นที เมฆา วายุ อัสนี

-

เขียนโดย ผู้อ่อนหัด

วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 07.29 น.

  6 ตอน ตำราไสยเวทย์
  2 วิจารณ์
  11.37K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่2 ตัวตายตัวแทน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่2 ตัวตายตัวแทน

                          5ปีต่อมา ณ.รัฐสภามีการประชุมทางด้านการเมืองของนายกตามวาระปกติเช่นทุกวัน พวกเขากำลังคิดที่จะ ขยายแผ่นดินเนื่องด้วยประชากรในโลกอาคมนั้นเริ่มมีมากขึ้นและช่วงนี้ชาวนาก็ขาดทุนเรื่องของน้ำท่วมอีกด้วยดังนั้นพวกเขาจึงมาประชุมกันมีนักการเมืองจำนวน9คนนายกอีก1คนและคนค่อยอารักขาอีก2คนในขณะที่กำลังประชุมกันเรื่องของน้ำท่วมก็มีคนเสมอแนะแนวทางอย่างเห็นแก่ตัวออกมาว่า”ท่านนายกผมมีขอเสนอครับ”พูดจบนายกก็ถามสืบต่อไปว่า”ขอเสนออะไรครับ”นักการเมืองคนนั้นจึงกล่าวต่อ”ผมคิดว่าเราน่าจะปล่อยพวกชาวบ้านที่น้ำท่วมข้าวไปก่อนเราควรจะหันมาบริหารกรุงเทพของเราให้ดีก่อนแล้วจึงไปช่วยพวกน้ำท่วมครับ”เมื่อพูดจบนายกจึงรู้สึกว่าชายผู้นี้เป็นคนที่เห็นแก่ตัวนักจึงกล่าวต่อ”คงจะทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกท่าน ท่านพูดมาแบบนี้เท่ากับว่าให้เราอยู่สบายแล้วให้ชาวบ้านลำบากหนะสิผมจะทำการส่งหน่วยสมาคมกู้ภัยไปช่วยพวกเขาทันที”พูดจบก็เกิดเสียงดังสนั่นจากเพดาน เหล่านักการเมืองล้วนตกใจกันหมดส่วนผู้ติดตามนายกทั่ว2คนก็รีบเข้ามาคุ้มกันนายกทันทีจากนั้นเพดานก็แตกพังลงมาปรากฏกลุ่มชายชุดดำจำนวน13คนยืนรอยอยู่กลางอากาศนายกร้องสั่งว่า”สั่งกองกำลังตำรวจเดี๋ยวนี้!!!”พูดจบไม่ทันขาดคำมีลำแสงสีดำผ่านข้างกายนายกไป แสงนั้นพุ่งไปชนใส่นักการเมืองคนนึงตายทันที นักการเมืองคนนึงจึงกล่าว”นั้นมันกลุ่มคนของจ้าวแห่งไสยะดำ”พูดจบทุกคนล้วนตกตะลึงจากนั้นไม่นานพวกนายกพากันหนีออกจากประตู ไม่ทันไรพวกคนชุดดำก็รอยตามลงมาพร้อมชูนิ้วใส่มีแสงสีดำพุ่งออกมาอีกคราแต่ไม่โดนท่านนายก เหล่านักการเมืองที่มาประชุมด้วยทั้ง9คนล้วนตายกันหมดนายกหนีออกมาถึงหน้าประตูรัฐสภาใจก็ยินดีที่รอดแล้วทันใดนั้นผู้คุ้มครอบนายกทั้ง2คนตายหมดต่อหน้าต่อตาครั้งนายกจะหนีกลับขยับไม่ได้จากนั้นบรรยากาศก็เงียบสงัดอากาศเย็นยะเยือกก็ค่อยๆคลุกครามเข้ามาพร้อมๆกับมีเงาดำทมิฬมาทางด้านหลังแล้วเอาแขนล็อคคอนายกไว้นายกกล่าวว่า”ท่านเป็นใคร”พูดจบจากเงาดำก็ค่อยๆกลายเป็นรูปเป็นร่างแล้วกล่าวว่า”ทายาทของสมิงดำ”นายกได้ยินเข้าจึงตกตะลึงมาก ช่วงนี้มีพวกตำรวจและสมาคมมือปราบมารมาล้อมที่หน้ารัฐสภาแล้วชายชราอายุราวๆ58ค่อยๆก้าวออกมาพรางกล่าวว่า”หยุดการกระทำนั้นเสียวางท่านนายกลงจ้าวแห่งไสยะไม่ตอบเพียงพูดแค่ว่า”ไงตาเฒ่าวันนี้จะเป็นวันตายของมึง”พูดจบจ้าวแห่งไสยะก็กลายเป็นเงาดำทิ้งมือจากนายกแล้วให้สาวกคุมนายกแทนแล้วพุ่งไปด้านหน้าที่มีพวกตำรวจและพวกสมาคมมือปราบยืนอยู่ ชายชราหัวหน้าสมาคมรู้สึกหวั่นไหวในบัดดล ตวัดมือซ้ายขึ้นร้องว่า”วาโย กสิณนัง”สิ้นเสียงก็เกิดลมโหมกระหน่ำใส่จ้าวแห่งไสยะทันทีแต่จ้าวแห่งไสยยะเหมือนไม่รู้สึกอะไรเพียงแค่ปลิวออกไปห่างระยะนึงเท่านั้นเอง จากนั้นก็พุ่งขึ้นไปยืนบนยอดตึกของรัฐสภาพร้อมชี้นิ้วใส่กล่าวว่า”กสิณมึงยังไม่พอ เสียทีที่มึงอยู่มานาน “พูดจบก็ชี้นิ้วไปทางข้างล้างพร้อมร่ายอาคมขึ้นทันใดนั้นเกิดฟ้าผ่าลงมาลมพายุแปรปรวนไปหมด หัวหน้ากองตำรวจร้องสั่งลูกน้องว่า”จัดเตรียมยิงปืนบรรจุกระสุนอาคม”พูดจบเหล่าตำรวจลูกน้องก็ทำตามทันที ทางท่านนายกก็ถูกพวกสาวกจับตัวแล้วรอยขึ้นมาอยู่บนด้านฟ้าของตึกรัฐสภาเช่นกัน ชายชราหัวหน้าสมาคมร้องสั่ง”10คนบุกเข้าไปในรัฐสภาอีก10คนล้อมตึกเอาไว้อีก2คนค่อยอยู่ตรงนี้”สิ้นเสียงชายชรา จ้าวแห่งไสยะก็ร่ายอาคมใส่ชายชราทันที ชายชรารู้สึกวิตกนัก ชี้นิ้วขึ้นร้องคำ”นะโมพุธทายะ”ทันใดนั้นเมื่อพลังของทั้ง2คาถามาชนกันก็เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วชายชรากระเด็นถอยหลังไป3ก้าวรู้สึกทันทีว่ากระดูกข้อมือข้างซ้ายที่ใช้โต้คาถากับจ้าวแห่งไสยะนั้นหักไปทั้งท่อนแล้ว จ้าวแห่งไสยะรู้ว่าอีกฝ่ายนั่งซุดลงพรางกล่าวว่า”ไอ้เฒ่าวันนี้จะเป็นวันฉลองการตายของมึง”พูดจบก็เกิดสำแสงเส้นยาวสีดำพุ่งออกจากนิ้วชี้ของจ้าวแห่งไสยะพุ่งไปชนใส่ชายชราหัวหน้าสมาคมทันที เกิดเสียงดังตึกๆ จากนั้นชายชราก็สิ้นใจนอนตายคาที่ทันที ก่อนตายก็พึ่งจะคิดได้ว่าเมื่อสมัยสงครามโลกอาคมครั้งที่2นั้น สมิงดำ ที่ถูกตนจับกุมพอตายไปได้แปบเดียวก็เป็นวิญญาณมาร้องตะโกนว่า”อีกไม่นานหรอกเมื่อกูตายไปจะต้องมีคนมาแทนที่กูจำไว้แล้วเรื่องเลวร้ายจะต้องอุบัติขึ้นที่โลกอาคมแห่งนี้!!!”เมื่อชายชราหวนนึกได้กระนั้นก็รู้สึกว่าที่ สมิง พูดนั้นเป็นคำจริงเมื่อจ้าวแห่งไสยะตายไปจะต้องมีคนมาแทนที่อีกพอคิดเสร็จก็นอนตายด้วยคาถาของจ้าวแห่งไสยะทันที เมื่อสาวกเห็นชายชราหัวหน้าตายนั้นก็รู้สึกหวั่นไหวในบัดดล จากนั้นจ้าวแห่งไสยะก็ร้องว่า”ดี มึงทำให้อาจารย์กูต้องตาย มึงก็ต้องตายด้วย”จากนั้นหัวหน้ากองตำรวจร้องสั่ง”ยิ่งทันที”เหล่าตำรวจทุกคนยิงปืนกระสุนอาคมไปทางบนดานฟ้าที่พวกของจ้าวแห่งไสยะยืนอยู่ ทันใดนั้นเมื่อกระสุนอาคมจะถึงตัวของเหล่าพวกจ้าวแห่งไสยะนั้นก็เกิดตัวอักษรยันขึ้นเป็นพันๆตัวอักษรที่ออกมาเป็นกำแพงกันกระสุนไว้ จ้าวแห่งไสยะเพียงสบัดมือคราเดียวกระสุนทั้งหมดล้วนสลายไป ร้องคำว่า”ทำแบบนี้เดี๋ยวพวกมึงก็ได้ตายหรอก”สิ้นเสียงจ้าวแห่งไสยะ เหล่าคณะครูอาจารย์จากโรงเรียนเทพอาคมเดชาก็เดินทางมาถึงพอดี จ้าวแห่งไสยะตกตะลึงทันทีเมื่อเห็นชายชราอายุราว55กว่าปีผมยาวรากพื้นหนวดเคราก็ยาวจรดเท้าเช่นกันสวมชุดคลุมสีเทาถือไม้เท้าเก่าๆบนหัวไม้เท้าถูกแกะสลักเป็นรูปองค์หลวงพ่อโสธร ชายชราวัย55ปีกว่าๆค่อยๆเดินออกมาจากกลุ่มของครูอาจารย์จากนั้นจ้าวแห่งไสยะก็กล่าวขึ้น”ผู้เฒ่ามาเยือนลูกศิษย์คนนี้ขอกราบสวัสดี”ผอ.ผู้ชราวัย55ปีเสดได้ยินกระนั้นจึงกล่าว”หยุดการกระทำเช่นนั้นเสียทีนะขาว”จ้าวแห่งไสยะได้ยินผอ.เรียกชื่อเล่นของตนดังนั้นจึงเกิดความโมโหขึ้นเนื่องด้วยตั้งแต่ถูกขนาขามว่าจ้าวแห่งไสยะดำนั้นก็ไม่มีใครเรียกชื่อเล่นเขาอีกเลยแต่ผอ.ดันมาพูดชื่อเล่นแบบนี้ทำให้จ้าวแห่งไสยะรู้ว่าผอ.ไม่เกรงกลัวในอำนาจมืดของตนดังนั้นจึงร้องคำ”ตายซะ”สะบัดมือซ้ายลงทันใดนั้นเกิดลำแสงสีดำโพยพุ่งลงไปทางผอ.ทันที  ผอ.เพียงยืนนิ่งชูฝ่ามือขึ้นแล้วรับพลังนั้นเสียจากนั้นกล่าวต่อ”โอม.....(งึมงำ)”ทันใดนั้นผอ.สบัดมือข้างที่รับพลังของจ้าวแห่งไสยะมาสมับไปทางซ้ายอย่างรุนแรง ทันใดนั้นจ้าวแห่งไสยะหน้าหันไปทางซ้ายทันทีพร้อมกับรู้สึกว่าเหมือนโดนใครตบหน้าตนทั้งๆที่ยืนอยู่บนดานฟ้าส่วนผอ.ยืนอยู่บนพื้นข้างล้างแท้ๆ จากนั้นก็คิดได้ว่าผอ.มีอาคมแกล่กล้าคงจะเก็บพลังของตนที่ปล่อยออกมาไว้แล้วใช้คาถาสะท้อนกลับระยะไกล จากนั้นจ้าวแห่งไสยะรู้สึกโกรธมากกว่าเดิมด้วยว่าตนเก่งขนาดนี้แต่ยังมีคนที่เก่งกว่าดังนั้นจึงทำการหักคอนายกทิ้งทันทีพร้อมกับเก็บวิญาณของท่านไว้ในโหลแก้วจากนั้นจึงกล่าวคำ”นายกของโลกอาคมที่พวกมึงรักนั้นตายห่าแล้วตอนนี้กูจะคืนซากมันให้”พูดจบก็โยนศพนายกลงมาตกลงสู่พื้นทุกคนรีบวิ่งเข้าไปดูทันที จากนั้นผอ.วัย55เสดกล่าว”โอม มะนะ มะเห มะ เร นัง สาธุ สาธุ”ทันใดนั้นเกิดตรายันขึ้นประทับตัวของจ้าวไสยะเอาไว้จากนั้นจึงกล่าวต่อ”นี่เป็นอาคมผนึกพลังมืดของเจ้า ข้าไม่สามารถผนึกพลังทั้งหมดของเจ้าได้แต่ข้าก็จะผนึกพลังครึ่งส่วนของเจ้าไป!!!”กล่าวจบตรายันที่ประทับกลางตัวจ้าวแห่งไสยะนั้นก็หายเข้าไปในตัว จ้าวแห่งไสยะรู้สึกว่าพลังตนที่ฝึกฝนมากนาน ลดลงจึงรู้ว่าตอนนี้อยู่ไปก็ต้องเสียเปรียบแน่จึงร้องสั่ง”พวกเราไป”พูดจบกลุ่มจ้าวแห่งไสยะก็กลายเป็นเงาดำแล้วทิ้งตัวหนังสือไว้กลางอากาศว่า”นี่คือการเริ่มต้นเท่านั้น”จากนั้นก็หายไปในบัดดล  เมื่อพวกเขาจากไปเหล่าตำรวจก็ทำการเก็บศพของหัวหน้าสมาคมมือปราบกับศพของนายกไปกระนั้นผอ.ก็อดคิดมิได้ว่าเรื่องราวเมื่อตอนสงครามโลกอาคมครั้งที่2 ณ.ป่าหิมพานต์ที่สมิงดำกล่าวว่า”อีกไม่นานหรอกเมื่อกูตายไปจะต้องมีคนมาแทนที่กูจำไว้แล้วเรื่องเลวร้ายจะต้องอุบัติขึ้นที่โลกอาคมแห่งนี้!!!”จากนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าในอนาคตโลกอาคมแห่งนี้จะต้องนองเลือดอีกเป็นครั้งที่3!!!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา