รักฉันนั้น...เพื่อเธอ

-

เขียนโดย Topazio

วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 15.10 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  12.38K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2556 20.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) แฟน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

           “กูไม่ได้ตั้งใจ กู…..” เสียงเมฆเอ่ยเบาๆ อย่างรู้สึกผิด สามหนุ่มมานั่งรอแพรวาอยู่หน้าคลีนิคไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก มีคนไข้รายอื่นนั่งรอหมออยู่สี่ห้าคน แพรวาหายเข้าไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ชัฏกับเคนนั่งมองเมฆด้วยสายตาตำหนิ

 

           “ไอ้เมฆ..กูบอกอะไรให้นะ มึงไปสงบสติอารมณ์ก่อนดีมั๊ย กูกลัวว่ามึงจะบ้าแล้วคลั่งขึ้นมาอีก.. คราวนี้มันออกจะเกินไปหน่อยนะ!” เคนบอกอย่างพยายามระงับอารมณ์เพราะตอนเขาเห็นเลือดออกข้างขมับก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกว่าชัฏตามมาจับหัวแพรวามาดูแล้วรีบขี่มอเตอร์ไซด์พามาที่คลีนิค

 

           “มึงเป็นบ้าอะไร!!” เคนถามเสียงดังอย่างลืมตัว กลายเป็นคนที่บอกให้คนอื่นไปสงบสติอารมณ์แต่ตัวเองกลับกลายเป็นคนสติแตกซะเองจนคนไข้ที่รอคิวอยู่พากันสะดุ้งตกใจกับเสียงดังเหมือนฟ้าผ่า ชัฏกดไหล่เคนที่ยืนขึ้นเหมือนอยากจะเข้าไปตั๊นหน้าเมฆให้นั่งลง ก้นยังไม่ทันร้อนทั้ง เมฆและเคนก็กระเด้งขึ้นแทบไม่ทันเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นแพรวากำลังเดินออกมาจากห้องพร้อมพยาบาลข้างขมับด้านขวามีผ้าก๊อดปิดไว้อย่างเรียบร้อย

 

          “เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับคุณพยาบาล” เคนลุกขึ้นเดินไปถามพยาบาล ชัฏกับเมฆมองตาม

 

          “เย็บแผลไปสองเข็มน่ะคะ ที่หลังระวังหน่อย..ยังดีนะเนี่ยที่โดนตรงนี้ถ้าโดนเย็บตรงหน้าสวยๆ นี่แย่แน่เลย.. น้องเค้าท่าทางจะกลัวเข็มนะคะร้องไห้ใหญ่ รับยาตรงนี้เลยค่ะ” พยาบาลบอกยิ้มอย่างใจดีหันไปมองแพรวาที่ทำหน้าบอกไม่ถูกยกมือเกาหัวตัวเองแก้เก้อมองดูสามหนุ่มแต่ละคนหน้าตาบอกบุญไม่รับ ชัฏเดินไปจ่ายค่ายา เมฆหน้าซีดตั้งแต่พยาบาลบอกว่าเย็บแผลไปสองเข็มแล้ว เคนตาแทบจะลุกเป็นไฟหันมามองเมฆเหมือนอยากจะต่อยให้คว่ำ

 

         “น้องผู้ชายทำแผลด้วยหรือเปล่าค่ะ ที่มือน่ะค่ะ ไปต่อยกับใครมาคะ หน้าตาดูไม่ได้เลย ให้คุณหมอดูหน่อยดีมั๊ยค่ะ” พยาบาลสาวตาไวเห็นมือเมฆตอนที่ยกขึ้นเสยผมเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองทำอะไรลงไป

 

        “ไม่เป็นไร..ขอบคุณครับ” เมฆเพิ่งจะหาเสียงตัวเองเจอเดินมาจับแขนแพรวา แต่โดนเคนปัดมือออก  ดึงแพรวาออกมาจากคลีนิคชัฏจ่ายเงินเสร็จแล้วเดินตามมาสตาร์ทรถมอเตอร์ไซด์ที่จอดอยู่เคนอุ้มแพรวาไปนั่งตรงกลางแล้วหยิบหมวกที่ชัฏส่งมาให้สวมหัวให้แพรวาแล้วตัวเองก็ตามขึ้นไปนั่งไม่สนใจเมฆที่ยืนมองอยู่ ก่อนชัฏจะสตาร์ทรถออกไปแพรวาหันมามองเมฆอย่างสงสาร

 

         “อาลัยอาวรณ์มันนักเดี๋ยวให้มันจัดให้ซักอีกแผลนึงดีมั๊ย!” เคนอยากจะเคาะกะโหลกแพรวาอีกซักทีแต่ติดที่แผลบนหัวไม่งั้นโดนแน่

 

         “เคน ชัฏ  เมฆไม่ได้ตั้งใจผลักแพรหรอก มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”

 

         “อ๋อเรอะ!! ถ้าตั้งใจผลักคงโดนเย็บซักสิบแผลมั๊ง…เมื่อวานก็ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกันซินะ!”

 

         “แพรไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก จริงๆ นะ”

 

         “ไม่ได้เป็นไร เชื่อจริงๆ เลยหละแพรวา เห็นยืนหน้าซีดนึกว่าจะเป็นลมไปแล้ว.. ถามจริง..ตั้งแต่ขึ้นมอหกมาเนี่ย..ได้แผลมากี่แผลแล้ว..คนอะไร ยิ่งโตยิ่งเซ่อ” เคนบอก

 

         “เคน..เมฆไม่ได้ไปต่อยกับนาวินใช่มั๊ย!”

 

         “เคนจะไปรู้ได้ยังงัย ก็เดินมากับแพรน่ะ” เคนบอก

 

         “ชัฏ..เมฆไม่ได้ไปต่อยกับนาวินใช่มั๊ย!” แพรวาถาม

 

         “ไม่รู้”

 

         เมฆนั่งอยู่หน้าคลีนิคจนกระทั่งตะวันลับขอบฟ้า ก่อนจะตัดสินใจขี่มอเตอร์ไซด์ไปจอดหน้าบ้านแพรวาตอนใกล้ๆ สองทุ่ม  เมฆเห็นชัฏกับเคนที่ปากซอยเมื่อสิบห้านาทีก่อน สองคนคงเพิ่งออกมาจากบ้านแพรวา  เมฆขมวดคิ้วสงสัยเพราะบ้านแพรวาเงียบผิดปกติ มีแสงไฟจากห้องแพรวาเพียงห้องเดียว เมฆตัดสินใจโทรศัพท์หาแพรวา  …..กริ๊งงงงงงง.........

 

         “ฮัลโหล...จะพูดสายกับใครคะ?”

 

         “แพร....เจ็บมากหรือเปล่า?”

 

         “เมฆ..เหรอ?”

 

         “อึมม..แพร..เมฆขอโทษนะ”

 

         “ไม่เป็นไร..แพรไม่เจ็บแล้ว กินยาแล้วกำลังจะนอน”

 

         “ทำไมที่บ้านมืดจัง ไม่มีใครอยู่เหรอ”

 

         “ป้าสำอางยังไม่กลับไปเยี่ยมญาติพรุ่งนี้คงมาถึงบอกว่าไม่มีรถกลับ คุณพ่อไปราชการอีกสองวันจะกลับแล้ว..เมฆอยู่ไหน?”

 

         “หน้าบ้านแพร...” เมฆบอกแพรวารีบเดินมาที่หน้าต่างเห็นเมฆนั่งอยู่บนฟุตบาทข้างๆ มีมอเตอร์ไซด์จอดอยู่ยกมือให้แพรวา ก่อนจะวางโทรศัพท์ลง แพรวาเดินลงมาจากข้างบนใส่รองเท้าแล้วรีบเดินออกมาเปิดประตู

 

         “ทำไมไม่กดออดล่ะ เมฆ” แพรวาถาม เมฆยิ้มหน้าเศร้าอย่างสำนึกผิด ไสมอเตอร์ไซด์เข้ามาจอดในอู่รถข้างบ้านแล้วเดินตามแพรวาเข้าไปในบ้าน  เมฆยื่นมือไปจับไหล่แพรวาให้หยุดเดินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

         “เมฆกลัวแพรจะไม่เปิดประตูให้..แพร...เมฆขอโทษ อย่าโกรธนะ เมฆสัญญาว่าต่อไปจะใจเย็นไม่วู่วามอีก”

 

         “……….”  เงียบ..แพรวาไม่ยอมมองหน้าเมฆ มือหน้ายื่นมาจับคางเรียวมนให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

 

         “อย่าโกรธเลยนะ..เมฆขอโทษถ้าเมฆทำให้แพรเสียใจ อย่าร้องไห้อีกเลยนะ” แพรวาน้ำตาหยดแหมะทันทีเพราะลึกๆ แล้วรอให้เมฆมาง๊อตั้งนานแล้วสะอื้นซบหน้าลงที่อกอุ่น  เมฆกอดปลอบประโลมก้มหน้าลงจูบผมหอมกรุ่นอย่างรู้สึกโล่งใจที่เรื่องต่างๆ สามารถคลี่คลายไปด้วยดี

 

         “เมฆขอโทษนะ แพรเจ็บมากหรือเปล่า?” เมฆบอกมือหนาเลื่อนมาจับผ้าสีขาวที่ปิดแผลอย่างสำนึกผิด

 

        “ดีขึ้นแล้ว..เมฆไปอาบน้ำแล้วนอนห้องคุณพ่อก็แล้วกัน มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยนหรือเปล่า” แพรวาถามเพราะเมฆมาค้างที่บ้านบ่อยๆ ตอนคุณคเชนทร์ไม่อยู่แต่ทุกครั้งป้าสำอางจะอยู่ด้วยตลอด

 

        “เมฆไม่ได้ตั้งใจจะมาค้าง ไม่รู้ว่าแพรอยู่คนเดียว แพรหาเสื้อผ้าให้เมฆหน่อยเมฆจะไปอาบน้ำก่อน”

 

         “เมฆ..เจ็บหรือเปล่า?”  แพรวาถามขึ้น เพราะเห็นปากเมฆเป็นแผลเขียวช้ำ ค่อยๆ จับมือเมฆมาดูตอนนี้บวมเปล่ง จนยกแทบไม่ขึ้น

 

         “คราวหน้าถ้าเมฆวู่วามแบบนี้อีก แพรโกรธเมฆจริงๆ ด้วย นาวินไม่น่าจะทำให้เมฆเจ็บได้ขนาดนี้นี่นา ตัวเล็กกว่าเมฆตั้งเยอะ” แพรวาบอกขมวดคิ้วสงสัย เมฆมองหน้าแพรวานิ่งนาน

 

         “มีอะไรเหรอ?” แพรวาเงยหน้ามาถาม

 

         “เมฆไม่เจ็บหรอก..แพรไปหาเสื้อผ้าให้เมฆหน่อยซิ เมฆไปอาบน้ำก่อนนะ” เมฆบอกยิ้มให้แพรวาเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ในห้องแพรวา ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ส่งเสียงร้องเรียกแพรวา

 

         “แพร..ผ้าเช็ดตัวล่ะ” แพรวารีบเดินไปหาผ้าเช็ดตัวมาส่งให้เมฆแล้วรีบเดินออกมา ไม่นานเมฆก็นุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกมาจากห้องน้ำ มีหยดน้ำเกาะพราว เช็ดผมที่หน้ากระจก เดินไปหยิบกชุดนอนที่วางไว้บนเตียงแพรวามาใส่ แพรวานำชุดนอนของคุณคเชนทร์ที่ไม่ได้ใส่นานแล้วมาวางไว้ให้เมฆ แล้ว เดินไปจัดที่นอนในห้องคุณคเชนทร์ เมฆเดินนุ่งกางเกงตัวเดียวลงมาข้างล่างหาตู้ยาเพราะหยิบหลอดยาขึ้นมาทาแผลที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งในห้องแพรวา แพรวาเดินมาจะตามเมฆไปให้ไปนอน เห็นเมฆยืนอยู่หน้ากระจกก็เดินไปหา

 

         “เมฆ..แพรทาให้..มาดูท่าทางไม่ถนัด มาตรงนี้เถอะ” แพรวาบอกดึงเมฆให้มานั่งที่กลางห้องแล้วจัดการทายาที่ปากและที่มือให้ท่าทางอ่อนโยน เมฆมองริมฝีปากแพรวาแล้วรู้สึกใจเต้นโครมคราม

 

         “แพร......”  เสียงเรียกเบาหวิว ทำให้คนที่กำลังก้มหน้าทามือให้เงยหน้าขึ้นมามอง

 

         “ฮึ..มีอะไร” แพรวาเลิกคิ้วถาม

 

         “เมฆไม่ได้เจ็บมือแล้วหล่ะ...แต่เมฆปวดใจมากกว่าที่ทำให้แพรเจ็บตัว” เมฆค่อยๆ ยกมือขึ้นมาเกลี่ยผมที่บังหน้าลูบแผลที่มีผ้าก๊อดปิดอยู่อย่างรู้สึกผิด รอยแผลนี้คงทำให้เมฆต้องเจ็บไปอีกนานเหมือนเป็นตราบาปในใจ แพรวาก้มหน้ามองพื้นนึกถึงตอนที่เมฆอารมณ์แปรปรวนแล้วก็รู้สึกปวดใจไม่ต่างกันเหลือบมองเมฆเห็นแววตาสั่นไหวอย่างคนรู้สึกผิดค่อยๆ ซบหน้าลงไปที่อกเมฆอย่างเข้าใจ

 

         “แพรไม่โกรธเมฆหรอก ที่หลังอย่าใจร้อนอีกนะ รู้หรือเปล่า” แพรวาบอก เมฆค่อยๆ ดึงแพรวาออกมาจากอ้อมกอด

 

         “แพร..ขอเมฆจูบแพรได้หรือเปล่า?” เสียงบอกเบาหวิวจ้องมองใบหน้านวลอย่างหลงไหล..

 

         “เมฆ…แพร..เอ่อ” แพรวาทำหน้างง..เหมือนไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่า เมฆไม่ได้รอคำตอบแต่ค่อยๆก้มหน้าลงมาจูบหน้าผากแพรวาเลื่อนลงมาข้างขมับก่อนจะจับหัวทุยๆ กดเข้าหาตัวเพื่อเขาจะได้จูบได้ถนัดขึ้น แพรวาดิ้นขลุกขลักก่อนจะเงียบลงเมื่อเมฆค่อยๆ จูบเลื่อยๆ มาขบเม้มริมฝีปากแพรวาด้วยความหวามไหวปนตื่นเต้น ฝ่ามือหนาเลื่อนลงมาสอดเข้าไปใต้เสื้อนอนแขนตุ๊กตาสีชมพูอ่อน สาวน้อยยังอยู่ในอาการตื่นตะลึง

 

        “เมฆ...” ปากเล็กสวยเปิดอ้าออกอย่างสับสน เมฆได้โอกาสสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากเกี่ยวพันลิ้นเล็กนุ่มตามแรงอารมณ์ มือหนาค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาปลดเสื้อชั้นในเนื้อนุ่มออกอย่างนุ่มนาลใบหน้าคมเข้มเคลื่อนมาหยุดที่ริมฝีปากอวบอิ่มด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ มือหนาเอื้อมมาจับมือเล็กเรียวยาววางไว้ที่อกแกร่งของตัวเองทางด้านซ้าย

 

        “เมฆหัวใจเต้นจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้วแพร..” เสียงพูดแหบพร่า ค่อยๆ ก้มหน้าลงมาจูบริมฝีปากอวบอิ่มอีกคราฝ่ามือหนากระตุ้นให้ร่างบางคล้อยตามอย่างหลงลืมตน

 

        “แพร..อ้าปาก” เสียงบอกทุ้มลึกวาบหวาม สาวน้อยหลับตาพริ้มทำตามอย่างว่าง่ายเพราะความอยากรู้อยากเห็นไม่ต่างกันทั้งตื่นเต้นกับประสบการณ์แปลกใหม่ เมฆจูบย้ำไปมาหยอกล้อปลายลิ้นเล็กเรียวที่อ่อนละมุนก่อนจะค่อยๆ สอดมือเข้าไปกอบกุมอกอิ่มสองข้างบีบเคล้นตามอารมณ์ที่เริ่มครุกรุ่นและกระหายใคร่รู้ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อนอนเนื้อนุ่มออกตามติดด้วยซับในตัวสวยก้มมองอกอวบอิ่มอย่างตื่นตะลึง แพรวาอายจนหน้าแดงเป็นลูกตำลึงพยายามยกมือปิดท่าทางประหม่า

 

         “อย่าอาย...แพรสวยไปทั้งตัว” เสียงแหบพร่าเอื้อยเอ่ยค่อยๆ ก้มหน้ามาหาอกอวบจับมือแพรวาที่พยายามปิดเนื้อเนียนให้มาโอบรอบคอ แพรวาหน้าตาตื่น...

 

         “เมฆ..อย่า...อย่าทำอย่างนี้” แพรวาบอกเสียงสั่นเริ่มรู้สึกตัว เมฆชะงักดึงแพรวาเข้ามากอดเมื่อรับรู้ได้ว่าสาวน้อยตรงหน้าเริ่มฝันเสีย

 

         “ขอโทษแพร..เมฆขอโทษ” เมฆได้สติค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งพยุงแพรวาขึ้นมากอดแน่น

 

         “ขอโทษนะแพร..เมฆรักแพรจริงๆ ห้ามทำแบบนี้กับใครนะเข้าใจหรือเปล่า” เมฆพูดด้วยน้ำเสียงสั่นไหวอย่างคนพยายามหักห้ามใจแพรวาพยักหน้ามองเมฆก่อนจะหลบสายตาเมฆที่มองมาอย่างเขินอาย เมฆเอื้อมมือไปหยิบเสื้อชั้นในตัวสวยกับเสื้อนอนมาใส่ให้แพรวาท่าทางเก้ๆ กังๆ ปากบ่นพรึมพรำ

 

         “ตอนถอดทำไมถอดง่ายจัง” เมฆทำท่าทางสงสัยโดยแพรวาทุบไปทีนึง

 

         “ไอ้บ้า!!..คนชอบฉวยโอกาส..”  แพรวาบอกเสียงแหวเมฆชะงักมือที่กำลังติดกระดุมเสื้อให้แพรวา

 

         “เมฆขอโทษ เมฆจะไม่ทำแบบนี้อีก แพรไปนอนเถอะดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปเรียนแต่เช้า เมฆไปส่ง”  เมฆบอก คงจะจริงอย่างที่แพรวาว่า เขาเป็นพวกชอบฉวยโอกาสจริงๆ แล้วจะให้แพรวาไว้ใจได้อย่างไรกัน..เมฆคิดลุกขึ้นพาแพรวาเข้านอนแล้วเดินออกมาปิดไฟ

 

         “เมฆ..เมฆนอนกับแพรนะ” เมฆชะงัก

 

         “ไม่ได้หรอก..เมฆห้ามใจไม่อยู่เผลอปล้ำแพรขึ้นมาล่ะแย่แน่” เมฆพูดให้ตลกแต่เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ

 

         “นะ..เมฆ”  

 

         “อย่าอ้อนนักเลย..แค่นี้เมฆก็หลงจะแย่แล้ว” เมฆพูดก่อนจะเอื้อมมือไปปิดไฟแล้วเดินกลับมาหาแพรวา ล้มตัวลงนอนดึงแพรวาให้มานอนหนุนแขนเมฆโอบกระชับลูบแขนแพรวาเบาๆ ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากเนียนสวย

 

         “ฝันดีนะ.แพร” แพรวาลืมตาขึ้นมาอมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เอื้อมมือมากอดเอวเมฆซุกตัวรับไออุ่นก่อนจะหลับไปอย่างมีความสุข เมฆนอนยิ้มมองดูแพรวาหลับไปอย่างอารมณ์ดีรู้สึกอบอุ่นในใจ

 

          แพรวาตื่นมาเกือบหกโมงเช้าไม่เห็นเมฆ จึงเดินไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำจัดการธุระส่วนตัวก่อนจะเดินลงมาชั้นล่าง เห็นเมฆทำอะไรกุกกักอยู่ในครัว

 

         “เมฆ..ทำอะไรอ่ะ!”

 

         “ข้าวต้มหมู..แพรอาบน้ำแล้วเหรอ”

 

         “อึ้ม..ว้าว..จะกินได้มั๊ยเนี่ย” แพรวาเดินมาชะโงกมองข้าวต้มในหม้อที่เมฆอุตสาห์ลุกขึ้นมาทำแต่เช้า ก่อนจะหันไปหอมแก้มคนที่กำลังตั้งอกตั้งใจหั่นต้นหอม เมฆหันมามองอมยิ้มน้อยๆ “แก่แดดใหญ่แล้วนะ แพร…ยกชามออกไปได้แล้วจะได้รีบกินข้าว เมฆจะรีบขึ้นไปอาบน้ำ แพรกินไปก่อนเลย” แพรวายกชามออกมาตักข้าวต้มกินอย่างอร่อยระหว่างรอเมฆมาก็เข้าชามที่สองพอดี

 

         “โห..กินไปกี่ชามแล้วนั่น..ระวังจะอ้วนเป็นหมูนะ”

 

         “แหม..แค่ชามที่สองเอง ไม่อ้วนหรอก เมฆอยากทำอร่อยนี่นา..อ่ะ..แพรตักให้” แพรวาเลื่อนชามข้าวต้มส่งให้เมฆ เมฆกินเสร็จก็รีบเอาชามไปแช่ไว้ในอ่างแล้วรีบออกไปดูรถมอเตอร์ไซด์ก่อนที่จะเข็นไปไว้นอกบ้านแล้วกลับเข้ามาหยิบกระเป๋านักเรียนของตัวเองและของแพรวา ตรวจดูความเรียบร้อยภายในบ้านแล้วออกมาช่วยแพรวาปิดประตู เมฆหยิบหมวกกันน็อคที่หน้ารถมาสวมให้แพรวา ก่อนจะสวมให้ตัวเองแล้วขึ้นไปนั่งรอบนรถมอเตอร์ไซด์

 

         “แพร นุ่งกางเกงขาสั้นข้างในหรือเปล่าเนี่ย”

 

         “ถามทำไม” แพรวาถามด้วยความสงสัย

 

         “นั่งคล่อมนะ ระวังโป๊ด้วย ให้เมฆเห็นได้คนเดียว”

 

         “ทะลึ่งจริง เมฆนี่” แพรวากอดเอวเมฆแน่น ยี่สิบนาทีผ่านไปเมฆก็ขับรถมาจอดตรงที่จอดตรงลานจอดรถแพรวาลงมาจากรถเมฆหันมาถอดหมวกให้แพรวาก่อนจะเอาไปใส่ไว้หน้ารถแล้วหยิบกระเป๋านักเรียนของแพรวามาส่งให้ แพรวาเดินกอดกระเป๋าออกไปก่อน เมฆเอารถเข้าไปจอดใต้ต้นไม้พอดีได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดัง เมฆขมวดคิ้วมองด้วยความแปลกใจเพราะเป็นเบอร์โทรที่บ้านแม่ก่อนจะกดรับสาย

 

         ขณะที่แพรวากำลังเดินเข้าไปที่อาคารเรียนหันไปเห็นรถบีเอ็มสปอร์ตสีดำสวยหรูป้ายแดงขับเข้ามาจอดที่อาคารจอดรถของทางโรงเรียน แพรวามองดูรถสวยด้วยความสนใจ ..ใช่แต่แพรวาที่ไหนนักเรียนที่กำลังเข้ามาในโรงเรียนต่างหยุดยืนมองด้วยความสนใจ พากันเดินไปดูใกล้ๆ  วันนี้อาจารย์คมกฤษเป็นอาจารย์เวรกำลังยืนมองดูรถและนักเรียนชายร่างสูงที่กำลังก้าวอกมาจากรถ เรียกเสียงฮือฮาของนักเรียนที่ยืนมองรอบๆ ชัฏทำหน้างงตอนเงยหน้ามาเห็นนักเรียนกำลังมุงดูรถตัวเองอยู่ยกมือเกาหัวเดินเข้ามาหาอาจารย์คมกฤษที่ส่งยิ้มมาให้

   

         “โหย..เล่นของแพงเลยนะยะ” แพรวาคิด ชัฎเดินไปทักทายอาจารย์คมกฤษแล้วคุยกันสักพักก่อนจะพากันมาดูรถสวยตามประสาหนุ่มๆ   สาวๆ ที่ยืนอยู่แถวนั้นมองชัฎตาค้างรีบกรูกันเข้ามาหา แพรวามองหาเมฆเห็นยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างๆ มอเตอร์ไซด์ท่าทางซีเรียส เลยคิดจะเดินไปหาชัฎ

 

         “หลบไปหน่อยซิ!!” เสียงตวาดยังไม่พอยังผลักแพรวาจนเซไปหลายก้าว แพรวาทำท่าตกใจ

 

         “บอกดีๆ ก็ได้ทำไมต้องผลักด้วยล่ะ”

 

         “ก็เธอมายืนขวางทาง..อยากเข้าไปหาชัฏหรือวัย.อย่างเธอวาสนาคงได้แค่ขี่มอ’ไซด์”  ผู้หญิงหนึ่งในสี่คนที่กำลังเดินมาหาชัฏมองแพรวาท่าทางดูถูก เธอคงภูมิใจในความมีเงินของตัวเองเพราะปกติเด็กนักเรียนที่มาเรียนที่นี่ส่วนใหญ่จะฐานะค่อนข้างดี แพรวามองอย่างไม่พอใจ

 

          “ทำไม! มีปัญหาเหรอ?” เด็กหญิงคนนั้นมองแพรวาก่อนจะถามอย่างถือดี เธอเพิ่งจะย้ายมาอยู่โรงเรียนนี้เมื่อเดือนก่อนเพราะพ่อเป็นศึกษาจังหวัดของที่นี่เลยไม่รู้จักแพรวา เพื่อนที่อยู่ในกลุ่มพยายามดึงเด็กผู้หญิงคนนั้นออกมา

 

          “ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย” แพรวาถามอย่างไม่พอใจ  เมฆคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเดินเข้ามาด้านในไม่ทันเห็นแพรวาเพราะมัวแต่มองรถสวยสงสัยว่าเป็นของใคร พอเห็นชัฎเปิดประตูออกมาก็ยิ้ม เดินเข้าไปหา  เมฆยกมือขึ้นไหว้อาจารย์คมกฤษแล้วก็ยืนคุยกันตามประสาหนุ่มๆ

 

          “ทำไม..พูดแบบนี้แล้วเป็นยังงัย หรือว่าอยากมีเรื่อง!”   เสียงตวาดแหวจนแพรวานึกรำคาญไม่อยากมีเรื่องเดินหนีออกมาเสียงหัวเราะสะใจดังแว่วมา แพรวาถึงกับส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย เปลี่ยนใจเดินเข้าไปในโรงเรียนไม่คิดเดินไปหาชัฏอีก

 

          เมฆกำลังมุดเข้าไปในรถ ชัฏยืนคุยอยู่กับอาจารย์คมกฤษหันไปเห็นแพรวารีบเดินออกมา

 

          “แพร..เดี๋ยวไปพร้อมกันยังไม่เข้าแถวหรอก อีกตั้งยี่สิบนาที” ชัฏบอกดึงมือแพรวาให้มาที่รถ

 

          “ถูกหวยหรืองัย?” เสียงหวานเอ่ยแซว ชัฎหัวเราะอย่างอารมณ์ดี  หลังจากสำรวจจนพอใจแล้วเมฆก็มุดออกมาจากรถเป็นคนแรกเห็นชัฎยืนกอดคอแพรวาอยู่ ก็ขมวดคิ้วปัดมือชัฎออกสีหน้าไม่พอใจ ชัฎอมยิ้มยักไหล่สะใจที่ได้แกล้งเมฆแต่ไม่ยอมปล่อยมือที่กอดคอแพรวาอยู่  เมฆนึกฉุนไล่เตะชัฎที่ใช้แพรวาเป็นโล่กำบัง พอดีอาจารย์คมกฤษก้าวออกมาจากรถ เมฆกับชัฏเลยเลิกเล่นกัน

 

          “อ้าวแพรวา! เป็นยังงัยบ้างเราน่ะ ครูยังไม่เจอเธอเลยตั้งแต่กลับมาจากค่าย หายดีหรือยัง?”

 

          “สวัสดีค่ะอาจารย์”

          “หายแล้วครับ” เมฆตอบแทน อาจารย์คมกฤษหันมามองเมฆแล้วอมยิ้ม เมฆเพิ่งรู้ตัวเขินจนหน้าแดง รีบยกมือไหว้ลาอาจารย์แล้วสะกิดแพรวาให้ตามออกมา ชัฏลาอาจารย์หันไปล็อครถแล้วรีบวิ่งตามหลังเมฆกับแพรวาไปเข้าห้องเรียน สาวๆ มองตามชัฏ เมฆและแพรวาไปด้วยความอยากรู้ เพราะเพิ่งเตบเห็นรถแพงระยับขนาดนี้มาจอดที่โรงเรียนขนาด ผอ.เองยังขับรถคันละไม่ถึงล้านแต่นักเรียนเล่นขับรถคันละยี่สิบสามสิบล้านถึงกับอึ้ง

 

          “คิดงัย ขับรถซะหรูมาเชียว วันนี้” เมฆถาม

 

          “พ่อกูให้ลุงพงษ์ขับมาส่งให้เมื่อคืนสงสัยกลัวกูไม่กลับบ้าน ตั้งใจจะขับมาอวดไอ้เคน”

 

          “กูว่ามึงได้อวดมากกว่าไอ้เคนแน่ดูดิ” เมฆพยักหน้าให้ชัฎหันกลับไปดูรอบๆ เห็นนักเรียนยังคงมองมาที่พวกเขา เมฆดึงแพรวาให้รีบๆ เดินตามมา แพรวากึ่งวิ่งกึ่งเดินตามเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส

 

          “ยังงี้แพรก็ได้นั่งรถใหม่แล้วน่ะซิ” แพรวาทำท่าฝันหวาน เมฆหันมาดีดหน้าผากแพรวาทีนึง

 

          “โอ๊ย!!”

 

          “ได้ซิ ชัฏให้แพรนั่งคนแรกเลย” ชัฏบอกหันมายิ้มให้อย่างน่ารัก

 

          “กรี๊ดดด....สัญญานะ” แพรวารีบจับแขนชัฎเขย่าด้วยความดีใจ

 

          “แพร...” เมฆเอ่ยเสียงเรียบ แพรวากำลังดีใจสุดขีดรีบปล่อยแขนชัฎหน้าจ๋อยทันที

 

          “มึงนี่มันบ้าอำนาจจริงๆ เลย...แพรไม่ต้องสนใจมันหรอก ชัฎสัญญาให้แพรนั่งคนแรกเลย” เมฆชำเลืองมองแพรวาเห็นหน้าจ๋อยนึกสงสาร

 

          “เมฆยังไม่ได้ว่าอะไรแพรซะหน่อย” แพรวาเปลี่ยสีหน้าฉับไวหันมายิ้มให้เมฆจนตก่อนจะบอกขอบใจชัฎสีหน้าระรื่น ชัฏอมยิ้มสบตาเมฆ  เมฆยักไหล่...ก็แฟนกูอยากนั่งทำงัยได้... สามคนเดินเข้าห้องไป เพื่อนๆ ในกลุ่มรีบกรูเข้ามาหา ข่าวมาไวกว่าตัวคนซะอีก เสียงเอ่ยถามดังแซ่ดไปหมด

 

          “อยากดูก็ไปดูพวกมึงจะเห่ากันทำไมวะ!” ชัฎโยนกุญแจรถให้เคนพูดอย่างรำคาญ เคนรีกระโดดรับกุญแจ

 

          “กลางวันกูต้องไปซิ่งซะหน่อยแล้ว”  เคนบอกก่อนจะพากันเดินออกมาเข้าแถวเพราะได้ยินเสียงออดดัง

 

          ตอนกลางวันหลังจากกินข้าวเสร็จเพื่อนๆ ในกลุ่มก็พากันมาดูรถ แต่กลับมองไม่เห็นรถเห็นแต่ไทยมุง

 

          “กูว่ากูขี่มอ’ไซด์แบบเดิมดีกว่ามั้ง” ชัฎหันมาบอกเมฆที่ยืนจูงมือแพรวามองดูรถคันสวย หันมาหาชัฏเห็นทำหน้าเซ็ง เคนเดินแหวกฝูงชนเข้าไป

 

         “น้องคร๊าบบ.. ขอทางหน่อยคร๊าบ” เคนกดรีโมทซ์เปิดประตูเข้าไปนั่งตะโกนเรียกชัฎถามหาเกียร์ ชัฏเดินเข้ามาอธิบายรายละเอียด ก่อนที่เคนจะสตาร์ทรถขับออกไปวิ่งโฉบเฉี่ยวบนถนนหลังโรงเรียนทุกคนมองตามด้วยความทึ่งในสมรรถนะรถยนต์คันสวยก่อนที่เคนจะย้อนกลับมาจอดหน้าเพื่อนๆ

 

         “สาวๆ คนไหนจะไปกับเฮียมั่ง” เคนถาม แพรวารีบสั่นหน้า

 

         “แอนไป” แอนบอกรีบกระโดดขึ้นรถโบกไม้โบกมือหยอกล้อกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน

 

         “กูว่าไอ้เคนมันเห่อกว่ากูอีกนะเนี่ย” ชัฎหัวเราะ

 

         “แพร เสียใจด้วยนะ แอนเปิดซิงไปเรียบร้อยแล้ว” ชัฎหันมาบอกแพรวา เมฆหัวเราะขำๆ ยกมือโยกหัวแพรวาไปมาด้วยความเอ็นดู เคนกลับมาอีกครั้งส่งกุญแจให้เมฆ  

 

         “ตามสบาย อ่ะมึงน่ะ”  เมฆบอกว่าน

 

         “กูไม่กล้า เดี๋ยวชนซวยเลย ไอ้เก้าแล้วกันมันขาซิ่ง” ว่านบอก เก้ารับกุญแจมา ขยิบตาเรียกแก้มให้ตามมานั่ง แอนรีบเปิดประตูรถออกมาคุยฟุ้งไม่หยุด ทำเอาทุกคนพากันขำ

 

         “แพรจะไปนั่งมั๊ย” ชัฏหันมาถาม แพรวาส่ายหน้า

 

         “ไม่อ่ะ..แพรจะรอนั่งกับเมฆ” ชัฎหัวเราะ

 

         “งั้นท่าจะรอยาวเพราะไอ้เมฆน่ะ มันชอบเบนซ์..มันไม่ขี่หรอกบีเอ็ม!” ชัฏบอก เมฆหัวเราะ..หึ..หึ..ไม่ได้พูดอะไร

 

         ถนนหลังโงเรียนคราคร่ำไปด้วยนักเรียนและครูผู้ชายหลายคนที่สนใจเรื่องรถไม่เว้นแม้แต่ครูผู้หญิงที่กำลังสงสัยว่าลูกใครมันรวยกันจริงๆ กลุ่มของชัฎใครๆในโรงเรียนต่างก็รู้ว่าเป็นพวกลูกเศรษฐีมีเงิน นาวิน เพชรรวมทั้งเพื่อนในห้องหลายคนก็มานั่งมองรถบีเอ็มดับบลิวสีดำที่วิ่งวนไปมาฝุ่นตลบ

 

         “พวกนี้มันทำบุญด้วยอะไรกันวะ” เพชรพูดขึ้นเหมือนปลงชีวิต นาวินได้แต่ยิ้มๆ   หลังจากนั้นไม่นานก็ได้เวลาเข้าห้องเรียน นักเรียนและครูจึงสลายตัว เคนขับรถไปเก็บที่เดิมก่อนที่ทั้งหมดจะเดินกลับเข้าห้องเรียน

 

         “แพร...วันนี้ป้าสำอางกลับมาแล้วใช่หรือเปล่า?”

 

         “อึม..ทำไมเหรอ”

 

         “เมฆต้องไปหาแม่หลายวันคงกลับอาทิตย์หน้า แม่บอกมีเรื่องอยากจะคุยด้วย”

 

         “คิดถึงแย่นะนั่น”  แพรวาบอก ชัฏหันมายิ้ม

 

         “เมฆไม่อยู่แพรกลับบ้านกับไอ้ชัฎก่อนละกัน”

 

         “ว้าว!! ดีใจจัง...จะได้นั่งรถป้ายแดง...”

 

         “โห!...แล้วบอกว่าคิดถึง….มึงดูเค้าดิ” เมฆหันไปหาแนวร่วม ชัฎหัวเราะหึหึ

 

         “เสร็จกู ไอ้เมฆ ถ้ามึงไม่รีบมาเอาคืน” ชัฎพูดก่อนที่เมฆจะวิ่งไล่เตะชัฎไปถึงห้อง ปล่อยให้แพรวายืนหัวเราะขำจนน้ำตาไหล

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา