เผลอรัก...จับใจ

10.0

เขียนโดย soso_sung

วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 14.15 น.

  20 chapter
  0 วิจารณ์
  21.93K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 เมษายน พ.ศ. 2556 20.49 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่7

 

 

ปุยเมฆสีขายรายล้อมตัวฉันอยู่ในตอนนี้ ความนุ่มของมันดังสายไหมเพียงสัมผัสนิดเดียวมันก็สลายหายไป ก้อนเมฆหลายหลายรูปแบบแล้วแต่ธรรมชาติจะสร้างสรรค์มันออกมา

            “นอนสบายไม” น้ำเสียงอบอุ่นดังขึ้นใกล้ๆตัวฉัน ฉันหันไปมองรอบตัวก็ไม่มีใครแต่ฉันก็ยังยิ้มกับสิ่งรอบตัว

            “เธอคงฝันดีแน่ๆเลย” เสียงนั้นดังมาอีกรอบและครั้งนี้ก็ดังใกล้กว่าเดิม

            “นั้นใครค่ะ” ฉันลองถามออกไป

            “ฉันเอง เธอจำไม่ได้หรอ” เสียงนั้นตอบกลับมาและดังขึ้นกว่าเดิม

            “อ่ะ” แล้วฉันก็รู้สึกตัวเมื่อลืมตาขึ้นก็ต้องเจอคาร์ลที่ตอนนี้มองหน้าฉันอยู่

            “หลับสบายไม” เสียงคำถามเดียวจากในฝันได้ออกมาจากปากของคาร์ลพร้อมกับรอยยิ้ม

            “ฉันเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรนะ แล้วตอนนี้กี่โมงแล้ว” ฉันผุดลุกขึ้นนั่งแล้วถามเป็นชุด

            “ใจเย็นๆๆ คุณเผลอหลับไปก่อนผมซะอีกแล้วตอนนี้ก็สามทุ่มกว่า” เขาตอบทุกคำถามที่ฉันถามอย่างสบายๆ

            “สามทุ่ม ทำไมนายไม่ปลุกฉันละ” นี้ฉันนอนยาวขนาดนี้เลยหรอ

            “ก็เห็นว่านอนสบายดีเลยไม่อย่างกวน” เขาก็ยังคงตอบอย่างไม่ยี่ระอะไร

            “ฉันจะกลับบ้านแล้ว” ฉันลุกจากที่นอนเดินไปที่ประตูทันที แต่พอหมุนลูกบิดให้เปิดออกมันกลับเปิดไม่ออก

            “ทำไมประตูเปิดไม่ออกละ” ฉันทั้งหมุนทั้งดึงมันก็ไม่ยอมเปิด

            “มันต้องเปิดแบบนี้” จู่ๆคาร์ลมาอยู่ข้างหลังซ้อนฉันแล้วยื่นมือมาจับลุกบิดที่ฉันกุมอยู่และฉันก็รีบกระตุกมือออก

            “แค่นี้เอง” แล้วประตูก็เปิดออกแต่ฉันก็ยังงงทั้งดึงทั้งผลักทำไมมันถึงไม่ออกแต่พอเขาหมุนกิกเดียวประตูถึงเปิดออก

“มันเป็นระบบสัมผัสนะ มือ เท้า เสียงได้หมด ไว้เธอเข้ามาเดี๋ยวฉันจะเปลี่ยนใหม่นะ” เขาก้มลงมาตอบข้อสงสัยของฉัน

“ไม่ต้องๆ ฉันไม่ได้อยากมาอยู่นี้” ฉันผละออกแล้วเดินนำออกมาที่ห้องรับแขก

“กินอะไรก่อนกลับแล้วกันนะ” เขาเดินผ่านหน้าฉันไปโซนห้องครัว

“แต่ฉันอยากกลับแล้วนิ”

“เปิดประตูได้ก็กลับได้” เอาบอกด้วยเสียงกลั้นหัวเราะ

“หายป่วยหน่อยก็แกล้งฉันเลยน่ะตาบ้า”

“แล้วตอนเข้ามา...อะ การ์ด” ฉันกำลังคิดอยู่ว่าตอนเข้ามานั้นเข้ามายังไงและคำตอบของมันก็คือการ์ดที่คุณลุกขับรถเป็นคนเปิดดังนั้นฉันควรไปดูที่เคาร์เตอร์เพราะจำได้ว่าคุณลุงเอาวางไว้ตรงนั้น

“หายไปไหนแล้วละ” ทั้งข้างบนข้างล่างไม่เห็นมีอะไรเลยสักอย่าง

“หาไอ้นี้อยู่หรอ” เขายื่นการ์ดสิ่งที่ฉันหามาตรงหน้า

“เอามานะ” เมื่อฉันเห็นก็รีบคว้าไว้ แต่ก็คว้าได้เพียงอากาศเมื่อเขาดึงกลับไป

“อยากได้ก็มาเอาเอง” แล้วเขาก็เอาการ์ดไว้ในกระเป๋ากางเกง

“นายเลิกแกล้งฉันแล้วพาฉันกลับบ้านได้แล้ว”

“ผมหิวจัง” เขาไม่สนฉันแถมยังเอามือลูกท้องแล้วเดินไปที่ห้องครัว

“ให้มันได้อย่างนี้สิน่า”

“มาแล้วหรอ ผมว่าจะทำพลาสต้าทุน่า เอาด้วยไม” หลังจากที่เขาไม่ยอมออกมาจากห้องครัวก็ทำให้ฉันต้องเดินคอตกเข้าไปในครัวเพื่อจะขอการ์ดเขาดีๆ และสิ่วที่เห็นคือผู้ชายมาดนักธุรกิจใส่เสื้อกันเปื้อนเตรียมวัตถุดิบสำหรับอาหารอย่างคล่องแคล้วดูแล้วทำให้เพลินตาทีเดียว

“ไม่ ฉันจะกลับบ้าน” ฉันก็ยังยืนยันคำเดิม

“งั้นผมไม่ทำเผื่อนะ” เขาเอาเส้นพลาสต้าไปลวกแล้วหันมายักคิ้วใส่

ถ้าสาวๆทั้งโลกที่ชื่นชอบเขามาเห็นเหตุการณ์ตอนนี้คงกรี๊ดสลบหัวใจสั่นไม่เป็นจังหวะพร้อมละลายได้ทุกเมื่อกับความเป็นพ่อครัวสุดหล่อของเขาในตอนนี้ มาดนิ่งๆของเขาหายไปหมดเหลือแต่มาดกวนที่เห็นแล้วน่าหมั่นไส้ที่สุด ใครได้ไปเป็นแฟนหรือสามีต้องปวดหัวแน่ๆที่ต้องมารับมือทั้งอารมณ์ที่แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิงและไหนจะความเจ้าเล่ห์ของเขาอีก

            “คุณกำลังว่าผมอยู่หรอ”

ใครจะไปกล้าว่าคุณกันละ”

“ป่าวซะหน่อย” ฉันตอบเสร็จก็สะบัดก้นไปรอเขาที่ห้องรับแขก

            “คุณจะไปไหนนะ มาช่วยผมก่อนสิไม่งั้นผมไม่แบ่งคุณจริงๆนะ” เขาตะโกนไล่ออกมาแต่มีหรือที่ฉันจะสน

            “เรื่องของคุณ”

และผ่านไปไม่นาน

            “ห๊อมหอม เอาไม” เขาเดินออกมาพร้อมจานพลาสต้าที่หอมหวนยั่วยวนน้ำลาย

            “ทำไมคุณไม่ไปกินไนครัวนู่น” ฉันแว้ดใส่เขาที่ทำให้ต่อมความหิวฉันแตก

            “ก็ผมอยากเห็นหน้าคุณนิ” ว่าแล้วเขาก็ลงมานั่งข้างๆพร้อมกับโซ้ยพลาสต้าตรงหน้า

            “อืม อร่อยจังเลย คุณไม่เอาหน่อยหรอ” เขายังมีน้ำใจถาม

            “ไม่”

            “เอาสักคำน่าน่ะ” เขายื่นช้อนที่มีพลาสต้าเต็มช้อนมาจอที่ปาก

            “ฉัน...” ฉันยังพูดไม่ทันจบเขาก็ยัดพลาสต้าเข้าปาก

            “อร่อยใช่ไมละ” ใช่แล้วมันอร่อยมากเลยละ

            “เอาอีกไม” ฉันไม่ตอบแต่อ้าปากรับพลาสต้าที่เขายื่นมาให้

            “หึหึ”

            “นายขำอะไร” ฉันหันไปว่าเขา

            “เปล่าครับเปล่า”

ไม่นานอีกเช่นกัน เราสองคนก็ช่วยกันจัดการพลาสต้าแสนอร่อยตรงหน้าจนหมดเกลี้ยงด้วยความหิว

            “เดี๋ยวฉันเอาไปล้างให้เอง” ฉันอาสาล้างจาน

            “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวผมจัดการเองคุณนั่งดูทีวีไปเถอะ”

            “แต่ฉันจะล้าง” ฉันคว้าจานเข้ามาถือแต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย

            “คุณนี้จริงๆเลยนะ ก็ได้ๆๆ งั้นเรามาช่วยกันล้างแล้วกัน” เมื่อได้ข้อตกลงฉันกับเขาก็ช่วยกันล้างจาน แต่เขาก็แย่งหน้าที่ฉันเอาจากไปล้างเองอยู่ดีโดยให้ฉันนั่งเป็นกำลังใจเขา

            “ทีนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว ฉันกลับบ้านได้หรือยัง”

            “ก็กลับสิ” เขาตอบกวนๆ

            “ก็การ์ดอยู่ที่นายแล้วฉันจะเปิดประตูได้ยังไง” ฉันพูดด้วยเสียงหงุดหงิด

            “เธอนี้สักวันจะแก่เร็วน่ะ คิ้วนี้ขมวดเป็นโบว์แล้ว” เขาเดินเข้ามาคลี่คิ้วที่ขมวดออก

            “อย่ามาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ” ฉันปัดมือเขาออกแล้วถอยออกมา

            “ที่ผมพาคุณมาก็อยากจะขอโทษเรื่องคราวที่แล้ว” จู่ๆเขาก็เปลี่ยนเรื่องแล้วโหมดเสียงให้เข้มขึ้นไม่ขี้เล่นเหมือนเมื่อกี้

            “เรื่องมันผ่านไปแล้วฉันไม่ได้เอามาใส่ใจ คุณวางใจเถอะ” ฉันกอดอกมองไปนอกหน้าต่าง ใครว่าละที่ฉันไม่ใส่ใจ ฉันยังจำเหตุการณ์ตอนนั้นได้ดี

            “ผมอยากจะรับผิดชอบ” เมื่อฉันได้ยินสิ่งที่เขาพูดออกมาฉันก็รีบหันไปมองหน้าเขา สายตาของเขาที่บ่งบอกว่าสิ่งที่พูดนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

            “ฉันแค่โยนก้อนหินใส่นิดเดียวคุณถึงกับเพี้ยนเลยหรอเนี่ย” ฉันเฉไฉ

            “ผมจริงจัง” เขาตอบเพียงสั้นๆ

            “แต่ฉันไม่ต้องการ เราแค่ต่างคนต่างอยู่ ลืมๆไปเถอะ”

            “ผมก็อยากจะทำอย่างนั้นเหมือนกัน แต่สิ่งนี้...” เขาเดินเข้ามาใกล้คว้ามือที่กอดอกของฉันไปวางไว้ที่อกข้างซ้ายของเขา “มันไม่ยอมหยุดเรียกหาคุณ คุณเป็นคนแรกที่ผมอยู่ด้วยแล้วมีความสุข อยู่ด้วยแล้วสบายใจ คุณอยู่กับผมเถอะนะ” เสียงสารภาพมากมายออกมาจากปากของเขาทำให้ฉันอึ้งไปเลย

            “แต่ฉันมีแฟนแล้ว” ฉันดึงมือกลับ

            “มีได้ก็เลิกได้” เขายังคงพูดอย่างเห็นแก่ตัว

            “ใช่ มีแล้วก็เลิกได้ แต่ไม่ใช่สำหรับฉัน เหวินอี้เป็นรักครั้งแรกของฉันแล้วก็จะเป็นรักครั้งสุดท้ายของฉันเหมือนกัน” เมื่อฉันประกาศเจตนาของตัวเองเสร็จก็เดินออกไปที่ห้องรับแขก “กรุณาเปิดประตูให้ฉันด้วยค่ะ” ฉันตะโกนบอกเขา

            คลิ๊ก เสียงเหมือนประตูปลดล็อคดังขึ้น พอไปดูก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ

            “ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะคะ” ฉันกล่าวขอบคุณเขาแล้วเดินออกมา

            “คุณหนูครับทางนี้” และพอลงมาข้างล่างก็เจอคุณลุงขับรถที่ยืนเปิดประตูรอฉัน

            “ขอบคุณนะคะ” ฉันกล่าวขอบคุณแล้วเดินเข้าไปนั่งอย่างสงบเสงี่ยม

 

 

            “คุณลุงจอดตรงนี้ก็ได้คะ ฉันเดินเข้าไปเอง” และพอมาถึงปากซอยเข้าบ้านฉันก็บอกคุณลุง

            “แต่ผมคิดว่า...”

            “จอดตรงนี้เถอะคะ” ฉันบอกอีกครั้ง

            “ครับ”

            “เหวินอี้” ฉันเดินก้มหน้าจนมาถึงหน้าบ้านและเมื่อเห็นรองเท้าแทนที่จะเป็นพื้นปูนธรรมดาเหมือนที่เห็นตลอดก็เงยหน้ามาเจอเหวินอี้ที่ยืนกอดอกและมองด้วยสายตาว้าวุ่น

            “ไขไข่เธอหายไปไหน ผมโทรหาคุณตั้งหลายครั้งคุณก็ปิดเครื่อง” เหวินอี้เห็นฉันก็รีบวิ่งเข้ามาเขย่าแล้วถามฉันสารพัด

            “เดี๋ยวก่อนเหวินอี้ ฉันจะเป็นก็เพราะนายนั้นแหละ” ฉันบอกยิ้มๆอย่างอ่อนโยนเมื่อรู้สึกได้ว่าที่เขากระวนกระวายเป็นเพราะห่วงฉัน

            “ผมขอโทษ ก็ผมเป็นห่วงคุณนิ” เหวินอี้คลายมือที่จับแขนลงแต่ก็ไม่ยอมปล่อย

            “ฉันก็ขอโทษที่ทำให้คุณเป็นห่วง แต่ตอนนี้ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว เหวินอี้กลับเถอะ”

            “อะไรกัน ผมพึ่งเจอคุณยังไม่หายคิดถึงเลยจะไล่ผมกลับแล้วหรอ” เหวิ่นอี้พูดอย่างกระเง้ากระงอด

            “บ้า นี้ก็ดึงแล้ว ฉันกลัวว่าคุณจะไม่สบายต่างหาก” เนื่องด้วยที่นี้เวลาตกดึกสายลมจะพัดความหนาวเย็นเข้ามา

            “ผมจะไม่ปล่อยคุณไปไหนอีกแล้ว” เหวินอี้คว้าตัวฉันไปกอด

            “ฉันก็จะไม่ไปไหนจากคุณเหมือนกัน”

            “งั้นเราเข้าบ้านกันเถอะ” เหวินอี้ผละฉันออกแล้วก็นำเข้าบ้าน

            “จะบ้าหรอ นายต้องกลับบ้านตัวเองสิ จะมาเข้าบ้านฉันได้ยังไง” ฉันรั้งเหวินอี้ไว้

            “ฮ่าๆๆ ผมแค่ล้อเล่นนะ แต่อีกไม่นานผมก็จะย้ายมาอยู่กับคุณนะ”

            “บ้า” ฉันพูดอะไรไม่ออกนอกจากคำนี้จริงๆ

            “งั้นผมกลับละนะ แล้วพรุ่งนี้เช้าจะมารับ”

            “จ้า ขับรถกลับดีๆละ”

            “รับทราบ” แล้วเหวินอี้ก็ขับรถออกไป ฉันยืนส่งเขาจนลับสายตาแล้วก็เดินเข้าบ้าน

            “เหนื่อยชะมัดเลย” ฉันล้มตัวลงนอนแล้วคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้

            “ที่เขาพูดนั้นเรียกว่าสารภาพรักหรือเปล่านะ” ฉันนึกย้อนไปถึงที่คาร์ลพูดกับฉัน ‘มันไม่ยอมหยุดเรียกหาคุณ คุณเป็นคนแรกที่ผมอยู่ด้วยแล้วมีความสุข อยู่ด้วยแล้วสบายใจ คุณอยู่กับผมเถอะนะ’

แล้วฉันก็ยกมือข้างที่เขาคว้าไปวางไว้ที่หน้าอกข้างซ้าย ความรู้สึกของหัวใจที่กระทบกับมือของฉันยังคงติดอยู่ที่มือข้างขวาของฉัน คลายกับว่า หัวใจเขาอยู่ในกำมือของฉัน

            “ที่นายทำไปทั้งหมดไม่ใช่เพราะแกล้งฉันใช่ไม” ฉันถามมือของตัวเองแล้วรู้สึกได้ว่าหัวใจของฉันก็เต้นเป็นจังหวะของหัวใจเขา

            “บ้าน่าไขไข่ เขาก็แค่แกล้งฉันนั้นแหละ หล่อเพอร์เฟคอย่างเขาจะมารักมาชอบเราได้ยังไงกัน” ฉันเลิกคิดแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำเพื่อจะเจอกับวันใหม่

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา