สุภาพบุรุษซ่อนเงา

2.0

เขียนโดย Bsoipn

วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 19.12 น.

  3 ตอน
  2 วิจารณ์
  7,130 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) 2. เจ้าชู้...หลายใจ...แถมมักมาก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

2. เจ้าชู้...หลายใจ...แถมมักมาก

“อ๊ายๆคนหล่อมาแล้ว”ชลิตาร้องขึ้นเมื่อเห็นคนหล่อกำลังเดินเข้ามาจนทั้งอันนารินและพิชญ์ญาภาต้องหันไปมองตามๆกัน และพิชญ์ญาภาก็ทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนที่มือหนาๆจะตบหัวเพื่อนรักเบาๆ

“นี่มันพี่นนท์ เดี๋ยวปั๊ดตบคว่ำอีกที คนหล่อแต่มีแฟนแล้วเราไม่ยุ่งวุ้ย”

“โอ้ย! ไอบ้าซีฉันล้อเล่นนิดเดียวเอง เจ็บชะมัดยากเลย อย่าให้ถึงทีฉันนะแม่จะตบไม่เลี้ยงเลย” ชลิตาใช้มือตบคางตัวเองตามความเชื่อที่ว่า  โดนตบหัวแล้วต้องตีคางกลับ 

และการกระทำนั้นก็ทำให้ชายหนุ่มที่พึ่งเข้ามาใหม่อมยิ้มในการกระทำที่คล้ายกับเด็กประถม  “ให้พี่ช่วยตบไหมครับน้องหมิว”

“ไม่เอาค่ะ ครั้งที่แล้วพี่นนท์ตบจนมึนเลย หมิวเจ็บแล้วจำค่ะ” ชลิตาส่ายหน้ารัวยามคิดถึงแรงตบที่ผ่านมา เพราะครั้งนั้นเขาก็ถามเธอแบบนี้ ไอเธอก็นึกว่าเขาจะเล่นเบาๆ ที่ไหนได้พ่อเล่นตีจนคางแดงเป็นรอยเชียว “ตียัยอันดีกว่าพี่นนท์ วันนี้ยัยอันกวนบาทาหมิวด้วย”

“อะไรๆ ฉันก็แค่ตอบตามความจริงไม่ได้กวนบาทาแกสักหน่อย แกหวังให้พี่นนท์ทำอะไรฉันไอหมิวไม่มีทางหร๊อก” อันนารินตอบเพื่อนพลางหัวเราะเยาะเย้ย

“พี่นนท์อ่ะ  เมื่อกี้มาไม่ทันคนหล่อ ถ้าพี่นนท์มาทันนะ ซีจะให้พี่นนท์ไปขอเบอร์เขาให้หน่อย”

“เห้ย! เขาก็มองว่าพี่เป็นเกย์ดิ”รัชชานนท์สะดุ้งโหย่งในความคิดอันแสนพิเรนทร์ของพิชญ์ญาภา

“แหะๆ ซีล้อเล่น แล้วทำไมพี่นนท์มาช้าจังเลย ”

“พี่ว่าจะชวนไปดูหนัง...ก่อนมาพี่ก็เลยอยู่เคลียร์งานที่บริษัทแต่ว่านานไปหน่อยก็เลยมาช้า”

รัชชานนท์นั้นเป็นเจ้าของรีสอร์ทชื่อดังซึ่งเปิดอยู่หลายสาขา และเร็วๆนี้ก็มีโครงการเปิดตัวรีสอร์ทที่ต่างประเทศโดยชายหนุ่มคิดว่าจะไปทำงานอยู่ที่นู้น และก็หวังว่าหญิงสาวที่เขารักจะบินไปพร้อมกับเขาในวันที่เขาขอเธอแต่งงาน

“ว้ายๆๆ...จริงเหรอพี่นนท์  พี่นนท์น่ารักที่สุดเลย” ชลิตาทำท่าจะโผเข้ากอด หากแต่รัชชานนท์เบี่ยงตัวหลบก่อน “พี่นนท์อ่ะ!  กอดนิดกอดหน่อยก็ไม่ได้  ทีไออันนะให้กอดได้กอดดี”เพราะถูกขัดใจชลิตาจึงค่อนขอดชายหนุ่มเบาๆก่อนที่จะถูกมือพิฆาตตบหัวอีกรอบ

“แกนี่ยังไงห๊ะ น้องก็ไม่ใช่ แฟนก็ยิ่งห่างไกล ให้มันน้อยๆหน่อย ดูสิ! แฟนเค้านั่งหัวโด่อยู่ตรงหน้าแกเนี่ย” พิชญ์ญาภาว่าพลางโอบร่างแฟนของชายหนุ่มโชว์

“โถ่  ฉันก็แค่อยากจับคนหล่อนิดๆหน่อยๆพอให้หัวใจมันตื่นเต้นเล่นเท่านั้นเอง  แบบว่าหาหล่อๆแบบนี้ไม่เป็นอ่ะ”

“ได้สิครับ...อยากกอดพี่ก็จะให้กอด มามะเด็กน้อย”รัชชานนท์ทำหน้าหื่นใส่พร้อมทำท่าทำทางจนชลิตาขนหัวลุก

“มะ...ไม่เอาดีกว่าพี่นนท์ หมิวกลัว”

และท่าทางขี้กลัวของชลิตาก็ทำให้ทั้งหมดหัวเราะออกมาพร้อมกัน สายตาคมแอบมองคนที่ชื่อว่าเป็นแฟน แล้วก็อดน้อยใจไม่ได้ที่จนแล้วจนรอด หญิงสาวก็ไม่เคยแสดงอาการหึงเขาสักนิด

“พี่นนท์พาอันนาไปเถอะค่ะ...ซีกับหมิวต้องไปทำธุระเรื่องหนังสั้นอีก” พิชญ์ญาภาบอกยิ้มๆเปิดโอกาสให้เพื่อนสาวอยู่ตามลำพังกับแฟนบ้างเพราะตั้งแต่คบกันมาเธอก็เห็นแต่คู่รักคู่นี้คู่แรกและคงเป็นคู่รักคู่เดียวที่ไม่เคยไปไหนด้วยกันตามลำพัง

“ให้ฉันไปช่วยไหมซี เรื่องดูหนังไว้วันอื่นก็ได้ หนังสั้นแกมันทำยากไม่ใช่เหรอ”อันนารินเอ่ยถามเพื่อนรัก...เธอไม่อยากเอาเปรียบที่ให้เพื่อนเตรียมงานแล้วเธอก็ไปแสดงอย่างเดียว

“ไม่เป็นไรหรอกอันนา...แกอย่าลืมสิว่าแกตกลงเล่นหนังกับฉันแล้ว ฉะนั้นเรื่องฉากเรื่องบท เรื่องอะไรต่อมิอะไรฉันจัดการเองส่วนแก...แสดงอย่างเดียวก็พอ ไปดูหนังกับพี่นนท์เถอะ” พิชญ์ญาภาพูดจบก็ลุกขึ้นไปลากเพื่อนสาวอีกคนก่อนจะรีบชิ่งกลับทันที

“เอาไงครับ...ยังอยากไปดูหนังอยู่รึเปล่า”รัชชานนท์เอ่ยถามแฟนสาว แต่ก็ลุ้นกับคำตอบของเธออยู่เหมือนกัน โอกาสอยู่กันสองคนยิ่งหาได้ยากอยู่ด้วย

“เอางั้นก็ได้ค่ะ วันนี้อันก็กำลังอยากดูหนังอยู่พอดี”

และคำตอบของหญิงสาวก็ทำให้ชายหนุ่มยิ้มกว้าง ร่างสูงลุกขึ้นก่อนจะโค้งตัวให้ “น่ารักที่สุดเลยครับ ไปครับ” ชายหนุ่มเอื้อมมือไปด้านหน้าเพื่อรอรับหญิงสาว 

อันนารินคลี่ยิ้มพร้อมส่งมือบางออกไป คู่รักที่เคยไปดูหนังสองต่อสองครั้งแรกเดินจับมือกันออกไปอย่างอารมณ์ดี

“ดูหนังเรื่องอะไรดีอัน เรื่องนี้ดีมั้ย”ชายหนุ่มถามหญิงสาวยามมาอยู่หน้าตารางฉายหนัง

“ไม่เอาดีกว่าพี่นนท์  อันไม่อยากนั่งรากงอก เรื่องนี้ยาวจะตาย อันคงหลับตั้งแต่ยังไม่ครึ่งเรื่องแน่เลย” อันนารินส่ายหัวไปมาเมื่อคิดว่าตัวเองต้องนั่งดูหนังที่ใครต่างก็ชอบ แต่เธอดันมาหลับกลางโรงหนังถ้าเพื่อนซี่ทั้งสองรู้เธอคงอายไปหลายปีเลยเชียว

“อ้าว ถ้างั้นอันอยากดูเรื่องอะไรล่ะครับ” ชายหนุ่มหันมาถามหญิงสาวบ้าง

“หนังตลกเรื่องนี้แล้วกันค่ะพี่นนท์ ใกล้ฉายแล้วด้วย”

แต่เมื่อไปซื้อตั๋วหนังกลับพบว่ารอบนี้ที่นั่งเต็ม ทั้งสองจึงตัดสินใจเลือกดูหนังแนวสืบสวนสอบสวนที่มีคนดูน้อยที่สุดและกำลังจะฉาย

“เดี๋ยวพี่ไปซื้อน้ำก่อนนะครับ อยากกินป๊อบคอร์นไหม”

“แล้วแต่พี่นนท์ค่ะ อันยังไงก็ได้” หญิงสาวคลี่ยิ้ม ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกไป หญิงสาวกวาดตาไปทั่วด้านหน้าโรงหนังก่อนจะเห็นร่างของชายหนุ่มคนที่ทำให้เธอจิตตกเดินจูงมือกับผู้หญิงอีกคน

“นี่เปลี่ยนคู่ควงแล้วเหรอเนี่ย...น่าเกลียดจริงๆเลย”อันนารินแสยะยิ้มเหยียดอย่างรังเกียจ

เพื่อนเธอไปหลงละเมอเพ้อพกกับผู้ชายแบบนี้ได้ยังไงนะ หล่อแต่มั่วทุเรศสิ้นดี ถ้ายัยซีกับยัยหมิวรู้ว่าผู้ชายสุดหล่อเจ้าชู้ตัวพ่อ ขี้คร้านจะพากันด่าไปตลอดปีก็ไม่จบ  หญิงสาวที่ตัดสินกับภาพตรงหน้าอย่างรวดเร็วคิดเองเสร็จสรรและมาร์คหัวหนุ่มรูปงามด้วยกากบาทตัวแดงๆ

“อัน..ไปกันเถอะ”รัชชานนท์ที่หอบของกินมาเต็มไม้เต็มมือพูดขึ้น  คนที่มัวแต่ต่อว่าหนุ่มรูปงามจึงรู้สึกตัว ใบหน้างามรับของจากเขามาถือไว้บ้างก่อนจะรีบพากันเข้าโรงหนัง....เพราะเธอก็ไม่อยากจิตตกเพราะผู้ชายแปลกหน้าหลายใจคนนี้สักเท่าไรนัก

อันนารินยิ้มให้ชายหนุ่มเหยๆเมื่อเข้ามานั่งอยู่ในโรงฉายภาพยนตร์ ถึงแม้จะน้อยแต่เธอก็ไม่คิดว่าจะน้อยขนาดนี้ มันไม่ต่างกับเธอและเขานั่งดูหนังด้วยกันตามลำพังสักนิด... “พี่นนท์...ชั้นที่เรานั่งไม่มีคนเลยเหรอคะ เหมือนเราสองคนเป็นตัวน่ารังเกียจยังไงก็ไม่รู้...ดูสิห่างไกลผู้คนเหลือเกิน” หญิงสาวมองไปด้านหน้าที่ห่างกันอยู่เกือบ5แถว...ซึ่งมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

“ตอนพี่จองตั๋วแถวเราก็มีคนนั่งนะอัน...เยอะด้วย เหลือที่นั่งแค่2 แล้วมันก็คือที่ที่เรานั่งอยู่นี่แหละ”ชายหนุ่มเองก็งงไม่แพ้กัน ตอนที่เลือกแถวยังเห็นมีคนแล้วพอมานั่งกลับไม่มีคนสักนิด น่าแปลกเหมือนกัน “เดี๋ยวก็คงมีคนมาแล้วมั้ง” รัชชานนท์เอ่ยก่อนจะหันมาสนใจหนังที่เริ่มฉายแล้ว

รณวัฒน์ที่เดินพาคู่ควงมาถึงกลับชะงัก...เมื่อเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ในโซนที่เข้าซื้อไว้ทั้งหมด “เวรฉิบ!...พลาดได้ไงว่ะ  บอกว่าจองหมดทำไมถึงมีสองหัวมานั่งได้ล่ะ” คนที่คิดฝันจะเล่นจ้ำจี้ในโรงหนังเอ่ยอย่างหัวเสีย  และยิ่งเห็นผู้หญิงที่เขาเผลอไปสบตาด้วยก็ยิ่งหมดอารมณ์หนักเข้าไปใหญ่

“มีปัญหาอะไรเหรอค่ะไนท์...ดูคุณอารมณ์เสียจัง” เจนจิราเอ่ยถามชายหนุ่มส่วนมือบางก็ลูบไล้อกของเขาไม่หยุด

“ไม่มีหรอก...เราไปนั่งตรงนู้นกันดีกว่า”

“แต่ตรงนั้นมีคนนะค่ะไนท์...เจนว่าเรานั่งตรงที่ไม่มีคนดีกว่านะข้างบนนี้ก็ได้”  เจนจิราเอ่ยอย่างขัดใจ เธอไม่อยากไปนั่งใกล้คู่นั้นสักเท่าไรเห็นแล้วขัดหูขัดตา ยิ่งผู้หญิงยิ่งตัวดี...เห็นๆอยู่ว่าสวยกว่าเธอตั้งเยอะ ไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปแอบคิดอะไรอยู่รึเปล่าถึงอยากไปนั่งตรงนั้น

“เราจะได้มีเพื่อนดูไงเจน...ไปเถอะ” รณวัฒน์พูดจบก็จับมือหญิงสาวให้ตามมาก่อนที่เขาจะมาหยุดลงข้างๆที่นั่งของอันนาริน

เพราะนึกว่าคงไม่มีคน คนที่เริ่มคอแห้งจึงวาดมือไปหยิบน้ำอย่างไม่ต้องมองและนั่นทำให้มือบางที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบน้ำเฉียดของรักของหวงของชายหนุ่มพอดิบพอดี

 “ว้าย...”คนที่สัมผัสเข้ากับบางสิ่งร้องออกมา ใบหน้างามรีบหันมามองด้วยความตกใจและต้องตกตะลึงเมื่อเห็นว่าเป็นใคร “ขะ..ขอโทษค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขอโทษชายหนุ่มใบหน้าแดงซ่าน ดูจากท่ายืนในตอนนี้ของเขาเธอก็รู้แล้วว่าเมื่อกี้ไปเฉียดกับอะไรเข้า

รณวัฒน์ยืนนิ่งอยู่นานข่มอารมณ์พลุ่งพล่านที่เกิดขึ้นมาเพียงเพราะมือเล็กๆนั้นเฉียดของสงวน ร่างสูงค่อยนั่นลงอย่างเก็บอาการ...นี่เขาเป็นพวกหื่นตั้งแต่เมื่อไรล่ะเนี่ย

“มีอะไรหรออัน...”ชายหนุ่มหันมากระซิบเสียงเบาตามมารยาท และก็เห็นบุคคลที่เข้ามาใหม่

“มะ..ไม่มีอะไรค่ะ  พี่นนท์หิวน้ำมั้ยคะ”

“เอ้า!  ชวนพี่กินน้ำแล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะครับ” รัชชานนท์ถามยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาว มือหนารับแก้วน้ำจากหญิงสาวพร้อมจับมือไปด้วยในตัว ก่อนที่เขาจะยกน้ำขึ้นมาดื่ม

“เอ่อ...พี่นนท์คะ” อันนารินอ้ำอึ้งเมื่อถูกจู่โจม มือบางก็พยายามขยับออกจากการเกาะกุม

“พี่ขอโทษครับ...อันยังไม่ชินอีกเหรอ” น้ำเสียงปนน้อยใจแว่วเข้ามาอีกครั้ง เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่าที่เธอตกลงเป็นแฟนกับเขานั้นมันมาจากความรักหรือเปล่า

และน้ำเสียงน้อยใจของชายหนุ่มก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกผิดขึ้นมา “คืออัน...อัน...”

“ไม่เป็นไรอัน...พี่ขอโทษที่ทำให้อันตกใจ” รัชชานนท์ที่เริ่มน้อยใจเต็มทีกล่าวเสียงเรียบใบหน้าคมหันมาดูหนังที่ดูไม่รู้เรื่องตั้งแต่เริ่มฉายเหมือนเดิม และอาการของเขาก็ทำให้หญิงสาวต้องง้อด้วยความรู้สึกผิด

“คืออันแค่อายคนข้างๆเท่านั้นเองค่ะพี่นนท์...พี่นนท์อย่าโกรธอันเลยนะ”หญิงสาวอ้อนเสียงหวานพร้อมจับแขนชายหนุ่มไว้ 

และท่าทางงอนง้อของคนทั้งคู่ก็ทำให้คนข้างๆอย่างรณวัฒน์ต้องแบะปาก ชายหนุ่มสุดหล่อหันมาทางสาวข้างกายที่ยังนั่งไม่ห่างเขาสักนิด คนแอบหื่นเลื่อนมือหนาไปแปะไว้บนหน้าขาขาวนวลพร้อมยิ้มกริ่ม

“หืมไนท์...อย่าซนสิคะ มีคนอยู่”เจนจิราที่ดีใจเนื้อเต้นแกล้งจีบปากจีบคอเอ่ยห้ามชายหนุ่มแต่มือตัวเองกลับจับมือของเขาให้เลิ่กสูงขึ้นสูงขึ้น

“ไม่เห็นต้องอายเลย...เขาไม่รู้หรอก”

และน้ำเสียงของเขาก็ทำให้อันนารินต้องหันมามอง หญิงสาวตาเบิกโพล่งด้วยความตะลึงกับพฤติกรรมของชายหนุ่ม เธอหันกลับมาที่เดิมด้วยความขยะแขยงกับภาพที่เห็น  แค่เพียงหลับตาภาพของมือหนาที่หายเข้าไปในกระโปร่งของหญิงสาวก็ผุดขึ้นมาอีกจนเธอต้องขับไล่ออกจากสมองแทบไม่ทัน

“โอ้ย...” เสียงของรัชชานนท์ที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวต้องรีบหันมาดูด้วยความเป็นห่วงก่อนจะพบว่า นิ้วของชายหนุ่มนั้นเลือดออก

“นิ้วพี่นนท์โดนอะไรคะเนี่ย” มือบางจับมือของชายหนุ่มไว้แน่น พร้อมกับก้มลงดูดเลือดให้ชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว

“เอ่อ..อันไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ครับ เลือดออกนิดเดียวเอง”รัชชานนท์เอ่ยด้วยความตกใจแต่ก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

“ไม่ได้ค่ะ...ถ้าไม่รีบดูดเลือดออกพี่นนท์จะปวดตามมาทีหลัง” อันนารินตอบเสียงเบาแต่ยังก้มหน้าก้มตาดูดเลือดชายหนุ่มไม่หยุด

“อุ๊ย...เขาทำอะไรกันหรอค่ะไนท์”เจนจิราแสร้งตีน้ำเสียงตกใจเมื่อเห็นคนที่เธอเกลียดก้มลงไปบนตักของชายหนุ่มที่นั่งด้วยกัน

รณวัฒน์หันไปมองด้วยความสนใจ และเข้าใจไปว่าหญิงสาวกำลังก้มลงจัดการให้คู่รักอยู่ เพราะดูจากสีหน้าของคนข้างๆเธอกำลังเสียวซ่านได้ที่เลย

“สงสัยเราคงนั่งตรงนี้ไม่ได้แล้วล่ะเจน...ไปนั่งข้างบนกันเถอะ” รณวัฒน์บอกเสียงขุ่นพร้อมลุกขึ้นอย่างแรงจนอันนารินต้องหันขึ้นมามองด้วยความงง ลิ้นเล็กเลียริมฝีปากเบาๆเพื่อลบคราบเลือด หากแต่หนุ่มรูปงามกลับยิ่งคิดไปไกลถึงขั้นสะบัดหน้าหนีสาวไวไฟ

“สกปรกจริงๆ...โรงแรมมันหายากนักหรือไง” รณวัฒน์เค้นเสียงลอดไรฟันเบาๆ หากแต่เข้าโสตประสาทการได้ยินของเธอเต็มๆ

“มันก็คงยากจริงๆ...ถึงขนาดล้วงไม่เลือกที่” อันนารินบ่นเบาๆ หากแต่ก็ไม่อาจรอดไปจากคนหูดี

รณวัฒน์หันมามองหญิงสาวตาวาว...กรามหนาขบกันแน่นด้วยความโกรธ ทีตัวเองยังร่านไม่เลือกสถานที่ยังกล้ามาว่าเขาอีก  เขาก็แค่ลูบๆคลำๆ หากแต่เธอสิ ดูดดุนจนได้รสชาติแล้วมั้ง

อันนารินเหยียดตามองชายหนุ่มกลายๆ ก่อนจะหันมาถามรัชชานนท์ด้วยความเป็นห่วง “พี่นนท์ดีขึ้นรึยังค่ะ...”

และคำถามของอันนารินก็ทำให้เขายิ่งรู้สึกรังเกียจหญิงสาวเข้าไปใหญ่ รณวัฒน์รีบเดินลิ่วๆออกไปนั่งด้านบนที่ห่างจากคู่รักที่คงจะกำลังมีความสุขกับหนังรักสร้างเองแสดงเอง

เมื่ออารมณ์ความขุ่นมัวหมดไปอันนารินจึงหันมาสนใจกับหนังบ้างแล้วจู่ๆ ก็มีฉากวาบหวามขึ้นมาทำเอาใบหน้านวลแดงซ่าน ในฉากมันไม่ต่างกับหนังสดเมื่อครู่ที่เธอเห็นสักนิด อันนารินนั่งแข็งทื่อกับทั้งภาพและเสียงที่ดังกระหึ่ม

“อ๊า...ไนท์คะเร็วอีกค่ะ”

“อย่าเสียงดังสิเจน”

“อืมไนท์...เจนมะ..ไม่ไหว อ๊ะ อ๊า”

“ฮื้อ...”

เสียงครวญครางไม่ขาดสายที่ดังแว่วเข้ามาให้โสตประสาททำให้คนที่ปรับอารมณ์ได้แล้วกลับมาขุ่นมัวอีกครั้ง  เมื่อกี้แค่ล้วง แต่นี่คงมากกว่าล้วงแล้วมั้ง เนี่ยเหรอนายสุดหล่อ เพื่อนสุดซี้ของเธอคงตาถั่วมอง คนหื่นกามมักมากไม่เลือกที่ว่าดูดี...นี่มันผู้ชายที่ดูยังไงก็อุบาทว์...อุบาทว์สิ้นดี

เส้นความอดทนขาดพึ่งลงทันที...ถ้าจับ จูบ ลูบ คลำ ไม่เท่าไร แต่ถ้ามากกว่านั้นเธอก็รับไม่ได้เหมือนกัน ร่างบางลุกพรวดอย่างเหลืออดจนรัชชานนท์ตกใจที่จู่ๆหญิงสาวก็ลุกขึ้นมา

“กลับกันเถอะคะพี่นนท์” สีหน้าบึ้งตึงและท่าทีของอันนารินทำให้รัชชานนท์คิดไปว่าหญิงสาวกำลังไม่พอใจที่เขาพาเธอมาดูหนังแนวนี้

รัชชานนท์ลุกขึ้นด้วยใบหน้าซีดๆใครจะไปรู้ว่าจะมีฉากถึงพริกถึงขิงขนาดนี้ทุกท้วงท่าและอารมณ์ เป็นเขาเขาก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน “เอ่อ...คือ”

ชายหนุ่มยังพูดไม่จบหญิงสาวก็เดินลิ่วๆออกไปเลยจนเขาวิ่งตามแทบไม่ทัน

“เห๊อะ...ถึงขั้นทนไม่ไหวจนไปหาที่ทำเลยสิ”รณวัฒน์ที่มองเห็นสาวไวไฟเดินนำหน้าแฟนไปอย่างรีบร้อนเอ่ยอย่างดูแคลน

“ห๊ะ...ไนท์ว่าอะไรนะ”เจนจิราที่ได้ยินเสียงบ่นพึมพำของชายหนุ่มหันมาถามด้วยความสงสัย

“อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอก เรามาพากย์หนังกันต่อดีกว่ามา นั้นๆเริ่มเข้าที่แล้ว”

“ฮื้อ ซีด...แรงๆสิค่ะ โอว เจนไม่ไหวแล้ว” เจนจิราหันมาพากย์หนังต่อจนคนแอบหื่นยิ้มขำด้วยความตลก “เอ๊ะ...ไนท์อ่ะ  อย่ามาขำสิ ดูหนังไปเลยไปเจนไม่เล่นแล้ว”

“ครับๆไม่เล่นแล้ว...ดูหนังต่อดีกว่า” รณวัฒน์ที่ชอบเล่นพิเรนทร์เอ่ยออกมาขำๆ แต่ก็ยังแอบคิดถึงคนบางคนที่หายลับไปกับแฟนเมื่อสักครู่... เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าพากันไปต่อที่ไหน

 

ขอโทษที่มาอัพช้านะคะ...พอดีเห็นไม่ค่อยมีคนอ่านเลยไม่ค่อยได้อัพ ยังไงขออภัยกับผู้ที่ติดตามด้วยค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา