Lemon Sherbet รักเปรี้ยวจี๊ดสุดขีดหัวใจ

1.3

เขียนโดย muxing

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 22.32 น.

  6 ตอน
  6 วิจารณ์
  11.49K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) เหยื่อ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

2

เหยื่อ 

           

                 “ตกลงตามนี้นะ”

                “แต่ว่า...”

                “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เร็วๆ เข้า พี่โชนกำลังเดินมาโน่นแล้ว”

                ซูซี่เร่งฉันที่กำลังอิดออดเพราะลังเลกับแผนที่ยัยนี่เป็นคนคิด จะบ้าเหรอ... ฉันเป็นผู้หญิงนะยะ จะให้เข้าหาผู้ชายก่อนได้ยังไง ถึงแม้หลายคนอาจจะมองว่าฉันเป็นคนแรงๆ ก็เถอะ ฉันไม่ได้แรงค่ะก็แค่มั่นใจเฉยๆ แต่ตอนนี้ความมั่นใจมันลดลงติดลบเจ็ดสิบไปแล้ว

                ฉันกระพริบตาปริบๆ มองพี่โชนที่กำลังจะเดินผ่านไปโดยไม่หันมามองพวกฉันสามหน่อที่นั่งอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว แค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วนะว่า พวกเราไม่ได้อยู่ในสายตาของพี่เค้าเลย TOT

 

                “ยัยเชอร์เบท เร็วๆ สิยะ”

                “ไม่เอา ฉันไม่กล้า”

                “เร็วซี่ เดี๋ยวพี่โชนเดินหนีไปนะ วุ้ย! ไม่ได้เรื่องเลย พี่โชนค้า~ ทางนี้ๆ”

                “ยัยซูซี่ O_O”

                ฉันหันไปดึงแขนยัยซูซี่ที่กำลังลุกขึ้นโบกมือหย็อยๆ เรียกพี่โชนให้หันมาสนใจ ซึ่งก็ได้ผลเมื่อพี่โชนหันมาทำหน้างงๆ ว่าเสียงแหบๆ จากนรกที่ไหนมาเรียก แต่พอหันมาเห็นเป็นยัยซูซี่และพวกฉันที่นั่งกันอยู่ก็เลยเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหวานและเดินเข้ามาหาทันที

                “ว่าไงครับ มีธุระอะไรกับพี่หรือเปล่า ^^”

                อ๊ากก อย่ายิ้ม >O<

                “อ๋อ คือยัยเชอร์เบทมีเรื่องจะคุยกับพี่โชนน่ะค่ะ”

                “ฮะ! ฉันเหรอ”

                ฉันชี้นิ้วเข้าหาตัวอย่างงงๆ เอ๊ะ นี่ฉันมีเรื่องจะคุยกับพี่โชนตั้งแต่เมื่อไรกัน แต่ยัยซูซี่กลับขยิบตาส่งสัญญาณมาให้ อะ... เอาไงดีล่ะทีนี้ ฉันจะแถไปทางไหนได้เล่า

 

                “ว่าไงครับ”

                “คือ...”

                “^^;;”

                “คือสีเหลืองกับสีแดงพี่โชนชอบสีไหนมากกว่ากันคะ”

                “หา!!”

                ทั้งพี่โชนและยัยซูซี่อุทานหาของออกมาพร้อมกัน แต่สายตาของซูซี่แทบจะตัดหัวฉันขาดอยู่แล้ว ฮือ... ก็มันคิดไม่ออกนี่นา

                “เอ่อ พี่ว่าเราออกห่างจากประเด็นนี้กันจะดีกว่าไหมครับ เพราะพี่กลัวจะเป็นหวัด ไอเสียงดัง ‘คุก คุก คุก’ ”

                “แหะๆ”

                คนหล่อเข้าใจปล่อยมุกนะคะ อิอิ

                “มีเรื่องกับพี่แค่นี้น่ะเหรอครับ”

                “มีอีกค่ะ มีอีกๆ”

                ฉันไม่มีแล้วนะยัยซูซี่ TOT

                ฉันหันรีหันขวางอย่างหาตัวช่วยแล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่หลิงลี่จนได้ นั่นแหละข้ออ้างของฉัน

 

               “คะ... คือเชอร์เบทยังไม่ค่อยเข้าใจวิชานี่เลยอ่ะค่ะ แถมพรุ่งนี้ก็มีพรีเซ็นต์แล้วด้วย พี่โชนพอจะมีเวลาว่างติวให้เชอร์เบทหน่อยได้หรือเปล่าคะ”

                แล้วฉันก็รีบคว้าหนังสือเล่มหนาในมือของหลิงลี่มาชูให้พี่โชนดูอย่างกระตือรือร้น

                “แต่ฉันเข้าใจแล้วนะเดี๋ยวฉันติวให้เธอเองเอาไหม”

                “-__-^^”

                “เอ่อ... แต่ก็ยังมีอีกหลายบทที่ยังไม่ค่อยเข้าใจเนอะ”

                ยัยหมวยนื่ท่าทางอยากจะตายด้วยน้ำมือฉันและซูซี่จริงๆ สินะ พี่โชนเงียบไปอย่างกำลังใช้ความคิด ส่วนซูซี่ก็แอบหันมายกนิ้วโป้งและขยิบตายิ้มแฉ่งให้ฉัน

                “ตอนนี้พี่มีเรียนซะด้วยสิ เอาเป็นว่าเดี๋ยวเย็นนี้หลังเลิกเรียนพวกน้องๆ ว่างกันมั้ยครับ จะได้ไปติวกัน”

                “ว่างค่ะว่าง”

                ไม่ปรึกษากันเลยนะยะยัยซูซี่ แต่เอาเถอะว่าไงก็ว่าตามกัน

                “โอเคครับ ถ้างั้นพี่ขอเบอร์โทรของเชอร์เบทไว้ได้ไหมเผื่อว่าพี่เลิกเรียนแล้วจะได้โทรหา”

                “เอ่อ...”

                “082-XXXXXXX”

                “โอเคครับ งั้นเดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ เลิกเรียนแล้วพี่จะโทรหา”

                “บ๊ายบายค่า ^^”

                ยัยซูซี่ลุกขึ้นส่งจูบชวนอ้วกให้พี่โชนที่เดินจากไปพร้อมกับเบอร์โทรของฉัน ฮือ... หมดกัน หมดแล้วความเป็นกุลสตรีของฉัน ป่านนี้พี่โชนเค้าจะมองว่าฉันเป็นคนยังไงกันเนี่ย

 

                “นี่ยัยซูซี่ แกไปให้เบอร์พี่เค้าง่ายๆ แบบนั้นได้ยังไงฮะ”

                “ทำไมจะให้ไม่ได้ล่ะ มันไม่ใช่เบอร์ฉันซะหน่อย”

                “นั่นเบอร์โทรฉันไม่ใช่หมายเลขสาธารณะเรียกโรคจิตที่เขียนไว้ตามประตูห้องน้ำประเภทที่ว่า อยากเสียวก็โทรมาเดี่ยวกันหลังไมค์นะ”

                “แล้วถ้าโรคจิตคนนั้นเป็นพี่โชนล่ะ”

                “เค้ายอม >///<”

                “ยัย... -__-;;”

                “แต่พี่โชนไม่ใช่โรคจิตซะหน่อย”

                “เอาน่า แกอย่าคิดมากไปเลย ฉันทำเพื่อแกจริงๆ เชื่อฉันสิว่านี่อาจจะเป็นแผนขอเบอร์โทรจีบผู้หญิงของพี่โชนก็ได้ บางที่พี่โชนเค้าคงจะสนใจแกนะยัยเชอร์เบท”

                “บ้า เป็นไปได้ยังไง”

                “แล้วแกจะเขินบิดไปบิดมาทำไม มันก็แค่ข้อสันนิษฐานของฉันเท่านั้นนะ”

                “ก็ซ้อมเขินเอาไว้ก่อนไงเผื่อพี่โชนเค้าจะจีบฉันจริงๆ แค่คิดก็สยิวกิ้วแล้ว อ๊ายย >.<///”

                “เมื่อคาดหวังเอาไว้แล้วก็อย่าลืมเผื่อใจให้กับความผิดหวังด้วยนะเชอร์เบท”

                “ยัยหลิงลี่!!”

                “เค้าขอโทษ T/\T”

 

                ตอนเย็น 5.28 p.m.

                หลังจากที่โทรคุยกับพี่โชนเรียบร้อยแล้วพวกเราเกิร์ลแก๊งทั้งสามกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังคณะสถาปัตย์ที่แฟนเก่าตัวดีสิงสถิตอยู่นั่นแหละ เสียงพี่โชนในโทรศัพท์หล่อม้ากกก อ๊ายย นี่แค่เสียงยังทำเอาฉันแทบคลั่งเลยนะเนี่ย ไม่ไหวแล้วๆ >O< อ้อ... หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องมาที่นี่น่ะเหรอ หึๆ มันก็ต้องมีแผนน่ะสิ

                ฉันจะเล่าอะไรให้ฟังอีกอย่างว่าทำไมพวกเราถึงได้รู้จักกับประธานนักศึกษาคนดังของมหา’ลัย ก็เพราะว่าพี่โชนเป็นรุ่นพี่อยู่คณะและเอกเดียวกับฉันนั่นเอง และยัยซูซี่ก็เป็นประธานเอกที่พวกเราเรียนกันอยู่ (เอกปรัชญา) เวลาที่มีประชุมอะไรทั้งหลายฉันที่เป็นรองประธานและหลิงลี่ที่ดำรงตำแหน่งเลขาฯ ก็จะต้องไปร่วมประชุมด้วยทุกครั้งเลยทำให้ได้พูดคุยกับพี่โชนบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมากมายนักและก็แอบปลื้มพี่เค้าอยู่แบบนี้

 

                อันที่จริงฉันก็ออกจะแปลกใจเล็กน้อยแหละนะว่าพี่โชนก็ฮอตขนาดนั้นแต่ไม่ยักมีแฟนสักที มีรุ่นน้องแทบทั้งมหา’ลัยที่กรี๊ดกร๊าดพี่เขากันทั้งนั้น แต่ก็ดีแล้วแหละ... ฉันจะได้มีคนเอาไว้ควงไปเย้ยไอ้บ้าโปเซียร์ไง

                “หือ? แกๆ นั่นไงยัยแป้งเปียกที่ฉันเล่าให้ฟัง”

                “คนไหน”

                “นั่นไง ตำแหน่งที่สองนาฬิกา”

                ว่าแล้วซูซี่ก็หันขวับไปตามที่ฉันบอกทันที ตรงนั้นมีคนที่ฉันจำได้ไม่มีวันลืมกำลังถือกระจกส่องหน้าและหัวเราะคิกคักอยู่กับเพื่อนของหล่อนอีกสองคน อยากจะรู้จริงๆ ว่าเวลาที่ส่องกระจกแล้วไม่ตกใจตัวเองบ้างหรือไงกันนะ ขนาดฉันที่ส่องทุกวันยังตกใจเลย ว่านางฟ้าคนไหนมายืนอยู่ตรงหน้า ฮิ้ววว ^O^ (เล่นเองคนเดียวก็ยังเอานะ)

                “ถ้างั้นเราก็คงจะต้องเข้าไปทักทายหน่อยล่ะมั้ง”

                “อย่าเลยซูซี่ อย่าไปยุ่งกับพวกเค้าเลยนะ เราไปรอพี่โชนตรงนู้นดีกว่า”

                “นี่เธอจะกลัวอะไรฮะหลิงลี่ มีฉันอยู่ทั้งคน”

                “เพราะมีเธอนี่แหละฉันถึงได้กลัว”

                ฉันก็คิดเหมือนเธอนะหลิงลี่ ตัวสร้างปัญหาอยู่ตรงนี้นี่นา

                “ไม่ต้องกลัว ตามฉันมา!”

                ว่าแล้วคุณเธอก็สะบัดก้นและกระชับกระเป๋าแอร์เมสราคาเฉียดแสนสีส้มสะดุดตาให้มั่นก่อนจะเดินเฉิดฉายมุ่งหน้าไปยังกลุ่มยัยแป้งเปียกที่ยังคงนั่งเอ๋อไม่รู้เรื่องรู้ราวว่ากำลังจะมีพญาเกย์เข้าไปวีนถึงที่ ฉันกับหลิงลี่มองหน้ากันแวบหนึ่งก่อนจะรีบแจ้นตามตูดยัยซูซี่ไปติดๆ

 

                พลั่ก!

                “=O=;;”

                ฉันกับหลิงลี่อ้าปากค้างอย่างตกใจที่จู่ๆ ยัยซูซี่ก็เดินเอากระเป๋าสุดไฮโซนั่นไปกระแทกหัวยัยแป้งเปียกจนหน้าคะมำอย่างตั้งใจ ตายแล้ว.... ยัยนี่ทำไมทำอะไรไม่เคยปรึกษากันก่อนเลยเนี่ย

                “เอ๊ะ! เดินยังไงฮะ ทำไมไม่ดูตาม้าตาเรือซะบ้าง”

                “คิกๆ”

                ยัยแป้งเปียกลุกขึ้นมาวีนตามคาดแต่ผลที่ตอบรับกลับกลายเป็นเสียงหัวเราะของยัยซูซี่ไปซะได้ พอฉันวิ่งเข้าไปดูก็พบว่าบนหน้าของยัยนั่นรอยลิปสติกทาเกินไปถึงติ่งหูแน่ะ พอเห็นภาพแบบนั้นฉันก็ถึงกลับปล่อยก๊ากออกมาทันที จนยัยนั่นหน้าเสียไปนิดหนึ่งก่อนที่เพื่อนเธอจะหันมาสะกิดและส่งกระดาษให้เช็ด

                “หัวเราะอะไรกันฮะ เดินชนแล้วทำไมไม่ขอโทษ”

                “อุ๊บส์ ถ้างั้นก็ขอโทษนะจ๊ะ พอดีกระเป๋าไม่มีตาเลยไม่รู้ว่าชนถูกอะไร”

                “นี่เธอ! อ้อ... ที่แท้ก็แฟนเก่าของโปเซียร์นี่เอง นึกว่าใคร วันนี้พาเพื่อนมาด้วยหรือไง”

                “=_=;;”

                “มาที่นี่เนี่ยจะมาหาโปเซียร์หรือไงยะ”

                “ฉันไม่มีธุระจำเป็นอะไรที่จะต้องมาหาของเก่าๆ ที่ไม่เอาแล้วหรอกนะ เพราะเธอก็มาเฝ้าของเก่าของฉันอยู่แล้วนี่นาจริงมั้ย”

                “พูดให้มันดีๆ นะ!”

 

                ยัยแป้งเปียกนั่นชี้หน้าแล้วก้าวเข้ามาหาฉันด้วยท่าทางเอาเรื่อง แต่ว่ากลับมีเสียงตัวการของเรื่องนี้ดังขึ้นซะก่อน

                “แป้งโกะ เชอร์เบท มาทำอะไรกันที่นี่”

                “แป้งก็มารอโปเซียร์ตามปกติไงล่ะ แต่ยัยนี่น่ะสิมาหาเรื่องแป้งถึงที่นี่เลย นิสัยไม่ดีเลยนะคะ”

                ฉันแอบเบ้ปากให้กับความสตอเบอร์รี่ของยัยนั่น เฮอะ... คิดว่าฉันจะเดือดร้อนหรือไง ในเมื่อเรื่องนี้โปเซียร์ไม่ได้เป็นพระเอกนี่นา ฉันจะแคร์กับคำใส่ร้ายป้ายสีตีไข่ของยัยนี่ไปทำไม ไม่จำเป็นต้องแก้ตัวอะไรทั้งนั้นแหละ หุหุ ด๊อนท์ แคร์

                “แล้วเธอมาที่นี่ทำไมน่ะ”

                “ฉันนัดกับแฟนไว้ก็ต้องมาที่นี่สิ”

                “เธอมีแฟนใหม่แล้วจริงๆ เหรอเนี่ย”

                “แน่น๊อน~”

                ฉันยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหันไปเห็นพี่โชนเดินเข้ามาพอดีเหมือนกับนัดคิวตัวละครเอาไว้เป๊ะ หึหึ ได้เวลาเปิดฉากดำเนินตามแผนแล้วสินะ

 

                “พี่โชน ทางนี้ค่ะ”

                ฉันโบกมือเรียกก่อนที่พี่โชนจะเดินยิ้มเข้ามาหา จนยัยแป้งเปียกจ้องตาเป็นมันเลย นี่อย่าบอกนะยะว่าเธอก็มาชอบพี่โชนของฉันเหมือนกันน่ะ เชอะ

                “รอนานมั้ยครับ”

                “นานแค่ไหนก็รอได้ค่ะเพื่อพี่โชน ^^”

                ฉันตอบเสียงหวานพร้อมกับเข้าไปควงแขนพี่โชนที่ยืนทำหน้าอึ้งๆ ไปแวบนึงแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังยืนเฉยๆ ให้ฉันเล่นละครได้ตามใจชอบอีกต่างหาก โอ๊ย ตายแล้ว นี่ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเนี่ยที่ทำอะไรถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ พี่โชนต้องเกลียดฉันแน่ๆ เลย ฮือๆๆ

                “สวัสดีค่ะพี่โชน ^^”

                “อ้าว สวัสดีครับแป้งโกะ”

                ใครอนุญาตให้เธอมาเสวนากับพี่โชนยะ หึงๆๆๆ

                “นี่พี่โชนเป็นฟะ....”

                “อุ๊ย! นี่ก็เย็นมากแล้วเรารีบไปกันดีกว่านะคะพี่โชน”

                ฮึ่ย ใครจะให้เธอหลุดคำถามที่ทำให้ฉันหน้าแตกออกมากันล่ะยะ เพราะฉะนั้นฉันก็เลยรีบลากพี่โชนออกมาก่อนที่ยัยนั่นจะพูดจบซะอีก ถึงจะเป็นแค่ละครฉากสั้นๆ แต่ขอบอกว่าฉันล่ะสะใจที่สุดที่ได้เห็นหน้ายัยแป้งเปียกนั่นเสียเซลฟ์เพราะฉันมีคู่ควงเป็นถึงหนุ่มฮอตที่สาวๆ ทุกคนคาดหวังรวมทั้งตัวยัยนั่นเองด้วย โฮะๆๆๆ

                สำเร็จ!!

 

                “ซูซี่ วันนี้ฉันสะใจเป็นบ้าเลย กรี๊ด”

                (เป็นไงล่ะ ฉันบอกแล้วว่าแผนนี้ต้องสำเร็จ)

                น้ำเสียงที่มั่นอกมั่นใจถูกส่งผ่านมายังหูโทรศัพท์ วันนี้หลังจากที่นั่งติวกับพี่โชนจนเย็นแล้วพวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้านทันทีโดยที่ฉันมีพี่โชนขับรถมาส่งถึงหน้าบ้านเลยด้วย พูดแล้วก็อยากจะกรีดร้องอีกสักล้านรอบ กรี๊ดดด ทั้งที่วันนี้วิชาเรียนที่ติวกันไม่ได้เข้าหัวฉันเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะมัวแต่จ้องหน้าพี่โชนอย่างเดียวน่ะสิ คนอะไรหล้อหล่อ แถมยังนิสัยดีอีกต่างหาก ไม่มีที่ติเลยจริงๆ เฮ้อ... พ่อเทพบุตรของฉัน (เพ้อไปแล้ว)

                “แกเห็นหน้าสองคนนั่นไหมว่าหน้าหดเหลือแค่สองเซ็นต์ ยิ่งยัยแป้งเปียกนั่นนะพอเห็นว่าพี่โชนเค้าสนใจฉันก็แทบจะกรีดร้องออกมาเลย”

                (ช็อตเด็ดแบบนี้ฉันไม่มีพลาดหรอกย่ะ อิอิ แต่พูดก็พูดเถอะนะฉันว่าพี่โชนเค้าอาจจะสนใจแกขึ้นมาจริงๆ ก็ได้นะยัยเชอร์เบท)

                “หือ? เอาตรงไหนมาสนใจฉัน”

                (เอ้า ก็ดูสิขนาดแกควงแขนประกาศโต้งๆ ขนาดนั้นพี่แกยังไม่ว่าอะไรสักคำซ้ำยังยิ้มรับอีกต่างหาก)

                “ก็เพราะว่าพี่โชนเค้าไม่รู้น่ะสิว่าฉันไปทำอะไรไว้บ้าง ไม่งั้นนะพี่เค้าอาจจะมองฉันเป็นผู้หญิงใจแตกไปแล้วก็ได้”

                ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉันจะกินยานอนหลับตายให้ดูเลย T^T

 

                (ทำเป็นพูดไป ไม่มีทางหรอกย่ะ แกก็ออกจะสวยพี่โชนก็ต้องมีหลงทางกันบ้างแหละน่ะ)

                เอ๊ะ! ทำไมพี่โชนจะชอบฉันแล้วใช้คำว่าหลงทางเนี่ย

                “เอาเถอะๆ ยังไงซะฉันก็พอใจแล้วที่ได้เย้ยยัยนั่นกลับไป เท่านี้ฉันก็นอนหลับอย่างเป็นสุขซะที คริๆ”

                (จะบ้าเหรอยะ แกทำมาทั้งหมดเนี่ยเพื่อจะแก้แค้นสองนาทีแล้วก็จบเนี่ยนะ!)

                “อ้าว แล้วแกจะเอาอะไรอีกล่ะ ยกนี้ก็เสมอกันไปแล้วไงทีนี้ก็ต่างคนต่างอยู่ ฉันจะไม่ยุ่งกับยัยปีศาจนั่นอีกแล้ว ปล่อยให้คู่นั้นไปเสวยสุขกันบนสวรรค์ขุมที่ร้อยแปดเถอะ”

                (กรี๊ดด!! ไม่ด้ายยย ไม่ได้เด็ดขาด)

                ยัยซูซี่แหกปากตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่งเหมือนกำลังถูกหมอผีเอาน้ำมนต์สาดเพื่อให้ผีกระเทยออกจากร่างทำให้ฉันเอาโทรศัพท์ออกจากหูแทบไม่ทัน

                “ยัยบ้า จะตะโกนทำไมเนี่ย หูฉันจะแตกอยู่แล้ว”

                (ไม่ได้ๆๆ แกจะพูดอย่างนี้ไม่ได้ เสมอไม่ได้ พวกเราจะต้องชนะเท่านั้น ชนะๆๆ แกเข้าใจมั้ยฮะ)

                “พอเถอะน่าซูซี่ ฉันไม่อยากจะไปยุ่งกับสองคนนั่นแล้วจริงๆ”

                (นี่เธอไปบวชชีกับยัยหลิงลี่มาหรือไงถึงได้เกิดอยากจะมาเป็นแม่พระอภัยมณีอะไรกันตอนนี้)

                “ได้โปรดอย่าพูดแบบนั้น ฉันกลัว =O=”

                ฉันไม่อยากเข้าวัดกับหลิงลี่แน่นอน

 

                (แกไม่เคยได้ยินหรือไงว่าตีงูต้องตีให้ตาย)

                “แต่โปเซียร์ไม่ใช่งูนี่”

                (โอ๊ย ฉันเปรียบเทียบย่ะ จะซื่อบื้อไปถึงไหน)

                “TOT”

                อย่าด่าหนู

                (ในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้วแกก็ต้องเดินหน้าต่อไปให้ถึงที่สุด นอกจากจะได้เยาะเย้ยแฟนเก่าแล้วบางทีแจ็กพ็อตอาจจะแตกได้พี่โชนสุดหล่อมาเป็นแฟนด้วยนะ กรี๊ดๆๆ แกคิดฉันก็ตื่นเต้นแทนแกแล้ว ให้ตายสิ... ฉันเชียร์แกเต็มที่เลยนะเชอร์เบท)

                ฉันเงียบไปเพราะกำลังคิดตามคำพูดของยัยซูซี่ อืม... พอนึกถึงหน้าตาอึ้งๆ ของโปเซียร์แล้วก็สะใจชะมัดเลยแฮะ หน็อย มาคิดว่าฉันลืมนายไม่ได้งั้นเหรอ รู้จักฉันน้อยไปแล้วย่ะ คอยดูเถอะ... ฉันจะคว้าพี่โชนมาเป็นแฟนให้ได้เลย

                “นี่แกคิดอะไรกับโปเซียร์หรือเปล่าเนี่ย ถึงได้ดูอยากจะแก้แค้นอะไรจริงจังนักฮะ”

 

                (กับโปเซียร์ฉันคิดแน่นอนอยู่แล้วย่ะก็ออกจะหล่อปานนั้น) ไม่ต้องทำน้ำเสียงหื่นๆ แบบนั้นก็ได้มั้ง (แต่ที่คิดมากกว่าคือยัยแป้งเปียกนั่นต่างหาก คนอะไรนอกจากจะสวยแล้วยังทำตัวน่าหมั่นไส้อีก ฉันล่ะไม่ชอบยัยนั่นจริงๆ เลยนะ)

                ตกลงแกกำลังด่าหรือชมเค้ากันแน่เนี่ย ฉันเริ่มสับสน

                “เคยมีความแค้นส่วนตัวกันหรือไง”

                (ก็เออน่ะสิ)

                “เฮ้ย! จริงอะซูซี่ ฮาว ว็อท เว็น แวร์ วาย?”

                ทำไมฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้เลยเนี่ย ทั้งที่ตัวก็ติดกันตลอดแถมเวลามีอะไรกระเทยไม่มีหูรูดอย่างซูซี่ไม่มีทางปิดฉันได้หรอก

                (ก็ยัยนั่นเคยแย่งแฟนฉันน่ะสิ”

                “ฮะ แกมีแฟนด้วยเหรอทำไมฉันไม่รู้อะ แฟนแกเนี่ยผู้หญิงหรือผู้ชาย”

                (ก็ต้องผู้ชายสิยะ อันที่จริงก็ไม่ใช่แฟนหรอกฉันก็แค่ชอบๆ เพราะว่าเค้าหล่อดีเฉยๆ น่ะและก็รู้ด้วยว่ายังไงเค้าก็คงไม่มาสนใจกระเทยอย่างฉันหรอก)

                โถๆๆๆ พ่อคุณ เอ้ย แม่คุณช่างน่าสงสารจริงๆ

                (แต่แกรู้อะไรมั้ย เป็นเพราะยัยแป้งร่อนเนี่ยแหละที่เข้ามาจีบเป้าหมายของฉันทั้งๆ ที่ฉันก็ชอบอยู่ ฮือๆๆ แล้วไงล่ะทีนี้ ไอ้หน้าหล่อนั่นมันก็ไปตกลงปลงใจตกเป็นของยัยแป้งร่อนนั่นเลยน่ะสิ ฉันแค้นๆๆๆ)

                “เอาน่าซูซี่ ฉันเข้าใจแกนะ”

                (ไม่ต้องมาทำเสียงสงสารฉันหรอกย่ะ เพราะว่าฉันไม่ได้เศร้าอะไรมากมายขนาดนั้นจะมีก็แต่แค้นเหมือนที่แกเป็นนั่นแหละ)

                “แน่ใจนะ”

                (เยส! อิสออไรท์)

                แฟนคลับพี่บี้มาเองเลยทีนี้ ปลื้มค่ะ

                “แล้วจะให้ฉันทำไงอะเนี่ย”

 

                (กลับมาเข้าเรื่องของเรากันต่อ ฉันได้ข่าววงในมาว่าก่อนที่ยัยแป้งเปียกจะมาคบกับโปเซียร์เนี่ย ยัยนั่นเคยชอบพี่โชนมาก่อนด้วยนะ เห็นตามตื๊ออยู่ตั้งนานแต่พี่โชนเค้าไม่สนใจ ยัยนั่นเลยหันไปหาโปเซียร์ในช่วงที่กำลังเลิกกับแกไงล่ะ เห็นมั้ยว่าถ้าแกได้ลงเอยกับพี่โชนนะมีแต่ได้กับได้เห็นๆ นอกจากแกจะมีความสุขแล้วฉันยังได้เห็นยัยแป้งร่อนนั่นกระอักเลือดตายอีกด้วย โฮะๆๆ)

                ยัยนี่มันปีศาจตัวจริงเสียงจริงเลยนะ ฉันเริ่มกลัว TOT

                “แกมีแผนแล้วหรือไง”

                ถามไปงั้นแหละ ไม่ได้คิดจะคาดหวังอะไรหรอก อยากทำอะไรก็ทำไปละกัน ยังไงซะฉันก็ไม่ได้เสียอะไรอยู่แล้วนี่นะ อิอิ

                (มีแล้ว)

                “ฮะ! นี่แกรีบเหรอไงยัยซูซี่ ทำไมคิดเร็วขนาดนั้น”

                (ใครจะชักช้าอืดอาดยืดยาดเซื่องซึมดั่งส้วมที่ทรุดโทรมรอรับการซ่อมแซมแบบแกล่ะยะ คนอย่างยัยซูซี่ซะอย่างต้องรอบคอบ และรวดเร็วฉับไว มั่นใจในบริการอยู่แล้ว)

                แกกำลังขายประกันอยู่หรือไงเนี่ย ฉันเริ่มรับไม่ได้กับความบ้าบอเกินพอดีของยัยนี่ซะแล้วนะ

                “ไม่ด่ากระทบฉันสักวันมันจะทำให้หน้าอกแกยุบหรือไงฮะ”

                (เชอะ ก็ฉันอิจฉาที่แกสวยกว่านี่ยะ ถึงได้ช่วยให้แกได้สมหวังกับพี่โชนนี่ไง ฉันว่าฉันมองคนไม่ผิดหรอกเชื่อฉันสิ)   “ฉันก็อยากจะเชื่อแกหรอกนะ แต่พอเชื่อแกทีไรหายนะเกิดทุกที”

                ซูซี่จิ๊ปากอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ฉันต้องกลอกตาไปมองเพดานและถอนหายใจออกมายาวยืด

ไปถึงแม่ฮ่องสอน

                (คราวนี้ฉันมั่นใจว่ามันจะต้องได้ผล!!)

 

                วันนี้ฉันค่อนข้างที่จะตื่นเร็วเป็นพิเศษเพราะว่ามีนัดไปสังสรรค์กันที่บ้านของหลิงลี่ อันที่จริงก็ไม่ได้ไปลั้นลาอะไรมากมายนักหรอกเพียงแค่ไปช่วยกันทำรายงานที่จะต้องส่งอาทิตย์หน้านั่นเอง มีงานได้ทุกวี่ทุกวัน เฮ้อ... ถึงแม้ว่าจะเห็นฉันทำตัวไร้สาระแต่จริงๆ แล้วฉันเป็นคนมีความรับผิดชอบนะคะ เหมือนอย่างงานพรีเซ็นต์เมื่อวันก่อนเราสามคนก็ช่วยกันทำเป็นอย่างดีไม่มีใครเอาเปรียบใครเหมือนอย่างที่ยัยซูซี่พูดหรอก ไม่ต้องไปสงสารหลิงลี่

                ฉันเดินลงบันใดมาก็เห็นยัยซอร์เบต์น้องสาวฝาแฝดที่แต่งตัวซะสวยกำลังเปิดประตูบ้านออกไปพอดี วันหยุดทั้งทีนี่จะไม่มีใครอยู่ติดบ้านเลยใช่ไหมนะ

                “ซอร์เบต์ นั่นเธอจะไปไหนน่ะ”

                ยัยซอร์เบต์หันมามองหน้าฉันด้วยสายตาเฉยชาทำให้ฉันรู้สึกว่ากำลังส่องกระจกอยู่เพียงแต่คนในกระจกมันออกจะไร้อารมณ์มากกว่าตัวจริงอย่างฉันไปหน่อย

                “ไปหาเพื่อน มันลากให้ฉันไปงานมีตติ้งอะไรของมันก็ไม่รู้”

                “หือ? งานมีตติ้งเหรอ กับใครอะ”

                “ศิลปินวงเอ้ๆ อะไรสักอย่างนี่แหละ”

                “วงโดลเช่ (Dolce) หรือเปล่า -__-;;”

                นั่นมันวงบอยแบรนด์อันดับหนึ่งของไทยเลยนะ กรี๊ดๆๆๆ  เนื้อเต้นๆๆ

                “เออนั่นแหละ ฉันไปก่อนนะ”

                “กรี๊ด วงนี้ดังมากเลยนี่นา เธออย่าลืมถ่ายรูปกับขอลายเซ็นเอ็ดวาล์มาให้ฉันด้วยนะ >.<”

                “ประสาท =_=;;”

                กรี๊ดๆๆ นี่ยัยซอร์เบต์จะไปเจอนักร้องงั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันขอเบี้ยวนัดกับยัยสองคนนั้นแล้วชิ่งไปเจอสุดที่รักเอ็ดวาล์กับซอร์เบต์จะได้ไหมนะ

 

              ในขณะที่ฉันกำลังเคลิบเคลิ้มกับใบหน้าอันหล่อเหลาของเอ็ดวาล์ยัยซอร์เบต์ก็หายตัวไปซะแล้ว แต่คนที่ปรากฏตัวขึ้นมาใหม่แทนคือเซอร์เบีย น้องชายคนสุดท้องนั่นเอง

              “แต่งตัวหล่อแบบนี้จะออกไปไหนอีกล่ะ”

              “ฉันก็หล่อของฉันทุกวัน เจ้เพิ่งสังเกตหรือไง”

              “=__=”

              มันหลงตัวเองเหมือนใครนะ

              “ไปแล้วนะพอดีมีนัด”

              “กับสาวล่ะสิ”

              “แล้วเจ้จะให้ฉันไปเดทกับผู้ชายป่ะล่ะ”

              ถ้าแกไปจริงๆ ฉันจะผูกคอตาย TOT

              “ชิ จะไปไหนก็ไปเลยไป กวนประสาทแต่เช้า”

            “โอเค ไปแล้วนะ แล้วอย่าลืมพาพี่โปเซียร์ว่าที่พี่เขยมาเที่ยวบ้านเราอีกล่ะ ฉันยังแค้นไม่หายที่เล่นเกมส์แพ้หมอนั่น”

             “เซอร์เบีย!!”

              ไอ้เด็กบ้า... รู้ทั้งรู้ว่าฉันกับโปเซียร์เลิกกันไปแล้วยังจะมาพูดแบบนี้อีก ฮึ่ย มันน่าเอาขี้เถ้ายัดปากไปตั้งแต่เกิดเลยนะเนี่ย โมโหๆๆๆ 

              เซ็ง เครียด ปวดประสาท ไปเข้าวัดกับหลิงลี่ดีกว่า -,.-

 

เจอกันอีกแล้ว อ่านเเล้วเป็นยังไงบ้างอย่าลืมมาเม้นติชมกันได้นะคะทุกคน ไม่ต้องเขินอาย อิอิ คนแต่งรอทักทายทุกคนอยู่นะจ๊ะ 

โปรดติดตามตอนต่อไปค่าาา

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา