แผนรักมัดใจยัยสะเอิง

8.2

เขียนโดย pooklook

วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.10 น.

  8 ตอน
  4 วิจารณ์
  15.82K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2556 09.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) ตอนที่6

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

   วันนี้ฉันจะทดสอบงานบ้านของนายกำปอนั่นก็คือ การซักผ้าและรีดผ้า ก็เหมือนๆกับการเรียนหนังสือนั่นแหละเรียนเสร็จก็ต้องสอบแต่การเรียนหนังสือบางทีเรียนเสร็จสอบก็จริงแต่พอเรียนจบทำงานปุ๊ปไอ้ที่เรียนมาน่ะไม่ได้ใช้หรอกแถมยังคืนคุณครูไปแล้วด้วย แต่วิชางานบ้านของครูสะเอิงเนี่ยเรียนจบทดสอบใช้ได้ตลอดชีวิตนะจ๊ะนักเรียนกำปอ ^^!!

   “สรุปงานบ้านสองอย่างของนายผ่านนะ”ฉันยืนมองนายกำปอทำงานบ้านที่สั่งจนเสร็จ

    
   “งั้นก็พักได้แล้วใช่มั้ย” หมอนั่นถามฉันก่อนจะเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาดื่ม

  
    “ใช่ แล้วเดี๋ยวทานข้าวกลางวันเสร็จฉันจะสอนนายล้างจาน”ฉันบอกนายกำปอพร้อมกับเดินเข้าไปในส่วนที่ทำอาหารในห้องครัว นอกจากหมอนี่จะมาอยู่เปลืองพลังงานฉันแล้วยังเปลืองค่าไฟ ค่าอาหารอีก อ้อ ค่าแก๊สอีก ฉันต้องทำอาหารให้นายนั่นทานทุกมื้อ

 
    “กลางวันนี้มีเมนูอะไรนะ…”หมอนั่นชะโงกหน้าเข้ามาดูอาหารในกระทะที่ฉันกำลังผัดอยู่ นี่ถ้ากระทะในครัวใบใหญ่กว่านี้นะฉันจะผลักหมอนี่ให้ลงไปผัดด้วยซะเลย


     “ผัดผักรวม…นี่นายเอาจานไปตักข้าวรอเลยจะเสร็จแล้ว”


    “ครับ” หมอนั่นยิ้มยิงฟันให้ฉันก่อนจะเดินไปเอาจานเปล่า


    “นี่นายกำปอ ถือจานให้มันดีๆหน่อยได้มั้ย” ต้องให้ฉันบ่นทุกๆเรื่องเลยใช่มั้ยนายคนนี้ ก็ดูสิถือจานท่าพิสดารอะไรก็ไม่รู้ คนปกติเค้าทำกันแบบที่ไหนล่ะ คีบจานแต่ละใบไว้ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วกลางถ้านายจะสามารถขนาดนี้ทำไมนายไม่สามารถเรื่องงานบ้าน บ้างนะจะได้ไม่เป็นภาระต่อฉัน


     “แตกก็ซื้อใหม่สิ ลำปางเมืองเซรามิค หาซื้อง่ายออก”


    “เหรอ!!!นายคิดว่ามันใบละสองบาทรึไง ทำมาเป็นปากดี” ฉันกะว่าจะไม่ทะเลาะแล้วนะแต่นายนี่ก็ไม่เคยจะเลิกกวนประสาทฉันสักที แถมอากาศก็ร้อนต้องมาทำกับข้าวให้อีก ทำไมไม่มีความเกรงใจ ความเคารพกันบ้างเลยนะทั้งๆที่ฉันแก่กว่านายตั้งหนึ่งปีนะ

 
     “แล้วทำไมเอิงต้องขี้นเสียงด้วยเล่า บ้ารึไง ผมไม่ใช่เด็กอนุบาลนะใครจะไปถือให้มันหล่น”

 
      “โครม” ฉันตักอาหารใส่ในจานเสร็จแล้วก็โยนกระทะไปไว้ในอ่างล้างจานด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด นั่นเป็นนิสัยที่แย่ของฉันเลยล่ะเพราะว่าเวลาที่ฉันอารมณ์เสียฉันมักจะทำอะไรตามอารมณ์ ชอบทำอะไรเสียงดัง เหมือนคนเรียกร้องความสนใจแต่จริงๆแล้วไม่ใช่นะเค้าเรียกว่าเป็นคนเปิดเผยความรู้สึกต่างหาก

 

      “ทานข้าวเสร็จก็ไปเคาะประตูเรียกฉันที่ห้องละกันนะ”ฉันถอดผ้ากันเปื้อนลายดอกไม้สีชมพูแขวนไว้เสร็จก็เดินเอาจานผัดผักรวมมาวางบนโต๊ะทานอาหารที่หมอนั่นจัดไว้รออยู่


       “จะไปไหน ทำไมไม่ทานข้าวด้วยกัน”


       “นายก็รีบๆทานล่ะไปเรียกฉันละกัน”ฉันบอกพร้อมกับเดินออกจากห้องครัวทันที ดีจะได้รู้ซะบ้างว่าถึงฉันจะไม่ถือสาที่ชอบกวนประสาทฉันบ่อยๆแต่ฉันก็มีความรู้สึกนั่นลึกๆเหมือนกันนะก็ฉันเป็นทั้งครูสอนงานบ้าน  เป็นทั้งรุ่นพี่ นายนั่นก็ควรจะเคารพฉันบ้างสิ


      “ไปทานข้าว”หมอนั่นลุกจากเก้าอี้ตอนไหนไม่รู้เดินเข้ามากระตุกแขนซ้ายฉันให้เดินกลับไปที่ห้องครัว


      “ฉันยังไม่หิว”ฉันตอบพร้อมกับสะบัดแขนให้หลุดเพื่อจะได้รีบๆเดินเข้าห้องสักที


      “ทีตอนผมรีดผ้า เอิงยังบ่นว่าให้รีบๆทำเพราะหิวข้าวอยู่เลย”


       “ฉันอิ่มแล้ว” ทำไมนะทั้งๆที่ฉันอายุมากกว่าถึงจะแค่ปีเดียว หนึ่งเดือน หนึ่งวัน สิบนาที อะไรก็ช่างเถอะแต่นายนั่นก็ควรจะให้เกียรติ เคารพเชื่อฟัง ฉันบ้างสิ


       “อิ่มตรงไหน ยังไม่ได้ทานข้าวเลย”


       “อิ่มมากเลยแหละ โดนตอกหน้าจนอิ่มไปเลย  ฉันอดทนกับนายมามากพอแล้วนะแค่ฉันเตือนให้นายถือจานดีๆเพราะกลัวว่ามันจะแตก นายก็พูดกวนประสาทฉันมองข้ามสิ่งที่ฉันเตือนเพราะหวังดีทั้งๆที่ฉันเป็นคนสอนงานบ้านนาย นายควรจะให้เคารพ ให้เกรียติฉันบ้างแค่เรียกว่า ‘พี่เอิง’ เนี่ย มันยากนักใช่มั้ย ”


      “ถามจริงใครบอกว่าผมอายุน้อยกว่าเอิง”

 
     “ก็แม่บอก แถมนายกำลังจะขึ้นปี1นายก้ต้องเป็นนรุ่นน้องของฉันสิ”

     “UxU” (นายกำปอ)


     “แล้วมันจริงมั้ยล่ะ”


     “เอาเป็นว่าผมขอโทษแล้วกัน ผมแค่อยากแกล้งเอิงเฉยๆ ไปทานข้าวกันเถอะนะ”


     “ตกลงนายจะไม่เรียกฉันว่าพี่สินะ”


     “ทำไมต้องอยากให้ผมเรียกแบบนั้นด้วยล่ะ”


     “ก็มันควรจะเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ”


      “ทีพวกเพื่อนๆเอิงเค้ายังไม่คิดมากกับเรื่องแบบนี้เลยนะ”


     “แล้วทีนายทำไมยังเรียกยัยรุ่นพี่สองคนนั่นที่เจอในห้างเมื่องานว่าพี่ล่ะ”


     “อ๋อที่แท้ก็แบบนี้ใช่มั้ย…เพราะเอิงเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกะพี่เค้าไง เอิงไม่ชอบพวกเค้าพอเห็นผมเรียกพวกเค้าว่าพี่เอิงเลยรู้สึกเสียหน้าใช่มั้ย”


     “ช่างมันเถอะ…นายก็รีบๆไปทานข้าวซะฉันจะได้รีบๆสอนงานบ้านให้เสร็จสักที” ฉันบอกพร้อมกับเดินหนีเข้าห้องมาสงบสติอารมณ์ นายนั่นบางทีก็ทำตัวเหมือนเด็กบางครั้งก็เป็นผู้ใหญ่มีเหตุผล ตกลงเป็นคนยังไงกันแน่เนี่ย เฮ้ย!นี่นอกจากฉันจะหนียัยรุ่นพี่คู่อริสองคนนั่นไม่ได้แล้วฉันต้องมารับศึกหนักกับนายกำปออีกเหรอเนี่ย  ทำไมนายต้องไปรู้จักยัยรุ่นพี่ตูดโด่งกำลังสองนั่นด้วยนะ ฉันเกลียดพวกมันที่สุดเลย

 
    30 นาทีต่อมา
 
      หมอนั่นก็มาเคาะประตูเรียกฉันจนได้ จริงๆแล้วฉันก็นั่งสงบจิตสงบใจส่งกระแสจิตไปให้นายกำปอรีบๆมาเคาะเร็วๆพราะฉันก็หิวจนตาลายคล้ายจะเป็นลมอยู่แล้ว


     “ทานข้าวเสร็จแล้วใช่มั้ย” ฉันเปิดประตูออกไปเห็นนายกำปอยิ้มให้ จริงๆนายก็เป็นคนน่ารัก ยิ้มสวย ทุกอย่างคือสเป็ค ของฉันนั่นแหละแต่มันติดกับอะไรหลายๆอย่างฉันเลยไม่รู้สึกอะไร ไม่หวั่นไหวกับนายนั่นเลยสักนิดเพราะสำหรับฉันเหตุผลต้องมาก่อนความรู้สึก เพราะถ้าความรู้สึกมาก่อนผ่านไปสักพักทุกอย่างจะพัง


     “ยังไม่ได้ทานรอเอิงนั่นแหละ หายโกรธกันเถอะนะผมขอโทษนะ ไว้ผมจะพาไปทานไอติมนะ”



     “อะไรของนาย…ละทำไมต้องพาฉันไปทานไอติม”มีแต่คนที่ฉันสนิทฉันเท่านั้นจะรู้ว่าเวลาทำให้ฉันโกรธต้องพาฉันไปทานไอติม หรือไม่ก็ขนมเค้ก เท่านั้นแหละจากที่โกรธมากๆฉันก็จะยอมคืนดีด้วย แต่หมอนี่รู้ได้ไงเนี่ยรึว่าเป็นเพราะความบังเอิญ ช่างมันเถอะตอนนี้ฉันหิวจนจะเป็นลมอยู่แล้ว


      “ไปทานข้าวได้แล้ว”


      “หายโกรธแล้วใช่ป่ะ”หมอนั่นยังไม่เลิกกวนแถมยังเอามือมาจิ้มที่แก้มฉันอีก นายจะถึงเนื้อถึงตัวฉันไปถึงไหนยะนายกำปอ นี่แม่ไว้ใจคนแบบนี้ได้ไงเนี่ย


       “ไว้นายค่อยพาฉันไปถล่มร้านไอติมแล้วกันนะ…แต่ตอนนี้ไปทานข้าวได้แล้ว”บอกแล้วฉันเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว ถ้าได้อู่กับตัวเองคิดอะไรสักพักก็จะหายโกรธแล้วอีกอย่างไม่รู้จะโกรธกันนานทำไมชีวิตคนเรามันสั้นรักกันไว้ดีกว่าเยอะ


       “โอเคเลย…วันนี้ผมยกกุ้งให้เอิงทานหมดเลยอ่ะแถมสัญญาเลยว่าจะไม่แกล้ง ไม่กวนประสาทบ่อยๆอีก” เออ  เนอะไม่บ่อยก็คือทำอยู่ดีแหละ ใช่มั้ย


       “ละทำไมนายไม่ทานข้าวก่อนล่ะ ถ้าแม่รู้นะฉันก็โดนบ่นอีก”


       “ก็รอทานกับเอิงไง”หมอนั่นยิ้มให้แถมยังตักกุ้งใส่จานผัดผักมาให้ฉันจนหมด เหมือนโดนตบหน้าแล้วลูบหลังเลยวุ๊ย!


       “ที่นี้ไม่ต้องรอนะ กระเพาะไม่ได้ติดกันสักหน่อย”


        “กระเพาะไม่ติดกันแต่อนาคตอาจจะหัวใจผูกกันก็ได้นะ”


       “พูดบ้าอะไรของนาย รีบๆทานข้าวไปเลย”  ฉันไม่ได้เขินและไม่ได้หวั่นไหวนะจะบอกให้ ถึงแม้หมอนี่ชอบพูดชอบทำอะไรที่ทำให้ฉันชอบคิดเข้าข้างตัวเองก็เถอะ

     
         ฉันชำเลืองมองหมอนี่ทานข้าว แอบดีใจนิดๆที่นานๆทีจะเจอคนที่เป็นแบบฉันคือเขียนหนังสือด้านขวาแต่เวลาทานข้าวจะถือช้อนด้านซ้ายและถือส้อมด้านขวา จะหาว่าฉันเป็นโรคจิตก็ยอมแหละเพราะเวลาไปนั่นทานข้าวตามร้านอาหารฉันก็มักจะแอบดูชาวบ้านเค้าเหมือนกันแต่หาไม่ค่อยเจอเลยคนที่เป็นเหมือนฉัน


         “ทานเสร็จแล้ว เดี๋ยวถือจานมาที่อ่างล้างจานนะฉันจะไปรอ”ฉันบอกพร้อมกับถือจานของตัวเองไปรอนายกำปอ สักพักหมอนั่นก็เดินตามมา


         “นี่เวลานายจะล้างจานนะ นายต้องเขี่ยเศษอาหารออกจากจานให้หมดก่อน”ฉันบอกพร้อมกับเขยิบที่ให้นายกำปอแทรกเข้ามายืนตรงอ่างล้างจานเพื่อจะได้ฝึกทำ


          “จากนั้นนายก็เปิดน้ำล้างจานพวกนี้พร้อมกับเอามือลูบเบาก่อน”ฉันสาธิตให้หมอนี่ดูก่อนจะให้ทำตาม นี่ถ้านายนี่บอกว่าไม่เข้าใจหรือทำไม่ดีนะฉันก็จนปัญญาจะสอนละแหละเพราะทุกขั้นตอนทุกงานฉันจะสาธิตให้ดูทุกครั้งยกเว้นตอนซักกางเกงโปรดในตอนนั้นข้ามไปเถอะนึกแล้วฉันก็ยังเอือมระอา


          “อืมๆ ละทำไงต่อ”หมอนี่ส่งเสียงตอบรับคำอธิบายแต่ละขั้นตอน อยากจะบอกว่าหมอนี่ตัวสูงชะมัดเวลามายืนข้างฉันแบบนี้เหมือนเสาไฟฟ้ากับหลักกิโลเลยอ่ะ นี่ถ้าหมอนี่อยากจะฆ่าฉันจริงก็แค่ผลักหัวฉันให้ลงไปในอ่างจับหัวกดลงให้นั่งดื่มน้ำยาล้างจานแล้วฉันจะทำยังไง


          “เสร็จแล้วนายก็เอาฟองน้ำใส่น้ำยาล้างจานแค่นิดหน่อยแล้วก็ขัดลงไปบนจานแบบนี้นะ…”ฉันสาธิตให้ดูทุกครั้งเวลาจะเริ่มขั้นตอนใหม่


         “เข้าใจแล้วใช่มั้ย…นายจุ๊บ”แต่พอฉันหันหลังไปถามเท่านั้นแหละ ไม่คิดว่านายนี่จะมายืนยื่นหน้ามาดูซะโอเวอร์เหมือนจะสนใจขนาดนั้น จะโทษใครล่ะงานนี้แถมปากฉันก็ดันไปจุ๊บโดนกับแก้มหมอนี่อีก ไม่รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุหรือเพราะตั้งใจนะแต่ฉันคิดว่าเป็นอย่างหลังก็ตอนนี้แหละ


        “อ่ะ…คือขัดเสร็จแล้วล้างน้ำสะอาดแล้วก็จุ๊บเหรอ”

 
       “ไอ้บ้า…เจ้าเล่ห์นักนะ ฉันจะฟ้องทุกคนเลยว่านายไว้ใจไม่ได้ ฉันไม่น่าหายโกธรนายเลย”


       “อะไรเล่า มันเป็นอุบัติเหตุ” หมอนั่นยังถียงไม่เลิก อุบัติเหตุบ้าบออะไรจะเหมาะเจาะขนาดนั้น

 
        “ทำต่อให้เสร็จเลย แค่ล้างจานแล้วก็ล้างน้ำให้มันสะอาดนะไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้เอามาใช้แล้วท้องเสียกันทั้งบ้านนะ”

    
        ฉันรู้สึกว่าหมอนี่จะเจ้าเล่ห์เกินไปล่ะนะไหนแม่บอกว่าไว้ใจได้ เป็นเด็กดีไง ให้ตายเถอะ!!!หมอนี่ชอบเอาเปรียบฉันตลอดเลย ไหนจะจับมือบ้างล่ะ พูดให้คิดบ้างล่ะ เมื่อกี้อีก อายชะมัดนี่ฉันดันไปจุ๊บเองซะอีก หมอนี่มันตัวอันตารายชัดๆเลย นายจะรู้มั้ยว่าฉันต้องห้ามใจแค่ไหนที่จะไม่หวั่นไหวกับผู้ชายที่ตรงสเปคของฉันเนี่ย

 

       เกือบทุกๆคืนหมอนี่จะอาบน้ำเป็นคนสุดท้ายทุกวันและก็จะมานั่งเล่นดูทีวีเป็นเพื่อนฉันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น แต่บางคืนก็เอาคอมพิวเตอร์ไปเสียบกับเครื่องเกมส์เล่นในห้องเป็นบางครั้ง นอกจากนิสัยกวนประสาทแถมยังเป็นเด็กติดเกมส์อีก 


      “ขอนั่งดูด้วยคนสิ ผมพึ่งฉีดยาฆ่ายุงในห้อง เมื่อเช้าดันเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ทั้งยุงและก็แมลงบินเต็มห้องเลย” หมอนั่นพูดพร้อมกับหย่อนก้นลงโซฟาตัวเดียวกับฉัน


      “อ้าวแล้วนายออกมาทำไมล่ะ ทำไมไม่อยู่ในห้อง”ฉันหันไปถามแต่หมอนี่ก็ยังทำหน้าสงสัยอยู่


     “ทำไมอ่ะ”


     “ก็นายฉัดยาฆ่ายุงกับแมลง นายก็เป็นแมลงปอ ไม่ใช่เหรอ จะออกมาทำไมอยู่ในนั้นให้มันตายๆไปกับเพื่อนๆแมลงของนายเลยสิ”


     “แมลงปอตัวนี้มันทนทานไม่ตายหรอกอย่างมากก็แค่เหม็นกลิ่นยาเฉยๆ”


     “เอ๊ะ ตอนนี้ฉันก็เริ่มเหม็นกลิ่นเหมือนกันนะ”ฉันทำจมูกฟุดฟิด ไปซ้ายที ขวาที


     “อ้าวจริงสิ…ผมเปิดประตูมุ้งลวดระบายอากาศไว้อ่ะ เหม็นเหรอนี่ซื้อกลิ่นส้มมาฉีดแล้วนะ”หมอนั่นพูดพรางทำจมูกฟุดฟิดเลียนแบบฉัน


     “เปล่าที่ว่าเหม็นอ่ะ เหม็นขี้หน้านายต่างหาก”ฉันบอกพร้อมกับชี้ไปที่หน้าหมอนี่


     “สงสัยโฟมล้างหน้ายี่ห้อนี้ไม่ดีแน่ๆเลย เอิงถึงเหม็น” หึหึ ขนาดนี่นายยังไปต่อได้เลยนะเนี่ย ฉันล่ะนับถือจริงๆ


     “นี่ฉันจะไม่มีวันกวนประสาทนายได้เลยใช่มั้ย”


    “ก็ผมเป็นคนใจเย็นมีความอดทนสูง มันเลยยากที่เอิงจะทำให้ผมทนไม่ได้รีบกลับเชียงราย อย่าพยายามเลย”


    “แต่นายต้องรีบๆกลับ เพราะฉันไม่อยากให้นายอยู่”


     “แต่ผมพอใจที่จะอยู่”มีใครเคยบอกว่ามั้ยว่านายเป็นคนหน้าตาดีแถมยังหน้าด้านอีก

 
     
“แต่ฉันไม่สะดวกใจที่จะให้นายอยู่”


    “ทำไมล่ะ…ผมทำให้เอิงหวั่นไหวรึไงถึงไม่สะดวกใจให้อยู่”ไม่พูดเปล่าหมอนั่นยังยื่นหน้ามาหาฉันอีก


    “เอาหน้าออกไปห่างเลยนะ นายไม่หล่อไม่มีเสน่ห์พอที่จะทำให้ฉันหวั่นไหวหรอกถ้าหน้าเหมือนพี่โดม ก็ว่าไปอย่าง”


    “ถึงหน้าผมจะไม่หล่อเหมือนพี่โดม แต่ผมก็ใช้โฟมล้างหน้าทุกวันนะครับ”จบประโยคฉันก็หันหน้ามามองหมอนั่นพร้อมกับที่เราสองคนก็หัวเราะมาพร้อมกันทันที


    “เห็นมั้ย…เอิงหัวเราะเพราะผมแสดงว่าเอิงมีความสุข แล้วเอิงจะไล่ผมกลับเชียงรายทำไม” แล้วฉันจะทำยังไงได้นอกจากเงียบแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจกับคำพูดของนายกำปอ

 

 

ฝากด้วยนะคะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา