Mission You ภารกิจของหัวใจ...มีเงื่อนไขคือเธอ

9.7

เขียนโดย beaumea

วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.55 น.

  2 ตอน
  3 วิจารณ์
  4,628 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 เมษายน พ.ศ. 2556 12.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) คำท้ารบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

            “เธอเตรียมตัวแพ้ฉันได้เลย”

            น้ำเสียงแสดงความมั่นใจเกินร้อย ดังออกมาจากปากผู้หญิงตรงหน้าฉัน เธอสวยสง่า ดูดี มีชาติตระกูล ทุกอย่างคงจะดีกว่านี้ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาอยู่ในตัวของคน ๆ นี้

            “น้อย ๆ หน่อย เธออย่ามั่นใจไปนักเลยซินเดีย”

            “เธอก็ควรรู้เอาไว้นะคาเมล ว่าซินเดียคนนี้ไม่เคยแพ้ใคร”

            “ก็นั่นแหละ ฉันจะเป็นคนแรกที่จะขยี้เธอให้ตายคาเท้าฉันเอง”

            “กรี๊ด ต่ำที่สุด”

            “อยากจะลองของต่ำดูสักครั้งมั้ยล่ะ ห๊า”

            “อย่ามาปากดีให้มาก ยังไง ๆ คนชนะก็ต้องเป็นฉันคนนี้เท่านั้น”

            “เธอนั่นแหละอย่ามามั่นใจให้มาก พนันกับฉันมั้ยล่ะ”

            ฉันยักคิ้วให้ยัยนั่นอย่างท้าทาย เอาสิ อย่างน้อยงานนี้มันก็ต้องมีเดิมพันบ้างล่ะนะ การแข่งขันมันถึงจะสนุก อย่าคิดว่าฉันเป็นพวกนิสัยไม่ดีหรืออะไรไปซะก่อน ฉันไม่ใช่พวกที่จะไปทำอะไรใครก่อนหรอกนะ แต่ยัยคุณหนูซินเดียนี่สิ เขม่นฉันมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาที่มหาลัยฯแห่งนี้แล้ว ฉันรับรองได้เลยว่าฉันไม่เคยไปทำอะไรให้ยัยนี่ก่อน ยกเว้นเรื่องที่จำเป็นต้องไปยืนเสนอหน้าในตำแหน่งดาวคณะพร้อม ๆ กันกับยัยนี่ ก็มีอย่างที่ไหนที่ฉันและเธอได้คะแนนเท่ากัน มันเลยทำให้เราทั้งคู่ต้องควบตำแหน่งนี้ด้วยกันไปโดยปริยาย ฉันเองก็เฉย ๆ นะ ติดแค่ว่าไม่อยากทำงานร่วมกับยัยนี่สักเท่าไหร่ แต่ขานั้นคงจะไม่พอใจมาก ก็อย่างว่าเคยชนะมาจนเคยตัวน่ะสิ

            แล้วนี่ตอนนี้ฉันก็กำลังยืนเถียงกับซินเดียอยู่ที่หน้าตึกคณะ บริเวณที่มีการติดป้ายประกาศ แน่นอนว่าเด็ก ๆ ในคณะล้วนแล้วแต่สนใจโครงการประกวดนี้เป็นอย่างมาก ก็รางวัลมันเจ๋งซะขนาดนั้น ฉันเองเรียนทางด้านวารสารศาสตร์ เน้นเรื่องนิตยสาร แล้วก็พวกข่าวโดยตรง ดังนั้นโปรเจคนี้ถึงเข้าทางฉัน และก็รวมไปถึงยัยซินเดียด้วย

            “คาเมล ถ้าเธอแพ้ในครั้งนี้ นอกจากจะชวดรางวัลอันสวยหรูและดูดีแล้ว เธอจะต้องมาเป็นคนรับใช้ที่บ้านฉัน”

            “ได้ยัยคุณหนูซินเดีย เช่นกันถ้าเธอแพ้ เธอก็ต้องมาเป็นคนใช้ที่บ้านฉันเหมือนกัน”

            “ไม่มีวันนั้นแน่”

            “ฉันว่าเธอเตรียมตัวไปซ้อมซักผ้า กวาดบ้าน หรือแม้กระทั่งล้างส้วมเอาไว้ดีกว่านะ วันจริงจะได้ไม่ตื่นเต้น ดีมั้ย”

            “กรี๊ด แกสิที่ต้องไปซ้อม”

            “หุบปากซักที กรี๊ดอยู่ได้ ที่บ้านต้มนกหวีดให้กินเป็นอาหารหลักหรือไง”

            “ฉันจะทำคอลัมน์สัมภาษณ์พี่เดียร์นักร้องซุปเปอร์สตาร์หน้าใหม่ของเมืองไทย แถมยังเป็นรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยของเราด้วย”

            “ไม่ได้อยากรู้ เธอจะมาพล่ามบอกฉันทำไมไม่ทราบ”

            “แกจะปากดีเกินไปแล้วนะคาเมล”

            “รู้ตัวดี ไม่ต้องให้เธอมาคอยบอกหรอกนะ ที่สำคัญ เรียกคนอื่นว่าแก แบบจิกหัวแบบนั้น ไม่เป็นสุภาพชนเลยยัยคุณหนู”

            “แก๊...ฉันขอท้าอีกเรื่อง ถ้าเธอแน่จริง เธอจะต้องสัมภาษณ์พี่ธันเดอร์ เดือนมหาวิทยาลัยให้ได้”

            “อย่ามาท้าฉัน!”

            ฉันเกลียดที่สุดเวลาที่คนอื่นมาดูถูก ฉันเคยใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษมาก่อน และก็มีเพื่อนบางคนที่ไม่เชื่อถือในความสามารถของคนเอเชีย การดูถูกฉันเท่ากับดูถูกคนที่เป็นแบบฉันไปด้วย นั่นเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ฉันจำเป็นต้องพิสูจน์คำครหาเหล่านั้น เพื่อให้รู้ว่าคนเอเชียอย่างฉัน และทุกคน ก็มีศักยภาพไม่แพ้คนทางแถบยุโรปเหมือนกัน ดังนั้นมันจึงกลายเป็นนิสัยติดตัวฉันไปแล้ว อย่าท้า เพราะฉันก็กล้าที่จะตอบรับ

            “โอเค เธอจะได้เห็นบทสัมภาษณ์ที่ดีที่สุดของพี่ธันเดอร์อะไรของเธอนั่น จากฉันแน่นอน”

            “ไอ้เมล!!!”

            เสียงเพื่อน ๆ ในกลุ่มที่ประสานเสียงเรียกฉันกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ทันทีที่ฉันตอบรับคำท้านั่นไป ทำไมเหรอ เรียกฉันทำไมกัน

            “เหอะ ๆ ทำให้ได้แล้วค่อยพูดก็ยังไม่สายนะ ไปกันเถอะพวกเรา ฉันต้องไปเตรียมสคริปสัมภาษณ์พี่เดียร์แล้วล่ะ”

            ยัยคุณหนูซินเดียสะบัดหางเดินจากไป พร้อมกับลูกสมุน หรือก็คือเพื่อนยัยนั่นแหละ อีกพวงหนึ่ง อ้อล้อกันเหลือเกิน ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าพวกนั้นยอมคบยัยนี่เป็นเพื่อนได้ยังไง ถ้าไม่ติดว่ายัยนี่รวย บางทีนางอาจจะไม่มีเพื่อนสักคนเลยก็ได้

            ..................

            ขณะนี้ฉันและผองเพื่อน รวมขบวนการแล้วก็ทั้งหมดสี่คน กำลังนั่งปรับทุกข์กันอยู่ที่โรงอาหาร ประกอบด้วยฉัน มุ้งมิ้ง สาบานได้ว่านี่เป็นชื่อคน ยัยเด็กแว่นแสนซื่อคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของฉันเองแหละ เธอไม่ค่อยพูด เรียกได้ว่าเป็นคนที่คิดมากกว่าพูดนั่นแหละ ซึ่งมันตรงข้ามกับฉันโดยสิ้นเชิง เธอนั่งอยู่ข้าง ๆ ฉัน ฝั่งตรงข้ามเป็นสาวเปรี้ยว หน้าเป๊ะที่ผ่านการทำศัลยกรรมมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่หน้านางก็ไม่ได้ดูพลาสติกขนาดนั้นหรอกนะ ออกจะดูสวยเป็นธรรมชาติด้วยซ้ำ ถ้าไม่ได้มานั่งจ้องอย่างจริงจังก็ดูออกยากเลยล่ะ ใบเตย ชื่อยัยนี่ไทยเวอร์มาก ไม่ได้เข้ากับตัวตนเลย และนางกำลังนั่งทำหน้าเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ฉันอยู่ จะว่าไปนางก็เหมือนเป็นนางพญาของกลุ่มเรานั่นแหละนะ ตอนรับน้องฉันจำเป็นต้องจับคู่กับนางเพื่อนเล่นเกมส์อย่างช่วยไม่ได้ แต่เอาเข้าจริงเป็นคนที่นิสัยดีกว่าที่คิดเยอะเลยนะ และสุดท้าย โปเต้ สาวประเภทสองคนเดียวของกลุ่ม ที่ยังไม่ได้รับการผ่าตัด ขณะนี้ชีกำลังทำงานพิเศษเพื่อเก็บเงินไปเสริมสวยให้สมบูรณ์แบบอยู่ เพื่อนสาวที่สร้างรอยยิ้มให้พวกเราได้เสมอ แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ เพราะชีกำลังนั่งเครียดและจ้องหน้าฉันอยู่

            “หยุดจ้องหน้าฉันด้วยสายตาแบบนั้นได้แล้ว ไม่ใช่ฉันซะหน่อยที่ผิด พวกแกต่างหากล่ะ ไม่ยอมบอกฉัน จะไปรู้มั้ยว่าอิตาธันเดอร์ วันเดอร์ฟูลอะไรนั่นจะเป็นแบบนี้น่ะ”

            “คาเมลพูดเหมือนกับพี่ธันเดอร์เป็นตัวประหลาดอย่างนั้นแหละค่ะ”

            “ก็แล้วที่ยัยสองตัวนี้เล่ามามันไม่ประหลาดหรือไง มุ้งมิ้ง”

            โอ๊ย ฉันรู้สึกเสียเซลฟ์ทุกครั้งที่เรียกชื่อเพื่อนคนนี้เสียจริง ถึงแม้ว่าฉันจะอยู่อังกฤษมาก่อน แต่ภาษาไทยฉันแตกฉานระดับเทพนะจ๊ะ ก็ดูจากที่ฉันต่อปากต่อคำคนอื่นได้ไม่เว้นนี่ก็น่าจะพิสูจน์ได้แล้วล่ะ

            “แกเข้าอยู่มหาลัยฯมาครึ่งเทอมแล้ว แกยังไม่รู้จักพี่ธันเดอร์อีก เจ๊ล่ะปวดหัว”

            “ใบเตย แกพูดอย่างนี้แสดงว่าแกรู้จักหมอนั่นดีใช่มั้ย”

            “ก็เขาเป็นเดือนนี่ยะหล่อน หล่อทะลุจักรวาล ฉลาดยิ่งกว่าไอสไตน์สิบคนมารวมกัน แถมยังรวยอย่างกับปล้นใครเขามาขนาดนั้น ฮอตซะยิ่งกว่าฮอตอีกแม่คุณเอ้ย”

            ฟังจากที่โปเต้ เพื่อนสาวชื่อเหมือนหมา อุ้ย...เผลอตัวด่าเพื่อนตัวเองอีกแล้ว ... นั่นแหละที่พูดมาก็ดูเหมือนงานนี้ฉันจะสบายเลยใช่มั้ยล่ะ ผู้ชายคนนี้เป็นที่จับจ้องของคนทั่วทั้งมหาลัยฯ แถมดังไกลเกือบทั่วประเทศ เพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของสายการบินรายใหญ่ของประเทศ ไม่น่าแปลกที่จะโดนจับตามอง และแน่นอนว่าถ้าฉันสามารถสัมภาษณ์เขาได้ คอลัมน์ฉันจะน่าสนใจไม่แพ้ยัยซินเดียแน่ ๆ ใคร ๆ ก็อยากรู้จักเขากันทั้งนั้น ถ้าไม่ติดที่ว่า...

            “พี่เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงเข้าใกล้และวุ่นวายชีวิตเขานะคะ”

            “ฉันรู้แล้ว เธอไม่ต้องย้ำให้มาก”

            “มุ้งมิ้งมันจะเตือนสติแกต่างหากล่ะคาเมล แกหากระดูกมาแขวนคอแท้ ๆ”

            สำนวนมาเต็มนี่ไม่พ้นยัยเจ๊ใบเตย ช่างตอกย้ำฉันดีแท้ เพื่อนรักทั้งหลาย

            “เอาอย่างนี้ ฉันปลอมตัวเป็นผู้ชายดีมั้ยพวกแก”

            โป๊ก!!

            ขวดน้ำเปล่า ๆ ที่อยู่ในมือของโปเต้ก็เปลี่ยนสถานะ กระโดดมาหาศีรษะอันสูงสง่าของฉันโดยไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่จะลูบหัวป้อย ๆ ก็ไม่วายต้องส่งสายตาอำมหิตไปให้มันก่อน หน็อย ได้ทีเอาใหญ่กันเลยนะ

            “บอกตรง ๆ ฉันไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับธันเดอร์โดมอะไรนั่นเลยนะ”

            “เขาชื่อธันเดอร์ เฉย ๆ ค่ะ”

            “วันนี้เธอดูพูดมากกว่าปกตินะมุ้งมิ้ง ยังอยากเก็บปากไว้พูดอยู่หรือเปล่า”

            เพี้ย!!

            “ยัยเจ๊ แกตีฉันทำไมเนี่ย”

            “แกล่ะสิ ไปขู่มุ้งมิ้งทำไม แกดูซิ ยัยนั่นตาแดงแล้ว”

            เออแฮะ น้ำตาคลอแล้วด้วยอ่ะ อ่า...ฉันนี่มันโหดร้ายจริง ๆ เลย

            “โทษที ฉันเครียด ๆ น่ะ ต่อไปฉันจะระวังคำพูดให้มากขึ้นนะ”

            “หล่อนพูดเป็นครั้งที่แปดสิบเจ็ดแล้ว”

            โปเต้หยิบเอาสมุดเล่มเล็กออกมาจากกระเป๋า เมื่อเปิดออกแล้วก็จัดการขีดเส้นเล็ก ๆ ลงไปบนหน้ากระดาษที่ดู ๆ แล้ว ถูกขีดมามากพอสมควร อะไรนี่...ยัยนี่กำลังบันทึกเรื่องราวชั่วร้ายของฉันงั้นหรือไง แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจความไม่ปกติของเพื่อน ฉันควรจะเอาตัวเองให้รอดก่อนน่าจะเป็นเรื่องที่มีความคิดกว่า

            “พวกแกทุกคนถ้ารู้อะไรเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น ก็ช่วยเล่าให้เป็นทานฉันเถอะนะ”

            “เฮ้อ ให้มันได้อย่างนี้สิ คืองี้นะหล่อน พี่ธันเดอร์เนี่ยเขาเป็นคนเฟอร์เฟ็กต์มาก แต่กลับไม่มีแฟน”

            “เป็นเกย์?”

            “แกอย่าขัดสิ ผู้ฟังที่ดีต้องฟังให้จบหากต้องการคำถามให้รอทีหลัง แกเพิ่งเรียนมาไม่ใช่หรือไง”

            อ่า...กำลังด่าว่าฉันมันเป็นพวกไม่มีมรรยาทสินะ ลึกซึ้งจริงเลย

            “เขาเป็นผู้ชายแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพื่อนเขารับประกันได้ และจากสายตาของฉันที่ไม่เคยสแกนใครผิดพลาด ก็การันตีได้เหมือนกัน”

            “ที่สำคัญ เขาเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 4 เผื่อแกยังไม่รู้”

            นักศึกษาแพทย์ด้วยเหรอ นี่ฉันไม่คิดมาก่อน เห็นว่าที่บ้านเป็นเจ้าของสายการบิน เราก็คิดว่าต้องเรียนบริหารแน่นอน ผิดคาดแฮะ

            “พี่ธันเดอร์สุดหล่อเนี่ย เขาเป็นคนเงียบ ๆ ส่วนใหญ่จะพูดคุยแต่กับเพื่อนสนิท ไม่มีทีท่าว่าจะชอบผู้หญิงคนไหน มีสาวสวยระดับดาราหลายคนพยายามเข้าหาเขา แต่ก็กินแห้วแทนข้าวทุกราย”

            “เหตุผล?”

            “ไม่มี”

            “เฮ้ คนบ้าอะไรทำอะไรไม่มีเหตุผลเลยเหรอ เขาเป็นคนตายด้านหรือไง”

            “ใคร ๆ ก็บอกว่าเขาเป็นคนแบบนั้นแหละ”

            “เย้ย แล้วนี่ฉันต้องสัมภาษณ์คนตายด้าน ตานั่นจะยอมตอบคำถามฉันมั้ยล่ะ”

            “พวกฉันถึงเครียดแทนหล่อนไงล่ะยะ เกือบดูดีอยู่แล้วเชียวตอนที่หล่อนเถียงหน้าหงายยัยซินเดียไป แต่ไหงฆ่าตัวตายด้วยการไปตกปากรับคำท้าบ้า ๆ บอ ๆ ของยัยนั่นเข้าให้”

            “คุณซินเดียกำลังพยายามให้คาเมลแพ้การประกวดในครั้งนี้ค่ะ”

            “จะดีมากถ้าเธอไม่เรียกยัยป้าประสาทเสียนั่นว่าคุณ”

            แล้วอย่างนี้ฉันจะทำยังไงดี แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็แพ้ยัยนั่นไม่ได้ ไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ตัวแปรสำคัญของงานอย่าง ธันเดอร์ ก็เป็นผู้ชายที่เข้าใจยากยิ่งกว่าที่คิด นี่ไม่ใช่การสัมภาษณ์ธรรมดาซะแล้วสิคาเมล

            “ก่อนอื่น แกต้องเข้าถึงตัวพี่ธันเดอร์ให้ได้ก่อน อย่างน้อยก็ต้องรู้ชีวิตเขาให้มากกว่าที่คนอื่นรู้ แกก็สามารถเอามาเขียนคอลัมน์ได้บ้าง”

            “ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก แกไม่เคยได้ยินหรือไง”

            “ฉันไม่ได้จะไปขอความรักเขานะ แล้วนี่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาเป็นยังไง”

            “เขามีเว็บไซต์แฟนคลับ เลิฟธันเดอร์ดอทคอม แกลองเข้าไปดู”

            พระเจ้า คนธรรมดาก็มีแฟนคลับได้เหมือนกัน ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ ด้วยสิ ถ้างานนี้สำเร็จ คอลัมน์ฉันต้องดังมาก และใคร ๆ ก็ต้องอยากอ่านมันแน่ ๆ

            “ซุนวู แห่งสามก๊กยังบอกว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”

            “เจ๊เป็นเอามากน่ะเนี่ย วันนี้ดูคำคมเยอะเหลือเกิน มีสาระไปป่ะ”

            “เอ๊ะแกนี่ ที่ฉันจะบอกก็คือ แกต้องไปหาข้อมูลของพี่ธันเดอร์มา แล้วก็คิดซะว่าจะเอายังไงต่อกับเรื่องนี้ แกห้ามแพ้ยัยซินเดียเด็ดขาด ฉันอยากจะเห็นยัยนั่นตอนไปเป็นคนใช้แก จะได้ถ่ายรูปเอาลงโซเชียลทุกช่องทาง สร้างความสะใจให้เจ๊ จริงมั้ยโปเต้”

            สองคนนี้หันไปแท็กมือกันอย่างรื่นเริง ก่อนที่จะถึงวันนั้น ฉันจะหาทางออกกับเรื่องนี้ได้มั้ยเนี่ย แต่คนอย่างคาเมล ฆ่าได้หยามไม่ได้ นี่ฉันติดสำนวนมาจากยัยเจ๊จนได้สิน่า

            “เอาล่ะทุกคน ฉันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ... คาเมลคนนี้นี่แหละจะเป็นคนล้วงหัวใจธันเดอร์ออกมาเอง ไฟท์ติ้ง”

            “ไอ้เมล”

            เสียงพูดหรืออาจเรียกได้ว่าเป็นเสียงตะโกนของฉันดังพอที่จะเรียกให้คนทั้งโรงอาหารหันมามองฉันเป็นตาเดียว ดูเหมือนว่าไม่ใช่ดังพอแล้วล่ะ คงดังมาก

            “เฮ้ย ธันเดอร์ สาวน้อยคนนั้นเธอบอกจะล้วงหัวใจแกว่ะ โคตรกล้าเลย”

            ฉันหันหลังไปตามเสียงที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบของทุกสรรพสิ่งในโรงอาหารรวม ที่ไม่ได้มีคนมากมายนัก เนื่องจากเป็นช่วงเย็นแล้ว ไม่มากมายแต่ก็ถึงร้อยล่ะนะ - -“

            ผู้ชายคนหนึ่งที่ดูโดดเด่นกว่าใคร ๆ ในกลุ่มนั้น เขานั่งห่างจากฉันไปสี่แถว เขาที่มีใบหน้านิ่ง ๆ แต่ได้รูป ทรงผมที่ซอยสั้นรับกับใบหน้าดูทันสมัย ผิวขาวแต่ไม่ซีด บ่งบอกว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายเจ้าสำอาง ริมฝีปากบางได้รูปถ้าหากมีรอยยิ้มแต้มลงไปคงจะดูน่าดึงดูดยิ่งกว่านี้ แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่แต่ฉันก็คาดว่าความสูงของเขาน่าจะไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบ เขากำลังทำให้ฉันละสายตาไปจากเขาไม่ได้ เหมือนมีอะไรบางอย่างดึงดูดฉันให้มองเขาอยู่แบบนั้น จนกระทั่ง...

            “น้องสาวชื่ออะไรเอ่ย”

            “ฉันมีพี่ชายคนเดียว และนั่นก็ไม่ใช่นาย แล้วอย่ามาใช้น้ำเสียงเลี่ยน ๆ นั่นพูดกับฉัน ฟังแล้วปวดขี้”

            “เอ่อ...”

            “ธันเดอร์ ถ้าฉันจะขอสัมภาษณ์นายเพื่อนมาเขียนคอลัมน์ส่งเข้าประกวดจะได้มั้ย”

            ฉันเดินอาจหาญเข้าไปหาเขา และพยายามที่จะกดเสียงให้เบาและนุ่มที่สุด ธันเดอร์เงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวตรงหน้า ก่อนที่จะจ้องหน้าฉันนิ่ง ๆ อืม...เขาดูดีจริง ๆ ล่ะนะ

            “ฉันไม่ชอบอะไรแบบนั้น อย่ามายุ่งกับฉันจะดีกว่า”

            “ฉันต้องทำยังไง นายถึงจะยอมร่วมมือกับฉัน”

            “ไม่ต้องทำ เพราะมันไม่มีทางที่ฉันจะร่วมมือ”

            พูดจบเขาก็ลุกขึ้นเดินหนีฉันไปทันที ไม่ได้นะ ฉันไม่ยอมหรอก

            “ไอ้คนใจร้าย นายเตรียมตัวไว้เลยนะคาเมลคนนี้จะล้วงหัวใจนายออกมาเอง ไอ้คนตายด้าน! ฮึ่ย”

 

...............................................................................

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา