---LoveSad รักเลวๆ ของคนอย่างนาย---

9.0

เขียนโดย WinnerShadow

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.44 น.

  10 chapter
  11 วิจารณ์
  15.99K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 กันยายน พ.ศ. 2556 14.10 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) LoveSad --Chapter 7 น้ำตาล...--

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

Chapter 7

 

 

            ‘เคลียร์ๆ ถ้านายเรียนจบ แล้วจะไปต่อ ม.ปลายที่ไหนเหรอ?’ ร่างบางที่นั่งบนเตียงเอ่ยถามร่างสูงที่นั่งอยู่ที่พื้นพิงเตียงอยู่

            ‘นั้นสิน้า~ แล้วเมลท์จะไปไหนละ?’ ร่างสูงถามด้วยน้ำเสียงทะเล้น

            ‘ฉันอยากไปเรียนที่โรงเรียนซากุราบะน่ะ เพราะที่นั้นเป็นโรงเรียนที่ฉันเคยสัญญากับพี่ชายว่าจะสอบเข้าให้ได้’

            ‘นายมีพี่ชายด้วยเหรอ?’ ร่างสูงถามด้วยสีหน้าแปลกใจ

            ‘อื้ม! แต่ก็ไม่ได้เจอกันตั้งแต่ที่ออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วละ’ คำตอบของร่างบางอดทำให้ร่างสูงรู้สึกสำนึกผิดเป็นไม่ได้ ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งบนเตียงข้างๆ ร่างบาง แล้วลูบหัวอย่างอ่อนโยนเป็นเชิงปลอบใจ

            ‘งั้นเหรอ? ขอโทษนะเมลท์’

            ‘ไม่ต้องขอโทษหรอก ก็นายไม่รู้นิ แต่ช่วยบอกก่อนได้มั้ยว่าจะไปเรียนไหนน่ะ’

            ‘งั้น...’

            ‘งั้น..?’

            ‘ไปเรียนที่เดียวกับนายแล้วกันนะ’

            ‘เย้!! รักเคลียร์ที่สุดเลยยย’

            ‘นี่! ฉันหายใจไม่ออกนะ เดี๋ยวจับกดซะเลยนิ’

            ‘หา!? พูดอะไรน่ะ!? เคลียร์บ้า!!’

            การพูดคุยที่สนุกสนาน นิสัยที่ชอบลูบหัวเวลาปลอบ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเคลียร์ เมื่อก่อนมักเกิดขึ้นบ่อยๆ หากแต่ปัจจุบันมันช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าเป็นไปได้... อยากจะกลับไปในช่วงเวลานั้น... อะไรมันทำให้เกิดเรื่องแบบนี้...

 

 

            “ตื่นแล้วเหรอ?”

            ดวงตาค่อยๆ เปิดออก สิ่งแรกที่เห็นคือเพดานสีนวลของห้องพักโรงแรม เสียงที่ได้ยินคือคนที่นอนอยู่ข้างๆ ตอนนี้คงจะเช้าแล้ว เมลท์ค่อยขยับยืดเส้นยืดสาย ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับร่างสูงที่นอนตะแคงหันมาทางเขา โดยมีแขนเท้าหัว เป็นการเชิญชวนด้วยเสน่ห์อย่างมาก

            “ฮึก!”

            เมลท์ที่หันมาเห็นโดยบังเอิญขยับตัวหนีด้วยความกลัวอย่างทีเป็น ทว่ากลับโดนเคลียร์ที่รู้ทันจับเข้าที่แขนเอาไว้ได้ก่อน เมลท์ยังคงตัวสั่นเหมือนเดิม

            “จะกลัวอะไรนักหนาเนี่ย!”

            “ฉะ..ฉัน...”

            “อ้าว..นี่ไม่ใช่ว่าชอบความซาดิสเหรอไง?”

            “ไม่ใช่นะ! ฉันไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้น..! เคลียร์บ้า!!”

           

            ห๊ะ?

            “....!?”

            ฝ่ายนั้นซึ่งนอนเอาแขนเท้าหัวอยู่ถึงกับนิ่งไปในทันที สีหน้าแสดงถึงความตกใจอย่างเห็นได้ชัด นี่ผมดันพูดอะไรน่ะ ‘เคลียร์บ้า!!’ งั้นเหรอ? เมื่อก่อนผมพูดกับเคลียร์แบบนี้บ่อยๆ เขาคงไม่คิดอะไรแบบผมว่า อยากจะกลับไปแบบเมื่อก่อนหรอกนะ...

            มันต้องเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วละ!! ก็เคลียร์เป็นคนละคนกับที่เราเคยรู้จักแล้วนะ...

            ร่างบางลุกจากเตียงนอนโดยไม่มองหน้าร่างสูงที่ยังมีสีหน้าตกใจอยู่ ต่างคนต่างเงียบไปในทันใด หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเข้ามาในห้องน้ำ ร่างบางค่อยถอดเสื้อออก มือสั่นจนไม่รู้ว่าตอนนี้กลายเป็นเด็กที่ทำอะไรไม่ได้ตั้งแต่เมื่อไร มันไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักนิด เลิกคิดได้แล้วว่าเขาคิดจะเปลี่ยนน่ะ

            “ให้ฉันช่วยนะเมลท์..”

            ร่างสูงเปิดเข้ามาในห้องน้ำพร้อมสีหน้าที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ เมลท์ทำได้แค่มือไม้อ่อนไปหมด เคลียร์เดินตรงมาที่ร่างบางก่อนจะค่อยๆ ช่วยถอดเสื้อให้ ตัวของเมลท์ไม่สั่นอีกแล้ว ในหัวนึกถึงแต่เรื่องที่เคยเกิด

            ถ้าตอนนั้นเคลียร์ไม่เข้ามาเห็นตอนที่คุณนัตสึกิลูบหัวละ เรื่องจะเป็นแบบนี้มั้ย? หรือถ้าเขาไม่เข้าไปยุ่งกับห้องพยาบาลตั้งแต่แรก เรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ใช่มั้ย?

            “ยกแขนขึ้นหน่อยเมลท์”

            ร่างสูงเอ่ยขึ้นเมื่อจะถอดเสื้อให้ร่างบาง เมลท์ทำตามอย่างไม่ขัดขืน เรื่องอะไรจะขัดขืนละ ถ้าทำแบบนั้นเขาก็มีแต่จะโดนทำร้าย เสื้อฮู้ดถูกถอดออก เผยให้เห็นร่างกายที่ขาวน่าทะนุถนอม เว้นเสียแต่ ถ้าไม่มีรอยฟกช้ำและรอยคิสมาร์กมากมายจากการกระทำของร่างสูง

            งับ!

            “โอ้ย!” เสียงร้องดันขึ้นเมื่อฟันของร่างสูงสร้างรอยแผลที่ต้นคอให้ร่างบาง มือของร่างสูงโอบร่างเล็กอย่างแนบแน่น น้ำตาความเจ็บค่อยๆ ไหลออกมาจากใบหน้าหวาน ลิ้นร้อนของเคลียร์เลียบริเวณที่ตนกัดจนเป็นรอยเลือดซิบ ก่อนจะเม้มเสียงดัง ไม่นานก็เกิดรอยแดงสีกุหลาบเข้ากับรอยฟัน แล้วจึงปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ เมลท์ล้มลงนั่งกับพื้นกระเบื้องห้องน้ำอย่างเหนื่อยล้า

            “ฉันมีข้อตกลงให้นาย” เคลียร์พูดขึ้น

            “....?”

            “ที่ฉันทำรอยกัดนั้นไว้ เพราะเป็นขีดจำกัดที่ฉันจะไม่ทำร้ายนาย” เคลียร์เดินตรงไปที่ประตู “ถ้ารอยกัดนั้นหายไปเมื่อไร ฉันจะเป็นคนที่ทำร้ายนายแน่นอน เพราะฉะนั้นก็ภาวนากับรอยนั้นว่า อย่าหายไป แล้วกัน” ร่างสูงเดินออกจากห้องน้ำไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบและร่างบางที่นั่งอยู่กับพื้นเท่านั้น

            มือที่ไร้เรี่ยวแรงค่อยๆ ขยับขึ้นมาแตะรอยกัดอย่างแผ่วเบา แต่ความเจ็บกลับชัดเจนเหมือนแผลที่กัดนั้นจะลึกมาก เกินกว่าจะจางหายไปได้ง่ายๆ นี่นายทำไปเพื่ออะไรเหรอเคลียร์...

 

            เวลาผ่านไปร่างบางเดินออกมาในชุดเสื้อฮู้ดและกางเกงตัวเดิมจากการที่ไม่ได้รู้เรื่องที่จะมานอนโรงแรม เลยไม่ได้เตรียมชุดหรืออะไรมา

            “นายจะไปโรงเรียนรึเปล่า?” เคลียร์ที่นั่งอยู่บนโซฟาที่โต๊ะนั่งเล่นถามขึ้นพร้ามจิบกาแฟที่ดูเหมือนจะสั่งจากทางโรงแรมขึ้นมาระหว่างที่เขาอาบน้ำ

            “ฉัน..ไม่อยากไป..” สีหน้าของเมลท์แย่ลงเมื่อพูดถึงโรงเรียนเพราะเป็นสถานที่ที่เขาถูกรังแกนั้นเอง

            “งั้นจะไปไหน?”

            “จะไปหาริวเนะ” เมลท์ตอบแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าตังที่วางไว้บนโต๊ะตัวเล็กข้างๆ กับเตียงนอน ร่างสูงลุกขึ้นเมื่อดื่มกาแฟหมดแก้ว

            “รอแปป ฉันอาบน้ำก่อน”

            “เอ๊ะ?”

            “ฉันจะขับรถไปส่งเอง นั่งกินกาแฟที่โต๊ะไปก่อนแล้วกัน”

            เมลท์มองตามเคลียร์ที่เดินไปหยิบผ้าขนหนูที่เขาพึ่งจะใช้อาบเมื่อกี้แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ก็เข้าใจอยู่หรอกว่ารีบ แต่ไม่ควรจะใช้ผ้าผืนเดียวกับเราเลยนะ

            ร่างบางเดินมานั่งที่โซฟาแล้วถอนหายใจ สายตามองไปที่ถ้วยกาแฟอย่างเหนื่อยๆ แต่ก็ยกขึ้นดื่มอย่างไม่ได้ตั้งใจ

            หวาน..

            ทำไมกาแฟของโรงแรมถึงมีรสชาติหวานแบบนี้ละ? แถมยัง...

            เป็นรสที่เราดื่มบ่อยๆ ด้วย...

            สายตากวาดมองบนโต๊ะหาสิ่งที่ควรจะมีเหมือนอย่างเมื่อก่อน ใช่.. บนโต๊ะมีน้ำตาลก้อนรูปหัวใจอยู่ในถ้วยมากมายๆ ซึ่งเมื่อก่อนเคลียร์มักจะทำแบบนี้แล้วเอาน้ำตาลก้อนรูปหัวใจใส่ลงในกาแฟให้ก่อนถามประจำ เขาไม่เคยลืมเลยเหรอ?

            “เคลียร์..คนบ้า.. นายจะเอายังไงกับฉันแน่เนี่ย...?”

 

 

            ที่บ้านของริวเนะ

            ตลอดทางที่เคลียร์ขับรถมาส่ง เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันเลย เขาบอกว่าวันนี้จะไม่ไปโรงเรียน รอยกัดนั้นก็ทำให้รู้สึกปวดระบมไปทั้งคอและไหล่ ผมเดินเข้ามาในบ้านอพาร์ทเม้นท์ของริวเนะ ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นมิยะวิ่งออกมาจากห้องนอนของริวเนะด้วยความเร่งรีบ

            “มะ..มิยะนี่นายรีบไปไหนน่ะ!?”

            “ขอโทษครับ ผมฝากลูกพี่ด้วยนะครับ ไปละ!”

            มิยะวิ่งออกจากประตูไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงผมที่ยืนงงงวยกับความรีบนั้น ผ่านมาตั้งนาน ไม่เคยเห็นมิยะรีบขนาดนั้นมาก่อน

            เมลท์เดินตรงไปที่ห้องนอนของริวเนะ เมื่อเปิดเข้าไปก็ต้องพบกับร่างบางผมทองกำลังนอนคลุมโปงเป็นลูกบอลกลมๆ โผล่มาให้เห็นเพียงเส้นผมสีทองเท่านั้น

            “นี่นายกำลังทำอะไรน่ะริวเนะ?”

            “เมลท์เหรอ...?” เสียงดูจะเหนื่อยล้าสุดๆ

            “เห้ย! นี่นายไม่สบายเหรอ!?” เมลท์ที่ได้ยินเสียงของเพื่อนดูไม่ดีจึงรีบวิ่งเข้าหาก้อนลูกบอลผมทองอย่างรวดเร็วซึ่งเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเพื่อนคนนี้

            “เปล่าๆ แค่เจอเรื่องแย่ๆ นิดหน่อย...”

            “ถ้าเปล่าก็ออกมาจากโรคส่วนตัวแล้วมาคุยกันดีๆ ดิว่ะ!”

            “อือ..อืม..” ริวเนะรับสั่งแล้วลุกออกมาจากก้อนกลมนั้น ก่อนจะสร้างความตกใจให้เมลท์เมื่อพบว่าเพื่อนยังอยู่ในชุดนอนทั้งๆ ที่มันเที่ยงแล้ว แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือใบหน้าที่โทรมเป็นซอมบี้เนี่ยแหละ

            “นะ..นะ..นี่นาย...”

            “โทษที..พอดีไม่ได้นอนมาสองคืนแล้ว...”

            “ทะ..ทำไมเป็นงั้นละ!? นายไม่เคยเป็นงี้นี่”

            “เกิดเรื่องนิดหน่อยวะ” ใบหน้าค่อยๆ ซีดลงเมื่อเริ่มพูด “ขอร้องละ! ฉันไม่อยากพูดถึงเรื่องแบบน้านน~” ก่อนจะก้มลงไปเอามือทั้งสองทุบหมอนอย่างน่าสงสาร เมลท์ทำได้เพียงถอนหายใจกับท่าทีของเพื่อนที่ไม่รู้ไปโดนอะไรมา ทั้งๆ ที่ตัวเองน่าจะจัดการกับคนที่ทำให้ลุกไม่ได้สักสองอาทิตย์แท้ๆ

            “โอเคๆ ฉันไม่ถามก็ได้ แล้ว..” เมลท์นึกอีกเรื่องหนึ่งได้

            “ห๊ะ?” ริวเนะหยุดทุบ แล้วเงยหน้าขึ้น

            “เมื่อกี้มิยะดูรีบมากเลยนะ”

            “อ่อ.. เห็นว่าทำงานพิเศษน่ะ”

            “ทำงานอะไรน่ะ ดูรีบมากเลยนะนั้น?”

            “ไม่รู้เหมือนกัน พอดีฉันไม่ได้ถาม แล้วนี่..นายว่างม่ะ?” ริวเนะถามพลางลุกขึ้นจากเตียง

            “ทำไมอะ?”

            “ว่าจะไปสะกดรอยตามมิยะสักหน่อย” สีหน้ากลับมาดีเหมือนเก่าแล้วทำสีหน้าจริงจังเหมือนตอนที่รู้ว่ามีหนอนบ่อนไส้เข้ามาในแก๊ง

            “อ้าว.. ทำไมงั้นละ? มิยะไปทำงานพิเศษไม่ใช่เหรอ?”

            “ฉันเห็นซองสีน้ำตาลในกระเป๋าหมอนั้นร่วงลงมา จากขนาดแล้ว ในนั้นน่าจะเป็นเงิน”

            “แล้ว?” หวังว่าเพื่อนเราจะไม่ไปปล้นลูกน้องมือขวาตัวเองนะ...

            “ฉันกลัวว่าหมอนั้น...” ริวเนะถอดชุดนอนที่ใส่ออกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แย่มากกว่าเมื่อกี้“จะไปทำเรื่องไม่ดีเข้าน่ะสิ...”

            เอ๊ะ?

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา