วงกต~~ดอกเหมย

1.3

เขียนโดย วสันต์สีเงิน

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 12.05 น.

  3
  0 วิจารณ์
  6,288 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 กันยายน พ.ศ. 2556 09.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

บทนำ

กึงๆๆๆเสียงส้นรองเท้ากระทบกับพื้นคอนกรีตเป็นจังหวะเร่งเร้า  ร่างบางในชุดกระโปรงสีชมพูจางวิ่งผ่านเข้าไปสู่สวนกว้างอย่างรวดเร็ว คล้ายดังจะหนีให้พ้นจากบางสิ่งบางอย่าง

“คุณหนู    คุณหนูหลินครับ  หยุดเถอะครับ”

เสียงตะโกนที่ดังไล่หลังคล้ายเป็นแรงเร่งให้ร่างบางวิ่งไปให้เร็วยิ่งขึ้น

“ไปให้พ้นน่ะ  พวกนายไปให้พ้นเลย  ไม่ต้องตามมาจะได้มั้ย?”

เสียงหวานที่แฝงความโกรธเกี้ยวดังสวนมาจากร่างน้อยที่ยังวิ่งไปข้างหน้า   ชายกระโปรงโบกสะบัดอย่างรวดเร็วตามการเคลื่อนไหวของเจ้าของร่าง   ใบหน้างดงามแบบสาวลูกครึ่งไทย –จีน ที่ต่างจากสาวหมวยทั่วไปในเกาะฮ่องกง  ทำให้เจ้าหล่อนดูโดดเด่นแตกต่างจากคนอื่นๆ   หน้าเรียวยาวรูปไข่  ดวงตาคมโตคล้ายมารดา  จมูกโด่งเรียวปลายเชิดแบบคนดื้อร้น  คิ้วเรียวโดยไม่ต้องตบแต่งรับกับริมฝีปากอิ่ม  และผิวที่ขาวนวลลออตา  เธอจึงจัดว่าเป็นสาวน้อยที่งามแผกตาจากทุกคนในแถบนี้  หากตอนนี้กลับหมองลงไปด้วยคราบน้ำตา     ริมฝีปากงามก็เม้มสนิทจนแทบห้อเลือด

ไม่วายที่เหล่าบอร์ดิการ์ดจะพยายามตะโกนห้ามปรามอย่างไร  เธอยังคงวิ่งเข้าไปสู่ใจกลางสวนกว้างอย่างไม่หยุดยั้ง  เธออยากไปให้พ้นๆ  ทำไมนะ  ทำไมบิดาเธอถึงทำแบบนี้  หลินเหมยเซียนคิด

“เหมยยี้  ลูกควรเข้าใจน่ะ  แม่เขาไปแล้ว  แม่เขาจากเราไปแล้ว”

“ไม่จริง.... คุณพ่อทำแบบนี้ไม่ได้น่ะ  คุณแม่แค่หายไปเท่านั้นเอง   ท่านอาจถูกใครลักพาตัวหรือท่านอาจจะอยู่ในที่ที่ติดต่อเราไม่ได้แค่นั้น     คุณแม่ยังไม่ตาย”

เธอโวยวายทันที  เมื่อบิดาออกคำสั่งให้พ่อบ้านเตรียมจัดงานศพใฟ้มารดาที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย  เป็นเวลาเกือบแปดปีที่ทางตำรวจพยายามสืบหา   แต่กลับไม่ได้รับเบาะแสอะไรที่บ่งชี้ว่ามารดาของเธอหายไปไหน  และหายไปได้อย่างไร   จนกระทั่งศาลตัดสินให้เป็นบุคคลสาบสูญไปแล้ว  แต่เธอยังคงมีความหวัง  ว่าสักวันหนึ่งมารดาจะกลับมา

แต่นี่  บิดาของเธอกลับจะจัดงานศพ  โดยไม่มีศพให้กับมารดาของเธอ  ทำอย่างนี้ได้อย่างไรกัน   ยิ่งคิดยิ่งน้อยใจ   เท้าน้อยๆยิ่งก้าวเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว

เธออยากไปให้พ้นเสียงที่ดังโวกเวกโวยวายของเหล่าบอร์ดิการ์ดนี้   จากบิดาที่ใจร้าย  ทำไมไม่รอคุณแม่  ทำไม????

“คุณหนูครับ..”

เสียงตะโกนที่ดังไล่หลังมาเรื่อยๆ ทำให้ร่างบางรีบสาวเท้าไปให้ห่างมากยิ่งขึ้น   เสียงแซงแซ่จากเหล่าผู้มีหน้าที่คุ้มครองกลับยิ่งทำให้เจ้าหล่อนวิ่งเร็วยิ่งขึ้น 

“บอกว่าไปให้พ้น .....อย่ามายุ่งกับชั้น”

หลินเหมยเซียนตวาดกลับอย่างโกรธเกรี้ยว    พาร่างเข้าไปตามแนวแมกไม้ลึกเข้าไปอีก

“ทำไงดีครับคุณฟงเอี้ย   คุณหนูวิ่งหายเข้าไปในสวนแล้ว     แถมสวนนี้ก็กว้างมาก   การวางเวรยามก็มีเพียงแค่จุดๆ  ไม่ได้ทั่วถึง   หากคุณหนูเป็นอะไรไป  หรือหายไปอย่าง..........”

“สงบใจไว้ก่อนพ่อบ้านจวง   เดี๋ยวผมจัดการเอง”

ชายหนุ่มร่างสูงในสูทดำเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น    เขารู้ดียิ่งกว่าใครว่าตอนนี้ต่อให้ตามคุณหนูหลินอย่างไรก็ไม่ทัน

นับจากวันแรกที่เขาได้เข้ามาเป็นหัวหน้าบอดิการ์ดให้กับตระกูลหลิน   อุปนิสัยใจคอของเจ้านายแต่ละคนเป็นสิ่งที่เขาต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ  โดยเฉพาะ  ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลอย่างคุณหนูหลินเหมยเซียน  ยิ่งทำให้เขาตั้งใจเอาใจใส่เป็นอันดับหนึ่ง

ครั้งแรกที่เขาได้พบหน้าหล่อน  เขาอดคิดไม่ได้ว่า สิ่งมหัศจรรย์ได้เกิดขึ้นตรงหน้าแล้ว   เขาคาดเดาเอาเองว่า คุณหนูตระกูลใหญ่ที่เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของตระกูลจะต้องเป็นคนเอาแต่ใจ  ไม่เห็นหัวคน   แต่คุณหนูหลินกับทำให้เขาหน้าแตกในความคิด   เจ้าหล่อนทั้งแสบ  ซน  ซ่า  โดยไม่เกรงใจหน้าตาที่สวยงามเหมือนภาพวาดของตนเลย  แต่ที่ตรึงใจทุกคนไว้ได้หมดนั่นก็คือ  ความมีน้ำใจ  ไม่ถือเนื้อถือตัวของหล่อน   เพราะฉะนั้น  ถ้าหล่อนจะซนไปบ้างทุกคนก็จะไม่โกรธเคือง  จะมีเพียงความหวง  ห่วงใย  เท่านั้น   เหนือสิ่งอื่นใด  คุณหนูเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่นายหญิงหายไป  แม้ภายนอกจะยังดูเหมือนเดิม  แต่หลายครั้งที่เขาได้เห็นเจ้าหล่อนแอบน้ำตาซึมอย่างเดียวดายที่ข้างรูปปั้นนั้น

“คุณหนูครับ  คุณหนูออกมาเถอะครับ  จะค่ำแล้วนะครับ”

เสียงจากหัวหน้าบอร์ดิการ์ดที่บิดาของเธอจ้างมา ดังขึ้นเป็นระยะ  แต่เธอไม่สน  เธอเกลียดเขาด้วย  เกลียดคนหน้าตาย  ที่ยอมทำตามคำสั่งบิดาขอเธอทุกอย่าง   ไอ้คนน่าเกลียด  หน้าปลาตายซาก  ไอ้...ไอ้.... เธอนึกหาคำด่าไม่ออก  ขณะเดียวกันก็วิ่งเข้าสู่ใจกลางสวนตรงไปที่ลานน้ำพุนางฟ้าที่อยู่กลางสวน

จริงๆแล้ว หัวหน้าบอร์ดิการ์ดคนนี้นอกจากจะไม่หน้าตาน่าเกลียดแล้ว   ยังดูหล่อเหลาราวกับพระเอกหนังฮ่องกง  ทั้งที่ปกติแล้ว ชายอื่นนอกจากบิดา หลินซงเทียนแล้ว  ทุกคนล้วนหน้าปลาบู่ทั้งสิ้น  แต่นายฟงเอี้ยคนนี้  นอกจากหน้าตาดีแล้ว ยังมีบางอย่างที่เธออ่านไม่ออก ไม่ใช่ความหลงใหล หรือชอบพอแบบหนุ่มสาว  แต่เป็นอะไรที่เธอไม่เข้าใจ หรืออาจเป็นเพราะเธอไม่มีพี่น้องเลยก็ได้  เลยอดที่จะรักนับถือฟงเอี้ยแบบพี่ชายคนหนึ่ง  แต่นั่นแหละ  นายฟงเอี้ยมักจะปฏิบัติกับเธอราวไข่ในหินจนเธออดจะเหน็บแนมไม่ได้   ชายหนุ่มร่างสูงอย่างนักกีฬาที่สูงถึง 178 ซม.  กล้ามเนื้อสมส่วน  ไม่เทอะทะแบบนักเพาะกาย (เธอไปแอบเห็นตอนไหนย่ะ----ไรท์เตอร์)      สีผิวคร้ามแดดที่ไม่ไม่ถึงกับดำ  ประกอบกับผมยาวรากไทรแต่ไม่รุงรัง  โดยการรวบมัดง่าย ๆ      แค่เดินเดี่ยวๆ  อยู่ย่านดาวน์ทาวน์   เธอจับเวลาได้เลยว่าไม่ถึงห้านาที  ต้องมีสาวๆวิ่งเข้ามาขอเบอร์เขา   (เอ่อ...เหมยเซียนจ้ะ   นั่นผู้หญิงหรือแมลงวันกันจ้ะ---ไรท์เตอร์)

ความจริงเธอไม่ใช่คนก้าวร้าว  และถ้าเป็นช่วงเวลาอื่นเธอจะไม่ดื้อแบบนี้เลย  แต่ตอนนี้  วินาทีนี้  เธอยอมรับว่าเธอพาล  เพราะคนคนนั้นดันรับคำสั่งจับตาดูเธอทุกระยะ  และห้ามเธอออกนอกบริเวณบ้านจากคุณพ่อของเธอ  หลังจากเกิดเหตุการ์ช็อคโลกครั้งนั้น    แถมดูเหมือนว่าเขาจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเคร่งครัดจนเกินไปด้วยซ้ำ

“คุณหนูหลิน   ออกมาได้แล้วครับ  อย่าทำให้ผมลำบากใจไปกว่านี้เลย”

เสียงห้าวคล้ายดังไล่หลังมาเรื่อยๆ  แต่เธอไม่สนใจ  อา....นั่นไง  น้ำพุนางฟ้า   น้ำพุที่คุณพ่อ

สั่งให้สร้างเพื่อคุณแม่ของเธอ  โดยแบบของรูปปั้นนางฟ้าจำลองมาจากคุณแม่ของเธอ

ก่อนที่เธอจะวิ่งไปถึงน้ำพุ  ดวงตาของรูปปั้นนางฟ้าก็ส่องแสงวาบขึ้นมากระทบกับร่างของเธออย่างฉับพลัน

“กรี๊ดดดดด”

เสียงหวีดร้องจากเบื้องหน้า  ทำให้ฟงเอี้ยรีบรุดไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบ   ลางสังหรณ์บางอย่างบ่งบอกว่าไม่ได้การแล้ว  จนกระทั่งมาถึงลานน้ำพุเบื้องหน้า   หากสิ่งที่ปรากฏกลับมีเพียงความว่างเปล่า

ไรขนที่คอของเขาลุกชันอย่างไม่มีสาเหตุ    ไม่จริงน่า      เขาพร่ำบอกตนเอง

“คุณหนู!.....คุณหนูหลิน!”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา