Eve in Mystery book อีฟกับหนังสือแห่งความลึกลับ

8.0

เขียนโดย ShineLove

วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 14.53 น.

  28 บทตอน
  54 วิจารณ์
  36.37K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน พ.ศ. 2558 16.39 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

25) ความลับของอลิซ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

25

           

          เมื่อเหล่าสหายพบทางแยกอยู่สามทาง หัวใจของทุกคนก็สร้างความเหน็ดเหนื่อยขึ้นมา

ภายในลึกๆ .. พวกเขาและเธอไม่อาจรู้ได้ ว่าต่อจากนี้จะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นอีก ทุกคนทำได้

เพียงแต่ให้กำลังใจกัน เพื่อปลอบใจให้มีแรงฮึดสู้ขึ้นมาเท่านั้น..            

 

          พวกเขาแบ่งเส้นทางที่แต่ละกลุ่มจะต้องไปสำรวจ เส้นทางแรกได้แก่ อีฟ อลิซ เส้นทางที่

สอง แอนโทนี่ กับโซเฟีย และเส้นทางสุดท้าย ได้แก่ บลูมและคิวเลอร์           

 

          ในระหว่างที่แบ่งผู้สำรวจนั้น คิวเลอร์บอกว่าจะนำเฮ็ดวิดไปเป็นเพื่อนด้วย.. สหายคน

อื่นๆจึงตกลงตามคำร้องของเขา อีฟคิดว่าคิวเลอร์คงไม่มีวันทำร้ายมัน  แต่โซเฟียสังเกตได้ถึง

พลังลึกลับบางอย่างแผ่ออกมาจากตัวเขา..

          

          “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันกับคิวเลอร์จะไปก่อนก็แล้วกัน” บลูมพูดพลางตั้งใจก้าวเดินไปยัง

เส้นทางของตัวเอง ในขณะที่คิวเลอร์นำหน้าไปก่อนแล้ว          

          “บลูม.. ฉันสังเกตเห็นรังสีประหลาดๆที่ออกมาจากตัวเขา” โซเฟียกระซิบข้างหูบลูมเบาๆ

“ระวังตัวด้วยหล่ะ ฉันยังไม่ค่อยเชื่อใจเขาเท่าไหร่”   

          “หากนั่นคือสิ่งที่เธอเห็น ฉันก็จะระวัง” บลูมตอบเธอแล้วจึงเดินตามคิวเลอร์ไป

           

          อีฟและอลิซเดินไปเคียงข้างกันไปอย่างระมัดระวัง  รอบๆตัวของพวกเธอเต็มไปด้วย

มอสกับพุ่มไม้สีเขียวแปลกๆเต็มไปหมด ทั้งยังมีหยดน้ำสีม่วงกลิ่นเหม็นๆตกลงมาจากด้านบน

ของอุโมงค์ และแสงสว่างจากภายในวัตถุทรงกลมใสๆคล้ายบอลที่ทำจากยาง

           

          “กลิ่นพวกนี้ เหม็นชะมัด ให้ตายสิ! ฉันว่าแม่มดที่นี่ควรใช้ให้สมุนของหล่อนมาทำความ

สะอาดบ้าง!” ในขณะที่อลิซบ่น อีฟหวนนึกถึงประโยคคำพูดของสาวใช้ในโทรทัศน์คนหนึ่ง ที่

พึ่งเข้ามาทำงานในคฤหาสน์ หล่อนพูดว่า  “โอ้พระเจ้า ส้วมบ้านฉันยังสะอาดกว่าที่นี่เลย!”

          “หัวเราะอะไรของเธอ?” อลิซทำฝีหน้าสงสัย ในเวลาที่น่าหวาดระแวงเช่นนี้ แต่อีฟกลับ

ทำตัวเพี้ยนๆขึ้นมาได้

          “ประโยคของเธอเหมือนสาวใช้ในละครโทรทัศน์หนะ”  อีฟหัวเราะลั่นหลายนาที จนลืม

บรรยากาศแปลกๆรอบตัว  

 

          แอนโทนี่เดินนำโซเฟียเข้าไปในหนทางที่ลึกขึ้นเรื่อยๆ เขามองดูบรรยากาศรอบๆเพื่อให้

แน่ใจว่าปลอดภัย เพราะบริเวณนั้นเต็มไปด้วยถังที่มีสารเคมีสีม่วง ล้นทะลักออกมาเกลื่อนกลาด

          

          “กะ..กะโหลก?” แอนโทนี่สะดุ้งตกใจเมื่อเท้าของเขาเตะโดนอะไรบางอย่าง “คงไม่

อันตรายหรอก ใช่ไหม?”

          โซเฟียเข้าไปมองดูกะโหลกนั้นใกล้ๆ “มันเป็นกะโหลกที่มีกลิ่นอายของมนต์ดำอยู่ นี่

ต้องเป็นของที่แม่มดใช้แน่ ถ้าไม่ผิด”  

          

          ความมืดหายไปในทันที เมื่อโซเฟียร่ายเวทย์เรียกภูติแห่งความสว่างออกมา ภูตนั้นมี

ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม แสงสีทองของมันดูเจิดจ้า  จนทั้งสองเห็นกะโหลกเป็นกอง

ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตรได้

          พวกเขาเดินไปได้ไม่ไกลมากนัก ก็ได้ยินเสียงคล้ายของเหลวเคลื่อนที่อยู่ข้างหลัง เมื่อหัน

ไปมอง ทั้งสองเห็นของเหลวสีม่วงกำลังเคลื่อนตัวมารวมกัน จนกลายเป็นปิศาจสารเคมีตัวใหญ่

เบ้อเร่อที่ขยายร่างสูงจนติดผนังด้านบน

          มันเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ทั้งสองมากขึ้นเรื่อยๆ โซเฟียใช้พลังไฟ และพลังไฟฟ้าจัดการ

หลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ เธอจึงใช้บาเรียป้องกันให้นานที่สุด 

 

          แอนโทนี่วิ่งต่อไปข้างหน้า คิดหาหนทางสามารถช่วยโซเฟียกำจัดปิศาจร้ายตัวนี้

          

          ‘ฉันต้องช่วยเธอให้ได้ รอฉันก่อนนะ โซเฟีย!’

 

          บลูมก้าวเท้าอย่างหวาดกลัว  ท่ามกลางความมืดมิดและเงียบสงัด “คิวเลอร์! นายอยู่ไหน?

ตอบฉันหน่อยสิ!” เธอเอ็ดเสียงเรียกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา

          เธอได้ยินเสียงแวบไปแวบมาทั้งด้านหน้าและด้านหลังของเธอ “คิวเลอร์!! นั่นนายใช่

ไหม?” เมื่อไม่มีเสียงตอบรับอีก บลูมจึงเริ่มตั้งสติเดินไปต่อ..

           

          ตึก..ตึก..ตึก..

           

          บลูมหยุดชะงักด้วยความกลัวสุดขีด พลางจ้องไปที่ดวงตาแดงก่ำและโหดร้ายคู่นั้นซึ่ง

กำลังอยู่ใกล้ประชิดใบหน้า เวลานี้เธอไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้อีก แม้แต่ใบหน้าของมัน..

จิตใจของเธอจดจ่ออยู่กับดวงตาลึกลับนั้น ความหวาดกลัวเข้าครอบงำเธอ จนกระทั่งไม่รู้สึกถึง

พละกำลังที่เหลืออยู่อีกต่อไป..

 

            แอนโทนี่วิ่งมาจนพบห้องแห่งหนึ่งทางซ้ายมือ ทูตแสงสว่างก็ตามมาด้วยเช่นกัน เขาเปิด

ประตูเข้าไป พบว่าที่แห่งนี้เป็นห้องเก็บของที่ใช้ในการบรรจุยาและพิธีกรรมของแม่มด ขวดแก้ว

รูปทรงต่างๆถูกวางจัดไว้บนชั้นไม้เก่าอย่างเป็นระเบียบ บ้างก็แตกเป็นเศษๆอยู่บนพื้น กะโหลก

ควายและหนังสัตว์ต่างๆถูกแขวนไว้บนตะขอ บนโต๊ะมีตุ๊กตาบูดูหลายตัววางไว้ ตะปูหลายชิ้น

กล่องหลายใบวางเกะกะ สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือ หุ่นขี้ผึ้งเหมือนกับร่างมนุษย์ซึ่งถูกทาด้วยเลือด

กลิ่นคาวๆยืนอยู่

           

          “ที่นี่หลอนเป็นบ้า!” เขาอุทานพลางรีบหาของในห้องอย่างรวดเร็ว  “เอ๊ะ! นี่คืออะไรห

นะ?” 

          แอนโทนี่หยิบของสิ่งนั้นขึ้นมา มันคือปืน... เขาพบโน้ตทีเขียนไว้แปะบนปืนนั้น แล้วรีบ

อ่านผ่านๆอย่างเข้าใจ

 

 

          ‘ปืนนี้เป็นปืนชนิดลำแสงทำลายล้างขั้นสูง ถูกผลิตโดย องค์กรต่อต้านผู้ก่อการร้ายทาง 

โลกแห่งกาลเวลา Anti Time Terrorist Organization หรือย่อว่า  A.T.T.O  หากท่านเป็น

ผู้เคราะห์ร้ายในโลกแห่งกาลเวลาตอนนี้ โปรดใช้ปืนนี้เพื่อปกป้องตัวของท่าน  เรากำลังหา

วิธีการช่วยพวกคุณ รวมไปถึง อลิซ เวลลี่ฮุป ลูกสาวของเรา

                                                                                                                                                                                                            A.T.T.O              

 

          หลังจากที่ได้อ่านแล้ว แอนโทนี่รีบคว้าปืนเลเซอร์แล้ววิ่งไปช่วยโซเฟียทันที              

          “เอานี่ไปกิน ไอ่ปิศาจบ้า!” เขาเล็งแล้วยิงปืนทันทีเมื่อมาถึง

          ลำแสงเลเซอร์กำจัดพวกมันจนไม่เหลือซาก    

          “ขอบใจนะแอนโทนี่” โซเฟียกล่าวขอบคุณ “ไปเอาปืนนั่นมาจากไหน?”               

          “ไปเจอในห้องเก็บของแม่มดดำหนะ”                

          “ฉันเจอของสำคัญอีกอย่างหนึ่ง” เขายื่นโน้ตที่แปะอยู่บนปืนให้เธออ่าน “มีคนกำลังหาทาง

ช่วยพวกเราอยู่!”               

          “ถ้าออกจากที่แห่งนี้ได้ เราคงต้องลองถามอลิซดู” โซเฟียเอ่ย              

 

          ทั้งสองมุ่งหน้าเดินต่อไปผ่านห้องเก็บของ จนมาถึงทางเข้าห้องแห่งหนึ่ง ประตูทำจากไม้

สน มีกระจกสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำให้สามารถมองเห็นสถานการ์ณภายในนั้นได้              

          

          แอนโทนี่แอบมอง ข้างในเป็นห้องขนาดใหญ่ อุปกรณ์ทุกอย่างถูกวางอย่างเป็นระเบียบในตู้

และชั้นวางของ เขาเห็นแม่มดดำตนหนึ่ง กำลังปรุงยาในหม้อใบใหญ่สีดำอยู่ รวมทั้งคนอื่นที่เป็น

สมุนของหล่อน เขาตกใจทันทีเมื่อพบบลูมนอนไม่ได้สติ เธอถูกจับตัวมัดไว้และโดนปิดปาก..  ส่วน

เฮ็ดวิกถูกจับในกรงที่ห้อยไว้ด้านบน              

          

          “แย่แล้วหล่ะ” แอนโทนี่มีฝีหน้ากังวล “บลูมถูกจับตัวอีกจนได้ เราต้องไปช่วยเธอนะ!”

          “ฉันว่าเราควรรอสักพักจะดีกว่านะ” โซเฟียบอก “เพื่อวางแผนหนะ”              

          แอนโทนี่ข่มอารมณ์ ทั้งที่ในใจอยากจะช่วยบลูมให้ได้เต็มที “งั้นก็ได้..”               

 

          อีฟกับอลิซเดินทางมาหลายนาที ยังไม่พบแม้กระทั่งวี่แววใดๆ แต่บรรยากาศเริ่มดีขึ้นมาก

ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ กลิ่นเหม็นฉุนหายไป และดูสะอาดขึ้นมาก              

          

          “นี่ตั้งนานแล้ว ยังไม่เจอวี่แววอะไรเลยนะ” อลิซเอ่ย “ฉันเริ่มเหนื่อยแล้วซิ”                          
          “อย่าพึ่งเหนื่อยไปเลย” อีฟบอกพลางมอบไปรอบๆ “อย่างน้อยที่นี่ก็ยังสะอาดกว่าเยอะเลยหล่ะ”                

          หลังจากนั้นอีฟกับอลิซก็เดินไปต่อเรื่อยๆ ในที่สุดก็เจอทางออก               

          

          “รู้สึกว่าเส้นทางนี้จะเป็นทางออกนะ” อีฟบอก “ไปกันเถอะ!”              

          

          อีฟกับอลิซวิ่งออกมาจากโพรงใต้ดิน พวกเธอปีนบันไดขึ้นไป ครั้นเมื่อปีนจนถึงพื้นข้างบน

แล้ว จึงนั่งพักกันเหน็ดเหนื่อย ท่ามกลางดวงจันทร์และดวงดาวเปล่งประกายยามค่ำคืน              

 

          “ทำไมถึงไม่มีปิศาจสักตัวเดียว?” อลิซถาม “เราคงต้องถามผู้คุมหนังสือสินะ”              

          อีฟถอนหายใจพลางกอดอก “ทุกคนที่อยู่นอกโลกหนังสือนี่ คงกำลังวุ่นวายกับเรื่องที่พวก

เราหายตัวไปแน่ๆเลย แม่กับพ่อคงเป็นห่วงฉันมาก”              
          
          “ฉันมีเรื่องหนึ่งที่ลืมถามเธอหนะ..ตอนนั้นพวกเรามัวแต่ยุ่งอยู่กับภารกิจ” อีฟมองหน้าอลิซ

“เธอเป็นใคร?”                

          อลิซเงยหน้าดูท้องฟ้า “ฉันมาจากโลกอนาคตเพื่อมาทำภารกิจบางอย่างในหนังสือเล่มนี้

ตุ๊กตาตัวนี้ก็เหมือนกัน พ่อสร้างมันให้มีของวิเศษเพื่อใช้ในสถานการณ์ต่างๆ”                


          เธอนึกภาพในหัวและเล่าให้อีฟฟัง

 

ณ เมืองแห่งหนึ่งในโลกอนาคต              

          

          ท่ามกลางผู้คนและความวุ่นวายในถนนใหญ่ อลิซวิ่งหนี ‘ผู้ก่อการร้าย’ ที่ไล่ตามมาชาย

หนุ่มคนนั้นใส่ชุดสีดำทั้งตัว เขาตามเธอพร้อมกับมีด              

          ก่อนหน้านั้นเธอได้แอบลงไปในตลาดมืด อลิซปลอมตัวเป็นชายชุดดำ เมื่อไม่มีใครสังเกต

เธอจึงรีบคว้าหนังสือเล่มนั้นมาแล้ววิ่งโลดทันที              

 

          “หยุดเดี๋ยวนี้นะ ยัยตัวแสบ” เขาตะโกน “ยอมให้จับเดี๋ยวนี้ ยังไงเธอก็หนีไม่พ้น!”              

          อลิซหายใจพลางเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เธอวิ่งอย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งวิ่งมาจนพ้นตาชาย

หนุ่ม แล้วจึงหลบเข้าพุ่มไม้อย่างลนลาน              

          

          “แฮก..แฮก!” เธอวางหนังสือลง “ในที่สุดฉันก็ได้หนังสือมาแล้ว!”               

          “ฉันต้องทำภารกิจเสร็จ!” เธอเปิดหนังสือออก มีแสงมาปกคลุมตัวเธอไว้แล้วหายตัวไปในที่สุด              

          “ฟึบ!” 

 

กลับมาปัจจุบัน              

 

          “นี่คือจุดเริ่มต้นของฉัน” อลิซพูด “ฉันคิดถึงพ่อกับแม่เหมือนกับเธอ”                

          “ป่านนี้ทุกคนจะเป็นยังไงบ้างนะ?” เธอเริ่มเป็นห่วงทุกคน “หวังว่าปลอดภัยดีนะ”              

          อีฟแตะไหล่อลิซ “ฉันเชื่อนะ ว่าทุกคนต้องไม่เป็นอะไร เพราะพวกเรามีบางอย่างที่พวกผู้

คุมหนังสือไม่มี”               

          “อะไรคือสิ่งที่เธอบอก?”              

         

          “มิตรภาพและความรักไงหล่ะ..” 

 

 

 

 


 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา