จานสี ดินสอ พู่กัน,, รักของฉัน.. เปื้อนสี

-

เขียนโดย Differ

วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.38 น.

  5 ตอน
  2 วิจารณ์
  7,999 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 กันยายน พ.ศ. 2556 00.34 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ตั้งวงรินกินเหล้า ถ้าไม่เมา.. คงไม่พูด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 3

ตั้งวงรินกินเหล้า  ถ้าไม่เมา.. คงไม่พูด

---------------------------------

     บรรยากาศพบค่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาชั่งสวยซะนี่กระไร ฮิฮิ นี่ถ้ามีชายหนุ่มวัยกระเตาะรูปงามมานั้งอยู่ด้วยเนี่ย ท่าทางจะมีโอกาสเสียตัว! ฮี่~ พูดอะไรก็ไม่รู้ เขินๆๆจังเล

     “เพ้ออะไรอยู่วะไอ้มนต์ มาช่วยกันเตรียมกับแกล้มหน่อยสิ” ไอ้เป้! ไอ้มารผจญ! อารมณ์เสียวุ้ย!!!!

     “แล้วจะให้ทำอะไรล่ะคะ คุณเป้” ฉันกระแนะกระแหนเล็กน้อย

     “ยกไปวางอย่างเดียว ข้าทำเสร็จหมดแล้ว” เป้สั้ง

     “เพคะ” ฉันย่อตัวลงเล็กน้อยเป็นเชิงประชด ก่อนจะยกอาหารที่เป้เตรียมไว้ ไปตั้งที่ศาลาริมน้ำ

     “เห้ยเป้ แก้วอยู่ไหนวะ”เสียงไอ้อ้นดังขึ้นในบ้าน  ตามมาด้วยเสียงของเจ้าของบ้านที่บอกถึงจุดพิกัดที่แก้ววางอยู่

     “เดินเข้าไปในครัวเลย เปิดตู้ดูอ่ะ อยู่ในนั้นแหละ” สิ้นเสียงของเป้ ก็มีเสียของใครบางคนดังขึ้นมา แต่ฉันไม่ได้สนใจอะไร ได้แต่เหม่อมองสายน้ำที่กระทบกับแสงไฟ น้ำนิ่งๆมีคลื่นเล็กๆ อากาศเย็นๆ ฉันไม่ลืมที่จะสูดหายใจให้เต็มปอด ก่อนจะหยิบเอาสมุดเสก็ตภาพขึ้นมาจากกระเป๋า ค่อยๆบรรจงจรดปากกาหมึกสีดำลงบนกระดาษอย่างใจเย็น

     “แว๊กกกกก!!!!”

     “ตะแถนๆๆกระดกหกหมด!” ฉันสะดุ้งกับเสียงของใครบางคนที่มาแว๊กขึ้นด้านหลังของฉัน

     “ฮ้าๆๆๆ เป็นไรวะ ตกใจไง” นังเพชรนี่เอง

     “อีห่า มาเงียบๆ ไม่ถีบตกคลองก็บุญและ” ฉันสบทอย่างหัวเสีย พรางก้มลงเก็บปากกาขึ้นมาเสก็ตภาพต่อไป

     “ขอโทษคร้าบ~  ว่าแต่ไอ้โมไม่ได้มาพร้อมกันหรอ”

     “ไม่อ่ะ  มันบอกว่าจะออกไปหาสาวที่ไหนก็ไม่รู้ เดี๋ยวตามมา”

     “อ๋อ...” เขาลากเสียงยาว  “บ้านไอ้เป้บรรยากาศดีเนาะ”

     “อื้ม ดีมากเลยแหละ”ฉันเงยหน้ามองบรรยากาศอีกครั้ง ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้เลย

     “น้ำมนต์...” เพชรเรียกชื่อฉันด้วยเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน  แต่โชคดีที่ฉันหูดีก็เลยได้ยิน

     “ว่า...”ฉันถามเพียงสั้นๆ

     “เปล่าๆ” เขาปฏิเสธ ไอ้นี่ท่าจะบ้า เรียกแล้วเปล่า

     “เอ้า! กวนป่ะเนี่ย”

     “ไม่! ก็ไม่รู้จะพูดอะไร เห็นเงียบๆ เลยลองเรียกดู ฮ่าๆ” ฉันย่นคิ้วใสเพชร ส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาเสก็ตภาพต่อไป

     “มาสวีทอะไรกันตรงนี้จ๊ะ” พี่แม็กผู้ที่เพิ่งมาถึงเอ่ยแซวขึ้น แล้วเดินตรงมาหาพวกเรา ตามมาด้วยนุ๊กเล็ก เป้ อ้น และ.. ผู้หญิงอีกคนที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อน

     “สะวงสวีทอะไรล่ะพี่ ก็.. มานั้งรอพวกพี่อ่ะแหละ” เพรชรีบแก้ตัว

     “แล้ว..”

     “สวัสดีค่ะพี่เพชร ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ สบายดีมั้ยพี่” ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไร คุณผู้หญิงคนนั้นก็พูดแทรกขึ้นมาเฉยๆ มารยาทดีจริงนะเธอ หึ!

     “ครับ.. ก็..”

     “แล้วพี่นุ๊กใหญ่ยังไม่มาอีกหรอพี่แม็ก” ฉันใช้สันดานผู้ดีพูดแทรกก่อนที่เพชรจะตอบคำถามยัยคนนั้น

     “อ๋อ วันนี้มันขอบาย  ต้องไปอยู่เวรปอ(ปอเต็กตึ้ง)น่ะ” พี่นุ๊กใหญ่ทำงานเป็นอาสาสมัครที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งค่ะ พี่นุ๊กเขาจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น จนบางทีต้องมาแอบงีบที่ห้องเรียนแทน

     “มาและจ้า~” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร ไอ้โมมาแล้ว มาพร้อมกับแฟนสาวของมันที่ชื่อส้ม

     “มากันพร้อมแล้วงั้นเราเริ่มกันเลยดีกว่า”พี่แม็กเอ่ยชวน

     “รอแป๊ปนึงได้มั้ยพี่ พอดีแน๊กชวนน้องปีหนึ่งมาคนนึง พอดีว่ารู้จักกัน เลยชวนมาทำความรู้จักอ่ะ”

     “ได้เลยๆ พี่ไม่รีบอยู่แล้ว” ทันทีที่แม็กพูดจบ เด็กน้อยคนหนึ่งก็เดินตรงมาหาพวกเรา พร้อมเอ่ยคำทักทายด้วยวาจาสุภาพ

     “สวัสดีครับ” น้องคนนั้นยกมือไหว้พวกเราทุกๆคน

     “ชื่ออะไรล่ะเรา” อ้นเอ่ยถาม

     “น้ำแข็งครับ” น้ำแข็ง เป็นเด็กปีหนึ่ง สาขาวิจิตรศิลป์ เป็นผู้ชายตัวเล็กๆ เรียกว่าเล็กมากเลยก็ได้ ขนาดฉันว่าฉันตัวเล็กแล้วนะ น้ำแข็งยังตัวเล็กกว่าอีก

     “โอเค งั้นเรากินกันเลยดีกว่า เดี๋ยวค่อยมาทำความรู้จักกันในวง”นุ๊กเล็กบอก ทุกคนรีบจองที่นั้งที่ตนพอใจ ฉันเลือกนั้งริมสุดติดน้ำ เรานั้งกินไปสักพักจึงได้รู้ว่า ยัยคนนั้นชื่อคุณน้องแพรวา เป็นคนข้างบ้านของนุ๊ก ซึ่งขอติดตามมาด้วย เหตุผลน่ะหรอ ก็หล่อนตกหลุมรักเพชรเข้าอย่างจังไงล่ะ เรื่องนี้นุ๊กแอบกระซิบให้ฟัง เห้อะ!ผู้หญิงอะไรวะเนี่ย><!!

     “ตั้งวงรินกินเหล้าถ้าไม่เมาไม่เลิก ไม่เช็กบิลไม่ไล่ก็ไม่ไปจากร้าน  หัวใจมันเสียจริตจิตเสียศูนย์แหลกราน~”

     “ชะ ชะ ช่า”

     “เพื่อนฝูงปวดกะบาล~”

     “ชะ ชะ ช่า”

     “เพราะสงสาน.. หมาวัดดด~”

     “ชะ ชะ ช่า” ตอนนี้ทุกคนเริ่มกริ่มๆกันแล้วล่ะกัน หัวฉันก็เริ่มหมุนๆๆๆๆแล้วเหมือนกัน เพื่อนของฉันพากันร้องรำทำเพลงกันอย่างเบิกบาน ต้นเสียงจะเป็นใครไปไม่ได้ ตาอ้นคนเดิม ส่วนเสียงคอรัลที่ไม่ค่อยจะเข้าจังหวะเนี่ย ก็เสียงของนะโม กับน้ำแข็งมันเนี่ยแหละ ไม่รู้มันไปสนิทกันตอนไหน เข้ากันเป็นปรี่เป็นขลุ่ยเลย ฉันแอบเห็นมันกระซิบกระซาบอะไรกันบ่อยๆ  คงไม่กลับรำกันหรอกนะ_ _”

     “ฉันมักจะไล่เธอเป็นประจำให้ไปไกลๆได้มั้ย ถ้าหากฉันไล่เธอไล่ทุกวันเธอจะหน้าด้านมั้ย จะตึกร้างหรือว่าถังขยะ เธอจะไปนอนไหนก็ตามใจเถอะ ก็บอกบางทีมันลำคาญเกิดจะอธิบาย มันช่างวุ่นวายอะไรของเธอจุ๊กจิ๊กจู๋จี้.. ชิบหาย ไม่ใช่ว่าฉันนั้นมีเมียใหม่ ฉันน่ะเบื่อเธอ แต่ติดใจตรงที่นมใหญ่ พูดโน้นพูดนี้ประโยคเดิมๆซ้ำๆ ถ้าเธอยังไม่ไปจะให้ดวงตาช้ำๆ ช่วยรีบไปไปให้ไกลสุด ยังมายืนทำหน้างงเดี๋ยวตบหัวหลุด  You.. you ไปไกลๆสนตีน ถ้า you ไม่ไป i จะไปให้เอง แต่ไม่ว่านานแค่ไหนอย่าได้เจอกันอีกเลย~”

”ทุกคนประสานเสียงร้องเพลงเกลียดเมียที่สุดในจักรวาลกันอย่างกึกก้อง

      “บอกว่ารักรถจักรยาน รักมากๆกว่าเมีย บอกไม่ฟังเดี๋ยวทืบเสีย รู้มั้ยว่าปวดหัวนะเนี่ย~”ฉันกับเพชรทำท่าเอามือสองข้างจับหัว พรางสายหัวไปมาประกอบเสียงเพลง ซึ่งมันเป็นท่าประจำที่เวลาเราเมาเรามักจะทำกัน

     “มันต้องได้อย่างงี้ดิ่วะเห้ย~” เพชรลุกขึ้นจับมือชอบอกชอบใจกับฉันยกใหญ่ ฉันแอบเห็นยัยคุณน้องแพรวามองฉันตาเขียวปัด แต่เวลานี้ฉันไม่สนหรอก ก็ฉันกำลังสนุกสนานอยู่กับเพื่อนฉันหนิ่

     ยิ่งดึกเพลงยิ่งมันส์ ยิ่งมันส์ก็ยิ่งกิน  ยิ่งกินก็ยิ่งเมา  ตลอดนี้สภาพของทุกคนไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก หน้าแดงกล่ำมันแผล็บ แล้วใครจะสนล่ะ บอกให้ก็ได้.. คุณน้องแพรวาไง คุณเธอเติมหน้าทุกห้านาทีเห็นจะได้ จนตอนนี้หน้าเธอหนาเป็นศอกและ @ 3@

     “เห้ยๆๆทุกคนๆๆๆๆ” นะโมยืนขึ้นปรบมือเรียกทุกคนให้หันมามองที่มัน “จะเที่ยงคือแล้วว่ะ เดี๋ยวข้าไปส่งส้มก่อนนะเว้ย แล้วก็คงกลับบ้านเลย ยังไงไว้เจอกันพรุ่งนี้ที่โรงเรียนนะ” นะโมบอกลาทุกคน อ้น กับเพชร ยกไม้ยกมือเป็นเชิงบอกลา

     “ขับรถไหวป่ะเอ็งอ่ะ” พี่แม็กถามด้วยความเป็นห่วง

     “ไหวครับพี่ ( O 3O)v” นะโมทำแก้มป่องแอ๊บแบ๊วชูสองนิ้วสู้ตาย “เอ็งจะกลับเลยเปล่าไอ้มนต์” มันยังไม่ลืมจะหันมาถามฉัน

     “เอ็งกลับไปเหอะ แค่สองคนก็ลำบากแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงไอ้มนต์หรอก คนคอยส่งมันเยอะแยะ” พี่แม็กไม่รู้จะแซวอะไรฉันนักหนา ฉันคงสวย และรวยมากสิ่นะ _ _”

     “งั้นฝากมันด้วยแล้วกันนะ” นะโมหันไปยักคิ้วให้น้ำแข็งเล็กน้อย ก่อนจะยกมือไหวพี่แม็ก แล้วหันมาลาอีกครั้ง “ไปก่อนครับพี่  ไปล่ะนะทุกคน”

     “สวัสดีค่ะ” ส้มแฟนไอ้โมไหว้พี่แม็กด้วย แล้วหันมาก้มหัวให้พวกเราเล็กน้อย “กลับก่อนนะคะ”

     “บ๊าย บายจ้า~” ไอ้อ้นโบกมือหยอยๆ บอกน้อยจะไปชายแดน!

     พวกเรานั้งกินต่อมาได้สักพัก สัญญาณหมดเวลาก็ลอยมาแว่วๆ

      “เหล้าหมดว่ะ” เป้ที่ทำหน้าที่บริกรเอ่ยขึ้น ทั้งวงเงียบเหมือนโดนสะกดจิต  ได้แต่มองหน้ากันไปมา ไม่มีใครพูดอะไร

     “งั้นคืนนี้เอาไว้แค่นี้ดีกว่า พรุ่งนี้มีเรียน” พี่แม็กบอก

     “โอเคตามนั้นนะ”เป้รับคำ พวกเราพยักหน้ารับด้วย

     “แพร กลับบ้านเหอะ” นุ๊กร้องเรียกน้องสาวข้างบ้าน ซึ่งสภาพก็เมาไม่น้อยเลย

     “พี่เพชรไปส่งแพรหน่อยสิ่” เธอคล้องแขนเพชรไว้ไม่ยอมปล่อย ราวกับว่าถ้าเพชรขัดขืนเธอจะดึงให้แขนหลุดติดมือกลับไปด้วยเลย

     “พี่ต้องไปส่งน้ำมนต์อ่ะ แพรก็บ้านอู่ใกล้ไอ้นุ๊ก ก็กลับพร้อมไอ้นุ๊กแล้วกัน” เพชรเอาฉันมาอ้างเพื่อปฏิเสธ

     “เดี๋ยวข้าไปส่งไอ้มนต์เอง” อ้นพูดขึ้น

     “ไม่ต้องหรอก เอ็งกลับบ้านเอ็งเหอะ บ้านเอ็งไกล มัวแต่ไปส่งคนนู้น คนนี้ เดี๋ยวก็ไม่ถึงบ้านพอดี” เป้ขัด

     “แพร ถ้าแพรยังเป็นแบบนี้ ทีหลังแพรไม่ต้องมาแล้วนะ”นุ๊กหันไปดุแพรวา

     “ก็ได้ๆๆ” เธอทำท่าไม่พอใจ “พี่เพชร แพรกลับแล้วนะคะ” เธอบอกลาเพชรเพียงคนเดียว ก่อนจะสดีดสะดิ้งเดินออกไป

     “กลับก่อนนะเว้ย” นุ๊กบอกลาอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินตามออกไป

     “มนต์ เดี๋ยว..” ยังไม่ทันที่อ้นจะพูดจบ พี่แม็กก็ขัดขึ้น

     “อ้น เดี๋ยวเอ็งไปส่งข้าหน่อยนะ ข้าไม่ได้เอารถมาว่ะ”

     “ครับ” อ้นรับสั้นๆ “งั้นข้ากลับก่อนนะเว้ย กลับดีๆล่ะ” อ้นบอกลา ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับพี่แม็ก

     “ไปน้ำมนต์ เดี๋ยวข้าไปส่ง” เพชรบอกกับฉัน ที่กำลังยืนมองพี่แม็กกับอ้นอยู่

     “อื้อ” ฉันรับสั้นๆ “เห้ยเป้ ข้ากลับก่อนนะเว้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้ามาช่วยเก็บกวาดนะ”

     “เออ กลับดีๆล่ะกัน”เป้บอกกับฉัน “ไอ้เพชร เอ็งขับรถดีๆน่ะ”

     “อืม ข้ารู้น่า” เพชรยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับเป้ ก่อนจะเดินนำฉันออกไป ฉันไม่ลืมที่จะบอกลารุ่นน้องของฉัน

     “พี่ไปก่อนนะน้ำแข็ง เดี๋ยวไว้พรุ่งนี้เจอกัน”

     “ครับพี่ กลับดีๆนะครับ”

 

     ฉันซ้อนรถมอร์เตอร์ไซค์คลาสสิกของเพชรออกมาสักพักนึงแล้ว ฉันรู้สึกง่วงนอนมากๆจนแทบจะพยุงตัวเองไม่ไหว ฉันเอนหัวซบลงที่หลังของเพชรอย่างแผ่วเบาที่สุด เพื่อไม่ให้เพชรรู้สึกหนัก แต่สายตาของฉันยังคงจดจ้องอยู่กับข้างทาง ฉันเดาๆว่าเพชรคงจะเมาอยู่ไม่น้อยเลย เพราะการขับรถของเขาช้ามาก ฉันกลัวว่าเพชรจะหลับไปซะก่อน ฉันจึงพยายามชวนเขาคุย

     “เพชร..” ฉันเรียกเขาเบาๆ กลัวว่าเขาจะตกใจ รถคว่ำตายทั้งคู่

     “ว่าไง” โชคดีที่มีเสียงตอบ นั่นหมายความว่าเพชรยังไม่หลับ

     “ทำไมเอ็งขับรถช้าจังวะ” ฉันผลักหัวฉันออกจากหลังของเพชร เพื่อให้คุยง่ายขึ้น

     “ข้าอยากอยู่กับเอ็งนานๆ” คำตอบของเพชรทำเอาฉันขนลุกไปทั้งตัว ไม่ได้ปวดอึนะ! แต่มันฟังดูทะแม่งๆยังไงไม่รู้ ><!!

     “แง่ะ!!!”

     “พูดจริงนะเว้ย” เพชรย้ำ

     “หร๊า~” ฉันขึ้นเสียงสูง “หิวข้าวเปล่าเอ็ง”

     “ไม่หิวหรอก เอ็งล่ะ  หิวยัง”

     “ไม่หิวเหมือนกัน แต่ง่วงนอนมากๆเลย เอ็งช่วยขับไวๆหน่อยได้มั้ย” เพชรไม่ตอบอะไร แต่เร่งเครื่องให้ไวขึ้นตามที่ฉันขอ เพียงไม่กี่อึดใจ เราก็มาถึงบ้านของฉันแล้ว จริงๆมันก็ไม่เชิงบ้านหรอก มันเป็นแค่ตึกแถวสามชั้น ที่ถูกตกแต่งอย่างคลาสสิค โดยพี่ชายคนโตของฉัน กับนะโม ซึ่งตอนนี้เขาเสียไปแล้ว

     ฉันไขประตูเข้าไปด้านใน โดยมีเพชรตามเข้ามาด้วย แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรกัน ฉันก็รู้สึกจุกขึ้นมาที่คอเฉยๆ คล้ายๆกับว่า สารพันที่กินเข้าไป มันกำลังจะประทุออกมา

     ฉันไม่รอช้า รีบพุ่งตัวเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเร็วเหนือเสียง และแล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ข้างในมันก็พุ่งออกมาด้วยความเร็วเหนือเสียงเช่นกัน

     “เห้ยๆ เป็นไรวะ ฮ่าๆๆๆ” เพชรยืนหัวเราะเยาะฉันอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ

     “ตลกมากหรือไงฮะ ไอ้บ้าเอ้ย” ฉันบ่น พรางลุกกดชักโครกเพื่อทำลายหลังฐาน

     “ไหวมั้ยเนี่ย” เพชรมาช่วยประคอฉัน “ไปนอนได้แล้วไป” ฉันพยักหน้ารับ ก่อนเดินไปแปรงฟัน ล้างหน้าล้างตาให้สะอาด เตรียมตัวนอน (โดยไม่อาบน้ำ ฮิฮิ)

     เพชรมาส่งฉันที่ห้องนอน จัดการเปิดไฟในห้องให้สว่างไสว เปิดพัดลมขับไล่อากาศที่แสนจะร้อนอบอ้าว

     “ไอ้โมยังไม่กลับอีกหรอเนี่ย” ฉันพึมพำอยู่คนเดียว

     “นอนคนเดียวเลยสิ่คืนนี้” ปกติแล้ว ฉันกับน้ำมนต์นอนห้องเดียวกัน เราไม่เคยแยกห้องกันเลยตั้งแต่เกิด เราจึงเป็นพี่น้องที่รักใครสามัคคีกลมเกลียวกันมากเลยทีเดียวเชียว

     “อือ สงสัยมันไปนอนบ้านส้มมั้ง” ฉันพูดพรางเปลี่ยนสื้อผ้าเป็นชุดลำลอง

    “ให้นอนเป็นเพื่อนป่ะล่ะ” เพชรแสยะยิ้ม อย่างมีเลศนัย จริงๆมันก็ทำหน้ากวนตีนไปงั้นแหละ ไม่ได้มีไรจริงจังหรอก

     “แล้วแต่เอ็งดิ่ เอาชุดนักเรียนมาเปล่าล่ะ”

     “เอามา ข้าอ่ะ พร้อมทุกสถานการณ์อยู่แล้ว” เพชรโยนกระเป๋าเสื้อผ้าใส่หน้าฉัน ก่อนจะกระโดดดึ่งๆๆ ไปรื้อค้นหาเสื้อผ้าในตู้ของฉันออกมาใส่อย่างเป็นกันเอง!!!!!

     “ข้านอนและนะ หาที่นอนเองละกัน” จะพูดจบก็ถลกผ้าห้มออกมาคลุมโปรง ปิดม่านตาลงแต่ยังไม่หลับ

     ฉันกับเพื่อนๆทุกคน กินๆนอนๆด้วยกันมาตลอดอยู่แล้ว จึงทำให้การมานอนด้วยของเพชรในครั้งนี้เป็นเรื่องปกติมากกกกกกกกกกกก ไม่มีให้ถือหรอก พวกเราอ่ะ อยู่ด้วยกันจนแทบจะเป็นคนเดียวกันอยู่แล้ว

     ขณะที่ฉันนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่ใต้ผ้าห่มได้สักพัก ฉันก็รู้สึกได้ว่าห้องมืดลง เพชรคงปิดไฟเรียบร้อยแล้ว ที่นอนข้างๆฉันหยวบลงด้วยแรงกด แต่ฉันไม่สนใจอะไรแล้วทั้งนั้น ปล่อยให้มันดูแลตัวเองเถอะ ฉันแกล้งทำเป็นหลับเพราะไม่อยากจะให้เพชรมาชวนคุยอะไรอีก เวลานี้ฉันอยากนอน!

     “จะห่มผ้าห่มบออะไรนักหนาวะ เดี๋ยวก็ขาดอากาศตายห่าหรอก” เพชรบ่นอยู่ข้างๆหู พรางค่อยๆล่นผ้าห่มออกจากหน้าของฉัน สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาให้อากาศเย็นสบายมาขึ้น แต่ไม่ว่าฉันจะพยายามข่มตานอนแค่ไหนมันก็ไม่ยอมหลับเสียที

     เพชรจับตัวเองยัดลงมาในผ้าห่มของฉัน มันนอนใกล้ฉันซะจนได้ยินเสียงลมหายใจ ฉันใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ถึงฉันกับเพชรจะเคยนอนด้วยกันมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วก็ตาม แต่ครั้งนี้มันนอนใกล้มากๆ ใกล้จนใจสั่น ฉันไม่ปฏิเสธว่าฉันก็ชอบเพชรอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่ที่ฉันเคยปฏิเสธมันก็ด้วยเหตุผลบางอย่าง และการที่มีมันนอนอยู่ใกล้ๆแบบนี้ ยิ่งทำให้ฉันหวั่นไหว

     “ขอกอดได้หรือเปล่า” เพชรกระซิบเบาๆข้างหูของฉัน รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก “ถ้ากอดจะผิดมั้ย” ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากแกล้วหลับต่อไป “คงไม่ผิดหรอกเนอะ” มันคงไม่ดีแน่ ถ้าฉันจะตื่นขึ้นมาตอบเพชรในตอนนี้ ฉันไม่อยากเสียเพื่อนดีๆอย่างเพชรไป “กอดนะ” ถ้าเพชรรู้ว่าฉันรู้ว่าเพชรคิดยังไง ฉันคงวางตัวกับเพชรไม่ถูกแน่ๆ

     เพชรค่อยๆขยับตัวมาใกล้ฉันมากขึ้น แล้วสอดแขนไว้ใต้หัวของฉัน โดยมืออีกข้างของเขากำลังกอดฉันอยู่ ตอนนี้หัวใจของฉันเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นหลุดออกมา ร่างกายเกร็งไปหมด จนแทบจะลุกมาปล้ำเพชรให้รู้แล้วรู้รอดกันไป แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะฉันเป็น กุ ล ส ต รี !     ถึงมันจะไม่ใช่ครั้งรกที่ฉันถูกผู้ชายกอด เพราะเวลาที่ไอ้โมอยู่ มันก็มักจะใช้ขาของมันมากอดฉันอยู่บ่อยๆ แต่การที่ต้องมาถูกเพื่อนรักกอด โดยไม่ใช่การกอดแบบเพื่อนรัก มันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้ บรึ่ย~

     “ขอหอมนะ” เฮือก!!!! ประโยคนี้เล่นเอาฉันเกือบกระเด้งจากเตียงขึ้นมาทันที ขนแขนสแตนอัพขึ้นพร้อมกันทั้งร่างกายโดยที่ไม่ได้นัดหมายอีกครั้ง

     ( -///-){-   )

     จุ๊บเข้าให้แล้วไง ตายๆๆๆ ๆม่ต้องหลับ ไม่ต้องนอนกันพอดี พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย ช่วยข่มใจให้ลูกรีบๆหลับไปซทีได้มั้ยเนี่ย>//<

     (  - {-   ))

     (O  O) เหมือนเยื้อบางๆที่กั้นอยู่ ถูกกระชากออกไปทันที เมื่อเพชรประกบปากของเราเข้าด้วยกัน  ฉันลืมตาโพลงขึ้นมาโดยไม่ทันระวัง เหมือนถูกสะกดจิตให้นิ่งอยู่อย่างนั้น รอจนกว่าเขาจะทำจนพอใจ

     เมื่อเพชรค่อยๆถอนตัวขึ้นช้าๆ  ความรู้สึกทุกอย่างของฉันถูกดึงกลับมา ฉันรีบผลักตัวเองออก ลุกขึ้นมานั้งหันหลังชนกำแพงทันที

     “เพชร!!!” ฉันตะโกนเรียกชื่อเขา ด้วยน้ำเสียงของความโกรธ “เอ็งทำอะไรของเอ็ง”

     “มนต์!! เห้ย.. ข้าไม่ได้ตั้งใจว่ะ ข้าขอโทษ” เพชรรีบแก้ตัว

     “เพชร.. เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย” ฉันย้ำสถานะทางสังคม

     “แต่ข้ารักเอ็งนะมนต์” แต่เพชรกลับย้ำสถานะทางหัวใจ

     “เอ็งเมามากแล้ว นอนเหอะ” ฉันล้มตัวลงนอนอีกครั้ง หันหน้าเข้ากำแพง โดยที่ไม่สนใจเพชรที่นั้งหัวโด่อยู่

     “เมื่อไหร่วะมนต์..” เพชรยังไม่เลิกพูด

     “เมื่อไหร่อะไรของเอ็ง” ฉันพูดโดยที่ไม่หันไปมอง

     “เมื่อไหร่เราจะคบกันได้ซักที” ฉันผลักตัวลุกขึ้นนั้งอีกครั้ง จ้องมองใบหน้าของเขา ผ่านอนูความมืด

     “ข้าเคยบอกเอ็งไปแล้วนะเพชร”

     “สองปีที่ผ่านมา ข้าก็ไม่เคยมีใคร ข้าคอยดูแลช่วยเหลือเอ็งมาตลอด ข้าพยายามทำดีทุกอย่าง แต่เอ็งกลับไม่เคยรู้เลย ว่าไอ้การที่เอ็งปฏิเสธแบบปัดๆมาในตอนนั้น มันยังมีอีกคนที่รออยู่ ข้าไม่เคยลืม แต่เอ็งไม่เคยจำอะไรเลยใช่มั้ย แล้วมาให้ความหวังทำไมวะ ทำไมไม่บอกตั้งแต่วันนั้นว่ามันไม่มีทางเป็นจริง!” เพชรตะคอกเสียงใส่ฉัน น้ำตาเริ่มรินไหลอาบแก้ม ฉันรู้สึกผิดขึ้นมาทันที เป็นเพราะความกลัวของฉันเอง ที่มันทำให้ฉัน และคนที่รักฉันต้องเสียใจ การที่ต้องรอคอยใครสักคนเป็นเวลานานๆเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เพชรทำได้

     “ข้าไม่ได้ลืม แต่ข้า....” จากเสียงที่นักแน่น กลายเป็นเสียงที่แผ่วเบา หากต้องพูดถึงเหตุผล มันคงฟังไม่ขึ้นในเวลานี้แน่ๆ “ข้าว่าเอ็งนอนเหอะเพชร เลิกพูดเรื่องนี้กันซะที” ฉันดันตัวเพชรให้นอนลง หากแต่มันไม่ง่ายอย่างงั้น เขากลับดันตัวฉันให้อยู่ข้างล่างแทน ข้อมือทั้งสองข้างถูกกดไว้แน่น เพชรก้มลงจูบฉันอีกครั้ง แม้ฉันจะพยายามดิ้นแค่ไหน ก็ไม่สามารถสู้แรงเขาได้เลย น้ำตาที่มันไม่เคยโผล่ออกมาให้ใครเห็น นับตั้งวันที่พี่ชายเสียไป วันนี้.. มันกำลังออกมาเผชิญโลกภายนอกอีกครั้ง

     เพชรหยุดการกระทำแย่ๆของเขาไว้เดี๋ยวนั้น ฉันรีบผลักเขาออก แล้วทำในสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดจะทันที

     เผลี๊ยะ!!!!!!

    ฉันตบเข้าที่ใบหน้าเขาอย่างแรง  มือของฉันรู้สึกชาไปหมด เดาไม่ยากว่าเขาจะเจ็บแค่ไหน แต่ในเวลานี้ฉันไม่ควรจะมาสนใจอะไรทั้งนั้น

     “พอสักทีเหอะเพชร! เลิกคิดอะไรบ้าๆได้แล้ว ข้าคิดกับเอ็งแค่เพื่อน และไม่มีวันจะเป็นได้มากกว่านั้น เลิกทำตัวอย่างงี้ซะที มันงี้เง้า น่ารำคาญเข้าใจมั้ย จำไว้เลยว่าไม่มีทางที่เราจะเป็นอย่างอื่นได้ แค่เพื่อน! แค่เพื่อนเท่านั้น รู้ไว้ซะ!! และถ้ายังเลิกบ้าไม่ได้ ก็กลับบ้านไป  ไม่ต้องนอนที่นี่  หวังว่าจะเข้าใจนะ” จบบทสนทนาเพียงเท่านั้น ฉันล้มตัวนอนอีกครั้งโดยไม่หันมาสนใจเขาอีกเลย

     มันไม่ใช่ แค่เพื่อน แต่เพราะว่ามันคือเพื่อนต่างหาก ที่ทำให้ฉันไม่สามารถคิดเป็นอย่างอื่นได้ ขอโทษนะเพชร.. สักวัน.. เอ็งคงเข้าใจ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา