สัญญามันใจ..ยายตัวแสบ

6.2

เขียนโดย แสงจันทรา

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13.50 น.

  24 ตอน
  1 วิจารณ์
  32.12K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

6)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

มีนาและสุธีพูดถูกคอกัน และเข้ากันได้เป็นอย่างดี สายธารและมินทร์ตาต่างพากันมึนงง มองทั้งคู่

     “ที่แท้คุณก็อยู่บ้านของน้องจริงๆ หรือครับ”สุธีถามเขายังมีท่าทีเขินมีนา

     “ค่ะคุณหมอ”มีนาตอบและหันไปยิ้มให้อีกฝ่าย

     “เอ้า..ทำไมมองฉันแปลกๆ แบบนั้นหละ”มีนาพูดเมื่อเพื่อนสาวทั้งสองจ้องมองเธออยู่

     “ตกลงเรื่องมันเป็นอย่างไง ทำไมถึงได้รู้จักกัน”สายธารถามขึ้น มีนายิ้มและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองฟัง จนถึงเวลาที่สุธีต้องเข้าเวณต่อพอดี

     “พี่ต้องไปทำงานแล้วนะน้อง ไว้วันหน้าจะแวะไปที่บ้าน ฝากสวัสดีทุกคนด้วยนะครับ”สุธีหันไปลาทุกคน

     “อ้อ..อีกเรื่องหนึ่งที่อยากของร้องคุณมีนา”สุธีเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ทุกคนกำลังรอฟังอยู่

     “ค่ะ..เรื่องอะไรค่ะคุณหมอ”มีนาแปลกใจ และรอฟังเขาพูดต่อ

     “คืออยากให้คุณเรียกว่า สุธี มากกว่าคุณหมอนะครับ”สุธีพูดขึ้น มีนานึกขำและพยักหน้ารับคำของเขา

    เสียงเคาะประตูดังก่อนที่สายธารจะเดินเข้ามาในห้องของมีนา เธอกำลังยุ้งอยู่กับการทำรายงาน

     “อ้าว..น้องยังไม่นอนอีกเหรอ”มีนาหันมองสักครู่ เธอก็หันไปสนใจกับรายงานของเธอต่อ

     “ยัง.. ฉันมีเรื่องอยากถามเธอสักเรื่อง”สายธารถามน้ำเสียงเบา จนแทบจะไม่ได้ยิน

     “มีอะไรเหรอ ถามมาสิ” มีนาหันกับไปยิ้มให้เพื่อนสาว สายธารดูเกรงๆ ที่จะพูดจนมีนาต้องหันหน้ามองเธอ

     “ว่าไง เธอมีเรื่องอะไรจะถามฉันเหรอ” มีนาลากเก้าอี้มานั่งตรงหน้าของเพื่อนสาว

     “อื่อ..คือเธอสนิทกับพี่สุธีมากเหรอ”สายธารถามด้วยเสียงอันแผวเบา มีนายิ้มและหัวเราะท่าทางของเพื่อนสาว

     “เธออยากบอกฉันนะว่าเธอหึงเขา” มีนาแกล้งพูด สายธารหน้าตาตื่นและรีบปฏิเสธทันที

     “หึงบ้าอะไรเล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เขาสักหน่อยแค่เราสนิทกันเป็นแค่พี่น้องเท่านั้นเอง”เธอปฏิเสธใหญ่

     “ไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ ทำไมต้องหน้าตาตื่นแดงขนาดนั้นหละ ฉันจะไปสนิทสนมกับเขาได้อย่างไง ก็อย่างที่เล่านั้นหละที่สำคัญฉันพึ่งรู้จักไม่กี่ครั้งเอง” มีนาอมยิ้มก่อนจะกลับไปทำงานต่อ สายธารดูจะดีใจเป็นพิเศษ

     “งั้นเหรอ..”สายธารเดินออกจากหน้ามีนาเมื่อได้คำตอบที่น่าพอใจ มีนายิ้มเธอรู้ว่า สายธารกำลังคิดอะไรอยู่ และในขณะนั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอยิ้มด้วยความดีใจ

     “สวัสดีค่ะ คุณแม่สุดที่รัก”มีนามีน้ำเสียงออดอ้อนใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของความสุข เดินออกมานอกระเบียง เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ผู้เป็นแม่ฟัง น้ำเสียงไพเราะอันหวานหู แทบจะไม่เคยได้ยินมาก่อน มันเป็นความรู้สึกหนึ่งที่ขัดแย่งกันโดยสิ้นเชิงกับภาพที่เคยเห็นสำหรับธนา ที่กำลังแอบฟังอยู่ข้างๆ ระเบียงอีกห้อง

     “แม่ขามีนาสบายดีไม่ต้องห่วงนะค่ะ ทุกคนดีกับมีนาค่ะ..แล้วคุณแม่เมื่อไหร่จะมาเยี่ยมหนูหล่ะค่ะ..เดือนหน้าก็ปิดเทมอ มีนาจะไปกอดแม่ให้สมใจเลยค่ะ.. ค่ะรักคุณแม่นะค่ะ..สวัสดีค่ะ” ธนาแอบฟังจนมีนาวางสาย เธอโผล่หน้ามารับลมด้วยสีหน้าที่มีความสุข ธนานึกสนุกขึ้นได้เขาจึงโผล่หน้าออกมารับลมสูดลมหายใจเช่นกัน

     “ฮู้..อากาศดีจริงๆ เลย”เสียงนั้นทำให้มีนาตกใจหันมอง และยิ่งตกใจเมื่ออีกฝ่ายหันมาส่งยิ้มยักคิ้วกวนประสาท

     “ฮะ..นี่นายมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”มีนาถาม แต่ธนายังคงเอาแต่ยิ้ม ไม่พูดไม่จาทำท่าทางยียวนกวนประสาท

     “นี่ นายจะกวนประสาทฉันไปถึงไหน คนเสียมารยาท ตกลงว่านายแอบฟังฉันคุยโทรศัพท์งั้นเหรอ”มีนาต่อว่า ด้วยความโมโห

     “ผมนั่งอยู่ตรงนี้ก่อนคุณด้วยซ้ำ..คุณต่างหากที่มาทีหลัง”ธนาพูด และแอบอมยิ้ม

     “ก็ได้ ครั้งนี้ถือว่านายรอดไป ถ้ามีคราวหน้าก็เราเห็นดีกันแน่” มีนาทนต่อล้อต่อเถียงต่อไปไม่ไว้ เธอจึงถอยทับปิดไฟ้เข้านอน ปล่อยให้ธนาชะเง้อมองและนึกขัน

                ธนาเดินลงมาจากชั้นบน แต่งตัวจะออกไปข้างนอกผู้เป็นแม่เห็นเข้าจึงถาม ขณะที่คนอื่นๆ กำลังนั่งรับประทานอาหารเช้ากันอยู่

     “ธนา ไม่ทานข้าวเช้าก่อนหรือ แล้วนี่จะออกไปไหนแต่เช้า” ธนาหันกลับมาพบว่าทุกคนกำลังสนใจมองยกเว้นแต่มีนา เธอทานข้าวต่ออย่างไม่สนใจ ธนาจึงเดินมานั่งร่วมโต๊ะอาหารอมยิ้มให้กับมีนา เธอมองตาโตทำให้ยักษ์ใส่

     “คือวันนี่ผมตั้งใจจะขึ้นดอย ไปหาข้อมูลทำวิทยานิพนธ์นะครับ” ธนาตอบและหันมองมีนา เธอมีท่าทางสนใจ

     “พี่ธนาไปดอยงั้นเหรอ ดีจังวันนี้ว่าง น้องขอไปด้วยได้ไหม” สายธารอ้อนวอน ธนายิ้มก่อนจะแอบมองดูมีนา

     “ไปได้ไง เราจะปล่อยให้เพื่อนอยู่บ้านคนเดียวเหรอ” ธนาพูดขึ้น สายธารยิ้มก่อนจะหันไปยังมีนา

     “ใครบอกว่ามีนาจะไม่ไปหละค่ะ อย่างไงเธอต้องไปอยู่แล้ว”สายธารตอบทำเอามีนาหน้าตื่น เธอถูกมัดมือชก

     “อ้าว.. ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยนะ ฉันอยู่ได้นะไม่ต้องหว่งหรอก”มีนาพูดทั้งที่ใจจริงเธออยากจะไปจะแย่

     “นั้นสิ.. พี่ว่าน้องอยู่เป็นเพื่อนเขาเถอะ พี่จะไปกับสุธีนะเพื่อนเราไม่ไปก็อย่าไปเลยนะ”ธนาพูดประชด มีนากัดฟันทำตาโตใส่ธนา ก่อนจะหันไปมองดูเพื่อนรักที่ดูจะมีท่าทางผิดหวังไม่น้อย

                รถมาจอดที่หน้าตีนเขา ที่เรียกกันว่าดอยตุง ที่นั่นมีชาวบ้านที่แต่งตัวในชุดชาวเขา อาการในยามสายยังคงมีหมอกหลงเหลืออยู่ ธนาเดินลงจากรถ ตามด้วยสุธี สายธารและมีนา ที่ดูจะตื่นเต้นกว่าใครๆ เธอมองดูสถานีที่ตรงหน้าด้วยความแปลกตา

     “ท่าทางคุณมีนาคงไม่เคยเห็นที่แบบนี้สิครับ”สุธีถามขึ้น เมื่อมองมีนาอยู่นาน

     “อื้อ...อากาศดีจัง..”สายธารพูดขึ้น สุธีหันไปยิ้มให้กับมีนา โดยไม่รู้ว่าธนากำลังแอบมองดูอยู่

     “ปะ...พวกเราไปต่อกันเถอะ ถ้าอย่างไงสาวๆ ก็ตามสบายนะ พี่จะไปเก็บข้อมูล”ธนากำลังจะเดินแยกไปอีกทาง

     “สุธีนายมากับฉัน ปล่อยพวกสาวๆ ไว้ แล้วมาเจอกันมื้อเที่ยวที่บ้านพักนะ”ธนาดึงสุธีมา ด้วยความฝืนใจ

     “นี่นายจะไปคนเดียวไม่ได้หรือไง ฉันจะไปดูแลสาวๆให้”สุธีกัดฟันต่อว่าเพื่อนรัก

     “นี่ไอ้หมอ ปล่อยให้พวกสาวๆ เขาไปดูอะไรสวยๆ งามๆ เถอะ เรามาทำงานนะโว้ย” ธนาพูดเพราะรู้ทันสุธี

     “นี่ฉันยังไม่คิดบัญชีกับนายที่ไม่ยอมบอกฉัน ว่าคุณมีนาอยู่บ้างนายเลยนะ”สุธีขึ้นเสียงเมื่อนึกขึ้นได้

     “แล้วฉันจะไปรู้เหรอว่าเป็นคนๆ เดียวกัน ฉันบอกนายแล้วไงวันนั้นฉันไม่ได้มองเธอ”ธนาแก้ตัวก่อนจะเดินนำไปก่อน สุธีมองด้วยสายตาที่จับพิรุธ แท้จริงแล้วธนารู้หรือว่าไม่รู้กันแน่

                มีนาเดินชมทิวทัศที่สวยงาม ชาวดอยแต่งชุดที่คล้ายๆ กันอยู่กันเป็นครอบครัวและเด็กๆ ที่วิ่งเล่นกันเป็นกลุ่มอย่างสนุกสนาม ทุกคนที่นี่ดูมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส่ แม้บ้านเรือนของพวกเขาจะดูเก่าและทรุดโทรมนัก

     “ที่นี่ไฟฟ้ามาถึงหรือยังน้อง” มีนาถามขึ้นด้วยอย่างสงสัย สายตาที่กำลังมองมาบ้างก็ดูหวาดกลัว บ้างก็ดูเป็นมิตร แต่พวกเด็กๆ พากันวิ่งไปแอบเมื่อมองเห็นมีนาและสายธารเดินผ่านเข้ามา

     “ยังหรอก ที่นี่ห่างไกลจากตัวเมืองมาก แต่ก็จะมีบาง บ้านที่มีเครื่องปันไฟ” สายธารตอบ และหันไปยิ้มให้เด็กๆ

     “เธอมาที่นี่บ่อยเหรอ ดูทุกคนจะเป็นมิตรกับเธอ”มีนาถาม เมื่อเห็นเด็กๆ ยิ้มตอบสายธาร

     “ก็ไม่บ่อยนักหรอก ครบครัวเราจะมาที่นี่ปีละ 2 ครั้งบริจากสิ่งของเสื้อผ้าเครื่องนุ่งหุ่มบ้าง เราจึงซื้อบ้านพักไว้ที่นี่หลังหนึ่งเวลามาพักผ่อน พี่ธนาสิมาบ่อย เขาตั้งใจจะมาเป็นครูอยู่บนดอยนี่แหละ แต่เรื่องนี้เป็นความลับนะ พ่อฉันอยากให้พี่เป็นวิศวกร”สายธารพูดถึงธนาทำให้มีนา ถึงกับปั้นหน้าปันตาทำปากขมุบหมิบด้วยความหมั่นไส้

     “อย่างอีตานั้นเนี่ยนะ คิดได้อย่างนี้ จ้างให้ก็ไม่เชื่อหรอก” มีนาบ่นเบาๆ แต่สายธารก็ได้ยินชัด

     “เธอเกลียดพี่ชายฉันมากเหรอ ความจริงพี่ธนาเขาเป็นคนดีมากเลยนะ อ่อนโยน สุภาพ แต่หมู่นี่เห็นคอยแต่จะกัดเธอบ่อยๆ ฉันก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เชื่อเถอะพี่ชายฉันไม่เกลียดเธอหรอก”สายธารยิ้มให้มีนาที่กำลังฟังอยู่

     “ความจริงฉันก็ไม่ได้เกลียดพี่ชายเธอหรอก แค่เราเจอกันด้วยความบังเอิญที่ไม่น่าประทับใจ 3 ครั้ง จากนั้นก็ไม่มีใครเริ่มที่จะพูดกันดีๆ ก่อนเท่านั้นเอง”มีนาเล่าให้เพื่อนรักฟัง ทั้งสองเดินมาถึงบ้านพักพอดี

     “จริงเหรอ คนโบรณาเขาว่าไว้ ถ้าใครพบกันโดยความบังเอิญ 3 ครั้งถือเป็นพรลิขิต”สายธารยิ้มและมองมีนา

     “ไม่!! ไม่จริง เธออย่ามาหลอกฉันเสียให้ยาก”มีนารีบปัดป้องตัวเองจนหน้าแดง เรื่องแบบนั้นใครจะเชื่อจริงๆ

     “ไม่รู้สิถ้าเป็นจริงคงจะดี”สายธารพูดไปยิ้มไปเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนสาวร้อนตัวรีบปฏิเสธ

     “ตลกมากหละสิ หลอกฉันได้ ไม่เอาดีกว่าเชิญเธออยู่คนเดียวไปเถอะ ฉันขอตัวไปเก็บภาพสวยๆ ก่อน”มีนาทำค้อนก่อนจะเดินออกไปจากบ้านพักสายธารยิ้มเมื่อมองตามเธอ

                ธนาถ่ายภาพและเก็บรวบรวมข้อมูลจนเวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมงโดยมีสุธีที่ทำหน้าเช็งเดินตามติดๆ

     “นี่มันจะ 11 โมงแล้วนะ นายไม่คิดจะพักบ้างหรือ”สุธีพูดเสียงดูอ่อนแรง

     “ฉันรู้ทันหรอกนะ นายอยากไปที่บ้านพัก อื้อ...ถ้างั้นนายกลับไปก่อนก็ได้นะไว้เจอกันตอนเที่ยง”ธนายอมปล่อยสุธีไป ทั้งที่รู้ว่าสุธีไม่ได้เหนื่อย แต่อยากจะไปหาพวกสาวๆ มากกว่า สุธีไม่รอช้าเขารีบหันหลังเดินกลับทันทีที่ธนาพูดจบ ธนาฝากเอกสารให้สุธีถือไปก่อนเหลือเพียงกล้องถ่ายภาพอันเดียวเท่านั้น

    “โอเค อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกัน”สุธีเดินไปจนลับตาของธนา เขาจึงเดินมุ่งหน้าไปยังลำธารของหมู่บ้าน

เมื่อเดินมาถึงธนาชื่นชมความสวยงามถ่ายภาพที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นดอกกล้ายไม้ป่า ชาวบ้านที่กำลังตักน้ำ และเด็กๆ ที่กำลังเล่นน้ำอย่างมีความสุข ภาพเหล่านั้นทำให้ธนายิ้มออก ธนามองหามุมกล้องดีๆ ผ่านเลน เพื่อเก็บภาพดีๆ แต่แล้วเมื่อกดชัดเตอร์ ในภาพนั้นมีหญิงสาวกำลัง นั่งที่โขดหินปล่อยขาแช่น้ำ เธอหลับตาเชิดหน้ารับลมใบหน้ามีรอยยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก บอกได้ว่าเธอกำลังรู้สึกสบายแบบสุดๆ เมื่อธนามองดูเธอให้ชัดๆ ก็พบว่า...

     “นั้นมีนานี่...มานั่งทำอะไรตรงนั้นคนเดียว”ธนาสงสัย แต่เมื่อเขามองนานๆ เธอก็ยังอยู่ในท่าเดิม

     “ดูท่าทางเหมือนไม่เคยเจอที่แบบนี้”ธนาพูดและยิ้มออกมา นั่นเพราะรอยยิ้มของเธอดูน่ารักสดใส่ ต่างจากภาพที่เคยเห็นจนแปลกตา ธนาอดที่จะแอบถ่ายภาพเธอไว้หลายภาพเลยทีเดียว เขาแอบเดินเข้าไปใกล้ๆ..

     “อยู่นิ่งๆ ก็ดูน่ารักเหมือนกันจะเนี่ย” ธนาพูดและแอบย่องเดินเข้าไปจนใกล้หมายจะแกล้งเธอ แต่แล้ว...

     “โอ้ย..!” ธนาก็ลื้นล้มโขดหิน ทำให้มีนาสะดุ้งด้วยความตกใจ เธอหันมองหาต้นเสียก็พบว่าธนากำลังนั่งลูบสะโพกด้วยความเจ็บที่อ่างน้ำ มีนาตกใจในนาทีแรก แต่แล้วเธอกับหัวเราะดังลั่น ที่เห็นธนาหน้าของธนา

     “นี่นาย อยากอาบน้ำหรือ ทำไมไม่ลงดีๆ หละ หิหิ”มีนายังคงเอาแต่หัวเราะ ธนาถึงกับหน้าจ๋อยและรู้สึกหน้าแตก

     “คุณจะหัวเราะไปถึงเช้าเลยหรือไง ช่วยผมหน่อยสิ”ธนายื่นมือให้มีนา เธอมองทำหน้าฉงนอยู่ครู่หนึ่ง

     “ถ้าฉันช่วยนาย นายจะให้อะไรฉัน”มีนา มีข้อแลกเปลี่ยน ธนารู้สึกฉงนใจ แต่มีนาก็ฉุดเข้าขึ้นมาเสียก่อน

     “ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนด้วยเหรอ รู้อย่างงี้ไม่ขอให้ช่วยซะยังดีกว่า”ธนาบ่นเมื่อเดินกระแผกๆ มานั่งที่โขดหิน

     “คิดช้าไปแล้วหละ นายคิดว่าฉันจะช่วยฟรีๆ งั้นเหรอ...”มีนาหันกลับมาด้วยท่าทางทะเล้น ธนากำลังจะพูดต่อ...

     “ไม่มีทาง ความแค้นระหว่างเรายังต้องรอการชำระ”มีนาพูด และหันรอยยิ้มที่แฝนไปด้วยชัยชนะ

     “เจ้าเล่ห์ชะมัด” ธนาพูดขึ้น แต่ดูคำนั้นจะถูกใจมีนาเอามาก

                ขณะเดียวกันที่สุธีเดินมาถึงที่พัก ส่วนด้านในสายธารกำลังยุ่งอยู่กับการจัดเตรียมอาหารเสียงประตูเปิด

     “กลับมาแล้วหรือมีนา หิวหรือยัง”สายธารหันมาก็พบว่าคนที่ยืนอยู่เป็นสุธี เธอดูจะตกใจจนช้อนหลุดจากมือ

     “อุ้ย!! พี่น่ากลัวมากหรือ น้องถึงตกใจขนาดนั้น”สุธีสำรวจตัวเอง และหยิบช้อนที่ตกยื่นให้เธอ

     “ก็พี่มาเงียบๆ ฉันตกใจหมดสิ..แล้วนี้พี่ชายหละ”สายธารมองหาเมื่อเห็นสุธีมาคนเดียว

     “เที่ยงๆ คงตามมา แล้วเราอยู่คนเดียวเหรอ คุณมีนาไปไหนเสียหละ”สุธีชะเง้อมองหาดูรอบๆ จนสายธารหมั่นไส้

     “ไม่ต้องหาหรอกค่ะ มีนาออกไปเดินเล่นคงกลับเที่ยงๆ เหมือนกัน”สายธารพูด แล้วเธอหันไปสนใจทำอาหาร

     “เราดูเป็นเปลี่ยนไปเยอะนะ แล้วทำไมต้องทำค้อนพี่อย่างนั้นหละ”สุธีพูดเมื่ออีกฝ่ายทำเป็นไม่สนใจเขา

      “พี่จำได้น่ะ...เมื่อก่อนเราจะชอบเล่นขายของบังคับให้พี่เป็นลูกค้าอยู่ประจำ ไม่นึกว่าโตขึ้นเราก็ชอบทำอาหารเหมือนตอนเด็กๆ”สุธีพูดถึงความหลังและแอบมองปฏิกิริยาของสายธาร เธอเริ่มยิ้มออกด้วยท่าทางเขินอาย

     “พี่ก็เลิกล้อฉันได้แล้ว ตอนนี้ฉันไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ”สายธารดูมีน้ำเสียงน้อยเอาน้อยใจสุธียิ้มเมื่อเธอค้อนใส่

     “ไหนโตสักแค่ไหน ถึงหน้าอกพี่หรือยัง”สุธีลุกขึ้นมายืนตรงหน้าและดึงตัวสายธารมาวัดความสูงทั้งคู่ใกล้จนตัวชิดกัน ขณะที่สุธีกำลังวัดส่วนสูงอยู่ เขากับไม่เคยรู้เลยว่าสายธารตื่นเต้นจนตัวสั่นเมื่ออยู่ใกล้ชิดเขา

     “พี่สุธีเล่นอะไรบ้าๆ” สายธารผลักสุธีออกห่างก่อนจะเดินออกไปนอกบ้าน สุธีดูจะงงกับท่าทีแปลกๆ ของเธอ ปกติแล้วทั้งสองสนิทสนมกันมากเรื่องแค่นี้ถือเป็นเรื่องปกติ สุธีรีบเดินตามสายธารออกไป

     “เป็นอะไรไป น้องดูท่าทางแปลกๆ โกรธพี่เรื่องอะไรบอกพี่หน่อยได้ไหม”สุธีถาม สายธารรีบหาข้ออ้าง

     “เปล่านี่..ฉันแค่กลัวว่าจะตัวเล็ก แล้วพี่จะล้อว่าฉันเป็นเด็กเท่านั้นเอง”สายธารตอบและพยายามหลับหน้าเขา

     “อ้อ นึกว่าเรื่องอะไร ถ้าน้องไม่ชอบพี่ก็จะไม่พูดอีก พี่ตามใจน้องเสมอนี่”สุธียิ้มก่อนจะขยี้หัวเธออย่างเอ็นดู

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา