เสน่หา มายาลวง

10.0

เขียนโดย wanwich

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 17.44 น.

  8 ตอน
  0 วิจารณ์
  17.65K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ปฏิบัติการปล้นสวาท NC 18+ (แก้ไขค่ะ)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                ตี 1 แล้วบ้านทุกหลังในเขตนอกอำเภอเมืองแบบนี้ย่อมไม่คึกคักเหมือนกับในตัวอำเภอเมือง รถราวิ่งน้อยลง ร้านรวงต่างๆ ก็พากันปิดตัวลงเพื่อพักผ่อนหลังจากที่เปิดให้บริการลูกค้ามาตั้งแต่เช้า ยิ่งทำให้บริเวณนี้เงียบเข้าไปอีก เสียงจิ้งหรีดเรไรกรีดร้องขับกล่อมเป็นเสียงดนตรีก้องไปทั่วหลังจากฝนหยุดตกได้ไม่นาน บรรยากาศแบบนี้ทำให้หลับสบายยิ่งนักเชียว แต่สำหรับบ้านสวนหลังเล็กๆ หลังนี้กลับไม่ได้เป็นอย่างเช่นทุกวันที่ผ่านมา เมื่อปรากฏเงาของใครคนหนึ่งอยู่หน้าห้องนอนของศลินญา ประตูห้องถูกเปิดแง้มออกเบาๆ พร้อมกับเงาสูงนั้นค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาหยุดอยู่ที่เตียงของเธออย่างเบาที่สุดเท่าที่ร่างสูงใหญ่จะทำได้ ร่างบางของศลินญาตอนนี้หลับสบายอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา และคงฝันหวานอยู่ หากไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้ข้างกายมีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาอยู่ด้วยแล้วในห้องนอนของเธอ

                ร่างหนาค่อยๆ ขึ้นเตียงอย่างช้าๆ และใจเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้ร่างบางนั้นตื่นตกใจเสียก่อน เงานั้นนั่งเชยชมความงามของสาวน้อยร่างบางอย่างพินิจพิเคราะห์อยู่นาน จนสุดจะทนกับความต้องการที่คอยเรียกร้องอยู่ตลอดเวลาเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ ผู้หญิงแบบนี้ เขาค่อยๆ ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากมนอย่างโหยหา พร้อมเคลื่อนมือหนาไปตามเรือนร่างที่อยู่ใต้ผ้าห่มหนาทันทีทำให้ศลินญาสะดุ้งสุดตัวลืมตาโพรงขึ้นมา เมื่อสัมผัสถึงการถูกล่วงล้ำแบบไม่ได้รับเชิญ มือปริศนารีบปิดปากของฝ่ายตรงข้ามทันทีเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมาหากกลัวจะมีใครได้ยินแล้วเข้ามาช่วย ทำให้แผนการณ์ที่เตรียมไว้จะไม่สำเร็จ เมื่อเห็นเจ้าหล่อนเงียบไม่ส่งเสียงแล้วจึงคลายมือออก พร้อมกับส่งยิ้มให้ร่างบางทันที

                “จุ๊ๆๆ อย่าส่งเสียงดังนะ โอมมีเรื่องจะคุยด้วย” เขาส่งสายตากรุ้มกริ่มทันทีเมื่อปล่อยมือออก

                “โอม” ศลินญาเรียกคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาว่าจะเป็นเขา นี่ก็ดึกแล้วเขาย้อนกลับมาทำอะไรที่นี่กันแน่ แล้วเหมือนชายหนุ่มจะรู้ว่าเธอจะถามอะไรจึงชิงตอบข้อสงสัยนั้นทันที

                “โอมมาตกลงเรื่องของเรา” ปฏิพัตรส่งสายตาหวานเชื่อมทันทีเมื่อเคลื่อนกายและโน้มหน้ามาทับไว้บนร่างของเพื่อนสาวไว้เพื่อป้องกันไม่ให้หนีได้

                “เราตกลงกันแล้วนี่นา ไม่มีอะไรต้องพูดอีก โอมปล่อยตาลนะ ไม่งั้นจะร้องให้มะนาวช่วยจริงๆ ด้วย” ศลินญาส่งสายตาค้อนทันทีเมื่อเขาขึ้นมาทับอยู่บนตัวแบบนี้

                “ยังไม่จบ โอมบอกแล้วไงว่าจะขอรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น” เพราะกลัวเสียงจะดังเล็ดลอดออกไป ปฏิพัตรจึงเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้กับหล่อนมากขึ้นจนแทบจะหายใจรดหน้ากันอยู่แล้ว

                “ปล่อยตาลเถอะโอม ให้เรื่องมันจบเถอะนะ” ศลินญาเบี่ยงหน้าหลบสายตาของเขาทันที กลัวเหลือเกิน กลัวว่าจะใจอ่อนยอมเสียแต่โดยดี แต่ก็ถูกปฏิพัตรเชยคางให้หันมาสบตาเหมือนเดิม เพื่อที่จะถ่ายทอดความจริงใจออกจากสายตาให้เธอได้รับรู้ว่าเขาพูดจริงไม่ได้โกหกเลยแม้แต่น้อย

                เมื่อสบสายตานิ่งอยู่นาน ไม่มีคำพูดใดๆ ออกจากปากของคนทั้งสอง ก็ยิ่งทำให้ความเงียบเข้าครอบงำยิ่งทำให้ภาพความทรงจำของเรื่องเมื่อคืนผุดเข้ามาในความคิดของปฏิพัตรทันที ถึงศลินญาจะไม่ได้เป็นคนสวยอะไรมากเหมือนมายา แต่ใบหน้าก็จิ้มลิ้มน่ารักในแบบของเธอ ทรวดทรงองเอวที่เปลี่ยนไปจากที่เคยอ้วนท้วนก็กลับเซ็กซี่เย้ายวนได้พอๆ กับนางแบบดีๆ นี่เอง ยิ่งคิดก็ยิ่งหวาบหวามหัวใจ ปฏิพัตรไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้ ก่อนหน้านี้คิดว่าจะมาตกลงด้วยการพูดจากันอย่างเดียว แต่กลายเป็นว่าคงต้องใช้ภาษากายช่วยให้เรื่องมันง่ายขึ้นกว่าเดิมเสียแล้ว รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าทันทีไม่รอช้าปฏิพัตรจึงก้มลงจุมพิตเพื่อนสาวเบาๆ ทันทีอย่างนุ่มนวล หากแต่ร่างบางกลับดิ้นขลุกขลักไม่ยอมแต่โดยดี ชายหนุ่มจึงลุกด้วยการสอดลิ้นอุ่นเข้ากรีบปากบางทันทีเพื่อไม่เปิดโอกาสให้หล่อนได้ขัดขืนอีก มือหนาค่อยๆ ลูบไล้ทรวงอกทันที ความรัญจวนของรสจูบทำให้ศลินญาอ่อนระทวยลงไม่ขัดขืนเขาอีกต่อไป และด้วยความรักที่มีอยู่เป็นทุนเดิมเธอจะขัดขืนเขาไปเพื่ออะไร

               ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากของทั้งคู่อีก นอกจากการสื่อสายผ่านทางภาษากายของคนทั้งคู่เท่านั้น ที่บ่งบอกว่าต้องการกันและกันมากแค่ไหน ต่อจากนี้เขาสัญญาว่าจะดูแลผู้หญิงคนนี้ตลอดไป และเชื่อแน่ว่ามันคงไม่ยากนักถ้าจะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน และใครคนนั้นก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนอย่างศลินญา

                แสงสว่างยามเช้าตรู่ทำให้ศลินญาขยับกายเล็กน้อยเพื่อบิดเอาความเมื่อยล้าออกจากกาย หากแต่วันนี้กลับไม่เป็นเหมือนเช่นทุกวัน เมื่อมีร่างหนาที่นอนกกกอดเธออยู่ไม่ยอมห่าง ศลินญาหันมามองใบหน้าคมที่ตอนนี้ยังคงหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ อย่างพินิจ ใบหน้าขาวเนียนยิ่งกว่าผู้หญิง คิ้วหนาดกดำเป็นคันศร จมูกโด่งได้รูป รับกับเรียวปากสีชมพูบ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีของเจ้าของริมฝีปากหนานี้ เขามีเสน่ชวนมองอย่างนี้นี่เอง ใครๆ ถึงอยากได้เขามาเป็นเจ้าของกันนัก หากแต่ผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นกลับเป็นมายาเพื่อนของเธอแทนที่ได้ครอบครองกายและใจของเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าน้อยใจนัก หล่อนหลงรักเขามานานแสนนานแต่ก็ต้องทนฝืนเก็บความรู้สึกไว้เพียงลำพัง มีแต่บุษบาเพื่อนรักอีกคนเท่านั้นที่รู้ถึงความทุกข์ใจนี้ และคอยปลอบใจเธอมาตลอด ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้ขอบตาร้อนผ่าวจนนัยต์ตาเริ่มมีหยดน้ำใสๆ ไหลออกมา พร้อมเสียงสะอื้นเบาๆ แรงสะอื้นนี้เองทำให้คนข้างกายรู้สึกตัวทันที และต้องตกใจเมื่อเห็นศลินญาร้องไห้ออกมา

                “ตาลโกรธโอมหรือ” เขาเช็ดน้ำตาจากแก้มนวลให้ทันทีอย่างเบามือ และโอบกอดร่างเธอไว้แนบอก

                “โอมขอโทษนะ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้มันเป็นความตั้งใจและเต็มใจของโอมจริงๆ หากตาลจะโกรธเกลียดโอมมากขึ้น โอมก็ยอม” เขาสำนึกผิดทันทีที่ทำให้อีกฝ่ายต้องร้องไห้ออกมา

                “เปล่าหรอกโอม แค่เพียงตาลจะ...” หล่อนนิ่งเงียบพร้อมสบตาคมคู่นั้นอย่างเนิ่นนาน เพื่อชั่งใจในสิ่งที่เธอจะพูดออกไป หากเขารู้ความในใจเขาจะเปลี่ยนไปไหม หรือจะเก็บไว้ในใจเหมือนเดิมเพื่อรักษาความเป็นเพื่อนกันต่อไป หากแต่ความเจ็บที่ปะทุมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ศลินญาเลือกที่จะพูดความในใจออกไปดีกว่า

                “ตาลรักโอม” ศลินญาเอ่ยออกไป แล้วเงียบสักพัก ก่อนที่จะพูดต่อเมื่อเห็นเขายังคงนิ่งฟังเธออยู่

                “ตาลรักโอมมานานแล้ว ตั้งแต่เรายังเรียนอยู่ด้วยกันปีหนึ่ง แต่ตอนนั้นโอมคบกับมายาอยู่ ตาลเลยเลือกที่จะไม่พูด ตอนนี้โอมเลิกกับมายาแล้ว ตาลเลยอยากจะบอก ถึงแม้ว่ามันจะทำให้โอมอาจจะเกลียดตาล หรือเลิกคบตาลเป็นเพื่อน ตาลก็จะขอบอกความในใจให้โอมรู้” ศลินญากลืนก้อนสะอื้นลงคอเมื่อพูดจบ เหมือนยกภูเขาออกจากอกยังไงยังงั้น รู้สึกโล่งใจเหลือเกิน หากคำตอบที่จะได้ยินจากปากเขาจะเป็นอะไร เธอก็จะยอมรับมันแต่โดยดี

                “โอมไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย” ปฏิพัตรแปลกใจและอึ้งเล็กน้อยเมื่อเพื่อนสาวมาสารภาพรักกับเขาแบบนี้ รู้สึกเขินไม่น้อยเหมือนกัน เคยแต่สารภาพรักกับคนอื่น เจอเข้ากับตัวแบบนี้ก็ทำให้อายได้เหมือนกัน
                
                "เราเลิกเป็นเพื่อนกันเหอะตาล" ปฏิพัตรตอบกลับไปตามความรู้สึกของเขาจริงๆ ทำให้ใบหน้าของอีกฝ่ายเศร้าลงถนัด ใบหน้าน้อยๆ ซบลงบนฝ่ามือพร้อมเสียงร่ำไห้เบาๆ ปฏิพัตรจึงเชยคางของหล่อนขึ้นมาสบตาอีกครั้ง

                “ถ้าโอมรู้ว่าคนที่รักโอมอย่างมั่นคงตลอดมาเป็นตาล โอมก็จะเลือกตาลอย่างไม่รีรอ โอมโง่เองที่หลงรักคนโลเลไม่มั่นคงอย่างมายา วันนี้โอมรู้สึกดีใจที่สุดเลยที่ยังมีคนที่ยังรักและต้องการโอมอยู่ ต่อจากนี้ไป โอมสัญญาว่าจะขอเริ่มต้นใหม่ และจะรักตาลคนเดียวตลอดไป สิ่งที่โอมพูดมันไม่ได้เป็นการแก้ตัวหรืออยากรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงๆ และโอมก็พร้อมจะดูแลตาลตลอดไป หากตาลต้องการ”

                ปฏิพัตรสบตานิ่งเพื่อต้องการคำตอบรับจากเพื่อนสาวตรงหน้า แต่ยังไม่ทันได้คำตอบใดๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะเสียก่อน เล่นเอาคนทั้งคู่สะดุ้งสุดตัวไม่แพ้กัน คนที่จะดูรนรานมากที่สุดกลับเป็นศลินญาเพราะคนที่กำลังเคาะประตูอยู่นั้นไม่ใช่ใครหากเป็นเพื่อนรักของเธอเอง ที่เจ้าหล่อนจะมาเคาะเรียกแบบนี้ทุกเช้าเสมือนเป็นนาฬิกาปลุกให้เธอทุกวัน

******************************

***หายไปนานเพราัะบิ้วอารมณ์ไม่ขึ้นจริงๆ ไม่รู้ว่าจะให้พระเอกสารภาพรักยังไงดี อิอิ ก็ยังถูๆ ไถๆ เสร็จจนได้ ในที่สุดก็บอกความในใจกันเสียที เหมือนอะไรๆ จะดีขึ้นแต่คงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก มีให้ติดตามต่อแน่นอนจร้า ขอกำลังใจให้ด้วยนะคะ อย่าพึ่งทิ้งกันเสียหล่ะ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา