Endless Night เทพธิดาทูตมรณะ

8.6

เขียนโดย meanato

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 11.10 น.

  3 session
  0 วิจารณ์
  6,791 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) เซเนตตรา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ



         "ไม่นะ!!!"

        หญิงสาวผวาขึ้นสุดตัวพลางหอบหายใจรุนแรง เหงื่อเม็ดเล็กพร่างพรายเต็มใบหน้างาม เหตุเพราะความฝันแสนหวานที่เคลือบด้วยพิษร้าย ความทรงจำในวัยเยาว์กลับมาทำร้ายตัวนางในยามหลับ ดวงตาสีรัตติกาลฉายแววเจ็บปวดที่ไม่เคยมีใครพบเห็นนอกจาก หมอนั่น เมื่อปรับจังหวะลมหายใจจนเป็นปกติ ดวงตาสีรัตติกาลก็กลับมาเรียบเฉยดุจไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งความทรงจำที่แสนเจ็บปวด...ทั้งความเศร้า...ทุกอย่างเลือนหายเช่นฝันที่เมื่อตื่นก็ลืมเลือนไป...มันเป็นแค่ฝันเท่านั้น...แค่ฝันร้าย...

         เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นสองสามครั้งในความเงียบ ร่างบนเตียงหันไปมองก่อนจะพูดอะไรบานประตูก็ถูกเปิดออกอย่างถือวิสาสะจากบุรุษชุดดำทั้งสอง หญิงสาวตวัดสายตาเย็นชามองผู้บุกรุกจนทั้งสองมีสีหน้าเจื่อนลง

          "ท่านเซเนตตรา เอ่อ...พึ่งตื่นหรือขอรับ" ชายนัยน์ตาสีสนิมเหล็กถามแผ่วเบา ทั้งที่รู้ว่าหญิงสาวพึ่งตื่นก็ตามที

          "บอกกี่ทีแล้ววาร์เรส...อย่าเข้ามาก่อนข้าจะอนุญาติ" เสียงหวานไพเราะหากแต่เย็นเยียบเอ่ยขึ้น วาร์เรสทำหน้าสำนึกผิดทันที แต่ชายอีกคนกลับตีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่เกี่ยวกับตัวเอง

          "ถึงทำหน้าแบบนั้นก็อย่าคิดว่าจะรอดนะวาร์เรส...เจ้าด้วยวินเนียส"

         ดวงตาสีอำพันรีบเสมองไปทางอื่นจนปะทะกับผนังสีขาวราวกับสนใจมันนักหนา เช่นเดียวกับวาร์เรสที่กำลังพิจารณาพื้นไม้ราวกับจะหารอยตำหนิ เซเนตตราถอนหายใจเฮือกใหญ่กับการเอาตัวรอดของทั้งสองและพึมพำเบาๆ

         "ข้าไม่รู้เลยจริงๆ ว่าพวกเจ้าปกครองคนยังไงถึงได้ไม่ล่มจมจนถึงทุกวันนี้"

         "ปกครองด้วยเหตุผลและความเยือกเย็น!!!"

        วินเนียสและวาร์เรสตอบเป็นเสียงเดียวกันอย่างลืมตัวว่าถูกคาดโทษอยู่ แต่เมื่อเห็นสายตาเอาเรื่องของหญิงสาว ทั้งสองจึงพร้อมใจกันสลายตัวออกจากห้องก่อนถูกฆ่า

        หลังจากทั้งสองออกไปแล้วเซเนตตราจึงลุกออกจากเตียงและอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ไม่นานหญิงสาวก็เดินออกจากห้องน้ำในชุดเดินทางสีดำ เรือนผมสีรัตติกาลยาวสยายตามแรงก้าวเดิน มันเปียกชื้นเล็กน้อยแต่หญิงสาวก็ไม่ใส่ใจจะเช็ดให้แห้ง กลับมองแต่สร้อยข้อมือรูปผีเสื้อสีเงินแทน หากเพ่งมองอีกนิดจะสังเกตุเห็นอักขระ 12 ตัวพันเป็นเกลียวอยู่รอบข้อมือ

         "ท่านแม่...ทำไมวันนั้นท่านถึงได้ทำเช่นนี้"

        หญิงสาวพึมพำแผ่วเบา ความทรงจำที่หวนคืนมาในยามหลับกลับตามมาหลอกหลอนในยามตื่น แทนที่จะลืมเลือนดั่งเช่นทุกครั้ง นางยังจำนามเวทนันได้ดี...

             ...ผนึก 12 อักขระสยบมนตรา...

 
        ตลาดยามเช้าในเมืองเบนิเชียดูคึกคักผิดปกติ ร้านรวงต่างๆดูหนาตาขึ้นเช่นเดียวกับเสียงตะโกนโหวกเหวกขายของตามรายทาง ตอนนี้หญิงสาวกำลังตกเป็นเป้าสนใจจากคนทั้งตลาด หลังจากฝ่าฝืนคำขอร้องก่อนที่วาร์เรสจะไปซื้อขนมให้เพื่อชดใช้โทษ


         ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม...ท่านห้ามปลดฮูดออกเด็ดขาด
               
        ตอนแรกหญิงก็ไม่คิดอะไรมากนอกจากอยากแกล้งหมาป่าหนุ่มเท่านั้น แต่ด้วยใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดานั้นกลับดึงดูดสายของใครหลายๆคนไว้รวมถึงเหล่านักเลงซึ่งเดินผ่านมาพอดิบพอดี ในสายตาคนอื่นนักเลงพวกนี้อาจจะเก่งก็จริง แล้วนั่นก็ไม่ได้รวมถึงเซเนตตราแม้แต่น้อย สำหรับนางนักเลงเหล่านี้ก็เป็นได้แค่  สวะ ดีๆนี่เอง


         "เดินคนเดียวไม่เหงาหรือจ๊ะน้องสาว" น้ำเสียงหื่นกามดังจากคนที่ดูเป็นหัวหน้าพวกมัน 
           
         "สวะ" เสียงหวานไพเราะเอ่ยอย่างเย็นชา
   
         "น้องสาว...ปากดีอย่างนี้มาเจอกับพี่หน่อยมั้ย?"

         "ข้าไม่เคยมีพี่อย่างเจ้า"

         "หัวหน้าพวกเราเก่งนะ เด็ก สตรีและคนชราก็ลุยมาหมด" ลูกน้องเบอร์หนึ่งพูดยกย่อง แต่ฟังยังไงก็ดูเหมือนตอกย้ำความอ่อนแอมากกว่า

         "หน้าตัวเมีย"

        สิ้นประโยคเรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนรอบข้างที่เป็นเบนิเชียมุงได้ดี เนื่องจากหญิงสาวได้หาเรื่องนักเลงใหญ่ของที่นี่แล้ว วินเนียสในร่างเหยี่ยวสีดำสนิทที่เกาะบนหลังคาของร้านใกล้ก็ต้องสะดุ้งเฮือก ก่อนบินออกห่างจากที่เดิมไปแต่ยังสามารถสังเกตุการได้ ถ้าวาร์เรสอยู่ปฏิกิริยาก็คงไม่ต่างจากวินเนียสมากนัก แล้วค่อยมาเก็บศพผู้(ที่)กล้ามาแหย่คนอย่างเซเนตตรา

         "เจ้า!!!" ตัวหัวหน้าตวาดใส่รางบางที่ไม่มีทีท่ากลัวเกรง
       
         "หมาป่าดื้อด้าน"
  
        ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มละลายใจแต่ดวงตายังคงเย็นชาจนน่ากลัว...น่ากลัวจนผู้คนรอบข้างต้องถอยหนี ไม่เว้นแม้แต่นักเลงเผ่าหมาป่าที่ถอยหลังทีละก้าวเมื่อจิตสังหารบางเบาครอบครุมพื้นที่ระหว่างหญิงสาวกับกลุ่มนักเลง...ก่อนที่จะเกิดการฆ่าหมู่ขึ้นก็มีเสียงหนึ่งดังขัดจังหวะ

          "ท่านเซเนตตราขอรับ" วาร์เรสขัดจังหวะทำให้หญิงสาวคาดโทษไว้ในใจเงียบๆ

          "เกิดอะไรขึ้นขอรับ" หมาป่าหนุ่มยังคงไม่รู้สึกตัวจนร่างบางเริ่มอารมณ์เสียขึ้นมา

          "จัดการพวกมันซะ...ข้าจะไปร้านหนังสือ อ้อ! ไม่กินขนมแล้วนะ"

         พูดจบเซเนตตราก็เดินนำลิ่วไปร้านหนังสือที่เล็งไว้มีวินเนียสบินตามหลัง โดยทิ้งวาร์เรสที่ยืนถือถุงขนมร้านหนึ่ง หมาป่าหนุ่มตะโกนไล่หลังไปแต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ อารมณ์โกรธเริ่มกรุ่นๆขึ้น นัยน์ตาสีสนิมเหล็กตวัดมามองนักเลงดวงซวย

          "พวกเจ้าทำให้นายหญิงไม่ยอมทานขนม...ทั้งๆที่นางสั่งให้ข้าไปซื้อมาแท้ๆ ..." วาร์เรสเอ่ยเสียงต่ำคล้ายพยายามสะกดกลั้นอารมณ์

          "พวกเจ้า...ต้องชดใช้!!!"



         หญิงสาวหยุดตรงหน้าร้านหนังสือเก่าๆชื่อ The Sun ป้ายสัญลักษณ์รูปพระอาทิตย์ลวดลายแปลกตาอยู่เหนือชื่อร้าน ประตูไม้เก่าๆใกล้จะพังเต็มทีจากอายุการใช้งาน เมื่อเปิดเข้าไปจะได้ยินเสียงกรุ๋งกริ๋ง สภาพภายในร้านเรียกได้ว่าแทบดูไม่ได้เพราะมีฝุ่นเกาะตามที่ต่างๆเต็มไปหมดไม่เว้นแม้แตเคาน์เตอร์หน้าร้านซึ่งมีชายชรานั่งอยู่ก็ตาม

           "ไม่...ได้เจอกันนานเลยนะคะ มาสเตอร์"

           "หึ แค่สองอาทิตย์เอง" น้ำเสียงที่ควรเป็นของชายชรากลับห้าวทุ้ม นัยน์ตาสีเทาวาววับดุจนักล่า
  
           "แต่เจ้าก็ไม่ควรมาที่นี่ ไม่ควรมารับงานทั้งที่ไม่เคยฝึก"

           "ข้าไม่ได้มารับงาน...แคอยากให้ท่านช่วยเรื่องเมื่อ 10 ปีก่อน"

           "รหัสดำเลยนะ เซเนตตรา" มาสเตอร์ในร่างชายชรากล่าวเสียงแข็ง แม้จะรู้ว่าสักวันหนึ่งหญิงสาวตรงหน้าต้องพูดเช่นนี้

           "เจ้าไม่เคยจับดาบ...แม้แต่พลังเวทก็แทบไม่มี เจ้าไม่เคยฆ่า!!! คิดรึว่าจะล้างแค้นให้ครอบครัวได้!!!" มาสเตอร์ขึ้นเสียงใส่ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อรู้สึกถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากร่างตรงหน้า เหยี่ยวรัตติกาลตัวใหญ่โผบินไปเกาะตรงกองหนังสือไกลๆจนฝุ่นฟุ้งกระจาย

           "แล้วท่านรู้จักข้าดีแค่ไหนล่ะคะ มาสเตอร์ซาน..."

          หญิงสาวยิ้มเย็น ดวงตาสีรัตติกาลเรียบไร้แววใดๆ จิตสังหารบางเบาแผ่กระจายไปทั่วร้านหนังสือ ซานไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับท่านเซเนตตรานอกจากว่านางเป็นเด็กที่เก็บมาเลี้ยงเมื่อ 10 ปีก่อนหลังหมู่บ้านเล็กๆใกล้ป่าอาถรรพ์ถูกทำลายลง วินเนียสคิด

           "ข้าได้ข่าวว่า อัล บาดเจ็บหนัก...งานนี้มันอันตรายขนาดต้องส่ง คีนอส ทำแทนเลยหรือคะ" เซเนตตราเริ่มต้อนมาสเตอร์แห่งลาสซันไชน์ให้จนมุม ดวงตาสีเทามองลึกลงยังดวงตาคู่งามอย่างค้นหาก่อนตอบ

           "อัลฟ่าเกือบตายในเซทรอเรีย...หลังแฝงตัวเข้าไปได้เพียงปีเดียว"

           "เอลก็อยู่ที่นั่นด้วย...ทำไม?"

           "นั่นเป็นเรื่องเข้าใจผิด เอลล่า รับงานที่โคลส"

           "งานที่ทั้งสองคนทำคืออะไรคะ"

           "สังหารรัชทายาทอันดับสองแห่งเรวิลัส" ซานตอบเสียงเบา "และค้นหาอัญมณีนิลกาฬ หนึ่งในอัญมณีแห่งหายนะ"

           "แค่นั้นเหรอ...น่าสมเพชที่สุด"

          ซานรู้สึกแปลกใจกับประโยคสุดท้ายมากแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก่อนหยิบเอกสารสีน้ำตาลขึ้นมาสองซอง หญิงสาวเหลือบมองพลางเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
 
            "ข้อมูลเมื่อ 10 ปีก่อน...รายละเอียดงานระดับSSS" ซานอธิบาย "สุดท้าย ใบสมัครเซทรอเรียสองแผ่น แต่เจ้าต้องพาคู่หูเข้าไปตามกฎการรับงาน" เท่านั้นเองรอยยิ้มพึงพอใจก็ปรากฏบนใบหน้างาม

            "ขอบคุณ"

    ................................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา