Sugar Love หลุมรักร้าย ของนายหน้าหวาน

10.0

เขียนโดย evan

วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 19.04 น.

  14 chapter
  89 วิจารณ์
  19.93K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

11)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

      
 

 

Sougr Love หลุมรักร้าย... ของนายหน้าหวาน 

 

 

หลายวันที่ผ่านมา ฉันอยู่บ้านกับโทโมะตลอด ไปโรงเรียนก็ไปด้วยกัน นั่งก็นั่งด้วยกัน กินข้าวก็กินด้วยกัน แต่ยังไม่ได้นอนด้วยกัน - -
พอฉันจะกลับไปนอนที่คอนโดที่พ่อแม่ฉันซื้อให้ เขาก็ไม่ยอม บงคับฉันถึงที่สุด
แต่ฉันก็ยอมซะงั้น จนคนทั้งห้องเรียน คิดว่าฉันกับหนุ่มหล่อสุดฮอตอย่างโทโมะ ไปไหนต่อไหนกันแล้ว -0-
 

       “
นี่โทโมะ ให้ฉันเขียนให้เปล่า


       หลังจากที่ฉันนั่งมองโทโมะอยู่นานในที่สุดฉันก็พูดออกไปแต่เจ้าตัวก็นิ่งเงียบนั่งเขียนต่อไป เฮ้ ผีเข้ารึไงเนี่ยหันมาคุยกับฉันหน่อยก็จะดีไม่ใช่น้อยเลยนะ
 
ตอนนี้ ฉันก็ยังอยู่บ้านของเขา อาจารย์ สั่งให้ทำงานแปล ภาษา อะไรเนี่ยแหละ แบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ  4 คน มีฉัน โทโมะ เขื่อน แล้วก็พิมมี่ ยัยมารร้าย ทำไมเธอต้องมาอยู่กลุ่มเดียวกับฉันด้วย !


       “ทำไมนายไม่พูดกับฉันอ่ะ เป็นไรหรือเปล่า


       ฉันขยับเข้าไปใกล้ๆ เขาพลางเอียงคอถามแต่เขาก็ไม่ตอบ นี่ถ้าฉันถามนายอีกครั้งแล้วขืนนายยังไม่ตอบอีกมีเจ็บมีช้ำแน่งานนี้ -_-+++


       “โทโมะคุง...นายโกรธฉันหรอ


       ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เขาพร้อมกับพูดเสียงหวานใส่และก็ได้ผล เขาหยุดเขียนก่อนจะหันมามองหน้าฉันจนฉันต้องผงะหัวออกมาเพราะหน้าฉันกับเขามันใกล้กันเกินไปจนฉันใจสั่น - -


       “ฉันจะโกรธเธอทำไม


       “จะไปรู้นายหรอ ก็ฉันเห็นนายไม่คุยกับฉันนี่นา


       “คิดมาก ฉันไม่ได้โกรธเธอสักหน่อยงอนเป็นเด็กไปได้


       เขายื่นมือมาผลักหน้าผากฉันเบาๆ ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่ฉันไม่ได้เห็นเมื่อสิบนาทีที่แล้วออกมา ตกลงอารมณ์ของนายจะเป็นไงกันแน่เนี่ยฉันตามไม่ทันอ่ะ


       “อะแฮ่ม... ที่นี่ไม่ได้มีแค่คุณสองคน -_-”


       ฉันกับโทโมะหันไปมองเขื่อนที่เป็นเจ้าของเสียงพร้อมกัน เขากำลังมองฉันแบบล้อเลียน ทำไมนายต้องมองฉันแบบนั้นด้วยอ่ะ


       “เงียบไปเลยไอ้เขื่อน แปลเสร็จแล้วรึไง


       “ยัง


       “ยังก็แปลต่อไปเลย


       “ครับๆ


       “ส่วนเธอน่ะเอานี่ไปเขียนแล้วเดี๋ยวฉันบอกเหมือนเดิม


       โทโมะยื่นกระดาษแผ่นใหม่มาให้ฉัน โธ่เอ๊ย สุดท้ายฉันก็ต้องมานั่งเขียนเหมือนเดิม น่าจะให้โทโมะเขียนต่อไปนะเนี่ยไม่น่าไปคุยด้วยเลย - -


 



       ผ่านไปหลายชั่วโมงฉันก็ชักจะเริ่มง่วงนั่งปิดปากหาวหวอดๆ ตัวหนังสือก็เริ่มจะเอนเอียง ปกติฉันไม่ได้เป็นคนที่ง่วงง่ายดายแบบนี้นี่นาแต่ทำวันนี้ฉันถึงได้อยากจะนอนกลางวันขึ้นมาล่ะเนี่ย -*-


       “สาบานได้ว่านี่คือตัวหนังสือ -_-”


       “เธอเขียนให้มันเป็นภาษาคนหน่อยซิ -_-”


       เขื่อนหันมาพูดกับฉันก่อนที่โทโมะจะตามมา ก็ฉันง่วงนี่นาจะให้ฉันเขียนสวยได้ยังไงล่ะ หนังตาฉันมันจะปิดอยู่แล้วเนี่ยทรมานกันชัดๆ เลย -*-


       “ลายมือแบบนี้ใครมันจะไปอ่านออก ถ้าทำไม่ได้ก็ออกไปไป๊


       ฉันตวัดสายตาไปมองยัยพิมมี่ที่พูดขึ้นมาอย่างเคืองๆ แล้วลายมือเธอน่ะสวยสักแค่ไหนกันเชียวสู้ฉันตอนไม่ง่วงได้หรือเปล่าล่ะ


       “ก็ฉันง่วงอ่ะ ผิดด้วยรึไง


       “ง่วง - -;”


       ทุกคนพูดขึ้นมาพร้อมกัน เออ ฉันง่วงมันน่าตกใจตรงไหนเนี่ยฉันเป็นคนนะไม่ใช่หมาที่จะง่วงไม่เป็นน่ะ (หมามันง่วงไม่เป็นหรอ?)


       “ตั้งแต่รู้จักกันมาฉันไม่เคยเห็นเธอง่วงตอนกลางวันเลยนะ


       “แล้ววันนี้ฉันจะง่วงตอนกลางวันไม่ได้หรือง่ะ ไอ้หน้าหวาน


       “ผีนกฮูกเข้าสิงรึเปล่าเนี่ย


       เอากันเข้าไป - - ที่ฉันง่วงตอนกลางวันเนี่ยมันผิดมากใช่ไหม? ถ้างั้น...ฉันไม่ง่วงก็ได้ เชอะ


       “ขอนอนได้ไหมอ่ะฉันไม่ไหวแล้ว


       “เฮ้ยนี่ เดี๋ยวสิแก้ว...


       เสียงของโทโมะดังเข้าสู่โสตประสาทของฉันเป็นครั้งสุดท้ายเพราะหลังจากที่ฉันทิ้งปากกาเอนตัวไปพิงกับโซฟาฉันก็หลับทันที z z Z


 



       ฉันรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อมีใครคนหนึ่งเข้ามากระชากแขนฉันให้ลุกขึ้นจากโซฟา พอฉันขยับเปลือกตาที่หนักอึ้งของตัวเองขึ้นมาดูก็พบว่าว่าเป็นยัย พิมมี่เธอมาฉุดแขนฉันทำไมเนี่ยคนกำลังหลับสบาย


       “ตื่นได้แล้ว


       เพียะ


       ฉันหล่นลงไปกองอยู่ที่พื้นพร้อมกับความเจ็บที่แก้มข้างซ้ายด้วยน้ำมือของยัยพิมเธอมาตบหน้าฉันทำไมเนี่ย ดูซิ...ฉันตาสว่างเลย -*-


       “ปลุกกันดีๆ ไม่ได้รึไงทำไมต้องตบกันด้วย


       “ก็เพราะฉันหมั่นไส้เธอมานานแล้วไง แหม ทำมาเป็นง่วงนอนเธอรู้หรือเปล่าว่าหลังจากที่เธอมารยาใส่โทโมะไปแล้วเขาก็เสียสละตักให้เธอนอน


       อ้าว ใครมันจะไปรู้วะ - -? ฉันหลับจริงนะไม่ใช่แกล้งหลับฉันยังฝันได้เลขมาสามตัวเลยเธออยากจะเอาไปบอกพ่อเธอให้ซื้อไหมล่ะเผื่อมันจะถูก


       “ฉันหลับอยู่จะไปรู้ได้ไงว่าเขาจะเป็นสุภาพบุรุษขนาดนั้น


       “ฉันก็บอกให้เธอรู้แล้วนี่ไง หน้าไม่อาย มาอ่อยผู้ชายถึงที่!


       ยัยพิมพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามใส่ฉัน ใครกันแน่ที่มาอ่อยผู้ชายถึงที่ ฉันอยู่กับโทโมะ ทุกวันอยู่แล้ว แต่หล่อนกลับมานั่งเฝ้าโทโมะ เช้า กรางวัน เย็น โดยอ้างว่าต้องมาทำบทรายงานที่อาจานย์สั่ง ปัดโธ่เอ๊ย!! เชื่อตายแหละ


       “ก่อนจะว่าใครดูตัวเองก่อนก็จะดีไม่ใช่น้อยนะ


       “นี่แกด่าฉันหรอ


       “ฉันใช้คำไหนด่าเธอ


       ฉันสวนกลับไปทันที ยัยนี่หนิทำฉันตื่นไม่พอยังจะมายั่วโมโหฉันอีกนะที่ถ้าไม่ติดว่าขาฉันเจ็บล่ะก็เธอได้โดนฉันฟรีคิกออกนอกบ้านไปแล้ว ครั้งก่อนที่เธอกับเพื่อนเธอทำร้ายฉัน ฉันยังไม่ได้เอาคืนเลยนะ


       “ปากดีนักนะ


       เพียะ


       ยัยพิมกระชากฉันให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้งก่อนจะหวดฝ่ามือลงมาที่ใบหน้าของฉันอย่างแรงและปล่อยให้ฉันล้มลง เจ็บอ่ะ T^T ถ้าเธอตบฉันเฉยๆ ไม่ปล่อยให้ฉันล้มลงมาเนี่ยฉันจะไม่เคืองเธอเท่านี้เลยนะ -*-


       ฉันยกมือขึ้นมาจับซีกหน้าที่ถูกพิมตบและหันมองไปรอบกายหวังจะขอความช่วยเหลือแต่บังเอิญเกินเหตุว่าในห้องนี้มีแค่ฉันกับยัยพิมแค่สองคน ฉันก็ว่าทำไมถึงไม่มีใครช่วยฉันเลย ทุกคนหายไปไหนกันหมด


       “หึ ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกเพราะโทโมะออกไปส่งเขื่อนที่หน้าหมู่บ้านครั้งก่อนเธอไม่ตายแต่ตอนนี้เธอตายแน่แก้วใจ! มานี

       “โอ๊ย...


       ยัยพิมฉุดฉันให้ลุกขึ้นจากพื้นและฉุดกระชากลากถูฉันไปที่ห้องครัวซึ่งไม่มีใครอยู่เลยเช่นกัน วันนี้พวกแม่บ้านมันหายศีรษะไปไหนกันหมดเนี่ยพ่อก็ออกไปทำธุระกับคุณอาตั้งแต่เช้าแล้วด้วยจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วอย่างนี้จะมีใครช่วยฉันได้ T^T?


       ฉันเบิกตากว้างเมื่อพิมมี่หยิบมีดขึ้นมาไว้ในมือ เธอคิดที่จะฆ่าหั่นศพฉันหรือไงบอกไว้ก่อนนะว่ามีดปอกผลไม่น่ะมันหั่นศพคนไม่ได้หรอกเพราะฉะนั้นวางลงเถอะ -_-


       “เธอจะทำอะไรน่ะพิมมี่


       “ถามได้ ก็จะฆ่าเธอไง


       ว่าแล้วหล่อนก็กระชากข้อมือฉันเข้าไปใกล้ ยัยบ้าเอ๊ย! นี่เธอโรคจิตหรือเปล่าเนี่ยฉันไม่ได้เป็นมนุษย์อมตะนะที่จะตายแล้วฟื้นน่ะ - -


       “เฮ้ยนี่! ฆ่าคนมันบาปนะเธอ


       “ช่วยไม่ได้ แกอยากมาแย่งโทโมะของฉันทำไม


       “อย่านะ!!!


       ก่อนที่ยัยพิมจะบรรจงมีดลงมาที่ข้อมือของฉัน ฉันก็เอื้อมมือไปจับมือที่ถือมีดของเธอและต้านไว้สุดแรงเกิด หล่อนจึงปล่อยมืออีกข้างไปยื้อแย่งมีดจากมือของฉัน ทำไมชีวิตฉันมันจะต้องมาเจอคนโรคจิตแบบนี้ด้วยเนี่ย ขาก็เจ็บแรงก็ไม่ค่อยจะมีเพราะยัยนี่เคยทำร้ายฉัน สองวันก่อน แล้วยังจะต้องมาสู้แรงยัยนี่เป็นครั้งที่สองอีก โปรดกรุณาอย่าให้ฉันของขึ้นนะ


       “ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ


       “จะบ้าหรอ ถ้าฉันปล่อยเธอก็ฆ่าฉันสิ


       “แกก็รู้อยู่แล้วว่าฉันจะฆ่าแกทำไมถึงไม่ยอมให้ฉันฆ่าดีๆ ล่ะฮะ


       อ้าวนังนี่ - - ใครมันจะไปยอมให้คนมาฆ่าได้ง่ายๆ กันล่ะยะฉันไม่ใช่พวกโรคจิตอย่างเธอนะเฟ้ยที่จะฆ่าคนไม่เลือกหน้านะ คนอะไรสวยก็สวย ทำไมบ้าผู้ชายขนาดนี้


       “ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นสักหน่อย


       “หึ แต่ถึงแกจะดิ้นรนยังไงสุดท้ายแกก็ต้องตาย


       “โอ๊ย!


       ฉันร้องด้วยความเจ็บปวดเพราะฉันโดนแทง! O_O เอ๊ยไม่ใช่! มีดมันเฉียดแขนฉันไปจนเลือดไหลต่างหากล่ะ เจ็บชะมัดเลยดีนะที่แค่เฉียดน่ะ


       “อุ้ย! ตายแล้วเจ็บไหมนั่น


       “เธอลองมาโดนดูบ้างไหมล่ะ -*-


       “ก็ดีนะ แต่ขอให้แกตายก่อนก็แล้วกันนังมารหัวใจของฉัน!


       ยัยพิมตวัดปลายมีดมาทางฉันก่อนจะพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วแต่พอดีว่าฉันเบี่ยงตัวหลบได้ก่อนมันจึงพลาดมาโดนต้นแขนของฉันแทน เจ็บอ่ะค่ะที่รัก T^T นี่เธอคิดว่าเรากำลังเล่นหนังฆาตกรรมอยู่หรือไงกันเนี่ย มัวแต่เพ้ออยู่นั่นแหละ ตื่นได้แล้วเฟ้ยเดี๋ยวฉันก็ตายพอดีหรอก


ฉันคงจะไม่โชคดีทุกครั้งไปหรอกนะ


       “แกจะหลบทำไมเนี่ย


       “อ้าว ก็ถ้าไม่หลบฉันก็ตายน่ะสิไม่น่าถามอะไรโง่ๆ แบบนี้เลย


       “แกว่าฉันโง่หรอ


       “ใช่ ไม่ได้แค่โง่อย่างเดียวนะยังจะโรคจิตอีกด้วยฉันไปทำอะไรให้เธอฮะเธอถึงคิดที่จะฆ่าฉันเนี่ย


       “เพราะแกกำลังจะแย่งโทโมะไปจากฉันไง!


       นังนี่ตะโกนออกมาเหมือนคนสติแตก สุดท้ายหล่อนก็เป็นคนบ้านั่นเอง - - กลับไปอยู่บ้านศรีธัญญาดีกว่าไหมจ๊ะสุดสวย =O=?


       “ฉันไม่ได้แย่งสักหน่อย เธอวางมีดเถอะ


       “ถ้าฉันวางมีดแกก็ไม่ตายน่ะสิ ยังไงวันนี้แกก็ต้องตาย! ย๊ากกกก


       “กรี๊ดดดดดด


       ฉันกรีดร้องสุดเสียงก่อนจะรีบวิ่งหนีออกมาจากห้องครัวโดยมียัยพิมมี่คนเสียสติวิ่งถือมีดตามมาด้วย พ่อจ๋าแม่จ๋าหนูกำลังจะโดนคนเสียสติฆ่าตายแล้วนะพ่อแม่ช่วยลูกคนสวยคนนี้ด้วย ช่วยส่งอัศวินมาช่วยหนูทีไอ้คนสติแตกนั่นมันจะมาถึงตัวหนูอยู่แล้วนะ (เพ้ออะไรเนี่ย - -)


       ตึงงง...


       ในขณะที่ฉันกำลังเพ้อให้พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยจู่ๆ ฉันก็ชนเข้ากับอะไรบางอย่าง มันเจ็บมากเลยอ่ะนี่ฉันวิ่งชนเสาหลักของบ้านหรือไงกันเนี่ย ใครมันช่างกล้าเอาเสามาวางให้ฉันวิ่งชนฟระอย่าให้รู้นะแม่จะตบไม่เลี้ยงเลย


       “นี่เธอวิ่งหนีอะไรมาเนี่ย


       เสาพูดได้ O_O??? พอฉันได้ยินเสียงจากสวรรค์ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปดู ผลปรากฏว่าจากเสาบ้านกลายมาเป็นใบหน้าอันหล่อเหลาของโทโมะ เสาบ้านมันแปลงร่างได้ O_o


       “นี่โทโมะหรือเสาบ้าน -_-?”


       “อะไรของเธอเนี่ย ละเมอรึไง


       “โทโมะ! นายช่วยฉันด้วยคนสติแตกมันกำลังจะฆ่าฉัน


       ฉันร้องอย่างดีใจและวิ่งไปหลบหลังเขาแต่หมอนี่มันก็ยังจะมีหน้าหันมาถามฉันด้วยเสียงอันกวนๆ อีกว่า...


       “ใคร?”


       สั้นๆ แต่ได้ใจความ - - นายไม่ต้องมาถามฉันหรอก คนที่ฉันพูดถึงมันยืนอยู่ข้างหลังนายแล้ว


       “นังแก้วใจ! แกตายซะเถอะ


       “เฮ้ย! นี่เธอเป็นอะไรเนี่ยพิมมี่


       “โมะปล่อยนาพิมนะ พิมจะฆ่ามัน!


       พิมมีกรีดร้องเมื่อโทโมะจับแขนที่หล่อนถือมีดไว้ได้ทันก่อนที่มันจะพุ่งเข้ามาที่ท้องของฉัน ถ้าเธอคิดจะเล็งท้องฉันนะฉันว่าเธอเล็งที่หัวใจฉันดีกว่าเผื่อว่ามันจะตัดขั้วหัวใจตายคาที่ฉันจะได้ไม่เจ็บมาก - -


       “เธอจะบ้าหรอ


       “ใช่ พิมมันบ้าบ้าเพราะรักโมะไง


       โห่ ขอกระโถนด่วนฉันอยากจะอวกออกมาเป็นคำว่ารัก - - ถ้าเธอรักใครแล้วบ้าแบบนี้ฉันว่าเธออย่ามีความรักจะดีกว่านะลำบากคนอื่นที่ต้องวิ่งหนีเธอเหมือนฉัน


       “แล้วถ้าฉันบ้าเพราะรักแก้วบ้างเธอจะทำไง


       ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินประโยคนั้นของโทโมะ บ้าเพราะรักฉันงั้นหรอ...ที่นายพูดเป็นเพราะความโมโหหรือพูดออกมาจากใจจริงเนี่ยนายหน้าหวานเอ๊ย


       “โมะรักนังแก้วหรอ


       “ใช่ ฉันรักแก้วรักมานานแล้วด้วย


       “ไม่จริงอ่ะ! โมะโกหกพิมใช่ไหมคะโมะโกหกพิมใช่ไหม!!


       ยัยพิมปล่อยมีดออกจากมือและหันไปเขย่าร่างของโทโมะด้วยความบ้าคลั่ง ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนอึ้ง เขาพูดออกมาโดยไม่คิดถึงเจ้าของชื่อคนนั้นเลยอ่ะ ฉันมีความรู้สึกวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย คลายจะเป็นลม ขอยาดมตราโป๊ยเซียนด่วน -O-


       “ถึงฉันจะโกหกเธอแต่ฉันโกหกหัวใจตัวเองไม่ได้หรอกนะ


       โอ๊ย ขอกระโถนใบที่สองจะได้ไหม ฉันรู้สึกอยากจะอ้วกออกมาเป็นคำว่ารักภาษาอาหรับ - -


       “กรี๊ดดดด ไม่จริงโทโมะรักพิมไม่ได้รักนังแก้ว... แกตายซะเถอะ!


       พิมมี่พูดกับตัวเองอยู่สักพักแล้วก็หันมามองหน้าฉันด้วยสายตาอาฆาตก่อนจะก้มลงไปหยิบมีดที่ตกอยู่ที่พื้นและพุ่งเข้ามาหาฉันเช่นเคย ฉันที่กำลังอึ้งๆ อยู่ไม่ได้ทันตั้งตัวก็เลยโดยมีดที่ต้นแขนเป็นแผลที่สามที่ได้จากพิม ถ้าเธอจะฆ่าฉันทำไมไม่เอาตรงท้องหรือหัวใจฟระจะมาทำให้ฉันเจ็บมากขึ้นกว่าเดิมทำไมเนี่ย T^T


       “พอได้แล้วพิม ครั้งก่อนเธอก็ทำร้ายแก้วไปแล้วยังไม่พอใจอีกรึไง


       โทโมะปราดเข้ามาจับยัยพิมเอาไว้พร้อมกับตวาดใส่เธอเสียงดัง ฉันรู้สึกว่าชีวิตฉันวันนี้มันแปลกๆ ไปจากทุกวันนะเนี่ยทำไมมันถึงดูวุ่นวายยังไงชอบกล -_-???


       “โมะจำเอาไว้เลยนะ พิมจะไม่หยุดแค่นี้แน่!


       พิมแผดเสียงใส่โทโมะก่อนจะเดินเชิดหน้าออกไปจากบ้านของโทโมะ เขามองร่างของยัยนั่นที่เดินจากไปและหันมามองฉันที่ยืนอยู่ด้านหลังอาการเจ็บไม่ปางตาย


       “เธอเป็นไรมากหรือเปล่า


       “ไม่มากหรอกแค่สามแผลเอง


       “เจ็บมากไหมอ่ะ


       เขาเดินเข้ามาจับแขนข้างที่เจ็บของฉัน ฉันไม่พูดอะไรนอกจากยืนมองหน้าเขาที่กำลังสำรวจแผลบนแขนของฉันอยู่ ที่เขาพูดไปเมื่อกี้ว่า เขารักฉัน มันเป็นความจริงหรือเปล่า (ยังไม่หายข้องใจ)


       “นี่โทโมะ...ฉันขอถามอะไรนายอย่างได้ไหม


       “หือ? อะไรล่ะ


       “ที่นายพูดเมื่อกี้...จริงหรือเปล่า


       “หึ ถ้าจริงแล้วเธอจะทำไง


       เขามองหน้าฉันนิ่ง ฉันก็ได้แต่ยืนสบตาเขาโดยที่ไม่พูดอะไรเพราะมันไม่มีอะไรจะพูด - -


       “ใช่ ฉันรักเธอ ฉันรู้สึกแบบนี้กับเธอตั้งแต่วันแรกที่เจอเธอแล้ว


       คำพูดของเขาทำให้หัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะก่อนที่ฉันจะรู้สึกมึนๆ วิงเวียงศีรษะและไม่รับรู้อะไรอีกเลย ง่ายๆก็คือ...นางเอกเป็นลมค่ะ =O=;;;

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา