คดีร้าย พ่ายพิศวาส (สำนักพิมพ์ simplybook ตีพิมพ์)

-

วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 17.38 น.

  5 ตอน
  1 วิจารณ์
  9,906 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) สะกดรอยพาซวย 100%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

ตอนที่ 4 สะกดรอยพาซวย



     เธอแหวใส่ในระยะไกล เมื่อเห็นเขาชูจี้ locket ของเธอไปมาอย่างสนุกสนาน ชายหนุ่มหลุดขำก่อนจะเอ่ยขึ้น

     “ ผมไม่บ้าขโมยของส่วนตัวตอนคุณสลบอยู่หรอก คือ... ผมเห็นมันหล่นอยู่ในห้องนั้น เลยอุตส่าห์ขับรถมาถึงนี่เพื่อเอามาคืนคุณเลยนะ จะขอบคุณสักคำก็ไม่มี ”

     ‘ จะขอบคุณสักคำก็ไม่ มี ’ เธอค่อนขอดกับคำพูดนี้ของเขาเหลือเกิน มาถึงบ้านเธอ มากวนประสาทใส่เธอ แล้วยังต้องการคำขอบคุณอีก เธอไม่ไล่เขาไปก็บุญแค่ไหนแล้ว หรือจะเรียกนายสันนายศรมาลากตัวออกไปดีล่ะ

     “ ถ้างั้นก็ขอบคุณมากนะคะ ที่อุตส่าห์เดินทางมาถึงที่นี่เพื่อเอาของมาคืนฉัน รู้สึกซาบซึ้งน้ำใจมากเลยค่ะ แบบนี้พอใจคุณหรือยัง! ”

     เธอกัดฟันพูดอย่างหมั่นไส้ เขายิ้มพอใจ แต่กลับยังไม่ยอมส่งมันคืนมาให้เธอ หญิงสาวไม่ยอมเสี่ยงกับเขา เธอจึงยังยืนอยู่ที่เดิมและตะโกนลั่น

     “ ตกลงคุณจะคืนไหม! ”

     “ คุณไปทำงานที่ไหน เดี๋ยวผมไปส่ง ”

     เขายียวนไม่ยอมตอบคำถามเธอ หญิงสาวเดินดุ่มๆเข้าไปหาอย่างไม่รู้ตัวด้วยความฉุนจัด

     “ นี่คุณ! ตกลงจะคืนจี้ให้ฉันไหม ถ้าไม่คืนฉันจะกลับเข้าบ้านแล้ว อีกสักพักพี่รัสจะมารับฉันไปทำงาน ไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายไม่น่าไว้ใจอย่างคุณ ”

     แม้เธอจะรักมันมากแค่ไหน แม้อยากได้มันคืนมามากเพียงไร แต่ในเมื่อต้องเข้าไปเสี่ยงกับเขา เธอก็พยายามตัดใจ ร่างบางหมุนตัวเดินกลับเข้าบ้านไปอย่างฝืนๆ แต่เสียงของชายหนุ่มก็รั้งเธอไว้

     “ ขอบคุณมากนะครับที่ให้จี้แสนสวยนี้กับผม ผมรับรองว่าจะดูแลมันอย่างดีที่สุด จะกอดจะหอมไม่เว้นแต่ละวัน และรับรองว่าจี้คุณจะทำให้ผมนอนหลับสบายตลอดทุกคืนแน่นอน ”

     เธอหันหน้ามาหาเขา ก็เห็นนันทิพัฒน์กำลังกอดกำลังหอมจี้เธอตามที่พูด หญิงสาวเกิดอาการอยาก แหวะ! คนเข้าเต็มเปา แต่พศิกาก็พยายามกัดฟันจะเดินเข้าบ้าน ทว่า... เมื่อหางตามองไปเห็นเขากำลังจะโยนจี้ทิ้งลงกับพื้น เธอก็ร้องสุดเสียง

     “ นั่นคุณจะทำอะไรน่ะ! ”

     “ ก็โยนทิ้งไงครับ ”

     พศิกาพยายามนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจ อย่าให้พุ่งเกินร้อยนะ เขาตายแน่!!!

     “ ถ้าไม่ต้องการมันก็กรุณาส่งจี้คืนมาให้ฉัน ”

     “ คุณให้ผมแล้วนี่ ดังนั้นผมจะทำอะไรกับมันก็ได้ ไม่ว่าจะกอด ไม่ว่าจะหอม ไม่ว่าจะโยนทิ้ง ผมก็มีสิทธิ์ ”

     เขากำลังจะโยนอีกครั้ง เธอก็พลันลืมตัววิ่งเข้าหาชายหนุ่มก่อนจะโผเข้าแย่งสุดฤทธิ์

     “ เอามันคืนมานะ! ถ้าคุณไม่ต้องการมันก็เอาคืนมาให้ฉันสิ ”

     นันทิพัฒน์ชอบใจนักที่ยั่วอารมณ์หญิงสาวได้ในยามเช้า ยามได้เห็นหน้าเรียวสวยมีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ เขากลับรู้สึกชอบใจอย่างบอกไม่ถูก

     “ ยิ้มอะไรน่ะคุณ โรคจิตหรือไงที่มีความสุขจากการยั่วโมโหคนอื่นน่ะ ”

     “ ก็ถ้าทำคุณโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้แบบนี้ ผมก็มีความสุข ”

     เขาพูดอย่างกลั้นขำ พลางโอบเอวเธอไว้จากด้านหลังหลวมๆจนหญิงสาวไม่ทันรู้สึกตัว

     “ ไอ้โรคจิต! งานการไม่มีทำหรือไง ไม่ไปไร่มังคุดเน่าของคุณแล้วหรือ ถึงได้มากวนประสาทคนอื่นเขาแต่เช้า ”

     เขายิ้มอย่างเอ็นดู เมื่อเห็นเธอเรียกไร่เขาว่ามังคุดเน่า ชายหนุ่มกระชับมือที่โอบเอวเธอไว้แน่นมากยิ่งขึ้น นั่นเองที่ทำให้เธอรู้สึกตัวว่าถูกเขาแต๊ะอั๋งเข้าให้แล้ว

     “ นี่คุณ! เอามือออกจากเอวฉันเลยนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกคนในบ้านให้ช่วย ”

     “ คุณก็เรียกสิ ผมก็อยากให้คนอื่นมาเห็นฉากสวีทของเราสองคนเหมือนกัน ”

     คำพูดนี้เองทำให้เธอฟิวส์ขาด เขากล้าดียังไงมาลวนลามเธอแต่เช้าแบบนี้ ช่างไม่กลัวลูกปืนเป่าหัวเอาเสียเลย ดีเหมือนกัน เธอจะได้ร้องให้คนช่วย เอาให้เขาวิ่งขึ้นรถแทบไม่ทันเลยทีเดียว

     “ ถ้าคุณยังไม่ปล่อยอีก ฉันตะโกนแน่นะ ”

     เธอขู่พลางนับหนึ่งถึงสามภายในใจ นี่ก็ใกล้เวลาที่รวิภาสจะขับรถมาแล้ว เธอไม่อยากให้มีเรื่องวุ่นวายในเช้าวันทำงานของตนแบบนี้

     “ ผมบอกแล้วไงว่าอยากตะโกนก็ตะโกน แต่ผมไม่ปล่อยหรอก ”

     “ ได้! ถ้าคุณไม่กลัวลูกปืนเป่าหัวก็ลองดู ”

     พศิกาพูดจบ ก็อ้าปากเตรียมจะร้องตะโกน หากแต่การกระทำของเขาหยุดเธอเอาไว้ หญิงสาวคาดไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะกล้าหอมแก้มเธอ การจู่โจมที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัวทำให้พศิกาได้แต่นิ่งตะลึงงันอยู่อย่าง นั้น ไม่เพียงแต่พศิกาเท่านั้น แต่คนที่แอบอยู่ในรถระยะไกลก็เช่นกัน กวิสราแทบจะตกเก้าอี้เมื่อมองเห็นพี่ชายตัวเองกำลังกอดกำลังหอมผู้หญิงอย่าง ไม่อายใคร

     “ นี่มันเรื่องอะไรกัน แน่เนี่ย ตกลงผู้หญิงคนนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับพี่นน ถึงได้ไปกอดไปหอมเธออย่างนั้น ”

     แต่แล้วก็ต้องมองสถานการณ์ต่อไป เพราะจะลงก็ไม่ได้ ถ้าพี่นนรู้เข้าว่าเธอแอบตามมามีหวังถูกดุยาวแน่

     หน้าเรียวสวยแดงก่ำ เพราะตั้งแต่เกิดมา คนที่หอมแก้มเธอก็มีแต่บิดาเท่านั้น แล้วเขาเป็นใคร เขากล้าหอมเธอที่หน้าบ้านไม่อายฟ้าดินแบบนี้ได้ยังไง

     “ ถูกหอมทีถึงกับไปไม่ ถูกเลยหรือ ดูๆแล้วเวลาคุณเขินนี่ก็น่ารักไปอีกแบบนะ ”

     “ คุณต้องการอะไร! ”

     เธอถามเสียงเรียบ เมื่อเห็นว่าเถียงเขาไปก็คงไม่มีประโยชน์ ชายหนุ่มก้มหน้าลงมาหาใกล้ๆ

     “ บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวผมไปส่ง ”

     พศิกากัดฟันอย่างลังเล ให้ไปกับเขาน่ะหรือ ไปกับผู้ชายที่ไม่น่าไว้ใจอย่างเขา เธอ...

     “ คุณพิณครับ! ”

     นายสันและนายศรวิ่งออก มาเมื่อเห็นนายสาวทำอะไรแปลกๆผิดปกติที่หน้าบ้าน พวกเขาจึงเป็นห่วง และไม่วายนำปืนพกออกมาด้วยเพื่อความปลอดภัย

     พศิกาหันไปมองตำรวจหนุ่มทั้งสอง พลางลังเลว่าจะบอกอะไรยังไงดี เพราะจี้ก็อยู่กับเขา ใจเธอก็อยากได้คืน แต่เธอจะไว้ใจเขาได้มากน้อยแค่ไหน

     “ มีอะไรหรือเปล่าครับคุณพิณ ”

     นายศรถาม พลางใช้สายตามองไปที่ร่างสูงของนันทิพัฒน์อย่างสำรวจตรวจตรา ก่อนจะจำได้ว่าเขาคือผู้ชายคนเดียวกับที่เมื่อวานมาส่งพศิกาที่บ้านนั่นเอง

     “ เอ่อ... คือ... ”

     “ ผมจะไปส่งคุณที่ทำงานเอง ”

     เขาพูดแกมบังคับ พศิกาก้มมองลงต่ำ เห็นเขาแกว่งจี้ไปมาราวกับของเล่นสนุกมือ ยิ่งเป็นการยั่วให้เธออยากได้คืนมากขึ้น หญิงสาวถอนหายใจ แล้วหันมาหานายสันกับนายศรที่กำลังทำสีหน้างงๆอยู่

     “ ฝากเข้าไปบอกคุณพ่อด้วยว่าฉันจะไปรีสอร์ทกับเขา ”

     “ แล้วคุณรัสล่ะครับ คุณรัสกำลังจะมาแล้วไม่ใช่หรือครับ ”

     นายสันถามเสียงเรียบ พศิกาทำสีหน้าลำบากใจ วันนี้เธอคงต้องขอเสียมารยาทกับพี่ชายแสนดีสักวันเสียแล้ว

     “ ฝากบอกพี่รัสว่า... ฉัน... ฉันนั่งแท็กซี่ไปเองนะ วันนี้อยากเข้ารีสอร์ทเร็วหน่อย แล้วฉันจะขอโทษเขาด้วยตัวเอง ”

     “ ครับ ”

     นายสันและนายศรรับคำ พศิกาหันมามองที่นันทิพัฒน์อย่างเจ็บใจลึกๆ ผู้ชายอะไร น่าตบสิ้นดี! ทำให้เธอต้องยอมเสียมารยาทกับรวิภาสเพราะเขา แล้วยังจะมาลวนลามเธออีก ถ้าหญิงสาวทนไม่ไหวจริงๆล่ะก็ เธอจะร้องให้รู้กันไปทั่วเลย ว่าใครมาเหยียบหนวดบ้านตำรวจถึงถิ่น

     “ เชิญครับคุณพิณ ”

     ชายหนุ่มผายมือไปที่รถของเขา หญิงสาวค้อนไม่วางตา ก่อนจะเดินขึ้นรถไปอย่างไม่เต็มใจ ชายหนุ่มเข้าประจำที่นั่งคนขับ ก่อนรถยนต์คันสวยจะพุ่งทะยานออกไปจากหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว

     “ เฮ้ย! ไปไหนกันน่ะ ”

     กวิสราหมุนพวงมาลัยออก มากลางถนน ก่อนจะขับออกไปอย่างเร็ว โดยหารู้ไม่ว่า ความอยากรู้อยากเห็นของเธอในครั้งนี้ จะ เปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองไปตลอดกาล

 

     “ แกเข้าไปบอกคุณพศ ส่วนฉันจะยืนรอคุณรัสตรงนี้ คุณรัสจะได้ไม่ต้องเลี้ยวรถเข้ามาให้เสียเวลา ”

     นายสันบอกกับนายศร นายศรพยักหน้าเข้าใจก่อนจะวิ่งเข้าไปในบ้านพัตร์พิมล นายสันยืนมองซ้ายมองขวาอยู่ไม่ถึงสามนาที สิ่งที่เขากังวลก็เกิดขึ้น เมื่อเห็นรถยนต์คันสวยของรวิภาสขับมาแต่ไกล ทำเอานายตำรวจหนุ่มถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอก เฮ้อ! คุณ รัส มาเสียเที่ยวแล้ว มีหนุ่มหน้าตาดีกว่าพาคุณพิณไปเรียบร้อย

     “ หลบหน่อยครับ ผมจะเลี้ยวเข้าไปจอดข้างใน ”

     รวิภาสลดกระจกลงมาตะโกนบอกนายสัน เมื่อเห็นยืนขวางประตูบ้านไว้เช่นนี้ นายสันทำหน้าลำบากใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้าของรีสอร์ทช้าๆ

     “ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ คุณพิณเธอออกไปแล้ว ”

     “ อะไรนะ! ออกไปแล้ว! ”

     เขาทวนคำอย่างตกใจ และไม่อยากเชื่อคำพูดของนายตำรวจหนุ่ม เขาบอกเธอเองว่าวันนี้จะมารับเธอแต่เช้า แต่ทำไมเธอไม่รอเขา

     “ น้องพิณบอกเหตุผลไหมว่าทำไมถึงไม่รอผม ”

     “ เอ่อ... คือว่า... ”

     นายตำรวจหนุ่มเริ่มมีน้ำเสียงติดขัด จะบอกตามความจริงดีไหมว่าเธอออกไปกับผู้ชาย... ที่เรียกว่าแปลกหน้าก็ได้ แต่มีภาษีดีกว่าก็ตรงที่เธอเต็มใจไปด้วย และเคยเห็นหน้ามาก่อนแล้วเมื่อวานนี้ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่มีทางปล่อยคุณพิณไปกับหมอนั่นหรอก แต่... ในที่สุดก็ต้องอธิบายตามคำพูดของนายสาว

     “ คุณพิณเธอนั่งแท็กซี่ไปน่ะครับ บอกว่ารีบไปและจะขอโทษคุณด้วยตัวเองอีกที ”

     นายสันอธิบายอย่างใจเย็น และดูท่าทีของรวิภาสว่าจะเชื่อคำพูดของเขาไหม เห็นก็มีแต่เสียงถอนหายใจของชายหนุ่มเท่านั้นที่นายสันอดสงสารไม่ได้

     “ ถ้าอย่างนั้นผมเข้า รีสอร์ทเลยแล้วกัน ฝากสวัสดีคุณอาพศแทนผมด้วย นี่สายมากแล้ว คงไม่มีเวลาเข้าไปสวัสดีท่าน ”

     “ คุณพศท่านคงเข้าใจครับ ”

     นายสันตอบสั้นๆ รวิภาสถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะพุ่งทะยานรถยนต์คันสวยของตัวเองออกไปอย่างรวดเร็ว

     เขาไม่โกรธหญิงสาว เพียงแต่... ไม่เข้าใจเท่านั้นว่าทำไมเธอต้องรีบร้อนเช่นนี้ด้วย เธออยากรีบไปรีสอร์ททำไมกัน ในเมื่อนี่มันยังไม่ถึงเวลาเริ่มงานเสียหน่อย เขา... ไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆ

 

     ตลอด ทางที่นั่งรถมาด้วยกัน ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสวย คุณหนูแสนหยิ่งอย่างพศิกาเอาแต่เม้มปากแน่น ไม่ปริปากพูดใดๆกับนันทิพัฒน์ เขาไม่โกรธไม่เคือง หากแต่ไม่อยากให้หญิงสาวต้องอยู่ในสภาวะกดดันเช่นนี้

     “ พูดบ้างก็ได้คุณ เอาแต่นั่งเงียบแบบนี้ไม่อึดอัดแย่หรือ ”

     “ คุณขับรถไปเถอะ ถึงหน้ารีสอร์ท ‘มนตรา’ เมื่อไหร่คุณก็จอดเมื่อนั้น ฉันจะลงทันที ”

     เธอเอ่ยโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา สายตาคู่สวยมองบรรยากาศนอกรถอย่างเซ็งๆ เจอใครไม่เจอ มาเจอผู้ชายอย่างเขาที่หน้าบ้าน แถมแกมบังคับจะไปส่งเธอที่ทำงานอีก สงสัยคงเป็นเวรกรรมของเธอที่ต้องมาพบเจอผู้ชายกวนประสาทอย่างเขา หน้าด้านหน้าทนนัก ไล่ก็ยังไม่ยอมไปอีก เอาแต่ขู่อยู่ได้ พศิกาคิดอย่างแค้นเคือง รอเธอเอาคืนได้เมื่อไหร่ เขาตายแน่!!!

     “ แล้วคุณพิณไม่คิดจะเอาจี้แสนสวยกลับไปด้วยหรือครับ ”

     เขาชูจี้ให้เธอดูยิ้มๆ โดยไม่ได้มองหน้าเรียวสวยที่ค้อนแล้วค้อนอีก เขาเผลอหัวเราะออกมาจนหญิงสาวหน้าแดงด้วยความโกรธ

     “ มันเป็นของคุณแล้วนี่ คุณจะคืนหรือไม่คืน มันก็แล้วแต่คุณ ”

     พูดไปพูดมาก็ถึงหน้า รีสอร์ทพอดี มือเรียวบางเปิดประตูรถออกไป ก่อนจะหันมาพูดกับเขา

     “ ขอบคุณที่มาส่งนะคะ แต่ขอให้รู้ไว้ว่าฉันไม่ได้เต็มใจสักนิด ถ้าฉันผิดใจกับพี่รัส ฉันเอาคุณตายแน่! ”

     คุณหนูจอมหยิ่งลงจากรถ อย่างรวดเร็วเมื่อพูดจบ เธอปิดประตูแล้วเดินเข้ารีสอร์ทมนตราไปทันที ทิ้งให้ชายหนุ่มนั่งอึ้งอยู่ตรงนั้น ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมของ

     “ อ้าว! ตกลงเธอให้เราหรือลืมกันแน่วะเนี่ย ”

     นันทิพัฒน์มองจี้ในมืออย่างงงๆ เขาคิดว่าเมื่อถึงหน้ารีสอร์ทจะส่งคืนให้เธอ แต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะลงก่อนที่เขาจะคืนให้ หนำซ้ำระยะทางจากบ้านเธอถึงรีสอร์ทมนตราก็ใกล้เหลือเกิน นั่งมาด้วยกันไม่ถึงสิบห้านาที ก็ถึงเสียแล้ว

     ชายหนุ่มเป่าปาก ก่อนตัดสินใจจอดรถไว้ข้างทาง ไม่ลืมที่จะล็อกรถอย่างแน่นหนา สาวเท้าตามเธอไปอย่างรวดเร็ว ด้วยกลัวจะคลาดกับพศิกาเสียก่อน

     กวิสราจอดรถด้านหลังพี่ชาย เธอมองนันทิพัฒน์ไปอย่างไม่วางตา ก่อนหันมองรอบๆรีสอร์ทอย่างหลงใหลในความสวยงามราวกับสร้างจากเวทมนต์คาถา วิเศษก็ไม่ปาน

     “ พี่นนพาเธอมาส่งที่นี่ แถมยังเข้าไปอีก ตกลงพ่อให้พี่นนมาทำอะไรกันแน่นะ ”

   หญิงสาวคิดอย่างสงสัย ก่อนจะรีบวิ่งตามไปอย่างเว้นระยะ ด้วยกลัวพี่ชายจะจับได้ โดยไม่ได้ดูเลยว่าการจอดรถติดกับพี่ชายตัวเองนั่นแหละที่จะทำให้ถูกจับได้ ง่ายยิ่งกว่า

 

 


     “ อุ๊ย! ทำไมวันนี้มาเช้าจังเลยจ๊ะพิณ ”

     กวิตาถามยิ้มๆ เมื่อเห็นเพื่อนสาวมาแต่เช้าตรู่ นี่ยังไม่ถึงเวลาทำงานเลย เพราะต่างคนต่างก็มีเวลาทำงานเป็นรอบๆไป แต่พศิกากลับทำสีหน้าไม่ถูก เธอวางของที่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ และบอกเพื่อนสาวยิ้มๆ

     “ ฉันฝากของก่อนนะตา จะไปเปลี่ยนเสื้อทำงานจ๊ะ ”

     “ ยัยพิณ! ไหนล่ะคุณรัสของฉัน ”

     นิพาดาถามเสียงห้วน พลางเดินชนกวิตาเข้ามาหาพศิกาด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร

     “ เอ่อ... พี่รัสยังไม่มาจ๊ะ วันนี้ฉันมาเอง ”

     คำตอบนั้นทำให้นิพาดาผิดหวังอย่างแรง หวังจะได้เจอเจ้านายหนุ่มสุดหล่อ แต่กลับไม่ได้เจอ ทำให้เธอพาลเอากับหญิงสาวตรงหน้า

     “ ทำมาเป็นเรียกพี่รัสซะสนิทสนมเชียวนะ น่าหมั่นไส้สิ้นดี! ”

     “ พิณเขาสนิทกับคุณรัสอยู่แล้ว และคุณรัสเองก็เอ็นดูพิณมากด้วย จะเรียกพี่เรียกน้องแล้วมันเกี่ยวกับเธอตรงไหนยัยดา ”

     กวิตาปกป้องเพื่อนสาว พศิกาเริ่มทำสีหน้าไม่ถูก เวลานั้นนันทิพัฒน์เดินเข้ามาพอดี

     “ คุณพิณครับ! ”

     หญิงสาวหายใจไม่ทั่วท้อง นี่เขาเข้ามาในรีสอร์ทำไมกันเนี่ย

     “ คุณ! นี่คุณเข้ามาทำไม ฉันนึกว่าคุณกลับไปตั้งนานแล้วเสียอีก ”

     “ คุณลืมของครับ ”

     ชายหนุ่มเอ่ยสั้นๆ มือใหญ่ยื่นจี้คืนให้เธอสีหน้ายิ้มๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้ใครต่อใครต่างหันมามองเธอเป็นตาเดียว เพื่อนๆสาวที่ทำงานประชาสัมพันธ์ต่างพากันจ้องมองชายหนุ่มตาไม่กระพริบ พลางซุบซิบนินทาว่าพศิกาไปรู้จักกับผู้ชายหล่อขั้นเทพแบบนี้ตั้งแต่เมื่อ ไหร่

     “ เอ่อ... ขอบคุณค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวไปเปลี่ยนชุดทำงานนะคะ ”

     “ ตามสบายครับ แล้วว่างๆผมจะแวะไปหาที่บ้านนะ ”

     ความที่เธอยืนหันหลังให้เพื่อนๆหลายคนที่กำลังฟังการสนทนาอยู่ พศิกาจึงมีโอกาสทำตาเขียวใส่เขา แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ ตอนนี้เขากลับรู้สึกชอบใจเวลาเธอโกรธเขา เพราะมันดูมีชีวิตชีวากว่าการนิ่งเฉยราวท่อนไม้ท่อนซุง

     พศิกาเดินเลี่ยงออกไป ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนเผชิญหน้ากับหลายๆสาวที่กำลังปลื้มความหล่อเหลาของเขา อยู่ นันทิพัฒน์รู้สึกขนลุกกับหลายสายตาขึ้นมาทันใด เขายิ้มแหยๆก่อนจะเดินออกไป

     “ แหม! มองกันตาเยิ้มเชียวนะ เห็นผู้ชายหล่อเป็นไม่ได้ ”

     สมิตาแซวไปส่ายหน้าไป เพื่อนๆของเธอเห็นกันแต่ชาวต่างชาติแวะเวียนเข้ามาใช้บริการจนบ่อยเกินไป คงลืมหน้าตาผู้ชายไทยดีๆไปเสียหมดแล้ว เมื่อเห็นผู้ชายไทยหล่อๆสักคนจึงพากันหลบหน้าด้วยความขวยเขิน ทำเอาเธอส่ายหน้าไม่ได้

 

     รวิภาสจอดรถที่ประจำ ของรีสอร์ท ก่อนจะโผลงจากรถอย่างเร็ว เขาวิ่งเข้าไปด้านในตั้งใจจะไปล็อบบี้ สายตาคมกลับมองเห็นผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง กำลังด้อมๆมองๆหาใครสักคน ทำตัวมีลับลมคมใน มีพิรุษอย่างเห็นได้ชัดอยู่ตรงมุมเสาด้านหนึ่ง เขาจึงเดินตรงไปหาทันที

     “ ไม่ทราบว่าทำอะไรครับ ”

     “ ว้าย!

     ด้วยความตกใจที่กำลังตามหาตัวพี่ชายอยู่ ทำให้กวิสราเสียหลัก หมุนตัวมาหาเจ้าของเสียงแล้วเท้าเกิดพลิกอย่างกะทันหัน ร่างบางเซล้มลง แต่รวิภาสคว้าตัวเธอไว้ได้เสียก่อน แล้วดึงเข้ามาหาตัวอย่างรวดเร็ว

     “ เป็นอะไรหรือเปล่าคุณ ”

     “ โอ๊ย!

     กวิสราเจ็บแปลบที่ข้อเท้า เขาจึงผ่อนตัวเธอลงเพื่อไม่ได้ข้อเท้าตึงไปมากกว่านี้ แต่หญิงสาวกลับพยายามกัดฟันดันตัวเขาออกไป ด้วยไม่อยากให้ผู้ชายแปลกหน้าแตะต้องตัวเธอ

     “ ออกไปนะ! ปล่อยฉันได้แล้ว! ”

     “ จะปล่อยได้ยังไงล่ะ ข้อเท้าคุณเจ็บจนร้องเสียงดังแบบนี้ ”

     เขาพูดแกมรำคาญ แทนที่เจ็บจะอยู่เฉยๆ แต่เธอกลับเลือกจะให้เขาปล่อยทั้งที่ขยับตัวก็ร้องแล้ว ทำเหมือนรังเกียจเขาเต็มประดา

     “ คุณอย่ามาฉวยโอกาสกับฉันนะ บอกว่าไม่เป็นอะไรแล้วไง ปล่อยสักทีสิ โอ๊ย! ”

     พูดจบก็ร้องขึ้นมาอีก ทำเอาหนุ่มเจ้าของรีสอร์ทส่ายหน้าไปมากับความดื้อรั้นของหญิงสาว แต่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริเวณนั้น สมิตาที่กำลังจัดของอยู่ เธอได้ยินเสียงโวยวายคุ้นหู ก็เงยหน้าขึ้นมาดูอย่างสงสัย ดวงตาสวยก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นเพื่อนสนิทตนเองอยู่ในอ้อมกอดเจ้าของ รีสอร์ทอย่าง รวิภาส!!!

     “ เฮ้ย! นั่นมันยัยวินี่นา ”

   ทีแรกเธอคิดว่าตาฝาดไป แต่เมื่อมองไปแล้วได้ยินเสียงโวยวายตามมา หญิงสาวก็รีบวิ่งไปที่เกิดเหตุโดยเร็ว ด้วยเห็นว่าเพื่อนสาวมีเรื่องกับเจ้าของรีสอร์ทเข้าเสียแล้ว!!!

     “ เจ็บแล้วยังไม่เจียมอีกนะ คุณ อยู่เฉยๆสิ ผมจะให้พนักงานเอายามาให้ แต่ตอนนี้ต้องไปนั่งพักที่เก้าอี้ก่อน เดี๋ยวจะยิ่งเป็นหนักเข้าไปอีก ”

     ว่าแล้วท่อนแขนกำยำก็ โอบกระชับเอวบางของเธอแน่นมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้คนที่ไม่เคยถูกชายใดแตะเนื้อต้องตัวมากขนาดนี้มาก่อนถึงกับออกอาการ โกรธจัด เขากล้าดียังไงมาโอบเอวเธอเหมือนแสดงความเป็นเจ้าของแบบนี้

     เร็วเท่าความคิด เธอกัดฟันพยายามยืนทรงตัวแล้วผลักเขาออกไปอย่างแรง ก่อนมือน้อยๆจะข่วนเข้าที่ใบหน้ารวิภาส ชนิดที่ทำให้ชายหนุ่มร้องได้เลยทีเดียว

     “ เฮ้ย! นี่คุณ! ข่วนหน้าผมทำไม นี่ผมช่วยคุณนะ ”

     กวิสราใช้มือข้างหนึ่งจับเสาข้างตัวไว้ ก่อนจะหันมาโต้กลับเสียงดุ

     “ ช่วยบ้าอะไร! เห็นๆอยู่ว่าคุณโอบเอวฉัน คุณลวนลามฉัน แค่นี้มันยังน้อยไป ฉันไม่จู่โจมจุดอ่อนคุณก็บุญแค่ไหนแล้ว ”

     รวิภาสลูบเบาๆที่รอย ข่วนบนใบหน้าคมเข้ม เป็นรอยยาวมีเลือดไหลซิบๆอย่างน่ากลัว เล็บเธอนี่ช่างน่ากลัวจริงๆ แต่ถึงเขาจะโอบเอวเธอ มันก็ไม่ใช่การลวนลาม เขาช่วยเธอต่างหาก แต่เธอมาข่วนเขาเป็นการตอบแทนแบบนี้น่ะหรือ

     “ ยัยวิ! ”

     ปากที่กำลังจะพูดของ รวิภาสหุบลงทันใดเมื่อได้ยินเสียงหวานๆของสมิตาวิ่งโร่เข้ามาหาเพื่อนสาว ด้วยความตกใจ ซึ่ง กวิสราเมื่อเห็นเพื่อนสนิทก็ตกใจไม่แพ้กัน

     “ ยัยมิว! แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ”

     “ ฉะ... ฉันทำงานที่นี่ ”

     เธอตอบเสียงสั่น แล้วหันไปมองคุณเจ้าของรีสอร์ท ที่ตอนนี้ใบหน้ากำลังถมึงทึงด้วยความโกรธ ไม่ได้โกรธอะไรหรอก โกรธที่กวิสราทำให้ใบหน้าเขาต้องมีแผลแบบนี้ไง

     “ แกข่วนหน้าคุณรัสหรือ! ”

     สมิตาถามกล้าๆกลัวๆ ยิ่งเห็นรวิภาสจ้องเขม็งมาหา หญิงสาวก็ยิ่งตัวลีบด้วยความกลัว

     “ รู้จักผู้ชายคนนี้ด้วยหรือ เขาลวนลามฉันก่อน โดนแค่นี้มันยังน้อยเกินไป ”

     “ หา! คุณรัส... ลวนลามเธอ ”

     คำว่าลวนลามเริ่มเสียงอ่อนลงเมื่อหันไปมองหน้าชายหนุ่มอีกครั้ง แล้วเห็นเขาเหร่ตามามองเธอ เหมือนมันไม่ใช่ความจริง ความที่หญิงสาวรีบวิ่งมาหาเพื่อน ทำให้เธอไมได้สนใจเหตุการณ์ข้างหน้ามากเท่าไหร่ แค่อยากจะรีบวิ่งมาให้เร็วที่สุดก็เท่านั้น

     “ ผมไปลวนลามคุณตอนไหน ผมบอกแล้วไงว่าผมช่วยคุณ ”

     “ โอบเอวฉันหน้าด้านๆนี่น่ะหรือที่เรียกว่าไม่ได้ลวนลาม คุณเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า กล้าทำก็กล้ารับสิ ”

     “ ถ้าผมไม่โอบเอวคุณไว้ ป่านนี้คุณก็ล้มลงไปนั่งกับพื้นแล้ว หรือคุณต้องการให้มันเป็นแบบนั้น ”

     กวิสราพูดไม่ออก แต่ก็ยังคงทำฟอร์มไว้ แม้เขาจะพูดความจริง แต่เธอก็ไม่ชอบให้ผู้ชายหน้าไหนมาถึงเนื้อถึงตัวกับเธอทั้งนั้น อุบัติเหตุเมื่อครู่นี้เขาก็เป็นคนก่อขึ้น ถ้าจู่ๆเขาไม่ถามใกล้หูเธอ มีหรือที่เธอจะตกใจ เป็นใครไม่ตกใจบ้าง อยู่ๆก็ได้ยินเสียงข้างหูตัวเอง เป็นใครก็ต้องตกใจกันทั้งนั้นนั่นแหละ แล้วตกลงเธอผิดอย่างนั้นหรือ!

     “ ว่าไง! ทำไมเงียบไปล่ะ ไม่เถียงผมต่อแล้วหรือ ทีเมื่อกี้นี้ทำเป็นโวยวาย ไม่คิดให้ดีก่อนล่ะว่าใครกันแน่ที่ควรขอบคุณหรือขอโทษใคร ไม่ใช่มาข่วนหน้าเป็นการตอบแทนกันแบบนี้ ”

     รวิภาสได้ทีตอกกลับเป็นชุดให้เธอได้อาย กวิสราเริ่มหน้าแดงด้วยความอายเพื่อนสาว อีกทั้งแขกฝรั่งหลายคนแม้จะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง แต่จากการสนทนากันแล้วก็คงพอจะเข้าใจ พวกเขาจึงหันมามองด้วยความสนใจในเหตุการณ์หน้าล็อบบี้ หญิงสาวเริ่มทำอะไรไม่ถูก แต่จะให้เธอขอโทษน่ะหรือ ไม่มีวันเสียหรอก!!!

     “ ขอโทษผมซะ! แล้วทุกอย่างเป็นอันจบ ”

 

     นันทิพัฒน์ เดินยิ้มๆออกมาจากรีสอร์ทเพื่อมาขึ้นรถตนเอง สายตาพลันเหลือบไปเห็นรถยนต์คันสวยแสนคุ้นตา มือใหญ่ที่กำลังจะกดรีโมทเปิดรถเป็นอันยุติ เขาเดินไปใกล้ๆรถคันนั้นด้วยความสงสัย

     “ เหมือนรถยัยวิไม่มีผิด บ้าน่า! เธอจะมาทำ อะไรที่นี่ ”

     แต่ของในรถก็คุ้นตาเขา ทุกอย่าง เขาไม่คิดสำรวจอะไรมากมายให้เสียเวลา นอกจาก ทะเบียนรถ!!!

     และแล้ว เมื่อก้มลงมองทะเบียนรถ ความจริงก็กระจ่าง ใช่รถน้องสาวเขาจริงๆด้วย แถมจอดข้างรถเขาเสียอีก แสดงว่าแอบตามเขามาแน่ๆ นันทิพัฒน์ถอนหายใจอย่างหนักอก ด้วยความปวดหัวกับความอยากรู้อยากเห็นของเธอ มือใหญ่แตะไปที่กระโปรงรถ ครั้นเมื่อได้รับไอร้อนจัดๆกระทบที่ฝ่ามือเขา ชายหนุ่มก็รู้ทันทีว่าหญิงสาวเพิ่งมาถึงไม่นาน คงหลังจากเขามาถึงนี่ได้ไม่เกินห้านาที คิดดังนั้นแล้วนันทิพัฒน์จึงกลับเข้าไปในรีสอร์ทอีกครั้ง เพื่อตามหาตัวน้องสาว ด้วยอยากรู้ว่าเขาจะกลับอยู่แล้ว ทำไมเธอยังไม่กลับอีก ถ้ายัยวิตามเขามาจริงๆ ป่านนี้เธอน่าจะมาถึงรถแล้วสิ

 

 

 

......................................................................................


  


       - เอาล่ะสิ! บอกแล้วว่าเจอกันอย่างสวยง๊ามมมสวยงาม หุหุ จะเป็นยังไงต่อไปน้า นางเอกเรามีเรื่องกับคุณเจ้าของรีสอร์ทที่เป็นถึงหนุ่มหล่อดีกรีพระเอกรอง คิกๆ และตอนนี้... คุณพระเอกเราก็รู้แล้วอีกว่าน้องวิแอบตามมา จะเหมือนเสือปะจระเข้ไหมหนอ ติดตามตอนต่อไปได้จ้า ^___^ ขอบคุณที่เข้ามาติดตามค่ะ 
        
       นิยายเรื่องนี้เน้นให้ลุ้นและติดตามไปตลอดทั้งเรื่อง จะมีหลายอย่างชวนให้อยากติดตาม ฝากนิยายแนวสืบสวน-โรแมนติก เรื่องนี้ด้วยค่ะ ^^ ขอบ
คุณน้า







 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา