ปีกรักกับดักหัวใจ

10.0

เขียนโดย dollysky

วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.38 น.

  9 ตอน
  3 วิจารณ์
  17.14K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 11.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) กีฬาเหล่าเผาหัวใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                                   http://www.keedkean.com

 

              ...ฟ้างามเมื่อยลชวนใจชื่น ทั้งวันแหละคืนเรารื่นรมย์ เมฆหมอกเปลี่ยนแปลงด้วยลม ไม่ตรมฟ้าอากาศคือตัวเรา... เพลงผู้ครองฟ้าดังกึกก้องจากฝั่งกองเชียร์นักเรียนนายเรืออากาศ ปีนี้โรงเรียนนายเรืออากาศเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาเหล่า ต่อจากโรงเรียนนายเรือปีที่แล้ว เป็นงานประเพณีระหว่างโรงเรียนทหาร-ตำรวจที่ถูกจัดให้มีขึ้นทุกปี หมุนเวียนการเป็นเจ้าภาพสลับกันไป
 
http://www.keedkean.com  http://www.keedkean.com


              บรรยากาศวันนี้เป็นวันเปิดงาน ที่ว่าอลังการงานสร้างแน่ๆ ก็งานนี้มีข่าวว่า เครื่องบินรบสุดยอดของเมืองไทยขณะนี้ F-16จะมาบินเปิดงานสะด้วย และนี่ก็เป็นอีกงานที่แม่สาวจอมแสบอันเป็นที่ร่ำลือกันของ โรงเรียนนายเรืออากาศต้องโพล่มานั่งหน้าชะแร่มอยู่ในงานกับเค้าด้วย พร้อมกับหวานใจของนักเรียนนายเรืออากาศหลายคนในที่นี้ ที่เดินทางมาร่วมงานกีฬาอันแสนสนุกครั้งนี้ด้วย งานนี้มีแต่สาวๆสวยๆ บรรดาญาติ(แฟน)ของนักเรียนเหล่ามากันอย่างคับคั่ง ต่างก็ประชันความสวยแบบว่าไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว
 
“ไงฟ้า..ไม่สนุกหรอ ไหนบอกเราว่าฟ้าชอบตามพี่มาเที่ยวงานนี้บ่อยๆไง” คนถูกถามส่งยิ้มให้เพื่อนอย่างเจื่อนๆ
 
“ก็สนุกแหละผิง แต่คงเพราะเรามาบ่อยแล้วมั้งเลยชินแล้ว” ความจริงเป็นเพราะเธอรู้สึกอึดอัดตั้งหาก ที่เห็นสายตาหลายคู่ที่จ้องมายังเธอแล้วหันไปซุบซิบอะไรกัน ด้วยความร้อนตัว ที่สำคัญตอนนี้เธอต้องมาเจอหน้าอีตาขี้เก๊กโจทก์ของเธออีก เธอต้องพยายามสงบจิตใจไม่ให้เดือดพล่านขึ้นมาอีกเมื่อเจอหน้าเค้า ไม่ยั่งงั้นงานนี้อาจต้องขายหน้าแย่ คนนั่งค่อนคอดในใจมองไปยังแถวทางด้านล่างของตนหนึ่งแถวไปยังคู่หวานของนายขี้เก๊ะกับหวานใจที่มัวแต่นั่งกระหนุงกระหนิงกันจนน่าหมั่นไส้
 
“เอาล่ะครับสาวๆ ดูแลกันเองไปก่อนนะคร๊าบ เดี๋ยวพวกพี่จะตัองไปเตรียมตัวแสดงแล้ว อ่ะ..ขนม น้ำ เอาไว้ทานรอพวกพี่ไปพลางๆก่อนนะจ๊ะ” เติ้ลกับแมนแวะมาทักทายสาวๆพร้อมของกินที่นำมาต้อนรับในฐานะที่ตนเป็นเจ้าของงานครั้งนี้
 
ครู่ใหญ่ หลังจากที่ท่าน ผู้บัญชาการทหารอากาศกรุณาให้เกียรติมาเปิดงานด้วยตนเองแล้ว สิ้นเสียงต้อนรับเข้าสู่งานกีฬา เสียงกระหึ่มของเจ้าเหยี่ยว F-16 ก็ปรากฏตัวขึ้นเหนือสนามธูปะเตมี ฟ้าตื่นเต้นมาก ใช่...ฉันมารอดูเจ้านี่แหละ สาวน้อยรีบชี้นิ้วให้เพื่อนดู
“เฮ้ย นี่ๆช่วยดูดิ๊ ที่แพนหางอ่ะเป็นรูปอะไรยัยผิง ใช่สายฟ้าป่ะ หรืองูจงอางกันนะ เห็นไม่ถนัดเลย”
 
คำถามของฟ้าทำให้คนที่ได้ยินแถวนั้นเกิดความสงสัย ศศิ แฟนสาวของป้องกับพีคแฟนของแมนจึงถามขึ้นพร้อมกันด้วยความประหลาดใ
 
                “ทำไมหรอ รูปอะไรแล้วมันต่างกันยังไงหรอ”
 
                “อ่อคืองี้ เราจะดูว่าถ้าแพนหางมันเป็นรูปงูจงอาจแผ่แม่เบี้ยอ่ะ แสดงว่ามันมาจากฝูงบิน 403 ตาคลีน่ะ แต่ถ้ามันเป็นรูปสายฟ้า แสดงว่ามันมาจากฝูง 103    โคราชน่ะจ๊ะ” คนตอบตายังคงเป็นประกายให้เห็น ด้วยความภาคภูมิใจเหลือกับความรู้เรื่องเครื่องบินที่ตนรักและศึกษาข้อมูลมาโดยตลอด
 
                “โห ฟ้านี่เก่งจัง รู้ได้ไง” แพน หวานใจนายเติ้ลที่นำมาเปิดตัวในงานวันนี้เอ่ยขึ้น แพนเป็นเพื่อนสนิทของแป๋มแฟนของว่านเพราะเรียนหมออยู่ที่จุฬาด้วยกันนั่นเอง
 
                “อ่อ เราศึกษาน่ะ คือเราชอบพวกเครื่องบินรบอ่ะจ๊ะ” ฟ้ายิ้มให้เพื่อนใหม่พร้อมกับคำตอบ ประกายในดวงตายังคงฉายให้เห็นชัดถึงความชอบที่สะท้อนออกมาจากจิตใจของคนพูด
 
                “รายนี้เค้าไม่ได้เรียกว่าชอบแล้วล่ะ เค้าจัดว่าเข้าขั้นบ้าจาดีกว่า 555” ผิงเสริมขึ้นจนเรียกเสียงหัวเราะของทุกคนในกลุ่มขึ้นมาได้
 
                ว่านที่นั่งอยู่กับแป๋มได้ยินบทสนทนาทุกอย่าง จึงแอบหันขึ้นไปมองหน้าเจ้าหล่อน แอบคิดอยู่ในใจว่า ...ไม่หน้าเชื่อ ว่าจะมีผู้หญิงคนไหนจะสนใจชอบเกี่ยวกับเรื่องเครื่องบินรบได้ขนาดนี้ เธอคงชอบมันมากเวลาพูดถึงมันถึงได้ตาเป็นประกายเชียวถ้าไม่ติดเรื่องวีรกรรมที่เจ้าหล่อนทำไว้กับตน ฟ้าก็น่าจะเป็นคนหนึ่งที่สามารถคุยกะเค้าได้ถูกคอกันได้อย่างแน่นอน... นึกแล้วก็เสียดายที่การรู้จักกันครั้งแรกมันดูท่าไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร่นัก
 
                “พี่ว่านไม่ไปแสดงอะไรกับเขาด้วยหรอคะวันนี้” แพนก้มลงมาถามชายหนุ่มจากแถวบนที่ตนนั่ง
 
                “อ่อ พี่เป็นนักกีฬารักบี้น่ะครับ ไม่ได้แสดงอะไรหรอก รอดูไอ้เติ้ลมันแล้วกัน วันนี้มันจะแสดงแฟนซีดริล ควงปืนให้ดู” ชายหนุ่มหันหน้าขึ้นไปชี้แจงให้คนข้างบนฟัง
 
                 “แป๋ม เดี๋ยวพี่มานะครับ ขอตัวไปตรวจดูความเรียบร้อยในงานก่อน      แป๊ปนึง” ฟ้าแอบชำเลืองมองคนที่เพิ่งเดินผ่านขึ้นไปห้องเตรียมกิจกรรมด้านหลัง      อัฒจรรย์ เขาอยู่ในชุดปกติสีน้ำเงินเข้มคอแบะพร้อมกระบี่สั่นที่ถูกห้อยไว้ที่ขาด้ายซ้าย ร่างสูงสมส่วนของเขาดูเท่มากในสายตาคนหลายคนแถวนี้ แต่น่าเสียดายที่เธอกับเขาคงจะญาติดีกันยาก
 
                การแสดงแฟนซีดริลของนักเรียนนายเรืออากาศ(นนอ.) และแสดงประกอบดนตรีอันสวยงามของนักนักเรียนพยาบาลทหาร จบลงพร้อมเสียงปรบมืออันดั่งสนั่นลั่นสนามอีกครั้ง
 
                ...เชียร์ เชี้ย เชียร์ เทวดามาเชียร์ เอ่อๆๆๆๆ....
 
                ...จปร.มีแต่คนรูปหล่อ จปร.ไม่หล่อไม่มี...
 
                ...หะเบสสมอพลันออก  สันดอนไป ลัดไปเกาะสีชังจนกระทั่งกระโจมไฟ...
 
                ...เกียรติตำรวจของไทย เกียรติวินัยกล้าหาญมั่นคง...
 
                เสียงเพลงเชียร์ของแต่ละเหล่าดังขึ้นประชันอย่างไม่มีใครยอมใคร เมื่อบอลคู่เปิดสนามเริ่มขึ้น งานวันนี้เริ่มด้วยบอลคู่เปิดสนามระหว่าง โรงเรียนนายเรืออากาศ(รร.นอ.) กับคู่แข่งที่น่ากลัว โรงเรียนนายร้อยตำรวจ(รร.นรต.)โดยมีตำแหน่งแชมป์เก่าการันตี เสียงคำสบถต่างๆนานาหยอกล้อกันตามประสาเพื่อนพี่น้องต่างเหล่า ดังข้ามเหล่าลอยไปลอยมาอย่างออกรส มันอาจดูเหมือนการเป็นคำที่แซวกันรุนแรงในสายตาคนข้างนอกที่ไม่เคยได้สัมผัส แต่ระหว่างนักเรียนแต่ละเหล่าแล้วไม่มีใครคิดมากในเรื่องนั้นมันเป็นเพียงการแซวกันขำๆตามภาษานักเรียนเหล่า แน่นอนนักเรียนเหล่านี่นา จะธรรมดาเหมือนนักเรียนที่อื่นเค้าได้ไง
 
            ฟ้าร้องเพลงของแต่ละเหล่าได้เกือบหมดไม่ว่าจะเป็นเพลงแปลงก็ตาม เพราะส่วนตัวเธออยากเป็นทหารมาก เลยพยายามหาข้อมูลให้ได้รู้เรื่องราวของทหารให้มากที่สุด เธออยากเป็นทหารเหมือนพ่อ และนายทหารพระธรรมนูญคือสิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตลอด เธอพยายามทำตัวให้สนุกไปกับบรรยากาศในงานเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกเหงาว้าเหว่ที่เกาะกินอยู่ลึกๆในใจเธอเมื่อรอบข้างเธอ เขาก็มีคู่กระหนุงกระหนิงมาคอยเทคแคร์ คิดแล้วเธอเองก็อยากมีแบบนั้นบ้าง
                 ใช่ซิ…ฉันคงไม่สวยไม่เริดพอที่จะมีโอกาสได้เป็นหวานใจของใครแถวนี้หรอก  ไม่มีคนตาถั่วคนนั้นหรอกยายฟ้าเอ้ย... นึกแล้วก็ต้องแอบถอนใจกับตัวเอง

 
 
 
                “หมูกระทะร้านนี้อร่อยมากพี่การันตีเลย เชิญจับจองที่นั่งกันตามสบายเลยนะครับสาวๆ” เสียงของเติ้ลที่กำลังรีบกุลีกุจอพาสาวๆหวานใจของเขาและของเพื่อนๆเข้ามานาร้านหมูกระทะแห่งหนึ่งย่านพหลโยธิน เพื่อหาของอร่อยลงท้อง หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกับการเชียร์และการจัดงานวันเปิดกีฬาเหล่ามาทั้งวัน
 
                 “ร้านนี้บรรยากาศดีจังเลยนะคะพี่เติ้ล” คนพูดส่งยิ้มหวานละลายใจนายเติ้ลเข้าอย่างจัง
 
                “ดีใจจังที่น้องแพนชอบนะครับ” เติ้ลพูดพร้อมเลื่อนเก้าอี้ให้สาวสวยตรงหน้า
 
                “พี่เติ้ล แป๋มเตือนไว้ก่อนเลยนะคะ จะมาเล่นๆกับเพื่อนแป๋มไม่ได้นะพี่ ไม่งั้นล่ะก็...”คนพูดเว้นวรรคแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนซี้ตน ก่อนจะพูดออกมาพร้อมกันว่า
 
                 “เจี๋ยนสถานเดียว” เติ้ลได้ยินถึงกับขนลุกซู่ ...ตายแล้วกูคิดผิดหรือเปล่าวะเนี่ยที่จีบหมอ เห็นทีงานนี้เราต้องหยุดไว้ที่เธอคนเดียวซะแล้ว ไม่ยั่งงั้นน้องชายเราสาปสูญแน่งานนี้... เติ้ลคิดไปปาดเหงื่อไป เพื่อนๆที่ได้ยินต่างพากันประสานเสียงหัวเราะลั่น
 
 
                “เอาแหละเว้ย เสือเติ้ลคงจาสิ้นลายก็คราวนี้ 55...” ป้องสมทบขึ้น
 
                จากนั้นทุกคนต่างก็พากันกินหมูกระทะและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน   ฟ้าเองก็จำเป็นต้องข่มใจไม่ทำให้งานกร่อยเพราะเรื่องเธอกับนายขี้เก๊กว่าน ตามที่ผิงเพื่อนรักของเธอขอร้องไว้
 
                “เอ้ยไอ้ว่าน เห็นพี่จักรบอกข้าว่า นักบินเอฟ16ที่มาบินโชว์วันนี้คือพี่ตูน หรอวะ ตกลงมึงรู้ไหมว่าใช่แกป่ะ” แมนเอ่ยขึ้
 
                “หรอ ไม่รู้ดิ พี่ตูนฝูง 103 อ่ะนะ แกมาเองเลยหรอวะงานนี้”
 
                “ใช่พี่ตูนที่เคยมาออกรายการถ้าคุณแน่อย่าแพ้เด็กประถมป่ะ” ฟ้าถามขึ้นด้วยความอยากรู้
 
                “อืม ใช่ครับ คนนั้นแหละ ถ้าข่าวพี่ไม่ผิดอ่ะนะ ฟ้าคงต้องไปถามรายละเอียดจากพี่จักรเอง พี่แกบอกพี่มา” แมนตอบ ฟ้าเลยส่งยิ้มให้แทนคำขอบคุณ “อ๋อ ค่ะ..”
 
                 “ฟ้าชอบเครื่องบินหรอ” เธอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าคนที่ถามเธอนั่นก็คือเสียงของนายขี้เก๊ก ว่านนั่นเอง เลยมองหน้าเขาอย่างงงๆไม่คิดว่า นายขี้เก๊กจะทักเธอขึ้นมาก่อน เมื่อดูจากความบาดหมางในอดีตที่ไม่น่าจะประสานความสัมพันธ์กันได้
 
                ...เอาวะ ดีมาฉันก็ดีตอบ... “อืมช่าย..เราชอบมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว” 
    
 
                   “ฮะ ฟ้าชอบเครื่องบินหรอ” เติ้ลถามขึ้นอย่างประหลาดใจ
 
 
                 “แปลก พี่ไม่เคยเห็นผู้หญิงส่วนใหญ่จะสนใจชอบเครื่องบินเท่าไร่นัก” ป้องพูดขึ้นตามความคิดของตน
 
                “55..ผิงว่ามันบ้าเลยค่ะ ไม่ใช่แค่ชอบ” หญิงสาวยังไม่วายที่จะหันมาแซวเพื่อนรัก
 
                 “แล้วชอบเครื่องบินอะไรล่ะ” ว่านถามขึ้นอีกครั้ง

               ...ในเมื่อหล่อนชอบเครื่องบิน ก็คุยเรื่องเครื่องบินเนี่ยแหละวะ อะไรที่มันผ่านมาก็ถือว่าแล้วๆ ลืมๆ กันไป ยังไงน้องเค้าก็เป็นเพื่อนสนิทน้องผิง...
 
                “อืม ฟ้าชอบเครื่องบินรบ พวกเครื่องบินขับไล่ กับเครื่องบินโจมตีอะไรแบบนั้นน่ะ”
 
                “โห ชอบแบบนั้นเลยหรอ เราว่าเสียงมันดังแสบแก้วหูจะตายไป” พีคแสดงความคิดเห็นขึ้นบ้าง
 
                “อืม ไม่รู้สิ เราชินแล้วมั้งได้ยินมาตั้งแต่เด็กมาดูที่งานวันเด็กทุกปีน่ะ เราชอบว่าเพราะมันเร็ว แล้วก็ดูน่าเกรงขามดีอ่ะ เป็นเครื่องบินที่มีสมรรถนะสูง แล้วเวลามันบิน เราก็รู้สิถึงความอิสระดีน่ะ จะทำท่าทางไหนก็สามารถทำได้ ต่างกับเครื่องบินโดยสารธรรมดา เราก็เลยรู้สึกชอบ อะไรประมานน้านแหละ”
 
                “อืม ไม่น่าล่ะฟ้าถึงเป็นหลานรักของท่านนายพลเสือ สงสัยเพราะอย่างนี้ล่ะมั้ง” เติ้ลออกความคิดขึ้นจากข้อมูลที่ตนได้รู้มาจากผิง
  
                 “แหม่ ก็ไม่ถึงขนาดน้านหรอกค่ะพี่เติ้ล หุหุ”
 
                จากนั้นฟ้าก็เลยได้โอกาสเม้าส์เรื่องเครื่องบินที่เธอรักในวงสนธนาต่ออย่างมีความสุข ที่นานๆทีจะมีเพื่อนที่สามารถคุยเรื่องนี้กับเธอได้โดยไม่ทำให้รู้สึกเบื่อ สาวน้อยไม่ทันได้สังเกตเลยด้วยซ้ำถึงสายตาคู่หนึ่งที่มองดูเธออยู่ด้วยความชื่นชมในความรู้ของเธอเกี่ยวกับสิ่งที่เธอรัก ซึ่งสิ่งนั้นมันก็เป็นสิ่งเดียวกันกับสิ่งซึ่งหมายถึงชีวิตและจิตใจของเขาเช่นกัน เครื่องบินเอฟ16 ที่เขาวาดฝันมาตลอดว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องขับมันให้ได้ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกดีกับสาวน้อยที่พูดจ๋อยๆอยู่ตรงหน้าสาวน้อยจอมแสบในสายตาของเขามาโดยตลอด การรับประทานอาหารเย็นมื้อนี้ คงเป็นการเริ่มต้นที่ดีของมิตรภาพของพวกเค้า รวมทั้งการสมานความสัมพันธ์ของเค้ากับเธอ

 
                ...นายว่านจอมขี้เก็กนี่จะว่าไปนายนั่นก็ดูเป็นผู้ใหญ่ดีนะ สำหรับสิ่งที่เราได้เห็นบนโต๊ะอาหารค่ำคืนที่ผ่านมานี้ อันที่จริง คนที่เริ่มก่อเรื่องก่อนก็คือเรา และก็เราอีกนั่นแหละเป็นคนทำให้เค้าต้องเข้ามาปิดปาก เพราะเราดันทะลึ่งตะโกนอะไรบ้าๆออกไปอย่างนั้น ไม่ใช่เพราะความอยากเอาชนะ ดื้อรั้นของเราหรอกเหรอที่เป็นคนก่อชนวนขึ้น เฮ้อ!ในเมื่อเค้าดีมา เราก็ดีตอบเถอะน่ะ...  
 
               
              สายลมยามค่ำคืนพัดโชยมาเป็นระยะๆพร้อมนำพากลิ่นหอมของต้นโมกข์ที่แม่ของหญิงสาวปลูกไว้ บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน แตะผ่านผิวของสาวน้อยที่นั่งครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่บนโต๊ะเก้าอี้หวายที่สนามหญ้าหน้าบ้าน สายตาแห่งความเหงาหง๋อยยังคงจับอยู่ในดวงตาคู่สวยที่กำลังมองขึ้นไปยังท้องฟ้ากว้างอันมือมิดไม่มีแม้แต่แสงดาวที่จะเปล่งประกายสักดวง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา