในโรงพยาบาลอีกแล้ว วันนี้มินตราเธอสะสวยงดงามอยู่ในชุดแซกเนื้อผ้าบางเบาสีครีมลายดอกไม้หลากหลายเฉดสี ส่วนเส้นผมสีดำอันยาวปะบ่าของมินตราก็ถูกตกแต่งเก็บเอาไว้ด้วยกิ๊ปอันเล็กๆ มันทำให้เขาสามารถจับจ้องมองเห็นวงหน้ารูปไข่และดวงตาคมเข้มสุกใสและงดงามได้อย่างเด่นเจน ในยามนี้มินตรา เจ.คราส เธอช่างสะสวยสดงดงามอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด แววตาอันแสนเศร้าอย่างไร้ความรู้สึกไม่ได้มีหลงเหลืออยู่เลยในเช้าของวันนี้ มินตราแตกต่างจากโรสิลีคู่หมั้นของเขาอย่างสิ้นเชิง แม้โรสิลีคู่หมั้นของเขาจะสะสวยสดงดงามพอๆ กันกับมินตราแต่โรสิลีก็ยังคงห่างไกลกับคำว่าสวยได้อย่างเป็นธรรมชาติ อย่างเช่นที่เขากำลังจับจ้องมองเห็นมินตราอยู่ในขณะนี้ มินตราเริ่มลุกขึ้นยืนตัวตรงเมื่อเขากำลังจะก้าวเดินตรงเข้าไปหาเธอ มันทำให้เขาต้องหยุดยืนอยู่นิ่งๆ กับทีเพื่อรอคอยสิ่งที่มินตราต้องการอยากจะพูดกับเขา

ฉันยังไม่ได้ทานอะไรเลย เราลงไปข้างล่างแล้วหาอะไรทานกันก่อนเถอะนะค่ะมันมีไม่บ่อยครั้งมากนัก ที่ธเนศจะหลงลืมความตั้งใจเดิมๆ แล้วคล้อยตามคำชักชวนของใครไปได้อย่างง่ายๆ โดยเฉพาะจากผู้หญิงสาวสวยที่มีชื่อว่ามินตรา ที่เขากำลังมุ่งหน้ามาเพื่อจะเค้นเอาคำตอบจากเธอให้ได้ ก่อนที่ตัวเขาจะใกล้บ้าเข้าไปทุกๆ นาทีเช่นนี้ เขาจะต้องทำงานแข่งขันกับเวลาในทุกๆ วินาทีเพื่อที่จะให้บริษัทของเขาจะยังคงความสามารถที่จะอยู่ต่อไปได้และมินตรา เจ.คราสก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในงานที่เขาจะต้องรับผิดชอบ เพราะเธอคือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้เขาสามารถที่จะทำงานจนสิ้นและรักษาบริษัทของเขาเอาไว้ได้อย่างปลอดภัย

ตกลง ครับเธอยิ้มรับคำตอบของเขาอย่างว่าง่าย แล้วก้าวเดินนำหน้าเขาออกมาจากห้อง จนกระทั่งเขาและมินตราเราสองคนต่างมาหยุดยืนอยู่นิ่งๆ เคียงคู่กันอยู่ด้านหน้าของลิฟต์เพื่อลงไปสู่ชั้นล่าง เขาเป็นคนกดปุ่มเปิดและปิดลิฟต์ เธอหันวงหน้าและรอยยิ้มอันสะสวยและทรงเสน่ห์ส่งตรงมาให้กับเขาหลายครั้ง ตั้งแต่อยู่ในห้องจนกระทั่งเขาและมินตราก้าวเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่นิ่งๆ ภายในลิฟต์ ความรู้สึกอันอึดอัดภายในหัวใจของเขาก็ยังคงไม่ยอมผ่อนคลายลงเลยแม้แต่น้อย

คุณดูจะร้อนร้นใจอย่างไรชอบกลอยู่นะค่ะ คุณธเนศเขาอยากจะตอบเธอกลับคืนไปว่า 

“หากบริษัทเขากำลังจะล้มละลายอยู่ในวันสองวันนี้แล้ว ใครจะมีความรู้สึกดีใจและสนุกสนานกันอยู่ได้กันอีกเล่า” แต่เรื่องอะไรเขาจะทำให้เธอรู้สึกดีใจที่ได้เห็นเขากำลังกลัดกลุ้มใจและไม่สบายใจจนใกล้จะเป็นบ้าได้กัน

ผมก็แค่รู้สึกหิวข้าวเช้าอย่างเช่นเดียวกันกับคุณนั้นล่ะครับมันอาจจะเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด แต่มันก็ยังคงดีกว่าการที่จะต้องยอมรับออกมาตรงๆ แล้วให้มินตราเธอรู้สึกสนุกสนานที่ได้เห็นเขาทุกข์ทรมานใจอย่างที่จิตใจของเธอกำลังต้องการอยากจะได้เห็นมันอยู่ในขณะนี้

หรอค่ะ แต่ฉันคิดว่ามันไม่น่าจะใช่

แล้วคุณคิดว่า ผมกำลังเป็นอะไรอยู่ในตอนนี้ล่ะครับแน่นอนว่าคำตอบมันก็ตรงตัวอยู่แล้วเขากำลังรู้สึกร้อนรนใจอยู่จริงๆ แล้วมินตราเธอยังจะมาตอกย้ำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจเล่นอย่างนี้อีกทำไมกัน

ฉันให้สัญญาแล้ว ฉันก็จะยอมที่จะทำตามคำสัญญาค่ะ คุณธเนศก็อย่าได้ตื่นกลัวไปหน่อยเลยนะคะ

ผมไม่ได้กำลังตื่นกลัวเขากำลังพูดโกหก ความรู้สึกของเขาในเวลานี้ มันมากยิ่งกว่าคำว่าตื่นกลัว เพราะเขากำลังรู้สึกทุกข์ทรมานใจและมันน่าจะเป็นความรู้สึกที่เกินกว่าคำว่ากำลังตื่นกลัวไปมากมายเลยทีเดียว

คุณโกหก ไม่เก่งเลยนะค่ะ คุณธเนศ แต่ก็ช่างเถอะเธอส่งรอยยิ้มหวานอันทรงเสน่ห์มาให้กับเขาอีกครั้ง พร้อมพูดประโยคต่อไปให้จบในทันที

ส่วนเรื่องข้อตกลงระหว่างเราสองคนอย่างไรเสีย ฉันก็ต้องพูดคุยกับคุณจนได้ข้อสรุปที่แน่นอน คุณก็อย่าได้เป็นห่วงเป็นใยไปเลยนะค่ะคำพูดปากเปล่าอันไร้ซึ้งหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร มันได้ออกจากริมฝีปากสวยๆ ของมินตราหลายครั้ง แต่มันก็ยังไม่สามารถที่จะทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นได้เลย โดยเฉพาะเมื่อออกจากริมฝีปากผู้หญิงที่มีลักษณะอันน่ากลัวๆ ที่คิดจะแก้แค้นเขาและครอบครัวของเขาอยู่ตลอดเวลาเช่นนี้

ตกลงครับ เราจะพูดถึงรายละเอียดกันภายหลังจากทานอาหารเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วก็ได้เขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัว ในสิ่งที่เขาจะต้องแลกเปลี่ยนกันกับข้อตกลงของมินตรา แม้เขาจะยังไม่สามารถที่จะรับรู้ได้อย่างแน่ชัดว่ามินตรา ต้องการจะแลกเปลี่ยนสิ่งใดกับข้อตกลงของเธอที่กำลังจะเสนอแลกเปลี่ยนกับเขาก็ตาม แต่ในขณะนี้ ความรู้สึกในหัวใจของเขามันกำลังรู้สึกสับสนวุ่นวายใจ สาเหตุอาจจะเป็นเพราะมินตราช่างเป็นผู้หญิงที่สะสวยงดงามและมีเสน่ห์อย่างอยากที่เขาจะถอนสายตาไปจากเธอได้ง่ายๆ

โอ้พระเจ้า เธอสวยจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ ดิเรก หรือ ภูผาจะพากันตกหลุมรักเธอเข้าอย่างง่ายดาย”  แม้แต่เขาเอง ที่มีคู่หมั้นคู่หมายอยู่ก่อนแล้วก็ยังรู้สึกหัวใจเต้นแรกและหัวใจหวั่นไหวตามไปด้วย เมื่อได้มายืนอยู่เคียงคู่นิ่งๆ ข้างๆ กันกับมินตรา เขาขอภาวนาให้ลิฟต์จงวิ่งลงไปจนถึงชั้นล่างให้เร็วๆ ที่สุด ให้เร็วเกินกว่าความเร็วปกติของมันที่กำลังวิ่งอยู่ในขณะนี้
            “คุณกลัวที่แคบหรือค่ะ คุณธเนศ

เขาเนี่ยน่ะ กลัวที่แคบ” เขาสามารถที่จะเข้าไปนั่งเล่น นอนเล่นในโลงศพ แล้วนอนนับดวงดาวบนฝากฟ้าอยู่กลางป่าชาอย่างเพียงลำพังคนเดียวยังได้เลย

ครับ ผมกลัวที่แคบๆเมื่ออยู่ใกล้ๆ กับผู้หญิงสาวสวย เช่นมินตราเขารู้สึกว่าจะพูดคำโกหกได้อย่างคล่องปากดีเหลือเกิน สงสัยว่าเขาจะติดเอานิสัยชอบโกหกหลอกลวงมาจากภูผาน้องชายของเขาอย่างแน่นอน นิสัยอย่างเด็กเลี้ยงแกะประจำตระกูลของภูผา เขาไม่อยากจะนำเอามันออกมาใช้เลยเพราะมันอาจจะคืนกลับมาเป็นห่วงคล้องคอของเขาเองได้ในอนาคตข้างหน้า

เช้านี้คุณ ขี้จุ๊ บ่อยจังเลยนะค่ะคุณธเนศมินตรายิ้มเยาะและกล่าวหาเขาอย่างตรงๆ

คนไทยเขาเรียกกันว่าโกหกครับ ขี๊จุ๊มันเป็นภาษาวิบัติ เขาไม่นิยมใช้กันแล้วครับมันเป็นการเลี่ยงที่จะไม่ยอมรับออกไปตรงๆ ว่าเขามันเป็นพวกขี้จุ๊เบเบ้ ขี้จุ๊ตาลาลา

ขอโทษด้วยค่ะ ฉาน-ปาย-ยู-ต่าง-ปา-เทด-ต่าง-แต่-เด็ก-เลย-ลืม-คำ-ศัพ-ยาก-ยาก-ปาย-บ้างเธอแกล้งพูดล้อเลียนน้ำเสียงแปลกๆ อย่างนึกสนุกสนานใส่หน้าเขาและมันเป็นน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะชัดเจน อย่างเช่นน้ำเสียงของยายแพนดาเพื่อนสนิทของโรสิลีคู่หมั้นของเขา สุดท้ายลิฟต์ก็เริ่มเปิดกว้างออกมันเริ่มทำให้เขา เริ่มหายใจ หายคอได้อย่างคล้องปอดมากยิ่งขึ้น ความรู้สึกอึดอัดและความรู้สึกอันแปลกๆ ของเขาที่มีต่อมินตรามันเริ่มจะกระจายตัวออกไปตามช่องลมด้านนอกจนหมดสิ้นแล้ว แต่มินตราผู้หญิงร้อยเล่ห์ก็ยังคงส่งรอยยิ้มหวานๆ มาให้กับเขาอยู่เช่นเดิม ด้วยเหตุผลอันมากมายที่กำลังอัดแน่นอยู่ภายในจิตใจ มันทำให้เขาไม่ต้องการอยากจะสืบค้นหาคำตอบอันแน่ชัดในรอยยิ้มแอบซ่อนความร้ายกาจของมินตรา เธออาจจะยิ้มแย้มเพราะกำลังจับจ้องมองเห็นเขาเป็นเพียงแค่ตัวตลกสำหรับเธอเท่านั้น หรือเธออาจจะยิ้มแย้มเพราะเธอกำลังมองเห็นเขามีลักษณะอันผิดปกติอย่างไม่ใช่ตัวตนของเขาเองจริงๆ หรือเธออาจจะกำลังเริ่มตกหลุมรักผู้ชายเทห์ๆ รูปหล่อๆ เช่นเขาอยู่ก็ได้ เธอจึงพยายามจะหว่านเสน่ห์ใส่เขาอยู่เช่นนี้ การสันนิฐานในข้อสุดท้ายของเขาดูเหมือนว่ามันจะมีเหตุผลมากที่สุด แต่อย่างไรเสียมินตราก็อย่าได้มาคิดคาดหวังจะหลอกล่อผู้ชายรักนวลสงวนตัว และรักเดียวใจเดียวอย่างเช่นเขาให้ลุ่มหลงเสียให้ยากเลย เขาไม่มีวันคิดหลงเล่ห์เสน่หาของนางสุนัขจิ้งจอกสาวสวยอย่างง่ายๆ แน่นอน มันไม่มีวันจะเกิดขึ้นเสียล่ะ

แต่โอ้พระเจ้าแต่เธอสวยและช่างน่ารักเสียจริงๆ”  แกล้งหลงลืมสิ่งที่เพิ่งคิดไปเมื่อสักครู่นี้ให้หมดเลยดีไหมนะ

ผมให้อภัยครับ ทุกคนสามารถพูดผิดกันได้ โดยเฉพาะคนไทยที่ไปเติบโตและใช้ชีวิตอยู่ยังต่างประเทศเช่นคุณเขารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยที่ได้ตอบรับคำพูดล้อเล่นในน้ำเสียงอันแปลกๆของมินตรากลับคืนไปบ้าง ถึงแม้มันจะดูเป็นคำตอบออกแนวไร้สาระไปสักหน่อยก็ตามที และดูเหมือนว่ามินตราจะไม่ได้ยืนอยู่รอรับฟังสิ่งที่เขาพูดออกไปจนจบประโยคเลยด้วยซ้ำ เธอก้าวเดินหนีเขาไปอย่างหน้าตาเฉย อย่างไม่คิดจะเหลียวหลังแลกลับมามองเขาแลด้วยซ้ำ น้ำเสียงของเขาก็ไม่สามารถจะส่งไปถึงเธอได้อีกต่อไปแล้วเช่นกัน นอกจากเขาจะต้องตะโกนจนสุดน้ำเสียงตามแผ่นหลังเล็กๆ ของเธอไปเท่านั้น เธอก้าวเดินหนีหน้าเขาไปแบบดื้อๆ แบบมึนๆ ไม่คิดจะสนใจเขาเลยสักนิดเดียว คิดแล้วมัน

เจ็บแค้นใจ เจ็บแค้นใจ ...” เขาก้าวเดินเร่งสปีด ติดตามแผ่นหลังของเธอไปอย่างติดๆ เขาจะต้องก้าวเดินไปยืนหยุดอยู่เคียงคู่กับเธอ ให้ได้อย่างเช่นเดียวกันกับข้าวต้มมัดหรืออย่างกับปาท่องโก๋ให้จงได้ เรื่องอะไรเขาจะต้องมาเดินตามแผ่นหลังของเธออยู่เพียงลำพังคนเดียวด้วย การก้าวยาวๆ ติดๆ กันอย่างสม่ำเสมอสุดท้ายแล้วก็สามารถก้าวเดินมาหยุดยืนอยู่เคียงคู่กับมินตราอีกครั้งจนได้

คุณจงใจเดินหนีผมใช่ไหม

เปล่าฉันหิวข้าว

คุณจงใจเดินหนีผม ยอมรับมาซะ

ก็ได้ฉันจงใจเดินหนีคุณมา

ทำไม

ไม่มีเหตุผลอะไร ฉันก็แค่อยากจะเดินหนี ฉันก็เดินหนี มันไม่เห็นจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไรเลยไม่มีผู้หญิงคนไหน กล้าเดินหนีนายธเนศ เกียรติภูมินต์ คนนี้แบบไม่มีเหตุผล และไม่มีคำอธิบายมารองรับ ที่แน่ชัดมาก่อนได้หรอกนะ นางสาวมินตรา เจ.คราส

 

.........................................


 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา