ปีกรักกับดักหัวใจ

10.0

เขียนโดย dollysky

วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.38 น.

  9 ตอน
  3 วิจารณ์
  17.35K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 11.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ดินแดนแห่งนักรบทางอากาศ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                             http://www.keedkean.com

 

                รถขนส่งกำลังพลของโรงเรียนนายเรืออากาศ กำลังแล่นเข้ามาถึงบ้านหลังใหม่ของพวกเขาทั้ง 5 คน พร้อมเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายชีวิต ซึ่งก็คือ ดินแดนแห่งนักรบทางอากาศ โรงเรียนการบินกำแพงแสน 

 

                “นักเรียน ละฉากหรอ ทัชดาวน์ 30 ครั้ง ปฏิบัติ”เสียงล้อเลียนเพื่อนของเมฆดังขึ้นจากทางด้านหลังของเติ้ลและเพื่อนๆคนอื่นที่กำลังนั่งทานข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย ภายในโรงเลี้ยงโรงเรียนการบิน เติ้ลถึงกับสะดุ้ง แต่ตัวเองก็คิดขึ้นได้ว่า



             ...นี่กูไม่ได้เป็นนักเรียนนายเรืออากาศแล้วนี่หว่าไม่มีนายทหารหรือคอมแมนด์ที่ไหนจะมาคอยจับผิดกูแล้วนี่... นึกขึ้นได้ดังนั้น จึงหันมาทำท่าหัวเสียใส่เพื่อน 


                “นี่ไอ้ห่าเมฆ มึงไม่มีอะไรทำแล้วใช่มะ ถ้ามึงอยากกลับไปอยู่ที่โรงเรียนต่อก็ได้นะเว้ย”  บ่นเพื่อนเสร็จก็หันมาบ่นพึมพำกับตัวเอง...

"แม่ง เล่นทำเอากูใจหล่นไปตาตุ่มเลยไอ้เวรนี่”

 

                “ 555 แล้วมึงจะสะดุ้งทำไมวะ ไอ้สาดดดดด..” เมฆทำหน้าล้อเลียนเพื่อนแบบรู้ทัน ก่อนจะเข้ามาร่วมวงรับประทานอาหารกลางวันด้วย


                “เอ้ยพวกมึงเห็นไอ้ว่านไหมวะ มันไม่มาแดกข้าวรึไง” แมนแทรกถามขึ้นด้วยความสงสัย ที่วันนี้เพื่อนรักของเขาหายหน้าไป

                “อ่อ มันบอกเดี๋ยวมันตามมา ขอไปโทรศัพท์หน่อย” ป้องตอบ เพราะเพื่อนรักตนได้บอกเอาไว้ตอนที่เดินลงมาจากห้องบรรยายสรุปหลังจาก deblief เสร็จเมื่อตอนเช้า

                “โทรหาแฟนล่ะมั้ง รู้สึกว่าช่วงนี้มันกับน้องแป๋มจะทะเลาะกันบ่อยนะ สายข่าววงในของกูรายงานมา” คนพูดทำท่าทางแบบว่าในโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เขาอยากรู้แล้วจะไม่ได้รู้ โดยเฉพาะเรื่องของเพื่อนรักของเขา แล้วยังกระจายข่าวต่อว่า

                “ข่าววงในยังบอกกูมาอีกว่า น้องแป๋มอ่ะตอนนี้กำลังควงอยู่กะไอ้รุ่นพี่ที่เป็นหมออยู่ที่ รพ.ที่น้องแป๋มไปฝึกงานอยู่น่ะ แม่ง แถมมันยังเป็นเป็นถึงลูกชายเจ้าของ รพ.ดังเลยนะมึง” พูดเสร็จ คนพูดก็หยักคิ้วให้เพื่อน ภูมิใจในความรู้ลึกรู้จริงของตนเอง             

           “ฮะ!!!..” ทุกคนบนโต๊ะอาหารต่างร้องอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น 
               “แล้วไอ้ว่านมันรู้เรื่องนี้ยังวะ” ป้องถามขึ้นอย่างร้อนใจ

 

เติ้ลผู้กระจายข่าวได้ยินคำถามของเพื่อนก็ถึงกับทำหน้าเจื่อนๆ ก่อนจะเอ่ยเบาๆออกไปอย่างไม่เต็มเสียงนักว่า “แหะๆ กูไม่กล้าบอกมันว่ะ กูกลัวมันจะรับไม่ได้ เห็นมันรักของมันมาก ที่สำคัญถ้ากูบอกไปแล้ว...มันจะเชื่อกูหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้ามันดันเสือกไม่เชื่อกูขึ้นมา กูก็หมาดิวะจริงมะ”

 

      “อีกอย่าง ตอนนี้เป็นเวลาที่พวกเราต้องมุ่งมั่น ใช้สมาธิกับการเรียนช่วงนี้เป็นอย่างมาก พวกมึงก็รู้ ถ้าเราดันสอบไม่ผ่านภาควิชาการนี้ล่ะก็ wash out เตรียมเก็บกระเป๋ากลับบ้านกันได้เลย กูเลยไม่อยากบอกอะไรให้ไอ้ว่านมันรู้ตอนนี้ เดี๋ยวมันจะไม่มีสมาธิเรียนอ่ะดิ บอกตรงๆ กูกลัวใจมันว่ะ ไม่รู้ว่ามันจะรับได้แค่ไหน” สิ้นเสียงของเติ้ลทุกคนก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่แบบเห็นด้วยอยู่ลึกๆกับคำพูดนั้น

 

และแล้ววันเวลาที่พวกเขาได้คร่ำเคร่งอยู่กับกองหนังสือขนาดใหญ่มาเนิ่นนานกับการเรียนในภาควิชาการมาสองเดือนเต็ม ก็ถึงเวลาวัดผล นั่นคือการสอบที่ชี้ชะตาพวกเค้าว่า เค้าจะมีสิทธิได้ไปต่อกับความฝันของพวกเขาหรือไม่

 

“ป้อง มึงเป็นอะไรของมึงวะ มึงอย่าทำหน้าอย่างนี้สิ พวกกูไม่สบายใจนะเว้ย มึงตอบกูสักคำสิไอ้ป้อง...” ว่านเขย่าตัวเพื่อนรัก หมายจะเรียกสติกลับมาท่ามกลางวงล้อมของเพื่อนๆคนอื่นในกลุ่มที่กำลังรอลุ้นรออยู่ เติ้ลชักพอจะเดาได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
 


   “ไม่เป็นไรไอ้ป้องมึงไม่ต้องคิดมาก ถึงยังไงไม่ว่าเองจะได้ไปทำงานอยู่สายงานไหนในกองทัพ มันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันหรอกวะ  เพราะกองทัพจะเจริญและเข้มแข็งได้ มันก็ต้องทุกๆฝ่ายในกองทัพทำงานกันโดยประสานกันอย่างลงตัว ไอ้ที่เค้าเรียกกันว่าทีมเวิร์คไงมึง ถ้าในกองทัพแม่งมีแต่นักบิน ไม่มีฝ่ายอื่นคอยสนับสนุน นักบินอย่างเดียวจะทำห่าอะไรได้ ถึงมึงจะไม่ได้บินมึงก็อย่าเสียใจไปเลยเพื่อน ไม่ว่างานด้านไหนมันก็สำคัญเท่ากันหมดแหละ ยังไงมึงก็เป็นเพื่อนรักพวกกูเสมอ” เติ้ลตบบ่าเพื่อนอย่างเห็นใจ คนที่นั่งหน้านิ่งไม่พูดไม่จาจึงเงยหน้าขึ้น

 

“กูสงสารไอ้แม็ปว่ะ กูเห็นหน้ามันแล้วกูต้องหันหนีเลย มันไม่บอกเพื่อนสักคำ อยู่ดีๆมันก็ไปเงียบๆ ดีที่กูเห็นมันกำลังจะถือกระเป๋าไปไหน กูเลยแอบตามไปจนถึงท่ารถ มันเห็นกูมันก็โบกมือให้ ตาแม่งยังแดงอยู่เลย กูเองก็พูดอะไรไม่ออก เหมือนมันมีอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอ กูก็ได้แต่โบกมือตอบให้มันไป...” พูดได้แต่เพียงเท่านั้น น้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลรินลงมาจากหน่วยตาคม

 

....ใช่แล้ว  วันนี้ผลสอบออก ทำให้พวกเขาต้องได้รับข่าวร้าย กับการที่เขาต้องเสียเพื่อนไปแล้วหนึ่งคนที่โชคร้ายสอบไม่ผ่านต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านไปก่อน โดยที่เพื่อนทุกคนยังไม่ทันได้ล่ำลากันเลย...

 

 

                   ที่ห้องพักศิษย์การบินชั้นประถม วันนี้มีรุ่นพี่ที่ได้เรียนข้ามขั้นจากพวกเขาไปแล้วขั้นหนึ่งนั้น ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่อยู่ในฝูงบินขั้นปลาย ฝึกบินกับเครื่องบิน มัสแตง PC-9  อยู่ในขณะนี้ ได้เข้ามาเยี่ยมเยือนน้องๆถึงชั้นเรียน

“สวัสดีครับน้องๆทุกคน ขอต้อนรับน้องๆอย่างเป็นทางการไว้ตรงนี้เลยแล้วกันนะ พวกพี่กะว่าจะหาโอกาสมาคุยกับพวกน้องๆนานแล้ว แต่พวกพี่เองก็ต้องเรียนหนักไม่มีเวลาเหมือนกันว่ะ มาถึงตอนนี้แล้วเพื่อนพี่ รุ่นพี่พวกนายก็ต้องกลับบ้านกันไปก่อนแล้ว 2 คน เนื่องจากปัญหาทางสภาพร่างกาย พวกพี่เลยตัดสินใจต้องมาพบน้องๆไว้ก่อนเนิ่นๆจะดีกว่า พวกพี่ไม่อยากให้น้องคนไหนต้องกลับบ้านก่อนถึงเวลาอันควร  


      ก่อนอื่นพวกพี่ต้องบอกว่า พวกพี่ดีใจที่ได้เห็นน้องๆที่รักและคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ก้าวผ่านมาได้จนถึงจุดนี้  ต่อไปน้องๆจะได้บินจริงกันแล้ว มันไม่ได้ยาก แต่มันก็ไม่ได้ง่ายนักหรอก แต่ก็อย่าไปกลัว ตื่นเต้นจนประหม่าทำอะไรไม่ถูก ทำตามสิ่งที่เราเรียนมา อย่าทำอะไรที่อยู่นอกเหนือกฎแห่งความปลอดภัยเด็ดขาด เพราะครูการบินท่านจะเน้นมากในจุดนี้ อย่าทำให้ความคึกคะนองเพียงชั่ววูบของเรา มาดับอนาคตทางการบินเราไปตลอดชีวิต ยังไงถ้าน้องๆมีปัญหาสงสัยอะไรก็มาปรึกษาพวกพี่ได้เสมอ พวกพี่ยินดีให้คำแนะนำได้ตลอดเวลาในฐานะที่พวกพี่มีประสบการณ์มาก่อน

   สุดท้ายวันนี้มีเคล็ดลับมาให้น้องๆท่องให้ขึ้นในไว้แล้วกันระหว่างทำการบินนะ ...15 นิ้ว หิ้วหัว มิกซ์ริช พิชฟาย แลนด์ดิ้งไลท์ออน... รับรองถ้าทำตามนี้ บินได้ทุกคน ขอให้น้องโชคดี” คนกล่าวเสร็จก็ยิ้มให้กับน้องๆตรงหน้า ซึ่งก็คือนักเรียนนายเรืออากาศรุ่นน้องที่คุ้นหน้าคุ้นตา และนิสัยกันเป็นอย่างดีนั่นเอง


“พี่จักร สบายดีนะครับพี่” ว่านรีบเดินเข้าไปทักทายเขา หลังจากที่เขาเดินลงมาจาการขึ้นกล่าวต่อหน้าน้องเมื่อกี้

 

“อ่าว ไอ้ว่าน ได้ข่าวว่าคะแนนนำมาดีนี่” ว่านยิ้มให้ชายหนุ่มที่เขานับถือเสมือนพี่น้องของเขาแบบเขินๆ  


      “ ไม่ขนาดนั้นหรอกครับพี่ ก็แค่พอถูๆไถๆน่ะครับ” รุ่นพี่ได้ยินก็ตบบ่ารุ่นน้องดังฉาด

 

“เองนี่มันถ่อมตัวอยู่เรื่อยเลยนะไอ้ว่าน นิสัยไม่เคยเปลี่ยน จำได้ใช่ไหมเคล็ดลับที่พี่บอก”

 

“ครับ ทริกนี้มีพี่คนหนึ่งในฝูง SUNNY เคยบอกผมไว้นานแล้วครับ ผมยังจำมันได้แม่น” แล้วเค้าก็ส่งยิ้มให้กับจักร รุ่นพี่ของเขาแบบรู้กัน

                              http://www.keedkean.com

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา