วงกต~~ดอกเหมย

1.3

เขียนโดย วสันต์สีเงิน

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 12.05 น.

  3
  0 วิจารณ์
  6,375 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 กันยายน พ.ศ. 2556 09.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) เหม่ยเซียนโกว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แสงสว่างทิ่มแทงตาจนลืมแทบไม่ขึ้น   จวบจนกระทั่งแสงค่อยๆ หายไป ภาพที่อยู่ตรงหน้า แทบจะทำให้ทุกผู้คนต้องลืมเลือนการหายใจ    ณ บริเวณนั้น  บริเวณที่เดิมที่เป็นที่ตั้งของรูปปั้นโพธิสัตว์ กลับปรากฏร่าง ร่างหนึ่งแทนที่   ร่างของดรุณีร่างโปร่งบาง แต่งกายด้วยผ้าพริ้วสีอ่อนหวาน  ใบหน้าที่งดงามอย่างแปลกประหลาด  แม้ดวงนัยน์ตาจะยังคงปิดสนิท    ผิวกายคล้ายซับละอองทองคำอยู่ภายใน  ร่างนั้นยืนสงบนิ่งราวรูปปั้น 

“นี่มัน  คนจริงๆ หรือรูปปั้นกันแน่”

หยางอี้เฟยรำพึงขึ้นอย่างลืมตัว  ภาพตรงหน้า ช่างงดงามจนแทบลืมหายใจ  และถ้าเขาขยี้ตาก็ตัวว่าภาพตรงหน้าอาจหายไปดังหมอกควัน  ฉะนั้น เขาจึงเบิ่งตาจนกว้างเพื่อมองภาพนี้อย่างไม่รู้หน่าย  ดรุณีโฉมสะคราญ ในชุดแปลกตาสีอ่อนหวาน ใบหน้าที่สงบนิ่ง แต่ราวรวมทุกสิ่งทุกอย่างที่งดงามในโลกนี้ไปรวมกัน

หยางอี้เฟยกระหายใคร่จะสัมผัสใบหน้างดงามนั้นว่าเป็นความจริงหรือฝันไป  เป็นคนจริงหรือภาพมายา  มือใหญ่เอื้อมเข้าไปใกล้เพื่อจะสัมผัส

ฟุ่บ !!

ร่างบางร่างนั้นพลันทรวนซบลงต่อหน้า   ขาไวเท่าความคิด นำร่างของหยางอี้เฟยไปรองรับนางไว้ทันท่วงที 

“แม่นาง  !  แม่นาง!”

หยางอี้เฟย  พยายามเขย่าร่างนั้นเบาๆ   ทว่าดรุณีโฉมงามกลับหลับตาพริ้มแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น  คล้ายไม่รู้สึกรู้สมกับอะไรทั้งสิ้น   ร่างนั้นเบาราวนุ่น  หากบริสุทธิ์ปานสลักจากหยกขาว   หยางอี้เฟยตัดสินใจหอบร่างนั้นออกมาสู่ด้านหน้า  ที่น้องชายบุญธรรมนอนข้างกองไฟอยู่

********************************************************************************************************************************************************************

ร่างสูงโปร่งก้าวอย่างรีบเร่งไปตามเส้นทางเล็กๆ  แนวป่าที่โปร่งทำให้สะดวกในการเดินทาง  ตรงหน้าคล้ายมีดงผลจ้อ (พุทธาจีน) ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น  ดูไปไม่คล้ายจะมีที่พักอาศัย  หากเมื่อผ่านพ้นไปจนเข้าสู่ด้านใน จะมองเห็นพุ่มไม้ดอกนานา  ในใจกลางกลับมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ เป็นกระท่อมน้อยที่น่าสบายปลูกอยู่ในใจกล้างสวนดอกกุ้ย   และดอกจุ้ยเซียนที่ออกสะพรั่ง   แข่งประชันกับโบตั๋นสีแดงสด  จนคล้ายมิได้อยู่บนโลกมนุษย์ก็มิปาน   ความงามนี้เพิ่งบังเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี่เอง

ร่างโปร่งเดินเข้าสู่ด้านในอย่างเร่งร้อน  เมื่อเห็นว่าภายในห้องหับใช่มีแต่ตน  ก็ทรุดกายลงนั่งที่เก้าอี้อย่างเฉื่อยชา  ปฏิกิริยาคล้ายแปลกเปลี่ยนไปโดยทันที  เขาใช้สองนี้วคีบจับหูกาน้ำที่เก่าคร่ำคร่าอย่างเกลียดคร้านเพื่อเทน้ำชาลงแก้วใบจิ๋ว ก่อนจะค่อยๆจิบอย่างใจเย็น โดยพยายามมองหาความผิดปกติใดใดบนใบหน้าของน้องชายบุญธรรมเมื่อไม่ปรากฏ  จึงเอ่ยขึ้นคำหนึ่งว่า

“นางเป็นเช่นไรบ้าง....?”

เด็กน้อยที่ตอนนี้กลับคล้ายไม่ได้ยิน  ก้าวดุ่มๆไปที่กองสัมพารกที่ซุมอยู่ด้านข้างของห้องที่ตอนนี้ดัดแปลงเป็นห้องต้มยาฉุกเฉินไปแล้ว   มือเล็กล้วงเข้าไปในย่าม หยิบท่อนรากไม้อย่างหนึ่งออกมา  เสร็จแล้วก็เดินไปหยิบอุปกรณ์ที่ตระเตรียมไว้ขึ้นมาวางตรงหน้า  แล้วเริ่มลงมือฝนรากไม้อย่างขะมักขะเม้น

“ตงตง   ข้าถามเจ้าว่านางเป็นอย่างไรบ้างหรือเจ้าไม่ได้ยินคำ...”

หยางอี้เฟยตวัดเสียงอย่างหงุดหงิด  กับท่าทีเมินเฉยของเด็กน้อย

“นางใดกัน??  นางๆๆๆ  ข้าไม่รู้หรอกท่านพี่ของข้าว่าท่านหมายถึงผู้ใด”  

ตงตงเอ่ยขึ้นอย่างไม่ทุกข์ร้อน   พร้อมยังทุ่มเทให้กับการฝนรากไม้ต่อไป  จนได้ปริมาณพอสมควรจึงหยุดมือ  ก่อนจะเดินไปล้วงภายในยามสีกระดำกระด่างอีกใบที่วางสุมอยู่

แต่ก่อนที่แววตาผู้เป็นพี่จะวาวโรจน์ด้วยอารมณ์   เด็กน้อยก็เงยหน้ามายิ้มทำหน้าทะเล้นก่อนจะเอ่ยเสียงระรื่นว่า

“ถ้าท่านเป็นห่วงพี่นางฟ้าก็เข้าไปดูนางสิ   เมื่อเช้าสีหน้านางดูดีขึ้นมากเลยทีเดียว”

“ใครว่าข้าเป็นห่วงนางกัน !!   ข้าแค่  ... กลัวมีภาระเพิ่มเท่านั้น”  

พูดจบร่างสูงก็รีบเดินเข้าไปสู่ด้านในทันที  เนื่องจากเกรงว่าถ้าขืนยังอยู่  เจ้าน้องชายตัวแสบคงไม่หยุดล้อเขาแน่นอน   เขาเดินตรงไปตามระเบียงน้อยก่อนจะก้าวเข้าสู่ห้องในสุดที่อยู่ใกล้สวนดอกเหมยมากที่สุด ลึกลับที่สุด  ซึ่งปกติห้องนี้เขาจะไม่ให้ใครผ่านเข้ามาโดยง่าย  เพราะเคยเป็นห้องที่เขาไว้เก็บสมบัติล้ำค่าเฉพาะที่ไม่เกี่ยวข้องกับเงินทองที่เขาหามาเพื่อช่วยเหลือเหล่าชุมชนยากไร้แต่อย่างใด   ใช่มันเคยเป็นเช่นนั้น  แต่ตอนนี้มันได้แปรสภาพเป็นห้องพักฟื่นของสตรีนางหนึ่งไปแล้ว

เขายกมือขึ้นเคาะที่บานประตูทั้งที่ทราบดีว่า คงไม่มีใครขานตอบกลับมา  3 ที  ก่อนจะดันประตูก้าวเข้าไป  สายตาพุ่งตรงไปที่กลางห้อง ที่บรรจุไว้ด้วยเตียงหนานุ่ม  ขณะนี้บนเตียงนั้นได้บรรจุไว้ด้วยคนผู้หนึ่ง  ผู้ซึ่งเขาไม่อาจเชื่อว่านางคือปถุชนคนทั่วไป  นางคล้ายเลื่อนลอยมาจากภาพฝัน   หากเมื่อเอื้อมมือไปสัมผัสกลับจับต้องได้  ผู้ที่น้องชายเรียกนางว่าพี่สาวนางฟ้า  ตั้งแต่พบกันมาจนวันนี้เป็นเวลา 3 ราตรีแล้ว  แต่นางยังไม่รู้สึกตัว คล้ายนางคงอยู่ในฝันอันแสนสุข

“แม่นาง  ตื่นเถิด...”

พลัน... แว่วเสียงของนกไม่ทราบชนิดก็กรีดเสียงดังวิเวกแผ่วหวาน  จากที่คล้ายแว่วลอยลมมา แล้วค่อยๆดังชัดขึ้นเรื่อยๆ  ประดุจมาขับขานที่หน้าห้อง  ความแผ่วหวานทร่านในทรวงอย่างหาที่สุดไม่ได้   หยางอี้เฟยเปิดหน้าต่างห้องมองออกไปต้องตื่นตะหนกกับภาพเบื้องหน้า

“นี่มัน...!?”

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา