Dangerous!! ที่นี่ไม่ปลอดภัย เมื่อฉันต้องมาเป็นทาสนายซาตาน

8.9

เขียนโดย LazyGirl

วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.10 น.

  10 บท
  116 วิจารณ์
  29.09K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558 02.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) บทที่3 พายุลูกใหญ่ (part2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

                ฉันตะโกนลั่นพลางเงยหน้ามองชายตรงหน้าจัง ๆ เมื่อสบตาเขาเท่านั้นแหละฉันก็กลายเป็นอัมพาตทั้ง ๆ ที่ไม่อยากเป็น ไม่ใช่ว่าเขามีพลังวิเศษหรือมีเนตรวงแหวนที่ทำให้ฉันหยุดการกระทำทุกอย่างนะ แต่เพราะใบหน้าเรียวยาวและคิ้วหนา ๆ นั่น...มันเป็นเหมือนมนต์สะกดทำให้ฉันทำอะไรไม่ถูก =,.=

                "แล้วเธอจะอธิบายไอ้นี่ยังไง เธอเป็นโรคจิตเหรอ? จะขโมยของของฉันไปขายใช่มั้ย!!" คำพูดเหล่านั้นทำฉันหายจากอาการอัมพาตทันที ว่าฉันเป็นโรคจิตนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ทำไมต้องหาว่าฉันจะเอาของของเขาไปขายด้วยล่ะ -O-

                "ฉันจะขโมยของของนายไปขายทำไม? จะได้สักกี่บาทเชียว -_-" ฉันจ้องไอ้กล่องสีชมพูที่ยังไม่ทันโยนให้ชะชีพวกนั้นแต่หมอนี่ดันยึดไปได้ซะก่อน มันก็แค่ดูเร็กซ์ที่เปิดกล่องแล้ว จะเอาไปขายต่อให้ใครล่ะ -_-

                "หา? เธอขึ้นมาขโมยของห้องฉันทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าฉันเป็นใครงั้นเหรอ?"

                "โอ้โห...คิดว่าตัวเองดังเท่าณเดช คูกิมิยะเรอะ? นายยังดังไม่มากพอที่คนอย่างฉันจะรู้จักหรอก" ฉันยักไหล่ไม่สนใจจนลืมไปแล้วว่าตัวเองผิดที่มาขโมยของของเขา อ้าวซวยสิครัช! ขืนยังทำตัวแย่แบบนี้เขาต้องไม่ให้อภัยฉันแน่ ขอโทษตอนนี้จะทันไหมนะ TOT

                แต่คนปากร้ายอย่างเขาก็ไม่ควรได้รับคำขอโทษจากฉันนะ

                เอ๊ะ...แต่ฉันผิดอยู่นี่นา =_=;;

                "เฮอะ เธอคงเป็นพวกโลกแคบสินะ ถ้าเธอรู้ว่าฉันเป็นใครเธอคงไม่กล้าพูดจาแบบนี้หรอก” แล้วตกลงเขาเป็นใครล่ะ พูดเหมือนตัวเองเป็นคนใหญ่คนโตงั้นแหละ ขี้โม้จัง บ้ารึเปล่า? รู้สึกจะคุยไม่รู้เรื่องแล้วแฮะ หน้าตาก็ดีแต่ไม่น่าเป็นบ้าเลย

                “เออนี่ ฉันกลับก่อนนะ ดูแลตัวเองด้วย ว่าง ๆ ก็ไปเช็คสมองบ้าง เป็นห่วง บาย” ฉันโบกมือให้หมอนั่นก่อนจะเดินผ่านเขาเข้ามาข้างในอีกครั้ง แต่

                ฟึ่บ!!!

                เขาจับฉันไว้!! TOT

                “คิดจะหนีงั้นเหรอ? ขโมยของของคนอื่นแล้วยังกล้าเดินเข้าห้องคนอื่นอีก ไร้มารยาทชะมัด เกิดเป็นผู้หญิงได้ไงเนี่ย? -_-”

                “ขโมยของอะไร? นายเห็นฉันเอาของของนายออกจากห้องนี้ไปป่ะล่ะ อย่ามาปรักปรำกันนะ” เออเอาสิ บางทีหมอนี่อาจจะไม่เห็นตอนที่ฉันโยนพวกสารส้มลงไปก็ได้ นี่แหละข้อแก้ตัว คิคิคิ >_<

                “ฉันเห็นเธอโยนบางอย่างลงไปข้างล่างแต่เข้ามาห้ามไม่ทันเฉย ๆ ดีนะที่ฉันมาทันตอนเธอถือไอ้ดูเร็กซ์นี่ไว้ ผู้หญิงอะไรโรคจิตชะมัด -_-” ไอ้ของนั่นฉันกะจะเอาไว้แกล้งนังชะนีพวกนั้นเฉย ๆ ถ้านายไม่เข้ามาเห็น เรื่องมันก็จบแล้วน่า!

                “สรุปเธอเป็นขโมย แล้วก็โรคจิตด้วยสินะ หึ!” หมอนั่นหัวเราะหึในลำคอ และมือของเขาก็ยังจับแขนของฉันไว้โดยไม่ผ่อนแรงลงเลย เริ่มเจ็บแล้วนะ!

                “เลิกเรียกฉันว่าโรคจิตได้แล้ว นายกำลังเข้าใจผิดนะ!” ฉันพยายามแกะมือหนา ๆ ของหมอนั่นออกจากแขนเล็ก ๆ ของตัวเอง แต่แน่นเป็นบ้า กินกาวเป็นอาหารหรือไงเนี่ย!! >O<

                “เข้าใจผิดงั้นเหรอ? ฉันเข้าใจผิดเรื่องอะไรล่ะ?” เขายังคงกวนประสาทโดยการยักคิ้วถาม

                “จริง ๆ ฉันไม่ใช่ขโมย!!”

                “แล้วเธอโยนของพวกนั้นลงไปทำไม? ทำกันเป็นขบวนการด้วยนี่ ใช่ไหม?!” เขาทั้งตะคอกทั้งบีบแขนฉันแรงมากกว่าเดิม โอ๊ย!! มันปวดไปทั้งกระดูกแล้วนะ!

                “ไม่ใช่แบบนั้น! ฉันถูกใช้ให้ขึ้นมาที่นี่!!”

                “อย่ามาโกหกซะให้ยาก ฉันไม่เชื่อหัวขโมยอย่างเธอหรอก! เธอมั-”

                “โฮ่ง โฮ่ง!!” อ๊ะ เสียงหมานี่

                ไอ้เจ้าขนปุยที่เมื่อกี้หลับอยู่ในห้องวิ่งออกมาตรงที่เรากำลังทะเลาะกันอยู่

                “เฮ้ ไต้ฝุ่น!” เขาหันมองหมาตัวนั้นก่อนจะว่าฉันต่อ “เพราะเธอเสียงดังนั่นเเหละ ลูกฉันตกใจเลยเห็นไหม!” ว่าจบ เขาก็เข้าไปอุ้ม ‘ลูก’ ของตัวเองขึ้นมา นี่ฉันกำลังทะเลาะกับพ่อลูกอ่อนอยู่เหรอ =_=;;

                “โฮ่ง โฮ่ง!!”

                “นี่ ช่วยหาอะไรยัดปากมันหน่อยได้ไหม ฉันเกลียดเสียงหมาเห่าที่สุด หนวกหู! -_-” ฉันบ่นพรางยกมือขี้นอุดหูตัวเอง น่ารำคาญชะมัด ทะเลาะกับคนไม่พอยังต้องมาทะเลาะกับหมาอีก เดี๋ยวก็กัดหัวขาดซะหรอก แง่ง!!

                “’มัน’? เธอเรียกลูกชายของฉันว่า ‘มัน’ งั้นเหรอ” 

                “ใช่ แล้วทำไม? มัน มัน มัน มัน! มันเห่าเสียงดังน่ารำคาญ ฉันหนวกหู!!!” ฉันทั้งเรียก ‘มัน’ ทั้งตบหัวไอ้หมานั่นเล่น ถึงหมอนี่จะดูน่ากลัวแต่ก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ล่ะน่า ต้องแกล้งหมาของหมอนี่ให้หนักกว่านี้ ฮึ่ย!!

                “เธอเลิกตบหัวลูกฉันได้แล้ว ไม่อย่างนั้นฉันฆ่าเธอแน่!!”

                “อุ๊ยกลัวจังเลย มือสองข้างก็ไม่ว่างมัวแต่อุ้มลูกอยู่ แบบนี้จะเอาอะไรมาฆ่าฉันล่ะ กรี๊ดดดด!!!”

                “แง่ง!!!”

                โอ๊ย!! อยู่ดี ๆ ไอ้หมาหน้าโง่ก็งับมือฉันเฉยเลย ดีนะที่โดนเฉี่ยว ๆ ไม่งั้นมือขาดแน่ อ้าวเฮ้ย!! มีเลือดด้วย ฉันจะเป็นพิษสุนัขบ้าไหมเนี่ย!! O_O

                “เจ็บอ่ะ หมาของนายทำร้ายฉัน!! TOT” ฉันประคองมือตัวเองแล้วเป่าฟู่ ๆ หวังให้หายเจ็บ แต่ไม่เลย เลือดมันไหลเยอะยิ่งกว่าเดิมแถมยังปวดตุบ ๆ ด้วย TOT

                “ฮ่า ๆ สมน้ำหน้า แกล้งลูกฉันก่อนทำไมล่ะ แล้วอย่าคิดนะว่าแค่มีเลือดออกแล้วฉันจะสงสารน่ะ!” หมอนั่นหัวเราะชอบใจก่อนจะวางลูกของตัวเองลงพื้นแล้วป้อนขนมเป็นของขวัญที่กัดฉันจนเลือดไหล

                “ไอ้คนใจร้าย ฉันเจ็บอยู่ยังจะมาสมน้ำหน้าอีก!” หน็อย ไอ้หมาบ้า! ฉันจะฆ่าทั้งเจ้าของทั้งสัตว์เลี้ยงเลย!

                เริ่มจากแกก่อนเเล้วกัน!

                ฉันพุ่งไปหาหมาตัวเดิมแล้วเงื้อมมือขึ้นพร้อมจะตบมันอีกครั้ง แกบังอาจมากที่ทำให้โฉันเจ็บปวด ฉันเคยบอกไปแล้วใช่ไหมว่าฉันเกลียดหมา!!

                หมับ!!

                "เธอจะทำอะไร?" ก่อนที่มือของฉันจะฟาดโดนปากของไอ้หมาบ้านั่น เขาใช้มือหนา ๆ จับข้อมือฉันไว้พร้อมออกเเรงบีบจนมันปวดแปล๊บไปหมด แววตาคู่นั้นดูเปลี่ยนไป มันดุดันกว่าเดิม

                "ปล..เปล่านี่ ไม่ได้จะทำอะไร"

                “ขืนเธอทำร้ายลูกชายของฉันอีก...อย่าหาว่าไม่เตือนล่ะ” เขาสะบัดมือฉันออกจนรู้สึกเหมือนไหล่จะหลุดออกมา โมโหอะไรขนาดนั้น แค่หมาน้อยตัวเดียวเนี่ยนะ

                 “ฉันไม่ทำอะไรมันเเล้วก็แล้ว งั้นขอตัวกลับบ้านก่อนนะ” ฉันผลักหมอนั่นให้ออกห่าง

                แต่...

                เคล้ง!

                เคล้ง!!

                เคล้งงง!!!

                ทันทีที่ฉันออกแรงผลักหมอนั่น เขาก็ตัวเซไปข้างหลังจนชนกับกระถางดอกไม้ล้มระเนระนาดเศษดินกระจุยกระจายไม่เหลือคำว่าระเบียบ ที่มันเป็นแบบนั้น...

                เพราะฉันงั้นเหรอ! O_O

                 “นี่เธอ...ทั้งขี้ขโมย ทั้งโรคจิต ชอบทำร้ายลูกคนอื่น แล้วยังชอบทำลายข้าวของชาวบ้านอีกเหรอ?!” เขาชี้นิ้วไปที่เศษกระถางต้นไม้เเล้วต่อว่าฉันที่เป็นตัวต้นเหตุ เฮ้ยเดี๋ยว! ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ >_<;;;

                 “ฉ..ฉันไม่รู้ว่าไอ้กระถางต้นไม้นั่นมันจะตัวอ่อนล้มไปเองนี่ ฉันไม่รู้เรื่องนะ”

                 “ทำผิดเเล้วไม่ยอมรับผิดอีก แล้วใครจะเก็บกวาดมัน? หา?!”

                 “รู้แล้ว ๆ เลิกตะคอกสักทีเถอะ ฉันผิดเองเหละ เดี๋ยวฉันเก็บให้ก็ได้” ฮือ ๆ ทำไมถึงได้ซวยแบบนี้ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดเรื่องแบบนี้เลยนะ T^T

                 “แค่เก็บกวาดมันยังไม่พอหรอก เธอรู้รึเปล่าว่าไอ้กระถางนั่นฉันสั่งซื้อมาจากสหรัฐอเมริกา นั่นรุ่นอันลิมิเต็ดเชียวนะ”

                ขนาดนั้นเชียว!! O[]O

                 “ง..งั้นมันต้องเเพงมากเลยสิ T^T”

                “โคตรแพง เธอมีปัญญาจ่ายไหมล่ะ?”

                 “นายคิดว่ามีไหมล่ะ? T^T” ถ้าจะคุยเรื่องเงินกับฉันให้ไปคุยกับกระปุกออมสินที่บ้านนู่น

                 “ไม่มีสินะ เอ...ฉันจะทำยังไงกับเธอดีน้า...” หมอนั่นทำหน้าครุ่นคิด แต่มุมปากเขากลับยิ้มแปลก ๆ

                 “นี่ ไม่ใช่ว่านายตั้งใจเดินถอยหลังไปชนไอ้กระถางตั้นไม้นั่นแล้วใส่ร้ายฉันเหรอ? =_=+”

                 “ใครเขาอยากทำสวนที่ตัวเองตั้งใจตกเเต่งเองพังล่ะ เธอนี่ก็คิดได้นะ” ใครจะไปรู้ นายอาจจะทำอย่างที่ฉันว่าจริง ๆ ก็ได้นี่นา

                 “ถ้าเธอไม่มีเงินจริง ๆ คงต้องชดใช้ด้วยร่างกายเเล้วล่ะ” ฉันเเห็นเเววตาเจ้าเล่ห์ฉายออกมาจากดวงตาสีดำสนิทของเขา คิดจะทำอะไรน่ะ!

                 “อย่ามาทะลึ่งนะ!!” ฉันก้าวถอยหลังสองก้าวพลางยกมือขึ้นปิดบังร่างกาย ถึงแม้วันนี้ฉันจะไม่ได้แต่งตัวโป๊ก็เถอะ สายตาผู้ชายสามารถมองทะลุเสื้อผ้าพวกนี้ได้นะ อ๊าย! เขาหลงเสน่ห์หุ่นอันบอบบางของฉันเเล้วแน่ ๆ  >_<!!

                 “โห...ใครจะไปคิดเรื่องลามกกับหัวขโมยโรคจิตอย่างเธอ แค่คิดเรื่องอย่างว่ากับเธอฉันก็ขนลุกแล้ว!”

                 “ว..ว่าไงนะ! แล้วไอ้ชดใช้ด้วยร่างกายที่นายว่าล่ะ มันหมายความว่ายังไง ฉันไม่ทำตามที่นายบอกเด็ดขาด!! >_<”

                 “คิดดีแล้วเหรอที่ขัดใจฉันน่ะ?” จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนน้ำเสียงเป็นจริงจัง 

                 “ทำไมฉันจะขัดไม่ได้ล่ะ”

                “เธอรู้จักชายที่น่ากลัวที่สุดในเมืองนี้หรือเปล่า?” เปลี่ยนเรื่องเฉยเลย พยายามจะบอกอะไรกันแน่

                "ฉันไม่รู้จักไอ้คนแบบนั้นหรอก" ฉันตอบพลางหลบสายตาหันหน้าไปทางอื่น

                “ก็คนที่ใครต่อใครก็ไม่กล้าต่อกรด้วยไง”

                 “...”

                “เขาเป็นคนเลว และมีเงินมากมาย สามารถซื้อได้ทุกอย่าง”

                 ...

                “เป็นชายที่เห็นผู้หญิงเป็นเพียงแค่ของเล่น…แต่ก็มีคนมากมายที่อยากเป็นของเล่นของเขา”

                .....

                “เขาเป็นผู้ชายที่ชอบดูความทรมานของคนอื่น”

                “ฮ...เฮอริเคนเหรอ...”

                “เธอก็ไม่ได้โง่นี่นา” เขาคลี่ยิ้มออกมาบาง ๆ พลางใช้มืออีกข้างจับคางฉันเชิดขึ้น

                “จะทำอะไรน่ะ!” ฉันสะบัดหัวออกจากมือสกปรกของหมอนั่นแล้วผลักตัวเขาให้ออกห่าง

                “ก็จะให้เธอมองหน้าฉันไง จะได้จำไปจนตายว่าฉันนี่แหละ คือ‘ชายคนนั้น’”     

                เดี๋ยวนะ...         

 

                “พี่เฮอริเคน O[]O!!!”

 

                จะว่าไป ก่อนที่พวกชะนีกับทิงเจอร์จะเผ่นราบ พวกนั้นก็พูดแบบนี้ออกมาเหมือนกัน....

                เอ๊ะ...!!!!

                อย่าบอกนะว่าเขาคือเฮอริเคนคนนั้น!

                คนที่เขาว่ากันว่าเป็นบุคคลที่ danger มากที่สุด ใครพบเจออย่าได้เข้าใกล้เด็ดขาดเพราะหากทำให้เขาไม่พอใจเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้ตัวเองถึงแก่ชีวิตได้ เขาคือบุคคลที่ใครต่อใครไม่อยากยุ่งด้วย ได้ข่าวมาว่าอีตาเฮอริเคนเป็นหนุ่มหน้าตาดีแต่เป็นนักเลงที่รวยที่สุด เขาเก่งและเท่ห์มาก เขาสามารถเอาชนะชายร่างบึกสิบคนได้โดยไม่มีบาดแผลเลย ยังไม่พอ! ได้ยินมาอีกว่าหมอนี่ทำร้ายทุกคนที่ขัดใจเขาไม่เว้นแม้กระทั่งเด็ก ทารก คุณยาย หรือผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เหมือนกับฉัน! นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย! ยัยพวกนั้นให้ฉันมาขโมยของอีตาบ้านี่ทำไม เขาอันตรายมากเลยนะ! ถ้าฉันรู้ว่าที่นี่คือที่อยู่ของเขา ฉันจะไม่มาที่นี่เลยเด็ดขาด ฉันจะไม่มาช่วยยัยทิงเจอร์เลย!TOT

                นี่ฉัน...กำลังอยู่ในพายุใช่ไหม...

                เป็นพายุลูกใหญ่ซะด้วยสิ!!

                “หืม? เงียบไปเลยแฮะ เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วเหรอ? หึ” หัวเราะอีกแล้ว คงจะพอใจล่ะสิที่เห็นฉันตัวสั่นแบบนี้ เอายังไงดีล่ะ ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ เขาต้องเข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นขโมยจริง ๆ แน่ ๆ และเขาก็จะฆ่าฉันด้วย!!

                "เอ่อ...คุณเฮอริเคนคะ ฉันไม่ได้มาขโมยของจริง ๆ ฉันถูกใช้ให้ขึ้นมาที่นี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเอาของของคุณไปเลยนะ ได้โปรดเชื่อฉันเถอะ"

                “แต่เธอก็ขโมยของสำเร็จแล้วนี่ จริงไหม?” เขากอดอกมองฉันด้วยดวงตาคู่เดิม ถึงมันจะไม่น่ากลัวเท่าตอนแรก แต่จ้องนาน ๆ มันก็หวั่น ๆ เหมือนหัวจะขาดอยู่เหมือนกันนะ 

                “ฉันไม่รู้ว่าเธอเอาอะไรไปบ้าง แต่เธอต้องชดใช้มัน”

                “เดี๋ยวก่อนสิ ฉัน...ฉันไปเอาคืนมาให้ก็ได้นะ ถ้านายปล่อยฉันไปตอนนี้ ฉันอาจจะตามตัวพวกนั้นทันก็ได้!”

                “ไม่อ่ะ ของหายฉันซื้อใหม่ได้ แต่ความรู้สึกที่มันเสียไป มันเอากลับมาไม่ได้หรอกนะ” นายรู้สึกอะไรกับฉันงั้นเหรอ และของที่ฉันทำพังนายก็ซื้อใหม่ซะสิ -_-

                “เธอไม่รู้หรอกว่าฉันเกลียดหัวขโมยมากขนาดไหน แม้ว่าเธอจะสรรหาเอาคำพูดใดมาพูดให้ตัวเองดูน่าสงสารก็ตาม ฉันก็ไม่เชื่อ ฉันไม่มีวันเชื่อคำพูดหลอกลวงของหัวขโมยโรคจิตอย่างเธอเด็ดขาด เธอคือโจร ยังไงฉันก็ต้องลงโทษคนผิดให้รู้จักหลาบจำ ไม่อย่างนั้นเธอก็จะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันสิ้นสุด” แต่นี่ครั้งแรกของฉันนะ แล้วฉันก็ไม่ได้ตั้งใจด้วย! TTOTT

                “นายมีหน้าที่ตัดสินโทษคนอื่นด้วยเหรอ นายเป็นแค่เฮอริเคนนักเลงที่น่ากลัวที่สุดในเมืองเองไม่ใช่เหรอไง” 

                “แต่ฉันมีอำนาจนะ เธอก็รู้” 

                แต่ก็จริงอย่างที่บอกแฮะ เขาเป็นคนมีอำนาจ มีชื่อเสียง เป็นมหาเศรษฐี

                หรือเป็นลูกมหาเศรษฐีกันแน่นะ =_=

                แต่เขาก็ได้รับการดูแลกิจการบางอย่างของครอบครัว ซึ่งตระกูลของเขาคือ ‘ยุคันตวาต์’ เป็นตระกูลที่รวยที่สุด เขารวยมากจนสามารถย้ายไปอยู่เมือง ‘โพรเพลสลิตาร์’ เมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในประเทศได้ และด้วยความที่เขารวยประกอบกับความดุร้าย ทุกคนจึงเกรงกลัวและไม่กล้าแม้เเต่จะสนทนาด้วย เขากลายเป็นคนมีอำนาจโดยไม่รู้ตัว

                แต่ก็คงจะน้อยกว่าพ่อเขาล่ะนะ =_=

                และน้อยกว่าเจ้าเมือง ‘อิลิคโอ’ ด้วย (เมืองที่ฉันอาศัยอยู่) หรือเมืองแห่งความวุ่นวายแห่งนี้ ทางที่จะเอาชนะเขาได้คือฉันต้องอยู่เหนือกว่าพ่อของหมอนี่ หรือเหนือกว่าเจ้าเมืองอิลิคโอให้ได้ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมามันไม่มีทางเป็นได้เลย ฉันมันก็แค่คนธรรมดา TOT

                อธิบายให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอมฟังสินะ คนอะไรหัวเเข็งชะมัด!

                “ดูเหมือนฉันจะไม่มีทางเลือกแล้ว นายอยากให้ฉันทำอะไรล่ะ” หากฉันทำให้เขาพอใจได้ ฉันอาจจะจบเรื่องนี้ได้โดยเร็วก็ได้

                “ในที่สุดก็ยอมเข้าใจสักที แต่ไม่ใช่ว่าเธอทำตามที่ฉันต้องการแล้วเธอจะรอดนะ เด็กน้อย”

                “อะไรนะ! นี่มันขี้โกงนี่!!” หมายความว่า ถึงแม้ฉันจะทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง แต่ยังไงเขาก็ไม่ยอมปล่อยฉันไปอยู่ดีใช่ไหม คนอะไรโหดร้ายชะมัด!!

                “ฉันจะต้องทำโทษเธอจนกว่าเธอจะรู้สำนึก” แต่ฉันไม่มีอะไรให้สำนึกนี่นา ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่ใช่คนผิดนะ นายจับตัวมาผิดคนแล้ว TTOTT

                “ถ้าฉันสำนึกผิดแล้วนายจะปล่อยไปใช่ไหม? O^O” ฉันพยายามทำหน้าให้น่าสงสารที่สุด เผื่อเขาจะใจอ่อน >_<

                “อาจจะ”

                “อาจจะ? หมายความว่าไง จะให้ฉันเป็นทาสนายตลอดไปงั้นเหรอ นี่มันยุคไหนแล้วยะ -O-” 

                “ทาส? ฟังดูไม่เลวนี่ ฉันชอบนะ”

                ไม่น่าพูดเลยแฮะ -_-;;

                “ต่อไปนี้เธอเป็นทาสของฉัน เธอต้องทำตามที่ฉันกับไต้ฝุ่นบอกทุกอย่าง”

                “ไต้ฝุ่นนี่ใครอ่ะ มีคนอื่นด้วยงั้นเหรอ? =_=” อย่าบอกนะว่าฉันต้องรับใช้คนสองคนน่ะ เหนื่อยตายกันพอดี -O-

                “ไต้ฝุ่นคือลูกชายของฉัน นี่ไง ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เนี่ย”

                “โฮ่ง!!”

                นั่นมันหมา -_-

                “แล้วฉันจะฟังไอ้...หมายถึงลูกชายของนายออกได้ยังไงว่าเขาต้องการอะไร”

                “อยู่ ๆ ไปเดี๋ยวก็เข้าใจเองแหละน่า ถ้าไม่เข้าใจก็มาถามฉันสิ”

                จะบ้ากาละมัง! คนบ้าที่ไหนจะฟังภาษาหมารู้เรื่อง เพี้ยนกันไปใหญ่แล้ว!! 

                “เดี๋ยวนะ ‘อยู่ ๆ ไป’ นี่หมายความว่าไง -O-” อย่าบอกนะว่า...

                “ต้องให้ฉันอธิบายอีกเหรอ? ก็อยู่ที่นี่กับฉันไง เป็นทาสก็ต้องอยู่กับนายท่านสิ จริงไหม?” เวรล่ะ!! หมอนี่เอาจริงเหรอเนี่ย!! เขาไม่ได้มีปัญหาทางสมองใช่หรือเปล่า เขาไม่ได้บ้าใช่ไหม TOT

                “ฉันจะอยู่กับนายได้ยังไง ฉันมีพ่อมีแม่นะ แล้วก็มีบ้านด้วย ผู้ปกครองของฉันไม่มีทางปล่อยให้ลูกสาวสวย ๆ คนเดียวในครอบครัวมานอนกับผู้ชายเพียงลำพังหรอก” ใช่! นี่แหละทางรอดทางเดียวของฉัน ถึงแม้ว่าจริง ๆ แล้วฉันจะอยู่บ้านตามลำพังก็เถอะ อย่างน้อยข้ออ้างนี้ก็น่าจะทำให้ฉันรอดได้

                “บ้านเธออยู่ไหนล่ะ เดี๋ยวฉันไปคุยกับพ่อและแม่ของเธอให้เอง” เขาพูดพลางล้วงกุญแจรถออกมาจากกระเป๋ากางเกง

                เอาจริงดิ!! -O-

                “พ่อแม่ของฉันโหดมากเลยนะ ไหนจะปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา น้อง ๆ พี่ ๆ และหลาน ๆ อีก ไม่ไหวหรอก นายเคลียร์ไม่หมดแน่ ๆ”

                “อยากให้ครอบครัวเธอรู้ใช่ไหมว่าเธอเป็นจอมโจรโรคจิตที่ไล่ขโมยดูเร็กซ์ของใครต่อใครไปทั่ว แล้วไหนจะค่าเสียหายไอ้กระถางต้นไม้รุ่นอันลิมิเต็ดนี่อีก หา?!”

                “ไม่!! ฉันไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ทั้งนั้น!! TOT” จอมโจรขโมยถุงยางเหรอ กรี๊ด!! เป็นฉายาที่ทุเรศที่สุด! ถ้าอีหมอนี่ป่าวประกาศออกไปรับรองว่าฉันต้องดังแน่! แล้วไหนจะค่ากระถางต้นไม้สุดเเพงนั่นอีก เอาชีวิตฉันไปทั้งชีวิตคงจ่ายมันไม่หมดหรอก T^T

                “งั้นจะให้ฉันไปบ้านเธอได้หรือยัง ^^”

                “ไปขอพ่อแม่ของฉันเหรอ...” ไม่มีใครอยู่ที่บ้านทั้งแหละ มีแต่ฉันตัวคนเดียว T^T

                “ไม่ใช่แค่ขออนุญาตนะ เธอต้องเก็บข้าวของมาอยู่กับฉันที่นี่ด้วย”

                “หา!! ที่นี่? ทั้งวันทั้งคืนเลยเหรอ?!!” ฉันเบิกตาโตมองรอบตัว ก็ดีใจอยู่หรอกที่จะได้เข้ามาอยู่ในคอนโดฯหรู ๆ แบบนี้ แต่...ทำไมฉันต้องกับเขาด้วยล่ะ!!

                “ใช่ อ้อ ไม่สิ ไม่ใช่ชั้นนี้ ฉันจะย้ายไปอยู่ชั้น6 ไอ้แก๊งหัวขโมยโรคจิตพวกของเธอจะได้ปีนบันไดมาช่วยเธอไม่ได้ยังไงล่ะ” ฉันขอถอนคำพูดที่เมื่อตอนต้นบอกว่าเขาเป็นคนสะเพร่า จริง ๆ เขาเป็นคนรอบคอบมากต่างหากล่ะ!ไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้หนีเลย TOT 

                “เอาล่ะ เราไปบ้านของเธอกันเถอะ ฉันอยากพบหน้าพ่อกับแม่ของเธอจะตายอยู่แล้ว ^^”

                 

____________________________

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา