The Smile Devil นายปีศาจตัวร้ายกับยัยตัวเเสบ

9.7

เขียนโดย winter

วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10.04 น.

  21 #
  7 วิจารณ์
  25.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 12.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) Chapter 13 การกลับมาของป๊ะป๋า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter XIII

การกลับมาของป๊ะป๋า

 

           “!!!หาตัวเจอแล้วยัยเลือดชะตากรรมต้องสาป!!!”

 

          โครม

         เมื่อเสียงเงียบลงไม่ทัน เจ้าตัวที่พูดเมื่อครู่ก็พังหลังคาบ้านผีสิงทัน ด้วยการที่ที่นี่ใกล้พังเต็มทีแล้ว เพราะการกระทำของมันเมื่อครู่เลยทำให้ที่นี่พังลงมาอย่างง่ายดาย  ซวยล่ะโดนหลังคาทับแบนเป็นกล้วยทับแน่

          ตูม!!!

          “!!!นามิระวัง!!!” และนี่คือเสียงสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะมืดไป และ

มีบางอย่างที่คิดว่านี่จะเป็นของแข็งหล่นลงมาทับบนตัวฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังคาของบ้านผีสิงล่วงหล่นสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลกแต่พื้นโลกที่ว่าดันมีร่างของฉันอยู่นี่สิเป็นเรื่องที่ยากมากหากจะรอดจากตรงนี้ สถานการณ์นี้ และที่สำคัญตอนนี้ ฉันกำลังจะตายอีกแล้วเหรอ

          เพียงไม่กี่วินาทีก็สงบลง แต่พอรู้สึกตัวก็เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่เหล็ก ไม้ หรือคอนกรีต อยู่บนร่างฉันแถมนุ่มด้วยแหละ เหมือนกับ....คน….หรือว่า

 

          นายเก็น

          เป็นไปตามที่คาดเอาไว้นายนั้นอยู่บนร่างฉันจริงๆด้วย เขายิ้มทันทีที่ฉันลืมตาขึ้น ที่สำคัญ ปีกสีเทาของเขากำลังปกคลุมฉันกับเขาเอาไว้ด้วยล่ะ นายนี่ทำไมยังยิ้มได้นะไม่เจ็บหรือไง เพราะฉันมองไปตามตัวเขามีบาดแผลเต็มไปหมด และที่สำคัญ มีตรงจุดหัวไหล่ขวาของเขาโดนเหล็กแทงทะลุส่วนปีกและทะลุหัวไหล่เขามาอีกทีด้วย เลือดของเขาไหลเต็มตัวฉันเลย และปีกของเขาจากสีเทาเริ่มถูกย้อมไปด้วยสีแดง

          “เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม” นายนี่ท่าจะบ้าไปแล้วนะ

          “ฉันตางหากที่ต้องถามนาย นายบาดเจ็บขนาดนี้นายยังมาถามฉันอีกเหรอ”

           “แล้วเธอเป็นไงบ้างล่ะเจ็บตรงไหนรึเปล่า” นายนี่ก็ จริงๆเลย

          “ไม่เป็นไรหรอกก็นายช่วยฉันไว้อีกแล้วนี่ ถึงตอนนี้จะอึดอัดไปบ้างแต่ก็ขอขอบคุณนายล่ะกัน”

          “เป็นหน้าที่ฉันอยู่แล้วล่ะ ฉันไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรไปหรอก” *///*

          ภายในกองซากที่พังลงมา ฉันกับนายเก็นอยู่ใกล้ที่เรียกว่าใกล้ชิดสนิทเหมือนแฟนได้เลยล่ะ ใบหน้าของเขาอยู่ห่างฉันไปไม่ถึงคืบ ถึงจะเป็นสถานการณ์ที่กำลังแย่มากๆ แต่นายนี่ดันมองแต่ริบฝีปากฉันซะงั้น มองไปทางอื่นไม่ได้หรือไงฟะ และฉันคิดไปหรือเปล่านะว่าหน้าเขาอยู่ใกล้ฉันเข้ามาทุกทีๆ หรือว่านายนี่จะ...เอ่อ...

          จุ๊บ!

          เฮ้ยไอ้บ้าหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้นายยังจะมาทำอะไรแบบนี้อีกเหรอ O////O

          ลมหายใจอุ่นๆ แต่กลิ่นเลือดของเขานี่สิทำฉันแทบสำลัก ฝ่ามือของเขาลูบแก้มฉันเบาๆ คงปัดเศษดินเศษฝุ่นที่ติดหน้าฉันออกอยู่ล่ะมั้งนี่เป็นจูบที่สองแล้วล่ะมั้งถ้าจำไม่ผิดนะ แต่ฉันในสถานการแบบนี้จะเบนหน้าหน้าไปไหนก็ไม่ได้ด้วยสิเพราะมันแคบมากแต่ดีนะที่ปีกของเขาเป็นเหมือนโล่กำบังให้ฉัน ไม่งั้นแบนเป็นกล้วยทับแน่ๆเลย ในนี่อากาศมีน้อยอยู่แล้วแต่นายเก็นยังแย่งอากาศฉันหายใจอีก แต่อากาศจากเขาก็เข้ามาเติมเต็มปอดฉันทุกทีๆ มันไม่ใช่จูบอันหอมหวานหรืเร่าร้อนหรอกนะ น่าจะเป็นจูบรสเลือดซะมากกว่า

          นายเก็นถอดจูบออกและยิ้มอย่างอ่อนโยนและก้มลงกระซิบที่ข้างหูฉันแผ่วเบาจนฉันเขิน

          “ฉันรักเธอนะ นามิ แล้วเธอล่ะ” นายเก็นถาม */////*

          “.....” ฉันได้แต่เงียบและหันหน้าไปทางอื่น ถึงในนั้นมีแต่เศษซากปรักหักพังก็ตามแต่จะสู้หน้าคนตรงหน้านี้ได้ยังไงกัน แถมเมื่อครู่นายนี่บอกรักฉันซะงั้น

          “ว่าไงล่ะ”

          “โคตรโรแมนติกเลยนะนาย หึหึ ในซากแบบนี้นายยังมีอารมณ์มาหวานซึ้งอีกเหรอ”

          “นี่ไม่ใช่คำตอบที่อยากได้เลยนะ ตอบมาเธอรักฉันบ้างไหม ถ้าไม่บอกรักฉันล่ะก็เราก็อยู่ที่นี่ต่อล่ะกัน”

          “เอาแต่ใจไปแล้วนะนาย เมื่อตะกี้ฉันเกือบหายใจไม่ออกเลยเลยนะทำอะไรให้ดูสถานการณ์บ้างสิ”

           “ตอบ...มา....” ชินายนี่

           “อืม”

           “อะไรนะ”

           “อืม”

          “อืม อืม อยู่ได้ฉันเริ่มเบื่อแล้วนะ”

          “นั้นสิบอกๆเขาไปเหอะคุณพี่นามิ”

          “ใครจะไปพูดได้ง่ายๆกันล่ะ เอ๋....” ฉันยกแหวนขึ้นมาดูทันที ยัยเรย์นี่เอง

          “เมื่อครู่คุณพี่ยังบอกรักเขาอยู่เลยนะคะ  แค่พูดอีกทีแค่นี้ แหมๆทำเป็นเขินอายไปได้”

          “โผล่หัวมาแล้วเหรอยัยบ้ากล้าดียังไงมาหลอกฉัน”

          “ไม่ได้หลอกนะคะนั้นเป็นวิธีบอกรัก เอ้ย แก้ไม่ให้เขาถูกกลืนกินจิตใจได้เหมือนกันนะคะ”

          “เมื่อกี้ฉันได้ยินนะว่าเป็นวิธีบอกรัก แสดงว่าเธอรวมหัวกับนายนี่เหรอเรย์ บอกมานะ”

          “โนคอมเมนต์คะของีบหน่อยละกัน”

          “ไม่ต้องมาโนกับฉันเลยนะเรย์ แล้วอีกอย่างเธอจะงีบหาอะไรมิทราบ”

          “ก็แค่รอเวลาอะคะ”

          “รอเวลาอะไร”

          “รอให้เธอตายไงล่ะนามิ ถ้าไม่รีบบอกมาว่ารักฉันหรือไม่รักล่ะก็เธอก็ต้องขาดอากาศหายใจตายกับฉันตรงนี้แหละ”

          “โถ่!!! ไอ้พวกบ้า เออ ก็ได้ ฉันรักนายพอใจรึยัง หรือยังไม่พอล่ะก็แบบนี้เชื่อรึยัง!!!”

           ฉันรวบคอนายเก็นเข้ามาใกล้ๆและประกบริมฝีปากฉันกับนายเก็นทันที คราวนี้ฉันขอเป็นฝ่ายเริ่มละกัน ฉันก็ไม่ได้ถนัดเรื่องแบบนี้หรอกแต่นายนี่ทำแบบนี้กับฉันแล้วก็พอจะจับทางอะไรได้บ้างล่ะนะ จากตอนแรกนายนั้นตอบรับฉันอย่างดุเดือดและเริ่มรุกฉันมากขึ้นเรื่อยๆจนเลือดจากนายนั้นเข้าปากฉันเต็มไปหมดเลยล่ะ แต่พอหลังๆเริ่มอ่อนโยนและแผ่วเบา ฉันเริ่มขาดอากาศหายใจอีกครั้ง และพยายามผลักใบหน้าเขาออกไปแต่ก็ไม่เป็นผล ไอ้บ้าเอ้ย!  ในนี้อากาศน้อยลงๆทุกทีแล้วนะ ฉัน...หายใจ...ไม่ออก

 

          พรึบ

         โครม

          เสียงกระพือปีกของเขาดังขึ้นทำให้เศษซากพวกนั้นที่อยู่บนปีกของเขากระเด็นออกไปคนละทิศละทาง ตอนนี้เราลอยอยู่เหนือพื้นดินราวๆสิบเมตรได้ล่ะมั้ง ถึงเขาจะพาฉันออกมาจากซากนั้นได้แต่เขาก็ยังจูบฉันอยู่ แขนทั้งสองโอบเอวและหลังฉันเขาไว้แน่น ชิ ผมฉันยุ่งหมดเลย ชุดฉันอีกเปื้อนฝุ่นหมดเลย

          และนายเก็นก็พาฉันล่อนลงตรงบริเวณสวนหย่อม และถอนจูบรสเลือดของเขาออกอย่างลังเล

          “นายมันบ้า! ให้ฉันตายก่อนหรือไงถึงค่อยออกมาจากซากนั้น” ฉันรีบผลักเขาออกแล้วโวยวายใส่เขา

          “อย่าพึ่งพูดดีกว่า...มันมาแล้ว”

          นายเก็นพูดแล้วดึงเอาเหล็กที่แทงทะลุปีกและหัวไหล่เขาออก เลือดของเขายิ่งไหลออกมาเรื่อยๆไม่ยอมหยุด แต่เขากลับยื่นนิ่งๆและพรึมพรำบางอย่าง

          “คัมภีร์โฮโนะบททีสองวรรคทีห้าสิบห้า  อาเมโด เอมิด้า เรมิเอก้า อิซาเร เอมิเอก้า วอนต่อเทพ ทามเมเลเนีย จงคืนสภาพตัวข้าก่อนบาดเจ็บด้วยเถิด”

          และพอนายเก็นพูดจบก็ปรากฏแสงสีเหลืองห้อมล้อมตัวเขา เอาไว้ ร่างกายที่มีบาดแผลก็ค่อยๆเลือนหายไป ปีกสีเทาโชกเลือดก็ค่อยๆกลายเป็นสีเทาดังเดิม ไม่เว้นแม้แต่เสือผ้าของเขา มันก็กลับสู่สภาพเดิมเช่นกันนี่มันไม่ใช่การรักษาแล้วล่ะ มันเหมือเขาจะย้อนตัวเองกลับไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนที่จะบาดเจ็บซะมากกว่า

          “นึกว่าตายซะแล้วสิไอ้เลือดมลทินกับยัยเลือดชะตากรรมต้องสาป หนีจากการตามล่าฉันได้ด้วยเหรอนี่ ตอนพวกแกเข้ามาฉันไม่เห็นรู้สึกตัวเลยนะ” นั้นสิใครจะไปรู้ล่ะ

          “จนพวกแกมาอยู่ใกล้ๆฉัน แล้วฉันก็ได้กลิ่นอันหอมหวานของเลือดสดๆในตัวเธอทันทีเลย ทำไมกันนะ” ทำไมกันนะหรือว่า

          ฉันลูบมือลงบนแขนฉันเพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่างและก็พบว่า

          “กำไลของนายเรียว หาย”

          “ว่าแล้วไงมิน่าล่ะมันถึงรู้ตัวว่าเธออยู่ที่นี่”

          “หายไปตอนไหนนะ ฉันนี่แย่จริง ฉันมันตัวซวย ทำคนไม่เกี่ยวข้องต้องมาตายด้วย ฉันมัน...W

          “พอเถอะนามิ หยุดคิดบ้าๆได้แล้ว ยังไงพวกนั้นก็ตายไปแล้ว จะรู้สึกผิดแค่ไหนก็ไม่ทำให้เขาพื้นกันได้หรอก”

          “นั้นสินะ”

          “สั่งเสียกันพอแล้วใช่ไหมฉันจะได้กินยัยนี่ให้อร่อยซะที” แล้วมันก็พุ่งทะยานลงมาใส่ฉันทันที

          “ถ้าทำได้ก็ลองดูสิไอ้สวะ”

          พูดจบนายเก็นก็กางปีกเขาออกและตั้งท่าที่จะโจมตี แต่...เขากลับหยุดซะก่อน และเมื่อสังเกตที่ปีศาจตรงเหนือหัวก็รู้ทันทีว่านายเก็นหยุดทำไม

 

          ฉึก!  ฉึก!

          “!!!อ๊าก!!!”

          โลหะแหลมคมสีมันวาวสองอันแทงทะลุ ตรงอกขวาและซ้ายของปีศาจตนนั้นจากด้านหลัง

          “!!!กะ...แกเป็นใครกัน!!!”

 

          สวบ  สวบ

          บุคลปริศนาไม่พูดอะไร เขากระชากของมีคมนั้นออกด้านข้างตัวปีศาจนั้นแทน ทำให้ร่างนั้นเกือบขาดสองท่อนและล่วงหล่นสู่พื้นดินแล้วค่อยๆสลายกลายเป็นผง และเขาก็ลงสู่พื้นดินตรงหน้าฉันกับนายเก็น ชายคนนั้นเขาค่อนข้างสูงมากใส่ผ้าคลุมมีหมวกสีดำ และมีอักษรเขียนไว้ด้านหลังว่าอามากุสะและมีวงแหวนเหมือนวงเวทย์อยู่รอบๆอักษร เขาสะบัดดาบเอาเลือดของปีศาจที่จัดการเมื่อครู่ออกสองสามทีและเก็บดาบคู่ของเขาใส่ฝัก และมองมาทางฉันกับนายเก็น เอาไงดีล่ะ

          “ขอบคุณที่ช่วยฉันกับนายนี่เอาไว้นะคะ” ฉันพูดแล้วคำนับเขาเพื่อขอบคุณเขา

          “ไม่เป็นไรหรอก ฉันว่าฉันแส่ซะมากกว่านะ แค่นี้แฟนเธอคงจัดการได้แน่ๆ” เสียงคุ้นๆแฮะชายคนนี้

          “นั้นสิแค่นี้ฉันก็จัดการได้สบายอยู่แล้ว”  นายก็ถ่อมตัวไม่เป็นหรือไงนะ

          “พวกเธอชื่ออะไรกันล่ะ บอกหน่อยสิ” เสียงเขาน่าจะเป็นคนมีอายุแฮะแต่เป็นเสียงที่ชวนคิดถึงมากๆ

           “ฉันชื่อ ฮารุนะ นามิ ค่ะยินดีที่ได้รู้จัก” แล้วฉันก็สะกิดนายเก็นให้แนะนำตัว

          “ก่อนจะถามชื่อคนอื่น บอกชื่อตัวเองมาก่อนสิ ” นายนี่มันเสียมารยาทจริงๆเลยนะ

          “นาย จะมากไปแล้วนะเขาอุตส่าห์ช่วยเรานะ”

          “ไม่ได้ขอให้ช่วยซะหน่อย”

           “นาย...”

          “ไม่เป็นไรฉันแนะนำตัวก่อนก็ได้”

          เขาเอามือดึงผ้าคลุมออกทำให้เผยให้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน นั้นมันทำให้ฉันถึงกับน้ำตาไหลออกมา มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเศร้าอันใดทั้งสิน แต่เป็นน้ำตาแห่งความคิดถึง

          “ฉัน ฮารุนะ เซ็นเซ นะยินดีที่ได้รู้จัก” เขายิ้มอย่างอ่อนโยน

          ร่างกายของฉันเริ่มขยับไปเอง และกระโดดกอดชายตรงหน้าเอาไว้ นายเก็นถึงกับงงเลยทีเดียว

         “เธอทำอะไรของเธอน่ะนามิทำไมเธอถึง...” นายเก็นถาม

           “!!!คุณพ่อคะ!!!” คำพูดนี้ทำให้นายเก็นถึงกับอึ้งไปตามๆกัน

          “ว่า...ยังไงนะ”

          “เขาเป็นพ่อ...เธอเหรอ”

          “อืมใช่ไม่ผิดแน่ๆ”

          “หึ หึ หึ นามิ ลูกยังเหมือนเดิมเลยนะ ขี้แยไม่เปลี่ยน” ฉันออกห่างจากเขาเล็กน้อย

          “ก็หนู...หนูเห็นพ่อ...เอ่อ”

          “เห็นพ่อตายในกองเพลิงไปแล้วล่ะสินะ พ่อก็เกือบเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน ไม่ต้องพูดอะไรหรอกพ่อต้องขอโทษลูก ยัยนานะ(พี่สาวฉัน)และแม่เหมือนกันนะที่หายตัวไป พอดีพ่อต้องรักษาตัวจากเหตุการณ์วันนั้นและต้องประจำอยู่ที่โรมอะนะ”

          “ไม่เป็นไรคะแค่พ่อยังอยู่หนูก็ดีใจแล้วล่ะ หนูไม่พ่อโกรธหรอกคะ”

          “ขอบใจลูกมากที่เข้าใจ แล้วเจ้าหนุ่มนี่ล่ะ”

          “ผะ..ผม โอซากะ เก็นกิชิ ครับขอฝากตัวด้วยนะครับคุณพ่อ เอ้ย คุณเซ็นเซ” หนอยนายนี่เนียนเลยนะ

          “เช่นกันเจ้าหนุ่ม ขอบใจมากที่ดูแลลูกสาวฉันเป็นอย่างดีเลย”

          “ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงชีวิตผมสละให้เธออยู่แล้ว” นายนี่ทำคะแนนเลยนะ

          “จำคำพูดนี้เอาไว้ล่ะ”

          “ครับ ผมจะจำเอาไว้”

          “พ่อบอกไปอยู่ที่โรม งั้นก็แสดงว่ารู้จักกับนายเรียวกับคุณซากุระสิคะ”

          “หึ หึ หึ พวกนั้นเป็นศิษย์เอกของพ่อเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญพ่อส่งพวกเขามาปกป้องลูกเองแหละ”

          “งั้นคุณท่านที่พวกนั้นพูดถึงก็พ่อนะสินะ”

          “ใช่แล้ว เอาไว้เราค่อยคุยกันที่บ้านนะ กลับบ้านกันเถอะ”

          “ค่ะคุณพ่อ” ฉันและพ่อพากันเดินออกไปจากบริเวณนั้น ที่เหลือแต่นายเก็นทำหน้าเหวออยู่ แต่

          “นายก็มาด้วยกันสิ” พ่อฉันหันไปชวนนายเก็นด้วยซะงั้น

          “อะไรนะครับ” นายเก็นทำหน้างง

          “ถ้าไม่รีบ ฉันเปลี่ยนใจขึ้นมาแล้วเธอจะเสียดายนะ”

          “คะ...ครับ รอด้วย”

 

           ที่บ้าน

          ทันทีที่เปิดประตูบ้านเขาไปฉันก็แทบหูอื้อทันที

          “นามิ ลูกไปทำอะไรมาเนี่ย เนื้อตัวมอมแมมไปหมดเลย แล้วนี่พาใครมาอีกล่ะเนี่ย แฟนลูกที่มาเมื่อเช้าเหรอ เขาพาลูกไปไหนมาแล้ว....” แม่ถามขึ้นเมื่อเห็นสภาพมอมแมมของฉันแต่ก็หยุดถามทันทีเมื่อเจอกับบุคคลที่สามที่ตามเรามาด้วย

          “ไงที่รักผมกลับมาแล้วนะ” แม่อึ้งอยู่พักใหญ่แล้วก็

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา