พี่ชายจำเป็น!

7.7

เขียนโดย nonggifs

วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 23.50 น.

  6 บท
  57 วิจารณ์
  15.75K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

6)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

         นายติงต๊องโทโมะลากฉันไปยังส่วนที่เป็นสนามกีฬา ฉันเห็นเด็กผู้ชายมากมายที่อยู่บริเวณนี้และมีเด็กผู้หญิงอีกนิดหน่อย พวกเขาทุกคนต่างหันมามองอะไรบางอย่างที่วิ่งผ่านพวกเขาไปราวกับสายฟ้าแลบ และอะไรบางอย่างนั่นก็คือร่างของฉันที่ลอบละลิ่วตามโทโมะไปนั่นเอง เขาลากฉันไปโดยไม่สนใจเสียงร้องตะโกนแหกปากโวยวายของฉันเลยสักนิด และอยู่ๆ เขาก็โยนฉันลงไปนอนแหมะอยู่ที่พื้น

 

         “ไอ้เขื่อนส่งคีย์การ์ดของแกมาหน่อย ฉันไม่ได้เอาของฉันมา” โทโมะว่าแล้วเขื่อนก็ส่งบัตรสีดำเมี่ยมให้โทโมะ เขารับไปก่อนจะรูดมันเข้ากับเครื่องที่ติดอยู่ที่ฝาประตู

 

         “นายพาฉันมาที่ไหนเนี่ย!” ฉันรีบผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว สองตากวาดไปรอบๆ และก็พบว่าที่นี่คล้ายเป็นบ้านหลังใหญ่ๆ หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ถัดออกมาจากสนามกีฬานิดหน่อย

 

         “ที่นี่เป็นห้องเปลี่ยนชุดและก็เป็นห้องเก็บอุปกรณ์ เข้าไปสิ” โทโมะผลักหลังของฉันให้เดินผ่านประตูนั่นเข้าไป สายตาของฉันเหลือบไปเห็นป้ายพลาสติกเล็กๆ ที่แขวนอยู่หน้าประตู... (( Man ))

 

         “เฮ้ย นี่มันเป็นห้องผู้ชายไม่ใช่เหรอ!”

 

         “ก็ใช่ แล้วทำไม -_-;;”

 

         “แล้วฉันจะเข้าไปได้ยังไง!”

 

         “ก็ได้แค่เดินเข้าไป นี่ไง เห็นมั้ยว่าเธอเข้ามาแล้ว” โทโมะผลักฉันให้ถลาเข้าไปในบ้านหลังนั้น ส่งผลให้ร่างกายส่วนที่เหลือผลุบเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดโซนผู้ชายจนหมดสิ้น ฉันคว้าขอบประตูเอาไว้อย่างรวดเร็ว

 

         “เธอทำอะไรของเธอ -_-^”

 

         “ฉันไม่เข้าไปแน่ ในนั้นมีแต่ผู้ชาย!”

 

         “ไม่มีใครอยู่แล้วล่ะน่า”

 

         “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ป้ายมันก็แปะเอาไว้ว่าเป็นของผู้ชาย”

 

         “หรือเธอจะให้ฉันไปเข้าห้องของผู้หญิง?” คำตอบเขาเล่นเอาฉันอ้าปากพะวาบๆ แบบนั้นมันก็ไม่เหมาะ แต่ถ้าให้ฉันเข้าไปในห้องของผู้ชายมันก็ไม่เหมาะเหมือนกัน!

 

         “ถ้าอย่างงั้นฉันรอข้างนอกก็ได้”

 

         “ไม่ได้! เธอต้องเข้าไปกับฉัน”

 

         “ทำไมฉันต้องเข้าไปด้วย ให้ฉันรออยู่ข้างนอกนี่ก็ได้ นะๆๆๆ >O<”

 

         “ถ้าให้เธอรออยู่ข้างนอก เธอก็ชิ่งหนีฉันน่ะสิ อย่าเรื่องมาก เข้าไปเหอะน่า”

 

         “แต่ฉันไม่อยากเข้าไปอ่ะ TT^TT”

 

         “ถ้าเธอขัดใจฉันอีก ฉันจะไม่ช่วยเธอเรื่องพี่กล้าอะไรนั่น” ง่ะ =O= ไอ้หมอนี่เอาเรื่องพี่กล้ามาขู่ฉันอีกแล้ว และฉันก็ต้องยอมเขาแต่โดยดี คอยดูเถอะ สักวันฉันจะต้องเอาคืนแน่!

 

         “เขื่อน แกจะกลับไปซ้อมก่อนหรือเปล่า” โทโมะหันไปคุยกับเพื่อนชายหัวสีทองของเขา หมอนั่นส่ายหัวเร็วๆ ก่อนจะทำหน้าแหยงๆ

 

         “ขืนฉันกลับไปตอนนี้มีหวังพี่เคนฆ่าฉันตายแน่ รอกกลับไปพร้อมแกดีกว่าว่ะโทษหารสอง” เขื่อนฉีกยิ้มกว้างพร้อมชูสองนิ้ว ฉันมองผู้ชายคนนั้นแล้วพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงมาเป็นเพื่อนกับโทโมะได้ =_=

 

         “เออ งั้นแกเฝ้าหน้าห้องไปนะ เดี๋ยวฉันมา ไปกันเถอะถั่วแมนจู” แล้วหมอนั่นก็ลากฉันเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดหร้อมๆ กัน ประตูห้องปิดลงพร้อมกับความมืดมิดที่เข้ามาแทนที่ ฉันคว้าสิ่งที่อยู่ใกล้ที่สุดเอาไว้ในมือ

 

          “ปล่อยแขนฉันนะยัยถั่วเน่า~!” เสียงของโทโมะดังขี้นมาท่ามกลางความมืดก่อนที่แสงไฟจะสว่างพรึ่บ ฉันก้มลงมองสิ่งที่ฉันคว้าเอาไว้ และนั่นก็คือท่อนแขนแกร่งของโทโมะ ฉันรีบปล่อยแขนนั่นอย่างรวดเร็ว

 

         “โทษที -///-”

 

         โทโมะหันมามองฉันพร้อมกับเผยยิ้มเล็กๆ ที่ทำเอาหัวใจเต้นผิดจังหวะ ก่อนที่เขาจะก้าวออกไปหยุดอยู่หน้าล็อกเกอร์สีดำมะเมื่อมเช่นเดียวกับคีย์การ์ดที่ต้องใช้ตอนเข้ามาและรื้ออะไรบางอย่าง โทโมะคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาจากล็อกเกอร์พร้อมกับรองเท้าผ้าใบสีขาวที่ค่อนข้างเกรอะกรังไปด้วยขี้โคลน เขาปิดล็อกเกอร์เอาไว้เหมือนเดิมอีกครั้ง ก่อนจะหันมากวักมือเรียกฉันยิกๆ ฉันเดินเข้าไปหาเขาพร้อมกับความงุนงง

 

         “ถืออันนี้ไว้นะ” โทโมะส่งผ้าขนหนูผืนจ้อยมาให้ฉัน ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องเล็กๆ ที่อยู่ด้านในสุดของที่แห่งนี้ ฉันรีบเดินตามเขาไปอย่างไม่รีรอ มือหนาถูกยื่นออกมาข้างหน้าเมื่อฉันขยับเข้าไปใกล้เขามากขี้น

 

         “หยูดดดดด~ เธอรอฉันตรงนี้ หน้าห้องนี้” โทโมะชี้ลงที่พื้นประกอบกับคำพูดของเขาเพื่อบ่งบอกตำแหน่ง เมื่อเห็นฉันพยักหน้ารับรู้ เขาก็เดินเข้าไปในห้องนั้นพร้อมกับกระเป๋าที่รับมาจากเขื่อนก่อนจะปิดประตูลง

 

         แล้ว...เขาให้ฉันมายืนตรงนี้ทำไม =_=?

 

         ฉันเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ เพราะตอนนี้ก็เป็นเวลาเจ็ดโมงสี่สิบห้านาทีแล้ว อีกสิบนาทีประตูโรงเรียนก็จะปิด ฉันต้องโดนลงโทษที่ไปสายแน่เลย T^T

 

         “ยัยถั่วแมนจู เตรียมรับนะ”

 

         “หา? อะไร!?” ระหว่างที่ฉันกำลังงงๆ อยู่กับคำพูดของเขา อะไรบางอย่างก็หล่นแหมะลงบนหัวของฉัน และเมื่อฉันดึงมันลงมาด็ก็พบว่ามันเป็นอะไรที่คุ้นตาอย่างประหลาด มันคือเสี้อยืดสีฟ้าของพี่กล้าที่โทโมะใส่เมื่อเช้านี้

 

         เฮ้ย O_O!! เมื่อฉันหันหน้ากลับไปหมายจะวีนใส่เขาสักตั้ง สัมผัสหนักๆ ที่หล่นทับหัวอีกครั้งก็ทำเอาฉันอึ้งไป คราวนี้เป็นกางเกงยีนตัวเก่งของพี่กล้า...

 

         “โทโมะ นั่นนายทำอะไรอยู่น่ะ!”

 

         “ฉันกำลังล่อนจ้อน >O<”

 

         “หา O/////O”

 

         “เธออยากดูเหรอถั่วแมนจู >__< ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันออกไปนะ”

 

         “เฮ้ย ไม่ๆ อย่าออกมานะ” ฉันรีบยื่นมือออกไปหมายดันประตูเอาไว้ แต่ไม่ทันแล้ว โทโมะผลักประตูออกมาหลังจากที่เขาตอบฉันไม่ถึงวินาที ดังนั้นมีอที่เคยยื่นออกไปจึงหดหลับเข้ามาปิดตาตัวเองเอาไว้

 

         “นั่นเธอทำอะไรน่ะ?” มือหนาคว้าข้อมือของฉันและพยายามดึงมันออก ส่วนฉันก็ยื้อมันเอาไว้เต็มที่

 

         “นาย...ไปใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ฉันตวาดแว้ดพร้อมกับเอามือปิดสองตาเอาไว้แน่น เสียงหัวเราะน้อยๆ ดังจากผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า

 

         “ฮิฮิ นี่เธออยากเห็นฉันล่อนจ้อนจริงๆ เหรอเนี่ย >O<”

 

         “อะ...เอ๋?”

 

         “เอามือออกได้แล้วน่า ฉันแต่งตัวเสร็จแล้ว”

 

         ฉันค่อยๆ ลดมือลงย่างช้าๆ เพราไม่มั่นใจว่าหนุ่มติงต๊องคนนี้จะแกล้งฉันหรือเปล่า แต่เมื่อเห็นแขนเสื้อสีขาวของเขา ฉันมั่นใจแล้วว่าเขาใส่เสื้อผ้าแล้วจริงๆ

 

         “นายหลอกฉันทำไม”

 

         “ก็เธอมันน่าแกล้ง แกล้งเธอแล้วสนุกดี” โทโมะหัวเราะร่วน เสื้อสีขาวของเขาหลวมโคร่งเช่นเดียวกันกับกางเกงวอร์มขาสั้นสีขาว เมื่อเขาหยุดหัวเราะ มือหนาก็คว้าหมับที่ข้อมือของฉันทันที

 

         “ออกไปกันเถอะถั่วแมนจู เดี๋ยวฉันต้องไปซ้อมวิ่งอีก”

 

         “ซ้อมวิ่ง O_O?”

 

         “อื้ม ซ้อมวิ่ง ^O^” แล้วเขาก็ลากฉันออกไปจากห้องเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็ว

 

         โทโมะยังคงลากฉันไปพร้อมกับผ้าขนหนูผืนจ้อยที่พาดอยู่ที่คอของเขา โดยมีเขื่อนวิ่งตามอยู๋ไม่ห่าง ในที่สุดพวกเขาทั้งสองคนก็หยุดยืนที่บริเวณลู่วิ่งสีน้ำตาลที่มีอีกประมาณสิบกว่าคนใช้งานมันอยู่

 

         “แกเดินเข้าไปก่อนสิ” เขื่อนผลักโทโมะให้ก้าวไปข้างหน้าฉันที่ตัวผูกติดกับเขาเอาไว้จึงกระเด้งตามไปด้วย หนุ่มน้อยถอนหายใจกับตัวเอง ก่อนเริ่มเดินต่อไปอย่างมั่นคง

 

         “โทโมะ!!” เสียงตะโกนดังลั่นสนามทำเอาหนุ่มน้อยสะดุ้งโหยงและปล่อยมือฉันทันควัน เขาปิดตาแน่น ก่อนจะโดนรองเท้าใบสีสดกระแทกที่ท้ายทอย

 

         “แกมาสาย! รู้ใช่มั้ยว่าต้องถูกลงโทษ” ผู้ชายคนหนึ่งปรากฎตัวขี้นตรงหน้าฉันและโทโมะ เขาก้มตัวลงเก็บรองเท้าสีแดงสดก่อนจะยืดตัวขี้นเต็มความสูง และฉันก็พบว่า เขาสูงเท่าฉันพอดีเป๊ะ =[]=!

 

         “รู้ฮะ แต่ว่าพี่เคนจะไม่ฟังเหตุผลของผมหน่อยเหรอ >_<”

 

         “มาสายก็คือมาสาย ไม่ว่าเหตุผลอะไรมันก็แปลว่าแกมาสายอยู่ดี วิ่งรอบสนามห้าสิบรอบ! ถ้ายังไม่ครบไม่ต้องเข้าเรียน!!”

 

         “พี่เคน!”

 

         “กล้าหือเหรอ ร้อยรอบ!”

 

         “ครับ T_T”

 

          “แกด้วยไอ้เขื่อน! ไม่ต้องมาทำเป็นเนียน ร้อยรอบเท่าโทโมะ!!” พี่ชายตัวกระจิ๋วคนนั้นชี้นิ้วไปยังผู้ชายหัวทองที่กำลังย่องเข้าไปในลู่วิ่งอย่างเนียนๆ แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นไปจากสายตาเปรียบประดุจเหยี่ยวของพี่ชายที่ชื่อเคนนั่นได้ ผมสีน้ำตาลที่ถูกเซ็ทจนชี้ตั้งช่วยเพิ่มความสูงให้พี่เขาอีกสองสามนิ้ว

 

         “แต่ผมมาซ้อมตอนเช้าไปแล้วนะ!”

 

         “แต่แกก็โดดซ้อมไปโดยที่ฉันยังไม่ได้อนุญาต ยืนเฉยอยู่นั่นแหละ รีบๆ ไปวิ่งกันได้แล้ว!” พี่เคนตะคอกอีกครั้ง เราสามคนสะดุ้งโหยงอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะรีบกุลีกุจอวิ่งออกมาจากบริเวณนั้น โทโมะพาฉันไปนั่งตรงเก้าอี้ริมลู่วิ่ง เขาฝากผ้าขนหนูผืนจ้อยและกระเป๋าหนังของเขื่อนไว้กับฉัน หนุ่มน้อยบิดขี้เกียจเล็กน้อย

 

         “ฉันไปซ้อมวิ่งก่อนนะ ^O^” เขาส่งยิ้มสดใสให้ฉันราวกับไม่หนักใจกับการวิ่งร้อยรอบนั่นเท่าไหร่

 

         “ผู้ชายหัวน้ำตาลคนนั้นเป็นรุ่นพี่นายเหรอ?”

 

         “ก็ไม่เชิง เขาไปเรียนต่างประเทศมาปีน่ะ แล้วก็เป็นประทานชมรมกรีฑาด้วย” โทโมะบอก ฉันนึกถึงรุ่นพี่ผมน้ำตาลคนนั้นอีกครั้ง ตัวเล็กแบบนั้นไม่น่าจะควบคุมใครได้แต่ดูจากนิสัยที่แสดงออกมาแล้ว ฉันพอจะเข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้รับเลือกเป็นประทานชมรม –,,–

 

         “ไอ้โมะ รีบไปเหอะ เดี๋ยวพี่เคนแกของขี้น ส่งเพิ่มเป็นร้อยห้าสิบรอบขี้นมา ฉันได้นอนตายคาลู่วิ่งนี่แน่”

 

         “งั้นเดี๋ยวฉันมานะ” แล้วหนุ่มน้อยติงต็องก็วิ่งลงไปในลู่วิ่งพร้อมกับเพื่อนหนุ่มที่ชื่อเขื่อนของเขา ฉันถอนหายใจและเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สายตาสอดส่องไปทั่วสนามกีฬาด้วยคามกังวลใจ เข็มนาฬิกายังเดินต่อไปเรื่อยๆ พร้อมกับความหวังที่เริ่มหดหายโทโมะยังคงวิ่งต่อไปบนลู่วิ่งสีน้ำตาล เสียงหัวเราะของเขาพร้อมกับท่าทางราวกับกระทิงไล่กวดของเพื่อนหนุ่มคงจะทำให้ฉันยิ้มได้ ถ้าไม่ติดตรงที่ฉันจะต้องกลับไปเข้าโรงเรียนก่อนแปดโมง แล้วนี่ก็เจ็ดโมงห้าสิบสองแล้ว ความหวังริบหรี่ลงเรื่อยๆ ฉันคงไม่มีทางวิ่งกลับไปโรงเรียนได้ภายในเวลาห้านาทีเป็นแน่ TT_TT และวินาทีนั้นเองที่โทโมะหันมาสบตากับฉัน หนุ่มน้อยตรงรี่เข้ามาหาพร้อมกับเหงื่อโซมกาย

 

         “ถั่วแมนจู นี่กี่โมงแล้วล่ะ”

 

         “เจ็ดโมงห้าสิบสอง...ห้าสิบสามแล้ว TOT”

 

         “โอ๊ะโอ O_O แล้วอย่างนี้เธอจะไปโรงเรียนทันเหรอ”

 

         “ก็ไม่ทันแล้วน่ะเซ่!” ฉันตวาดใส่เขาด้วยความหงุดหงิดผสมปนเปกับความกังวลโทโมะหยิบผ้าขนหนูผืนจ้อยไปจากมือของฉัน เขาเอามันปาดไปทั่วใบหน้าเพื่อซับเหงื่อก่อนที่มือหนาจะมาฉุดฉันให้ลุกขี้น

 

         “นายจะพาฉันไปไหน?” นิ้วเรียวของโทโมะจรดบนริมฝีปากของฉันที่กำลังอ้าออก เขามองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง เมื่อหนุ่มน้อยเห็นว่าพี่ชายผมน้ำตาลไม่ได้หันมามองทางนี้ เขาก็ผลักฉันให้ออกวิ่งทันที

 

         “รีบไปเลย เร็ว >_<!” พวกเราสองคนมาถึงหน้าประตูโรงเรียนในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีถัดมา โทโมะมาส่งฉันถึงหน้าประตูรั้ว แล้วเขาก็หันหลังกลับไปอีกครั้ง

 

         “นายจะไปไหน! นายต้องไปส่งฉันด้วยซี่” ฉันรั้งชายเสื้อของเขาเอาไว้ โทโมะใช้มือของเขาแกะมันออก

 

         “อูย~ ไม่ได้หรอก ฉันต้องรีบ กลับไปซ้อม ก่อนที่พี่เคนจะเอะใจว่าฉันหายไป”

 

         “แต่นายบอกกับแม่ฉันไว้ว่าจะมาส่งฉันนะ!”

 

         “ฉันมาส่งเธอตรงนี้ได้ก็สุดๆ แล้วถั่วแมนจู YOY ฉันต้องไปแล้ว เย็นนี้เจอกันนะ”

 

         ยังไม่ทันที่ฉันจะโต้เถียง พ่อหนุ่มสุดต๊องก็ปลิวหายไปกับสายลม ทิ้งฉันไว้กับเสียงออดเคารพธงชาติของโรงเรียนนานาชาติ ฉันไม่รอช้า รีบวิ่งออกมาจากที่แห่งนั้นโดยทันที

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา