Decisive wars สู่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง

7.2

เขียนโดย CyCloEclipse

วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.46 น.

  44 ตอน
  5 วิจารณ์
  42.83K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

31) สถานที่แสนคุ้นเคย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

อีกแล้ว..!? ทำไมมันต้องมาลงเอยที่โรงพยาบาลอีกแล้วฟะ!! ครั้งก่อนก็ฮิซาชิ...ก่อนหน้านั้นก็มิคาสะกับพวกนางฟ้าตัวหลักอีกสอง...คราวนี้จะเอาให้ตัวละครหลักๆมันมาลงเอยที่โรงพยาบาลกันให้หมดเลยใช่ไหม!? จะเอาอย่างนั้นใช่ไหม!!




ในห้องที่มีกลิ่นยาและกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง ร่างของมิรันและฮานามิที่หมดสติไปและไม่มีการตอบสนองใดๆเพราะยาสลบเฉพาะของเหล่าแองเจลอยด์ที่เรียกว่า"ความเจ็บปวดที่ข้ามขั้นความเจ็บปวดไปไกล"กำลังออกฤทธิ์อย่างขันแข็งเพื่อถนอมพลังในร่างกายให้ได้มากที่สุดเพื่อทำการรักษาบาดแผลทั้งภายนอกและภายในโดยเร็วที่สุดเมื่อพลังงานที่สะสมเอาไว้เพิ่มขึ้นไปถึงจุดเหมาะสม ในระหว่างนั้นร่างกายที่ผ่านการต่อสู้มานานของทั้งสองคนก็กำลังได้รับการรักษาโดยศัลยแพทย์ประจำโรงพยาบาลในประเทศแคนาดาอยู่




"ทำไมกันล่ะ...ทำไมยัยพวกนั้นถึงต้องมาลงเอยที่ห้องผ่าตัดด้วยล่ะเนี่ย! ทั้งๆที่ถ้าทั้งสองคนนั้นเลิกต่อสู้กันแล้วหันมาสู้กับโซลเนลและอัลกิวรอสตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องมานอนอย่างนั้นแล้วแท้ๆ..."



บริเวณที่นั่งรอของเหล่าญาติของผู้ที่กำลังได้รับการผ่าตัดที่เกี่ยวพันกับชีวิตที่จัดเตรียมเอาไว้หน้าประตูกั้นระหว่างความจริงและจินตนาการนั้น... ฮิซาชิที่เป็นห่วงอาการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เขาจะเคยเห็นseiriคนไหนจะไก้รับมาก่อนนับตั้งแต่กรณีของมิคาสะที่ฝืนขีดจำกัดของตัวเองไปมากเริ่มอยู่ไม่สุขคว้าเอาเครื่องดื่มที่ทางโรงพยาบาลจัดเอาไว้ให้ญาติผู้ป่วยดื่มฆ่าเวลาซัดลงคอเป็นจำนวนมากจนถูกสั่งห้ามไม่ให้กินมากไปกว่านี้


ในขณะที่ฮิโรมิที่ไหวตัวทันก็ทำการกักตุนสินค้าจนฮิซาชิถึงกับกุมขมับ...




"เธอไม่ต้องเป็นห่วงสองคนนั่นหรอกน่า... ฉันมั่นใจว่ายังไงสองคนนั้นก็ต้องออกมาวิ่งปร๋อทันทีที่การรักษาเสร็จสิ้นแน่ๆ! ฉันขอแค่ให้นายใจเย็นแล้วนั่งอยู่เฉยๆรอคุณหมอวิ่งออกมายิงยาสลบใส่ยัยมิรันเท่านั้นเอง"


ฮิโรมิพูดอย่างไม่วิตกกังวลอะไรเลยนอกจากของกินที่อยู่ในอ้อมอกอันใหญ่มโหฬารของเธอ(ซึ่งอันที่จริงมันก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น)พร้อมทั้งกวาดสายตาไปรอบๆราวกับสุนัขที่หวงกระดูก ผิดกับฮิซาชิที่เดินเข้ามาขโมยกินของเธออย่างหน้าตาเฉย...


"ถ้าเป็นอย่างที่เธอว่ามันก็ดีไป...แต่เท่าที่ฉันเห็นยัยมิรันโดนท่าไม้ตายของฮานามิเข้าไปมันไม่ใช่เล่นๆเลยนะ พลังทำลายระดับยัยฮานามิน่ะต่อให้เป็นฉันที่ใช้ร่างอิคลิปส์ก็ยังแทบจะยืนไม่ไหวเลย...แล้วมิรันที่แข็งแกร่งแค่ระดับร่างโคโรน่ามันจะไปไหวได้ยังไง!?"


ฮิซาชิยังคงเดินวนไปรอบๆต่อไปจนฮิโรมิเริ่มจะตาลายและหมดความอดทนลงทีละนิด เธอตัดสินใจกระโดดลุกขึ้นไปทำทุกวิถีทางเพื่อให้ฮิซาชิผ่อนคลายอิริยาบถลงบ้าง...เพื่อสายตาของเธอเอง





                                 กร้วม..!!!! 




"อ๊าก!!! หูข้า!!!!"


ด้วยแรงบดที่มหาศาลจากขากรรไกรที่ผ่านสมรภูมิอาหารมานักต่อนักจนเทียบเท่าครึ่งหนึ่งของมิรันจนมีแรงบดเพียงพอในการผ่าลูกแอปเปิ้ลทั้งผลเป็นสองส่วนเท่าๆกันในแนวขวาง ทำให้ฮิซาชิที่ได้รับบาดเจ็บจากท่าไม้ตายของอัลกิวรอสมาก่อนหน้านี้ทรุดลงกับพื้นเพื่อส่งสัญญาณให้สาวน้อยหัวใจเบิ้มหยุดการกระทำทั้งหมดของเธอลงอย่างช่วยไม่ได้ 



"พอๆๆๆ..! พักยก เฮ้ย! พักยกยัยบ้า!!"



ฮิซาชิได้รับความทรมานสุดติ่งหูจากการขย้ำลงมาอย่างรุนแรงของขากรรไกรที่ฮิโรมิทำการฝึกปรือมานานจนน้ำหูน้ำตาเล็ด ทั้งอย่างนั้นเทอร์รารอยด์ที่กระโดดโถมร่างเด็กชายด้วยน้ำหนักตัวทั้งหมดเข้าใส่จนล้มลงในท่าที่น่าอิจฉาเป็นอย่างยิ่งในหลายๆความหมายก็ยังคงกัดลงมาเหมือนเดิมและยังเพิ่มแรงบดมากขึ้นจนกลายเป็นรอยฟันที่ใบหูขวาของฮิซาชิ จนเขาต้องงัดเอาไม้ตายลับสำหรับเอาชนะผู้หญิงที่ร้ายกาจยิ่งกว่า"เบลซซิ่งเวฟ"ออกมาใช้...


"สรุปคือเธอจะเอาอย่างนั้นใช่ไหม..!? ย่อมได้!!!"




                                        หนุบ..!



การโจมตีสุดท้ายของฮิซาชิยังคงได้ผลสำเร็จเช่นที่ผ่านๆมา เพียงสัมผัสอ่อนนุ่มที่ฝ่ามือของเด็กชายที่จรดลงบนก้อนเนื้อที่มีน้ำหนักและมีน้ำมีนวลของสาวน้อยได้ทำให้เหลี่ยมฟันของเธอหมดแรงกดลงทันที พร้อมกันนั้นเธอก็อ้าปากออกเพื่อส่งเสียงร้องออกมาอีกด้วย...


"ไงล่ะ..!? คราวนี้ไม่เหมือนกับยัยมิรันที่ฉันจับหน้าท้องเท่านั้นหรอกนะ..! ฮิๆ"


"ฮิซาชิ... นาย...จับหน้าอกฉัน!?"

ฮิโรมิหน้าแดงเล็กน้อยก่อนที่จ้ำสีแดงปานอาทิตย์อัสดงจะขยายวงกว้างขึ้นจนครอบคลุมทั้งหน้าอย่างรวดเร็ว และแม้ว่าจะเป็นอย่างนั้นแล้ว...ฮิซาชิก็ยังคงปล่อยให้สัมผัสที่ฝ่ามือยังคงอยู่ต่อไป


"ป-ปล่อยนะ!! ถึงฉันจะไม่ค่อยซีเรียสเรื่องรักนวลสงวนตัวสักเท่าไหร่ก็เถอะ...แต่ที่นายทำอยู่นี่มันเท่ากับกำลังหาเรื่องseiriอย่างฉันเลยนะ!!"


"หนวกหูจริง!! ทีตอนฉันบอกให้เธอปล่อยล่ะไม่มีคายออกมาเลยนะ ทีนี้ฉันขอเล่นเธอบ้างคงไม่เสียหายอะไรสินะ..!? เพราะถือว่าเจ๊ากันไปแล้วกัน!!!"


"กรี๊ด!!!!!!!"





"พวกเธอกำลังเล่นบ้าอะไรกันอยู่น่ะ... ฮิซาชิ..!? ฮิโรมิ..!?"


และสุดท้ายเมื่อทั้งสองคนดำเนินกิจกรรมท้าทายอำนาจมืดไปจนถึงจุดแตกหัก จากการเล่นสนุกทั้งสองฝ่ายก็แปรผันไปเป็นสงครามผู้นำมาซึ่งความวิบัติขนาดย่อมในพริบตา หากแต่จะมีสิ่งที่ต่างออกไปจากการต่อสู้กับศัตรูที่ทั้งสองต้องเผชิยที่แล้วๆมาก็คือ... การเดิมพันด้วยชีวิตของผู้คนทั่วโลกนั้นได้เปลี่ยนมาเป็นของกินที่ฮิโรมิยักยอกมาจากโรงพยาบาลแทน แต่แล้วการต่อสู้ครั้งนี้ก็ต้องถูกขัดขวางโดย...


"ฮะ..ฮานามิ!!"


ในที่สุดการผ่าตัดก็ประสบความสำเร็จ...ซะเมื่อไหร่เล่า! เพราะพลังโจมตีที่ด้อยเกินไปของมิรันนั้นทำให้ฮานามิได้รับบาดเจ็บเพียงโดนค้อนเหล็กทุบเข้าที่ท้องเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทำให้ฮานามิสามารถใช้พลังที่เหลืออยู่รักษาบาดแผลได้ในเวลาที่เร็วกว่ากรณีของมิรันมาก หากแต่ในตอนนี้แววตาต้อนรับการปรากฏตัวของเธอในครั้งนี้ดูเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก


"แล้ว...แองเจลอยด์ที่บ้าเลือดคนนั้นล่ะ!? อาการของยัยนั่นเป็นยังไงบ้าง..."



"ไม่ดีเลยล่ะ...เข้าขั้นอันตรายด้วยซ้ำ อวัยวะภายในของยัยนั่นฉีกขาดจนเลือดไหลออกมาไม่หยุด กล้ามเนื้อกะบังลมและซี่โครงของยัยนั่นก็ได้รับความเสียหายรุนแรงจนต้องต่อเครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา แล้วยิ่งระบบรักษาอัตโนมัติของseiriไม่ทำงานเลยทำให้โอกาสรอดในการผ่าตัดต่ำกว่าครึ่งด้วย สิ่งที่พวกเราพอทำได้ก็แค่เล่นสนุกเสียงดังตรงนี้ให้มิรันได้ยินเสียงพวกเราเท่านั้นแหละ"


ฮานามิรู้สึกช็อคไปชั่วขณะ ถึงแม้ว่าในขณะนี้จิตใจของเธอจะเต็มไปด้วยความคิดที่จะทำลายเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมดให้หายไปจากโลกโดยเร็วที่สุดแล้วก็ตาม แต่ด้วยจิตใจส่วนลึกของเธอได้ทำให้ร่างกายเกิดการตอบสนองอย่างรุนแรง...


"ยัยบ้าเอ๊ย... ทั้งๆที่เธอก็รู้อยู่แล้วว่าสู้ฉันไม่ได้ก็ยังจะ..!"



"เออ..! จริงด้วยสิ ฮานามิ! เจ้าสิ่งนี้มันหมายความ..."


ฮิซาชิที่นึกอะไรบางอย่างออกขึ้นเสียงดังปล่อยคำถามใส่ฮานามิทันที เพียงแต่ด้วยจิตสำนึกของเขานั้นได้ห้ามเขาเอาไว้ก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้



"มีอะไรงั้นเหรอ... ฮิซาชิคุง!?"


"เปล่าหรอก ไม่มีอะไร..."


ในมือของฮิซาชิตอนนี้มีเพียงโทรศัพท์มือถือที่เขาหยิบติดตัวมาจากบ้านหลังจากส่งแองเจลอยด์ทั้งสองคนเข้าโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะมาทราบในภายหลังว่าพวกseiriนั้นได้รับสิทธิ์ในการรักษาในโรงพยาบาลฟรี ซึ่งจุดมุ่งหมายจริงๆของเขาก็แค่จะสอบถามความจริงเกี่ยวกับข้อความที่ส่งมาจาก"ไครซิส"เท่านั้น แต่เมื่อดูจากรูปการณ์ในขณะนี้แล้ว...สิ่งที่เขาควรทำมีเพียงคืนโทรศัพท์ให้เจ้าของเท่านั้น



"ฮานามิ... นี่มือถือของเธอ...ฉันดูข้อความข้างในหมดแล้วนะ"


"งั้นเหรอ..!? ถ้างั้นเธอคงจะมีคำถามเตรียมเอาไว้ให้ฉันมากมายแน่ๆ จริงไหม!?"


ฮิซาชิอ้ำอึ้งไปพักหนึ่ง อันที่จริงในใจของเขาก็เต็มไปด้วยสิ่งที่อยากจะรู้อยู่เต็มไปหมด...เพียงแต่สิ่งที่สมควรจะนำมาถามในตอนนี้มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น



"เอ่อ...ที่จริงมันก็มีน่ะนะ! เป็นคำถามที่ฉันอยากจะได้ยินจากปากเธอจริงๆ..."


ฮิซาชิลังเลอยู่นานในการที่จะถามคำถามที่เขาอยากจะให้สาวน้อยผมน้ำเงินตรงหน้าช่วยตอบข้อสงสัยให้ใจจะขาด เพียงแต่ว่า...เนื้อความเหล่านั้นดูเหมือนจะเป็นการก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคลมากจนเกินไป

อันที่จริงมันก็ผิดมาตั้งแต่ที่เล่นกันเสียงดังในโรงพยาบาลแล้วล่ะ!



"อัทสึชิที่เกมนั่นพูดถึงนั่นน่ะ...ใช่อัทสึชิคนเดียวกับที่ทำให้เธอวิวัฒนาการเป็นระดับที่สามหรือเปล่า!?"




คราวนี้เป็นฝ่ายฮานามิที่ถูกความเงียบเข้าครอบงำจนพูดอะไรไม่ออก ฮิซาชิสัมผัสได้เลยว่าบรรยากาศรอบตัวของเธอในตอนนี้มีเพียงความรู้สึกกดดันที่หนักอึ้งจนบรรยายไม่ถูกโอบล้อมอยู่เต็มไปหมด เพราะสิ่งที่ฮิซาชิพูดออกมาเมื่อครู่นี้เหมือนกับจะไปกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างที่ฮานามิอยากจะสะกดเอาไว้ภายในจิตใจเข้าเสียแล้ว!!



"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย...ฮิซาชิคุง! การที่อัทสึชิคุงจะทำให้ฉันวิวัฒนาการหรือเปล่ามันจะทำให้เธอเข้าใจความรู้สึกของseiriมากขึ้นหรือไง!?"



ฮานามิสร้างบรรยากาศกดดันให้กับฮิซาชิและฮิโรมิอย่างเต็มที่ก่อนจะหันหลังเดินจากไปอย่างไม่ใยดีเช่นที่ผ่านๆมา แต่ในคราวนี้ฮิซาชิสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของบรรยากาศของห้วงเวลาที่ห้อมล้อมร่างของแองเจลอยด์ที่แข็งแกร่งที่สุดเอาไว้อย่างชัดเจน จากที่เคยเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและอ่อนโยน...กลับกลายเป็นความมืดมนที่ทารุณทุกสายตาที่มองเห็นอย่างที่สุด



"เออใช่สิ!! ถึงการที่ฉันจะพูดกับseiriอย่างเธอในฐานะมนุษย์ธรรมดามันก็เหมือนกับการพูดกับชาวต่างชาติเมื่อสมัยก่อนสงครามโลกก็เถอะ...แต่ว่านะ! ฉันปรารถนาเอาไว้ตลอดว่าอยากจะปลดปล่อยseiriอย่างพวกเธอจากพันธนาการด้านอารมณ์ความรู้สึกให้ได้!! รวมไปทั้งภาระรับผิดชอบที่พวกเธอต้องแบกรับเอาไว้ด้วย!! ฉันจะไม่ยอมให้นางฟ้าที่น่ารักที่สุดอย่างพวกเธอต้องตายอย่างหมาจรจัดอีกต่อไปแล้ว!!! ขอเอาชื่อของ'โคริคาวะ ฮิซาชิ'เป็นเดิมพันเลย!!!"



เสียงตะโกนที่แสนแสบแก้วหูของฮิซาชิที่ไล่หลังฮานามิไปนั้นดูเหมือนกับเป็นเพียงการโวยวายของเด็กชายที่เกลียดกลิ่นของโรงพยาบาลจนอยากจะออกไปไวๆเท่านั้น... แต่สำหรับแองเจลอยด์ที่ผ่านการต่อสู้มายาวนานอย่างฮานามินั้นกลับส่งผลให้จังหวะก้าวเท้าของเธอหยุดลงทันที ฮิซาชิสังเกตเห็นคางของเธอขยับเล็กน้อยก่อนจะเดินไปยังห้องพักผู้ป่วยของเธอเพื่อสงบสติอารมณ์


ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นข้อความที่ฮิโรมิพอจะแปลออก...เธอจึงบอกมันให้ฮิซาชิที่ไม่เข้าใจท่าทางของฮานามิได้รู้







"โคริคาวะ...งั้นเหรอ!? นามสกุลของเธอ...เหมือนกับของอัทสึชิคุงเลยนะ"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา