Time Crime บทเพลงและกาลเวลา

10.0

เขียนโดย HirariYurari

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 17.25 น.

  15 chapter
  6 วิจารณ์
  15.58K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 กันยายน พ.ศ. 2556 09.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) บทจบ - ความลับของหุบผา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

-15-

บทจบ - ความลับของหุบผา

-ฉันรักนายนะ...แต่ถึงอย่างนั้นทำไมนายถึงเอาแต่วิ่งไปหาเธอคนนั้นอยู่ตลอดเลยล่ะ?-

 

ตั้งแต่สมัยเด็กฉันเคยฝัน...ฝันว่าได้พบเจอกับนางฟ้าผู้แสนใจดี

เขาคนนั้นบอกกับฉันว่าฉันเป็นเด็กดี คอยช่วยเหลือพ่อแม่ทำงานตลอด เพราะฉะนั้นเขาจะให้รางวัลกับฉัน...ฉันอยากได้อะไรก็ขอให้บอกเขาไป

“....สิ่งที่หนูอยากได้ก็คือ...อยากอยู่กับเพสตลอดไป!”

ตัวฉันในตอนนั้นได้ตอบกลับไปอย่างใสซื่อเช่นนั้น...น่าอายใช่ไหมล่ะ? บอกว่าอยากอยู่ด้วยกันตลอดไป ทั้งๆ ที่มันไม่มีทางเป็นแบบนั้นไปได้แท้ๆ ตัวฉันเองสักวันก็คงต้องแก่ตาย...ไม่สิ...เพสเองก็ยังป่วยออดๆ แอดๆ อยู่เช่นนั้น ไม่แน่ ช่วงเวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกันนั้น อาจจะสั้นกว่าที่ฉันคิดเอาไว้ก็เป็นได้...

“ฉันไม่สามารถช่วยเธอได้ แต่ฉันจะให้สิ่งหนึ่งแก่เธอ เอาไปใช้ได้ตามที่ต้องการล่ะ”

นางฟ้าองค์นั้นบอกกับฉัน จากนั้นเธอก็ได้มอบสิ่งหนึ่งให้ฉัน...

นาฬิกาเก่าแก่ แสนสวยเรือนหนึ่ง...เป็นนาฬิกาที่จะสามารถย้อนเวลากลับไปในช่วงเวลาในอดีตได้...

***************************************************

เพสได้วางร่างของคุนทาเร่เอาไว้ที่โคนต้นไม้แถวนั้น แล้วรีบวิ่งกลับไปที่บ้านของตน ระหว่างทางนั้นไม่มีใครหันมาสังเกตเห็นเขา หรือยื่นหน้าออกมามองดูนอกหน้าต่างเลย ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะช่วงเวลานี้ ได้ย่างเข้าไปสู่กลางค่ำคืนที่ดึกสงัดเสียแล้วก็เป็นได้

‘ต้องรีบไป....ต้องรีบกลับไป...’

เพสพร่ำบอกกับตัวเองเช่นนั้น พยายามวิ่งกลับไปที่บ้านให้เร็วที่สุดแม้ว่าโรคประจำตัวของเขาจะเริ่มออกอาการแล้วก็ตาม

อึก...!

ระหว่างที่วิ่งไปนั้น เขาเผลอตัวกัดลิ้นของตัวเองซ้ำไปอีกครั้ง ยังผลให้บาดแผลที่เริ่มจะสมานตัวกันแล้วกลับเปิดตัวออกอีก กลิ่นเลือดคละคลุ้งกระจายอยู่ภายในปากของเขาเสียจนชวนให้รู้สึกคลื่นไส้

‘ต้องรีบไป...ต้องรีบกลับไป!!’

แต่ถึงกระนั้น...เขาก็ยังคงบอกตัวเองให้วิ่งไป...วิ่งกลับไปจนถึงที่บ้านของเขา...

จนกระทั่งเมื่อถึงบ้านและปีนหน้าต่างเข้าไปในห้องของเขาแล้ว เขาก็ได้คว้านาฬิกาเรือนนั้นขึ้นมาพร้อมมุ่งมั่นอธิษฐานอยู่ในใจ

‘ขอให้ได้กลับไป’

วาบ...

นาฬิกาเริ่มแสดงปาฏิหาริย์หวนคืนช่วงเวลาให้เขากลับไปอีกครั้ง...

**************************************************

ฉันดีใจมาก...ดีใจมากๆ ที่ได้นาฬิกาเรือนนี้มา จากนี้ต่อไปฉันก็จะสามารถมีชีวิตอยู่กับเขาได้ตลอดไปแล้ว...

ถ้าหากมีนาฬิกาเรือนนี้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของเขาอีกต่อไปแล้ว!

ฉันจะสามารถย้อนเวลากลับไปเวลาไหนก็ได้...ยิ่งถ้าฉันควบคุมดีๆ ฉันอาจจะสามารถย้อนได้แม้กระทั่งสภาพร่างกายของตัวเองด้วย สุดยอดไหมล่ะ?

ฉันจะอยู่ด้วยกันกับเพสตลอดไป...ฉันจะอยู่กับเขา จะเป็นเจ้าสาวให้เขา จะรักกับเขาตลอดไป

ทว่าเหตุการณ์เช่นนั้นกลับบังเกิดขึ้นมาเสียก่อน...ความสุขทุกอย่างได้พังทลายหายไปราวกำแพงโคลนที่ถูกคลื่นน้ำในวันฝนโปรยสาดซัด

**************************************************

เพสไม่คิดจะรอจนกว่าจะเช้าถึงจะไปหาคุนทาเร่ สภาพของเขาไม่เหมาะสำหรับการออกไปพบเจอกับคนอื่นๆ ในช่วงเช้า อีกทั้งตัวเขาเองก็ยังอยากจะไปหาคุนทาเร่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้อีกด้วย...เขาคว้านาฬิกาเรือนนั้นเก็บใส่กระเป๋ากางเกง หลังจากนั้นจึงกระโดดออกจากหน้าต่างเริ่มต้นออกวิ่งไปอีกครั้งโดยไม่คิดจะหวนกลับมาอีก

“.......เพส......”

“!!” ทว่าทันทีที่เขาหันหน้าเตรียมจะออกวิ่งต่อไป เขากลับได้ยินเสียงนั้น...เสียงที่ทำให้เขารู้สึกตื่นกลัวเสียจนขนแทบจะลุกไปทั้งตัว

“.........เจโล?”

“.........”

ผู้ที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาก็คือเจโล

“มะ...มาทำอะไรที่นี่เหรอ...ปกติเธอไม่เคยมาหาฉันเวลานี้นี่นา ฮะๆๆๆๆๆๆๆ” เพสหันกลับไปส่งเสียงหัวเราะให้เธอ เขารู้ว่าเธอในตอนนี้นั้นไม่มีความทรงจำในเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น....แน่นอน....เขาเองก็คิดว่ามันน่าจะเป็นเช่นนั้น

“อยู่ดีๆ ฉันก็เกิดรู้สึกใจสั่นขึ้นมาน่ะ เลยลองมาหานายดู แต่ว่า....เป็นอะไรไปน่ะ สภาพนั้น?”

“อ่า....มันก็นิดหน่อยล่ะนะ...ฮะๆๆๆๆ” เพสส่งเสียงหัวเราะกลบเกลื่อน พยายามถอยห่างออกมาจากเธอ เริ่มคิดที่จะหาทางหนีทีไล่ด้วยความกลัว

‘แย่ล่ะ...ถ้าเป็นแบบนี้เขาก็ไม่มีทางได้ไปหาคุนทาเร่น่ะสิ...’

แม้เจโลในตอนนี้จะไม่รู้เรื่องราวอะไรก็จริง แต่ทว่าเธอก็ยังคงเป็นเจโล บางทีเธออาจจะมีความคิดอะไรบางอย่างที่ไม่ปกติอยู่ภายในใจก็ได้ ใครจะไปรู้...

เขาไม่รู้...เพราะฉะนั้นเขาจึงได้กลัว...หวาดกลัวว่าเธอนั้นกำลังคิดจะทำอะไรบ้าง พยายามถอยห่างออกไป แต่ในขณะเดียวกันก็พยายามทำให้เธอไม่รู้สึกตัวไปด้วย

“นี่....ฉันมีคำถามจะถามหน่อยนะ...”

“อะ...เอ๋?...อะ...อะไรเหรอ?” เพสค้างไปเล็กน้อย เขาหัวเราะออกมา พยายามจะกลบเกลื่อนเรื่องที่เขาพยายามหนี ทว่าตัวเธอกลับดูเหมือนจะไม่สนใจในเรื่องนั้นเลย

“.....นาย....รักฉันหรือเปล่า...?”

“........”

ความเงียบแผ่ปกคลุมไปรอบบริเวณ ไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลยนอกจากเสียงสายลมที่พัดมาจากทางทะเล

เธอเคยถามคำถามเขา...แบบนี้ไหมนะ?

ก่อนหน้านั้นเธอเคยถามเขา...ตรงๆ แบบนี้ไหมนะ?

ไม่รู้...ที่เขารู้ก็คือส่วนมากเธอมักจะถามแต่คำถามแบบอ้อมค้อมกับเขา

ทว่าในคราวนี้...ทำไมเธอถึงได้เลือกที่จะถามคำถามแบบตรงๆ แบบนี้ออกมา ทั้งๆ ที่แค่คิดจะออกมาหาเขาเท่านั้นแท้ๆ?

“........”

แต่ถึงอย่างนั้นคำตอบของเขาก็ยังคงมีอยู่เพียงแค่คำตอบเดียว

“........ไม่.......”

“.........” ตัวของเจโลสะดุ้งไปเล็กน้อย คำตอบของเขาถูกสายลมพัดพาหายไปจนหมดสิ้น ทว่าสิ่งที่เธอตอบกลับมา กลับมีอยู่เพียงแค่คำตอบเดียวเท่านั้น

“.......งั้นเหรอ......”

เธอตอบออกมาพร้อมถอนหายใจ....

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร มีเรื่องต้องไปทำใช่ไหมล่ะ? ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปทำสิ”

“อะ...เอ๋? ตะ...แต่ว่า เธอมาหาฉัน...”

“เอาเถอะน่า ไปเถอะ!”

“อะ...เอ๋!!? อะ....เออ....คือ....” เพสเริ่มสงสัย เขารู้ว่าเธอเป็นเจโล เพราะฉะนั้นเธอไม่มีทางจะยอมอะไรง่ายๆ แบบนี้อย่างแน่นอน ทว่าทำไม...ทำไมเธอถึงได้ยอมให้เขาจากเธอไปง่ายๆ แบบนี้กัน?

เจโลพยายามผลักดันหลังเขาไป ส่วนเขาเองก็เผยสีหน้าสงสัยออกมา เริ่มคิดว่าเธอนั้นเป็นเจโลจริงๆ หรือเปล่า

ทว่าในขณะนั้น...เธอก็ได้ส่งเสียงพึมพำออกมา...

“.......ที่ผ่านมาก็ต้องขอบคุณมากนะ ดูเหมือนว่าฉันจะสร้างปัญหาให้นายเอาไว้เยอะเลย จากนี้ต่อไปก็ดูแลตัวเองด้วยล่ะ”

“.........?” เสียงพึมพำของเธอดังอย่างแผ่วเบามาจากด้านหลังของเขา เขาหันกลับไปมองเธอ ยังคงรู้สึกไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อยถึงปานกลาง

“.........” ทว่าหลังจากนั้น...เขากลับเริ่มเกิดความรู้สึกคล้ายจะเข้าใจขึ้นมาลางๆ

“........อ่า” เขาตอบกลับเบาๆ เจโลเพียงยื่นหน้าของเธอมาพิงหลังของเขา เอ่ยออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา

“ไปดีมาดีนะ....”

“อ่า....” เพสตอบเธอกลับไปเบาๆ จากนั้นเขาก็ตัดสินใจ วิ่งจากเธอไปทางทิศที่เชิงผาอยู่ โดยไม่คิดจะหันกลับมามองข้างหลังเลย

“ฉันคงสร้างปัญหาเอาไว้ให้นายเยอะสินะ...ขอโทษ...ขอโทษ....” เจโลเอ่ยด้วยน้ำเสียงแสนเหงาหงอย เด็กสาวจับจ้องมองแผ่นหลังของเขาจากจุดนั้น น้ำตาสองสายไหลลงมาตามใบหน้าของเธอ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงไม่คิดจะปาดมันออกไป

“แต่สำหรับฉัน แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ...ฉันไม่อยาก...ไม่อยากจะแย่งความสุขไปจากนายอีกแล้ว...” เธอสะอื้นไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด เริ่มรู้สึกว่าบางที ตัวเองอาจจะเป็นคนที่บ้าที่สุดมาตั้งแต่แรกก็เป็นได้...

เพสได้วิ่งจากไปแล้ว และเขาก็ไม่คิดจะหวนกลับมามองเธออีกเป็นครั้งที่สอง

*********************************************************

เขาตายแล้ว...เขาตายเสียแล้ว...

ทำไมกันล่ะ? ทั้งๆ ที่น่าจะมีเวลาอยู่ด้วยกันมากกว่านี้แท้ๆ...ทำไมถึงได้ตายซะแล้วล่ะ?

ไม่...ไม่เอา...ไม่อยากให้เขาตาย...

ฉันกรีดร้องออกมาสุดเสียง ตะคองกอดร่างของเขาไว้ไม่ให้เขาต้องจากฉันไป

และแล้ว...ฉันก็ตัดสินใจที่จะใช้นาฬิกาเรือนนั้นเป็นครั้งแรก...

เสียงของเขา...คำพูดที่เขาหันมาพูดกับฉัน...คิดถึงจังเลย...คิดถึงจริงๆ เลย...

ถ้าหากได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปก็คงจะดี...ถ้าหากได้อยู่แบบนี้ด้วยกันตลอดไปก็คงจะดี...

แม้ฉันจะคิดแบบนั้นก็เถอะ...ทว่ามันก็คงจะเป็นไปไม่ได้สินะ...?

และแล้ว...เธอคนนั้นได้ปรากฏตัวขึ้นมาเบื้องหน้าของฉัน

*********************************************************

เพสวิ่งไปเรื่อยๆ พยายามปีนไต่ขึ้นไปตามเขาเพื่อที่จะขึ้นไปหาเธอคนนั้น...

เธอคนที่เขารักมากที่สุดคนนั้น...

“!!” เมื่อเขาวิ่งไปจนถึงบริเวณที่เขามักใช้นัดพบกับคุนทาเร่เป็นประจำ เขาก็ได้เห็นแผ่นหลังนั้น...แผ่นหลังที่เขาแสนรักและโหยหามาโดยตลอด...

“.....คุนทาเร่...?”

“.....!!” เธอคนนั้นได้ยินเสียงเขา เด็กสาวรีบหันหน้ากลับมามองเขา เส้นผมของเธอพลิ้วไสวไปข้างหลังอย่างรุนแรง เบิกตากว้างเมื่อดวงตาของพวกเขาสบกัน

มันเป็นช่วงเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น

หลังจากนั้น...เธอก็ได้เผยยิ้มออกมา...เผยยิ้มอย่างงดงามที่สุดท่ามกลางแสงจันทร์ที่ส่องประกายอยู่เหนือฟากฟ้า...

***************************************************

เธอคนนั้น...ได้หลงรักเขา...พยายามแย่งเขาไปจากฉัน

เธอคนนั้น...ได้ทำให้เขาหลงรัก...เขาไม่คิดจะหันกลับมามองฉันอีก...

ทำไมล่ะ? ฉันทำอะไรผิดงั้นเหรอ? ฉันทำอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอถึงได้ต้องมาทำกับฉันแบบนี้

‘ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนที่คอยให้ความหวังกับฉันเองแท้ๆ...’

เธอรักกับเขา...บอกกับเขาว่าจะทำให้ได้ทุกอย่าง พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน...ยิ้มให้เขาอย่างมีความสุขเมื่ออยู่ด้วยกันกับเขา...เขาเองก็ยิ้มให้เธออย่างมีความสุขเช่นเดียวกัน ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยได้ยิ้มและทำท่าเขินอายให้ฉันเห็นเลยแท้ๆ...ทั้งๆ ที่ฉันพยายามย้อนเวลากลับไปเพื่อเขาขนาดนั้นแท้ๆ!!

ทนไม่ได้...ทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นเขาตายจากไป...เพราะฉะนั้นจึงย้อนเวลา...แต่หลังจากนั้นก็ทนไม่ได้...ทนไม่ได้ที่ต้องเห็นเขาอยู่กับเธอคนนั้น...เธอคนนั้นที่เข้ามาแย่งเขาไป...

ฉันพยายามบอกเขาให้กลับมาหาฉัน...อ้อนวอนขอให้เขาเลือกฉัน แต่ถึงกระนั้นเขากลับมองว่าฉันเป็นตัวน่ารำคาญ...

เขาไม่มีทางทำกับฉันแบบนั้นแน่...ฉันรู้ว่ามันเป็นเพราะคำโกหกของเธอคนนั้น...

และในตอนที่ฉันตัดสินใจที่จะแก้แค้นตอบแทนเธอคนนั้นกลับไป เขากลับหันมามองฉันด้วยสีหน้าโกรธแค้นที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน

‘เธอทำอะไรลงไปน่ะ? รู้บ้างไหม? ยัยฆาตกร!!’

“!!”

ฉันช็อคกับประโยคนั้น...ประโยคนั้นดังก้องสะท้อนอยู่ภายในหัวของฉันไม่หยุด...

ฆาตกร...ฆาตกรงั้นเหรอ? นั่นสินะ...บางทีฉันอาจจะเป็นฆาตกรอย่างที่เขาบอกฉันจริงๆ ก็ได้...

ฉันได้ย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง แต่ในคราวนี้ได้ย้อนไปจนถึงช่วงเด็กๆ...ช่วงหลังจากที่ฉันได้รับนาฬิกานั้นมาจากเทพธิดาพอดี...

“เพส ฉันให้!”

ฉันได้บอกกับเขาแบบนั้น ฉันได้ยื่นนาฬิกานั้นให้เขา เพราะฉันเองก็เหนื่อยมามากพออยู่แล้ว...

ฉันไม่อยากจะให้เขาตาย...แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากจะเห็นภาพที่น่าเจ็บปวดเช่นนั้นอีกแล้ว...เพราะฉะนั้นฉันจึงได้ตัดสินใจมอบนาฬิกาเรือนนั้นไปให้แก่เพส

เขาไม่เคยหยิบนาฬิกาเรือนนั้นมาใช้เลย...แน่นอนว่าฉันไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรแก่เขา ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมามันก็คงจะเริ่มทำการย้อนเวลาเอง ฉันได้แอบตั้งค่ามันเอาไว้เช่นนั้น

ทว่าทุกอย่างก็ยังไม่สิ้นสุด...เธอคนนั้นยังคงปรากฏตัวขึ้นมาให้ฉันเห็นเหมือนเช่นเคย...

“อ้าว? เธอเองงั้นเหรอ? คงยังจำฉันได้อยู่ใช่ไหม?” เธอคนนั้นหันมาทักฉันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ตอนนั้นฉันไม่คิดอยากจะสนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว

“.....หมายความว่ายังไง?” ฉันเอ่ยถามเธอไป เธอคนนั้นนิ่งไปครู่หนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็เริ่มหัวเราะออกมา

“ไม่ดีเหรอ? ฉันอุตส่าห์รักษาโรคให้เขาแล้วนะ เธอเองก็ปรารถนาอยากให้เขาหายจากโรคร้ายของเขาไวๆ เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?” เธอหัวเราะออกมา ทว่าตอนนั้นมือของฉันกลับเริ่มสั่นเทาอย่างน่าประหลาด...ฉันไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว...

ทั้งๆ ที่บอกฉันเองว่าเธอไม่สามารถรักษาโรคให้ใครได้แท้ๆ...ทั้งๆ ที่บอกแบบนั้นแท้ๆ ทว่าทำไมคราวนี้กลับมาบอกเขาและใช้เวทย์นั้นกับเขา...ทำไมถึงได้ใช้เวทย์เช่นนั้นกับเขาและหวังทำคะแนนให้เขาหันมามองเธอเพียงคนเดียวกันล่ะ?

ยัยเทพธิดาคนนั้น...คุนทาเร่ เทพธิดาที่ปรากฏตัวขึ้นมาในความฝันและมอบนาฬิกาเรือนนั้นให้ฉันคนนั้น....

ตอนนั้นฉันรู้สึกโกรธแค้นมาก ฉันพยายามดึงเขาออกจากเธอ ทว่าเขาก็ยังคงแอบไปหาเธออยู่บ่อยๆ

ทำไมถึงไม่ยอมฟังฉันเลย...ทำไมถึงได้เอาแต่วิ่งไปหาเธอกัน?

นายเห็นฉันเป็นตัวอะไร? นายเห็นฉันเป็นแค่ทางผ่านที่คิดจะวิ่งผ่านก็สามารถผ่านไปได้ใช่ไหม!!!?

นี่...จำได้ไหม? นายเองก็เคยบอกว่าฉันเป็นฆาตกรนี่นา...นายเคยกล่าวหาฉันเอาไว้แบบนั้นใช่ไหม?

ถ้าอย่างนั้น...ถ้าอย่างนั้นจากนี้ต่อไป...ฉันก็จะเป็นฆาตกรเหมือนอย่างที่นายคิดหวังเอาไว้เอง...

****************************************************

“มาแล้วเหรอ? เร็วจังเลยนะ” คุนทาเร่หันมามองผม เธอมองผมด้วยรอยยิ้มแสนสดใส ผมเองก็ยิ้มตอบเธอกลับไปเช่นเดียวกัน

“อ่า ผมมาแล้ว” ผมตอบเธอกลับไป จากนั้นพวกเราก็พากันหัวเราะให้กันภายใต้ท้องฟ้าประดับดาวแห่งนี้...

สายลมยามค่ำคืนนั้นหนาวเย็น แต่ถึงกระนั้นก็ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด...

ถ้าหากได้มีเธอคนนี้อยู่ข้างกายผม...ถ้าหากผมจะได้อยู่ด้วยกันกับเธอตลอดไปล่ะก็...แค่นั้นผมก็ไม่ต้องการอะไรอีกต่อไปแล้ว...

“นี่...แล้วคำตอบ...ล่ะ?” คุนทาเร่ค่อยๆ หันมามองผม เธอบิดตัวยึกยัก เหล่ตามอง ใบหน้าแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย เป็นท่าทางเขินอายที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

“......อ่า.....ฉันมาที่นี่เพื่อเธอ....”

“.........” คุนทาเร่หลบตาลงไป เธอเงยหน้าขึ้นมามองผมอีกครั้ง แต่หลังจากที่หลบตาลงไปอีกเธอก็ค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา

“คำตอบนั้น....บอกหน่อยสิ....”

“........” ผมจับจ้องมองใบหน้าที่แดงเรื่อของเธอ หลังนิ่งเงียบชื่นชมใบหน้าที่แสนจะไร้เดียงสานั้นของเธอไปได้สักพัก ผมก็ค่อยๆ เผยยิ้มออกมา

“อ่า....ผมรักเธอ....อยู่ด้วยกันกับผมตลอดไปนะ...” ผมพูดออกไป...เอ่ยคำตอบนั้นออกไปกับเธอแล้ว...

“..........!!” เธอคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ดวงตาของเธอเบิกกว้างเหมือนคาดไม่ถึงว่าผมจะเอ่ยออกมาแบบนี้ ทว่าหลังจากนั้นเธอก็หลบสายตาลงไปอีก

ท่าทางแบบนั้นน่ะ...ไม่ว่าจะเห็นเพียงสักเท่าไรผมก็ยังคงไม่รู้สึกเบื่อเลย...

*************************************************

ฉันฆ่าเธอ...แทงเธอไปหลายสิบแผลด้วยความโกรธเกลียดที่สุมรุมอยู่ภายในอก...และเพราะสงสัยว่าคนอย่างเธอนั้นทำขึ้นมาด้วยอะไร เพราะอะไรถึงต้องมาทำร้ายฉันกับเพสแบบนี้ ฉันจึงได้ลองแหวกอกควักเครื่องในของเธอออกมาดู...ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากของมนุษย์ทั่วไป แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังสกปรก...เป็นส่วนประกอบที่สกปรกและน่าขยะแขยงที่สุดเสียจนไม่อยากจะก้มหน้าลงไปมองเสียด้วยซ้ำ

“......ลาก่อน....เทพธิดาของฉัน” ฉันเอ่ยเช่นนั้นพร้อมขยี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกควักออกมาให้แตกสลายเป็นเพียงเศษเละๆ ไร้รูปร่าง ขณะเดียวกันเพราะกลัวว่าเขาจะคิดฆ่าตัวตาย ฉันจึงได้ใช้แผนเพื่อกักตัวเขาเอาไว้...เพื่อไม่ให้เขาหนีออกไปข้างนอก แต่ถึงกระนั้นมันกลับมีเรื่องที่ฉันคาดไม่ถึงและลืมไปเสียสนิทอยู่อย่างหนึ่ง

นาฬิกาที่ฉันได้มอบให้เขาไป...

จากนั้นพวกเรา...ก็ได้ถูกย้อนเวลากลับมาอีกครั้ง...

เขารีบวิ่งไปหาเธออีก ในคราวนี้ฉันก็คิดที่จะจัดการกับเธออีก แต่ว่า....

“คิดว่าเขาคนนั้นจะรักเธองั้นเหรอ? คิดว่าเขาจะรักฆาตกรหน้าด้านอย่างเธองั้นเหรอ? ไม่มีทาง”

“!!”

เธอคนนั้นเอ่ยพูดออกมาแบบนั้น หัวใจของฉันแตกสลาย คำว่า ‘ฆาตกร’ ย้อนกลับมาทำร้ายฉันอีกครั้ง...

เพสคงจะไม่เห็นความสำคัญของฉันอีกต่อไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันเองก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว...

ฉันได้ตัดสินใจกระโดดเขาไป...กระโดดลงไปต่อหน้าต่อตาของเขา และได้เอ่ยบอกกับเขาไป...

“คนทรยศ....”

ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองพูดอะไรออกไป รู้แต่ว่าตัวเองกำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานมาก...หัวเราะที่ได้เห็นเขารู้สึกเจ็บปวดเป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

ฉันตาย...ทุกอย่างจบ...มันควรจะจบลงเสียตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว...และฉันเองก็ต้องการให้มันจบลงตั้งแต่ตรงนั้นแล้ว...

แต่ทว่ามันก็ยังไม่จบ...

เขาย้อนเวลากลับมาหาฉันอีกครั้ง เขาย้อนเวลากลับมาเพื่อแก้ไขอดีตไม่ให้ฉันต้องตายไป

ทำไมกันล่ะ? ทำไมกัน...ทั้งๆ ที่นายไม่ได้รักฉันนี่นา?

ทำไมนายจะต้องเป็นคนที่อ่อนโยนแบบนี้ด้วย...? ทำไมนายจะต้องอ่อนโยนกับฉันอย่างน่ารังเกียจแบบนี้ด้วย?

ทำไมนายถึงไม่ยอมปล่อยให้ฉันตายๆ ไปแบบนี้สักที!!!!

หรือว่าจริงๆ นาย...จะมีใจให้ฉันอย่างนั้นเหรอ?

ฉันจะไม่ปล่อยให้นายหนีไปอีก...จากนี้ต่อไปฉันจะต้องเอานายมาเป็นของฉันให้ได้...

เพส...

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่คิดไปหาเธอคนนั้นแล้ว...ฉันดีใจมากจึงคิดที่จะมาเยี่ยมเขาเป็นประจำทุกวัน ทว่าสิ่งที่ฉันได้เห็นในเช้าวันนั้นกลับทำเอาฉันตกใจจนแทบพูดอะไรไม่ออก

เธอคนนั้น...ถึงขนาดลงจากเขามาเพื่อตามหาเขา...

เธอคนนั้น...ลงมาเพื่อทำลายชีวิตของฉันอีกครั้งแล้ว...

ความโกรธที่พุ่งพล่านอยู่ในหัวของฉันทำให้ฉันตัดสินใจทำอะไรไปอย่างไม่ยั้งคิด...สุดท้ายก็เผลอทำร้ายนายไปจนได้...

ขอโทษนะ...ขอโทษจริงๆ...ทั้งๆ ที่นายเป็นคนที่สำคัญกับฉันแท้ๆ...ทว่าฉันกลับคิดจะฆ่านายให้เธอคนนั้นรู้สึกเจ็บแล้วค่อยย้อนเวลากลับไปหานายอีกครั้งเสียเอง...ฉันไม่มีหน้าที่จะกลับไปพบนายอีกต่อไปแล้ว...ไม่มีหน้าที่จะมาบอกหรือบังคับนายให้รักฉันอีกต่อไปแล้ว!!

แต่ถึงอย่างนั้น...ฉันก็ยังทนไม่ได้...ฉันจึงได้ลองถามนายไปดู...

“รักฉัน....หรือเปล่า?”

ฉันลองถามเขาออกไปตรงๆ ดู และผลลัพธ์ที่ได้กลับมาก็เป็นอย่างที่ฉันคาดไว้

“ไม่...ฉันไม่ได้รักเธอ”

“......” มันก็แน่นอนอยู่แล้วนี่นะ...ก็เพราะว่าเขารักเธอคนนั้นนี่นา...

สุดท้ายฉันก็ทำได้แต่เพียงบ้าและเต้นรำไปเรื่อยๆ ตามเสียงหัวเราะของเธอคนนั้นก็เท่านั้น...

แต่ถ้าหาก...ถ้าหากเธอคนนั้นทำให้นายมีความสุขได้...ถ้าหากต่อไปนี้นายจะสามารถหัวเราะอย่างมีความสุขได้...เพียงแค่นั้นฉันก็คงไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านั้นอีกต่อไปแล้ว...

*****************************************************

“..........” พวกเรากอดกัน....อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศที่เริ่มนำพาให้พวกเราทำเช่นนั้นก็เป็นได้....พวกเราจูบกัน...

ริมฝีปากของเธอนั้นช่างอ่อนบางและหอมหวาน...เป็นกลิ่นที่คล้ายกับกลิ่นดอกไม้หอมๆ สักดอก ทว่าผมกลับไม่รู้ว่ามันเป็นกลิ่นของดอกไม้ชนิดไหน...มันเป็นกลิ่นของดอกไม้ชนิดไหนกันนะ...

รู้สึก....เหมือนผมจะเคยได้กลิ่นนี้ลอยมาจากส่วนลึกของป่าแห่งนี้เช่นเดียวกัน....

“........คะ......คุนทาเร่......?”

“หืม......?” เธอคนนั้นเริ่มรุกเข้ามาใกล้ผม....ไม่ไหว....ต่อให้บรรยากาศมันเริ่มจะทำให้ผมคล้อยตามก็เถอะ...แต่แบบนี้มันไม่ไหวแล้ว....

“เออ....ถ้าเกิดมากไปกว่านี้มันจะแย่เอานะ....อ่า....ยังไงพวกเราก็ยังเป็นเด็กอยู่นะ....”

“แต่ฉันเป็นภูตินะ ภูติอย่างฉันน่ะอายุมากกว่าที่นายคิดหลายร้อยเท่าเลยล่ะ”

“อ่า....แต่ถึงยังไงผมก็ยังเป็นเด็กอยู่นะ....คิดว่าแบบนี้มันก็ออกจะ....”

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะปกป้องนายเอง”

“อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เธอกล้าพูดออกมาแบบนี้กัน?”

“หุ หุ หุ หุ....” คุนทาเร่หัวเราะออกมา เป็นเสียงหัวเราะที่แสนจะหวานหู ผมเคยได้ยินเสียงหัวเราะนี้มาจากที่ไหนกันนะ....

นั่นสินะ....ไม่ใช่จากคุนทาเร่....ผมเคยได้ยินเสียงหัวเราะนี้จากที่ไหนกัน?

“ว่าแต่นายเถอะ....เคยเล่าให้ฉันฟังเรื่องตำนานเมืองของหมู่บ้านนี้ใช่ไหม? แล้วนายรู้เรื่องอะไรนอกเหนือไปจากนั้นหรือเปล่า?”

“มะ....ไม่นี่....ที่ฉันรู้ก็มีอยู่แค่นั้นเท่านั้นแหละ....”

“เหรอ....ถ้าอย่างนั้นก็แย่หน่อยนะ...”

“?” ผมรู้สึกสงสัย...เรื่องตำนานเมืองมันเกี่ยวอะไรด้วย แล้วทำไมเธอถึงได้เข้ามาถามผมในตอนนี้?

อ่า...ไม่ไหว...อย่ายื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมแบบนั้นนะ...อย่าเข้ามาใกล้ผมมากกว่านี้เลย...

ผมพยายามถอยห่างเธอ ท้ายที่สุดก็ได้สะดุดก้อนหินลงไปล้มกลิ้งบนพื้น

“หวา!!?”

“!!” ตัวของผมกลิ้งไปเรื่อยๆ ท้ายที่สุดหัวก็ได้ไปชนเข้ากับก้อนหินที่อยู่ห่างไกลออกไป

“หุ หุ หุ ไม่ต้องกลัวฉันขนาดนั้นก็ได้ น่ารักจังเลย”

“กะ...ก็แหม....” ผมยันตัวลุกขึ้น ยื่นมือไปลูบหัวตัวเอง พยายามกลบเกลื่อนท่าทางเขินอายของตัวเองสุดชีวิต...

ทำไมกันนะ...ทำไมผมถึงได้รู้สึกเหมือนเธอเปลี่ยนไป...แล้วทำไม...ผมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับเธอเสียเหลือเกิน...

“เมื่อก่อนนายน่ะ...ชอบขึ้นมาบนเขานี้ใช่ไหม? จากนั้นก็ชอบเดินหลงอยู่ในป่านี้เรื่อยๆ”

“อ่า...มันก็ใช่ล่ะนะ...แต่ว่าเธอรู้เรื่องนั้นได้ยังไงกัน เรื่องนั้นฉันยังไม่เคยเล่าให้เธอฟังเลยนะ?”

“หุ หุ มันยังไงกันนะ~~~” คุนทาเร่ส่งเสียงหัวเราะออกมา แต่หลังจากนั้นก็เดินมานั่งคร่อมอยู่บนตัวผม

“ทะ...ทำอะไรน่ะ?”

“นี่....เพส....ให้ฉันเล่าเรื่องอะไรให้นายฟังเรื่องหนึ่งเอาไหม?”

“เอ๋?” ผมส่งเสียงร้องออกมา ไม่รู้เลยว่าเธอกำลังต้องการอะไรจากผมกันแน่

“จากเรื่องที่นายเล่าให้ฉันฟังน่ะ ลึกเข้าไป ลึกเข้าไปในป่านี้ เขาว่ากันว่ามันจะมีมิติลึกลับอยู่ใช่ไหมล่ะ?”

“.....อ่า....ไม่เชิงมิติลึกลับหรอก แค่บอกว่าถ้าหลงเข้ามาในป่านี้อาจจะหลุดเข้าไปในที่ที่ไม่รู้จักและออกมาไม่ได้ก็เท่านั้นเอง”

“ในมิตินั้นน่ะ มีปราสาทอยู่ด้วยนะ”

“เอ๋!?” ผมตกใจกับเรื่องที่เธอบอก เบิกตากว้างไม่เข้าใจว่าเธอต้องการอะไร แต่หลังจากนั้นผมก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา

อ่า....

นั่นสินะ...ในที่แห่งนั้น...ไม่สิ ในป่าแห่งนี้มีปราสาทอยู่นี่นา

ปราสาทหลังใหญ่โตมโหฬาร...อาคารสีแดงทึบให้ความรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในมิติอื่นหรือขุมนรกที่ไหนสักแห่ง...แม้แต่ท้องฟ้าก็ยังเป็นสีแดง ต้นไม้ถูกย่างกรอบกลายเป็นสีดำทมิฬจนหมดสิ้น เสียงนกกากรีดร้องเป็นสิ่งเดียวที่เขายังคงได้ยินดังแว่วอยู่ภายในหูของเขา

“ที่แห่งนั้นน่ะ มีคุณภูติที่แสนจะร้า~~~~~~ยกาจอาศัยอยู่ด้วยล่ะ” คุนทาเร่ค่อยๆ ยื่นหน้าเข้ามาข้างหูผม กระซิบกับผมด้วยโทนเสียงที่แสนจะน่าวังเวง เป็นเสียงหัวเราะคิกคักที่ชวนให้คิดถึงอย่างน่าประหลาด

อ่า...จริงสินะ...เราเคยหลุดไปที่นั่นแล้วนี่นา...แถมยังได้เจอเจ้าของคฤหาสน์แห่งนั้นด้วย...

เจ้าของคฤหาสน์นั้นเป็นเด็กสาวที่หน้าตางดงามราวกับตุ๊กตา มีเส้นผมสีทองเปล่งประกายอย่างงดงามยาวเรี่ยไปจนถึงพื้น เผยยิ้มอย่างแสนน่ารักและเอ่ยบอกกับผมด้วยน้ำเสียงแสนเสน่หา

ปราสาทในมิติพิเศษ...มิติที่หลบซ่อนอยู่ภายในป่าบนหุบเขาแห่งนี้...ตำนานเมืองของหมู่บ้านเขา...มิติกินคน...

“ไว้ในอนาคตฉันจะมารับเธอมาอยู่ด้วยกันกับฉันนะ หนุ่มน้อย” เธอคนนั้นกระซิบข้างหูผม...บอกกับผมด้วยเสียงหัวเราะที่ชวนจักจี้หู

“เพราะฉะนั้นจนกว่าจะถึงตอนนั้น ช่วยรักษาร่างกายที่บริสุทธิ์ไร้มลทินต่อไปแบบนี้เพื่อฉันทีนะ” เธอหัวเราะออกมาอีกครั้ง กอดตุ๊กตาไร้หัวเอาไว้ภายในมือ เงาที่มีลักษณะคล้ายหัวและยื่นออกมาจากภายในคอที่มีนุ่นสีแดงฉานกำลังส่งยิ้มให้ผม พร้อมกันนั้นก็ได้ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเลือดเย็น

[ชื่อของฉันคือ ‘คันทาเรีย เดอ สเตลล่า’]

คุนทาเร่ค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ตัวของผมอีกครั้ง จากนั้นก็ค่อยๆ อ้าปากที่มีคมเขี้ยวแสนน่ากลัวออกมา

“เป็นคุณภูติผู้แสนใจดี....ไม่สิ....เป็นแวมไพร์ที่อาศัยอยู่ในมิติกลางป่าแห่งนี้ล่ะ”

และแล้วคมเขี้ยวของเธอก็ได้กดฝังเข้ามาภายในคอของผม นาฬิกาเรือนนั้นกระเด็นหลุดออกไปจากภายในกระเป๋าเสื้อของผม และแตกหักออกจากกันด้วยพลังอะไรบางอย่างที่ผมเองก็ไม่อาจรู้ได้

ถ้าหาก....ถ้าหากนายอยู่กับเธอคนนั้นแล้วมีความสุข ฉันเองก็รู้สึกดีใจ...

เจโลหลั่งน้ำตาสายใหญ่ สองสายออกมาตามแก้มของเธอ ก้าวเดินไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าสู่ผืนทะเลที่กว้างใหญ่

แต่ฉัน...คงจะทนดูภาพความสุขระหว่างพวกนายสองคนไม่ได้...

เด็กสาวค่อยๆ มุ่งหน้าเดินตรงไปเรื่อยๆ...เดินตรงไปเรื่อยๆ ผืนน้ำและลูกคลื่นเองก็ค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาปกคลุมขาของเธอทีละน้อย...จากตาตุ่มไปจนถึงเข่า จากเข่าไปจนถึงต้นขา

พวกผู้ใหญ่เคยบอกเธอเอาไว้ว่า อย่าออกมาไกลจากทะเลจนเกินไป...

“.........”

เพราะไกลออกมาจากบริเวณชายฝั่งเล็กน้อย....ก็คือหุบเหวที่ถูกปกคลุมด้วยผืนน้ำจนมองไม่เห็น....

ฟึบ!

ซ่า!!

เท้าของเธอได้ก้าวไปจนถึงบริเวณที่ไม่มีอะไร จากนั้นก็ได้โดนกระแสน้ำดูดลงไปสู่ภายใต้ผืนทะเลอย่างรวดเร็ว

ถ้าหาก...ถ้าหากในวันหลังฉันได้มีโอกาสกลับมาเกิดอีกครั้งล่ะก็...

เจโลเฝ้าภาวนาอยู่ในใจอย่างอาวรณ์

คราวนี้ขอให้ฉัน...ได้กลายเป็นคนที่นายรักและได้อยู่เคียงข้างนายตลอดไปบ้างเถอะ!!

ร่างของเธอค่อยๆ จมหายไป...จมหายไปพร้อมชีพจรที่ค่อยๆ ดับหายไปอย่างช้าๆ...

********************************************************

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา