Sulfur Love (RE-Write)

9.2

เขียนโดย enzang2660

วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.57 น.

  57 บท
  25 วิจารณ์
  122.85K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

45) Special[Thames&Ice] Poison Love[3]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ผมวิ่งทั้งน้ำตาเพื่อไปที่ร้านหมอดู   ผมไม่รู้ว่ามันยังเปิดอยู่มั้ยดึกขนาดนี้แล้ว   ผมยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อเห็นว่าแสงสว่างจากดวงไฟในร้านยังส่องสว่างอยู่

 

                กริ่ง กริ่ง

 

                เสียงโมบายแกว่งกระทบกัน   หมอดูละจากการเก็บข้าวของแล้วหันมามองแขกที่เข้ามาใหม่อย่างผม

                “ชะ...ช่วย ตัดด้ายแดงให้ผมที..”  ผมบอก

                “น่าแปลกนะ  คนอื่นพยายามตามหาเนื้อคู่   แต่คุณมีอยู้กับตัวแล้วแท้ๆกลับอยากผลักไส ”  หมอดูบอก

                “....เขาไม่ใช่ของผมอีกแล้ว....”

                มันกำลังจะเป็นของคนอื่น   ผมยกฝ่ามือขึ้นปาดน้ำตาอีกรอบ   พอกันทีกับมัน!!   ผมไม่เอาด้วยแล้วพอกันที!!

                “เคยได้ยินมั้ยว่าเนื้อคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน”  เธอบอกต่อ

                “เคยครับ..”

                “กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่หลายๆคนพยายามช่วยกันรักษาด้ายของคุณ   คุณอยากจะตัดมันทิ้งจริงๆหรอ”

                “ใครครับ”

                ช่วยกันรักษาด้ายผมเอาไว้   หมอดูไม่ตอบเพียงแล้วหัวเราะเบาๆ

                “ฉันคงตัดให้ไม่ได้หรอกนะ   ไปได้แล้วจะปิดร้านแล้ว”

                ผมพยักหน้าเล็กน้อยอย่างเข้าใจ   ก่อนจะเดินออกจากร้าน   ผมยังต้องพบต้องเจอมันอีกใช่มั้ยเนี่ย...

 

                วูบ!

 

                ผมทรุดตัวกุมหน้าอกตัวเอง   หัวใจของผมมันเต้นหน่วงๆ   ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก   ผมอ้าปากพยายามหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอด

                ….นี่มัน....

                ผมจับจมูกตัวเองที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำสีแดง    จู่ๆเลือดกำเดาก็ไหลผมเป็นอะไรอีกเนี่ย    ผมมองไปตามทางที่เริ่มพร่าเลือนบิดเบี้ยวไปมา    เปือกตาหนักอึ้งของผมกำลังจะปิดสนิทลง   แล้วผมก็ปล่อยร่างตัวเองนอนราบไปบนพื้นดำดิ่งสู้ห้วงนิทรา

 

[Thames]

 

        “...เลิก  จบมั้ย?”

                ผมตีหน้าตายเอ่ยตัดความสัมพันธ์ของเรา   นัยน์ตาใสเบิกกว้างสั่นระริกมองผมอย่างไม่เชื่อสายตา    ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันจบแดงไปหมด       

                “..จบ...”

                ไอซ์พูดเสียงเบาหวิว   ใบหน้าแดงกร่ำเหมือนคนจะร้องไห้   ผมรู้มันพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลทั้งที่ขอบตามันตื้นไปหมดแล้ว   และสุดท้ายร่างเล็กหันหลังวิ่งหนีผมไป    ผมแทบทรุดตัวลงกับพื้น

                ....ขอโทษนะ  ไอซ์.....

                หัวใจผมมันถูกบีบจนเจ็บไปหมด   ยิ่งเห็นว่ามันจะร้องไห้ด้วยแล้วผมยิ่งอยากจะฆ่าตัวเองให้ตายๆไปซะ!!   จบแล้วความรักของผม.....หมดสิ้นกัน   ผมเงยหน้ามองฟ้าอย่างสิ้นความหวัง   ชีวิตนี้ผมจะหาแสงสว่างที่อบอุ่นอย่างมันได้จากที่ไหนอีก....

                “เป็นการบอกเลิกที่รวดเร็วจังเลยนะ  กระชับฉับไวซะจริง^^”

                รอยยิ้มสะใจปรากฏบนหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของผม   ซะใจคุณแล้วสินะ!! 

                “พอใจแล้วใช่มั้ย...”

                ผมถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา   ทั้งหมดมันเป็นเพราะคุณ    ที่ผมกับไอซ์ต้องมาเจ็บปวดก็เพราะคุณ....

                “ยังหรอก~  ฉันจะพอใจก็ต่อเมื่องานหมั้นพรุ่งนี้ผ่านไปอย่างเรียบร้อย^^”

                งานหมั้น!  ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าจะให้พลอยหมั้นกับผมทำไม   แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว   ถ้าผมหมั้นกับลูกสาวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม   จะขนส่งหรือนำเข้าอะไรก็คงสะดวกไม่โดนตรวจสอบ    เลี้ยงผมมาเพื่อใช้งานซะคุ้มเลยนะ!

                “อย่าลืมข้อตกลงของผมด้วยแล้วกัน!”  ผมบอก

                “ได้อยู่แล้ว   แต่แกช่วยทำหน้าดีๆหน่อยได้มั้ย   พรุ่งนี้จะหมั้นแล้วร่าเริงหน่อยสิ^^”

                ร่าเริงงั้นหรอ!!  เพิ่งเลิกกับแฟนมาใครจะกระดี๊กระด๊าได้!!   ผมเดินผ่านเขาไปอย่างไม่เหลียวหลัง   ที่ผมต้องหมั้นก็เพราะไอซ์!!   ไม่ว่าจะทำอะไรให้ตายก็ยอมผมต้องช่วยไอซ์ให้ได้!!

 

                ปัง!

 

                ผมปิดประตูเสียงดังแล้วก้าวเท้ายาวๆเข้าห้องน้ำ   ผมเหลือบมองกระจกที่สะท้อนเงาคนน่าสมเพช    ผมรู้สึกเกลียดตัวเอง......เกลียดที่ทำให้มันต้องร้องไห้

ผมไม่ได้อยากจะเลิกกับมัน.....ไม่อยากทำ!!  แต่ถ้าผมยังติดต่อกับมันเรื่องอันตรายคงเกิดกับมันอีก   ผมเปิดน้ำล้างหน้าลวกๆไล่ความร้อนผ่าวที่ขอบตาตัวเอง  

                ....ไม่ใช่แกคนเดียวที่เจ็บปวด  ฉันก็เจ็บ...เจ็บกว่าร้อยเท่า!!....

               

                “ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับกู!!!”

               

                ผมสถบหยาบๆกับตัวเองอีกมากมาย   มือก็ระบายด้วยการต่อยกระจกให้แตกเป็นเสี่ยงๆ   ทั้งหมดเป็นเพราะผม   ผมทำให้มันเจ็บ!!  แกคงจะเกลียดฉันแล้วสินะ...ฉันขอโทษ...   ผมมองเลือดที่ไหลอาบมือด้วยคมของเศษกระจก    แม้ว่ากระจกจะฝังเข้าไปในมือผมลึกเท่าไหร่    เลือดจะไหลออกมามากแค่ไหน   ผมคิดว่ามันยังเทียบไม่ได้กับสิ่งที่ผมทำลงไป....   เลือดของผมเทียบกับน้ำตาจากความเสียใจของไอซ์แล้ว....มันยังไม่สาสม!!

                “คุณหนูหยุดนะครับ!!”

                พ่อคนบ้านขาประจำวิ่งเข้ามาคว้าแขนผมที่กระหน่ำรัวหมัดไม่ยั้งใส่กระจก   ยังไม่พอ!!   ฉันยังไม่สะใจตัวเอง!!

                “อย่ามายุ่ง!!”

                ผมตวาดกลับพลางชักสีหน้า

 

                เพี๊ยะ!!

 

                มือใหญ่ตบเข้าใบหน้าผมอย่างแรงจนตัวผมเซ     พ่อบ้านประจำตัวผมเม้มปากมองผมอย่างสงสาร

                “อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้เลยนะครับ....คุณหนูเจ็บมาพอแล้ว   อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลย...”

                ผมก้มหน้าถกแขนเสื้อเช็ดเลือดมุมปากตัวเอง   ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เหอะ   แต่ฉันรู้สึกผิดที่ทำแบบนั้นกับไอซ์.....ฉันไม่ต้องการจะทำแบบนี้   ผมทรุดตัวกุมหัวตัวเอง   มันรู้สึกปวดร้าวไปทั้งหัวปวดจนได้ยินเสียงตุ้บๆในหัวเลย

                “ไปนั่งที่เก้าอี้นะครับ  ผมจะทำแผลให้”

                พ่อบ้านบอกพลางลูบหัวผมเบาๆ   ผมไม่ได้ว่าอะไร   เขาเปรียบเสมือนพี่ชายของผม   เขาดูแลผมมาตั้งแต่เด็กๆ    เขาเข้าใจผม.......มากกว่าพ่อแท้ๆของผมซะอีก!!   ผมเดินลากสังขารมานั่งที่เก้าอี้หน้าคอม   พ่อบ้านค่อยๆทำแผลให้ผมอย่างใจเย็น

                “ฉันทำให้ไอซ์เสียใจ....  ฉันมันเลวจริงๆ”  ผมพร่ามลอยๆ

                “อย่าโทษตัวเองเลยครับ   คุณหนูไม่ผิด”

                “ผิดอยู่เต็มๆ   ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับมัน   ฉันต้องรับผิดชอบ..”

                “คุณหนู....”

                ผมเหนื่อย  เหนื่อยมากๆเลย

                “ทำไมคุณหนูไม่บอกคุณไอซ์ไปครับว่า.....”

                “ถ้าฉันติดต่อกับไอซ์   มันคงไม่ปลอยภัย.....นายก็น่าจะรู้ดีว่าพ่อฉันจะทำอะไร”

                “นั่นสินะครับ...  แต่ผมเชื่อว่าสักวันคุณไอซ์จะต้องเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด”

                “สักวัน..  สงสัยจะวันสุดท้ายของชีวิตฉันเลยมั้ง”

               

                ครืด~ ครืด~

 

                ผมล้วงมือถือออกมารับโทรศัพท์

                “ฮัลโหล  อาจารย์”  ผมกรอกเสียงลงไป

                (เรื่องเลือดที่เธอส่งมาให้ฉันวิเคราะห์    ฉันสรุปผลให้แล้วนะ)

                “ขอบคุณครับ”

                (เป็นเชื้อที่ถูดตัดต่อยับสุดๆ  กว่าฉันจะแยกออกมาได้แต่ละตัวๆเล่นเอาเหนื่อยแทบแย่แน่ะ)

                “ครับ  แล้วมันมีผลอะไรกับร่างกายมั้ยครับ  เชื้อแต่ละตัวที่ว่า...”

                (เกี่ยวกับเลือดล้วนๆเลยละ  ฉันจะส่งรายละเอียดให้ในเมล์นะ)

                “ขอบคุณมากครับอาจารย์”

                ผมวางมือถือลงแล้วหันไปเปิดคอม

 

               

                ครืด~ ครืด~

               

                “ครับ”  ผมรับโทรศัพท์อีกรอบ

                (จากโรงพยาบาลนะคะ   ไม่ทราบว่ารู้จักกับคนไข้เจ้าของเบอร์085xxxxxx  หรือป่าวคะ)

                เบอร์ไอซ์!   ผมแทบจะทิ้งมือถือลง   มันเข้าโรงพยาบาลหรอ

                “ครับ!  เขาเป็นอะไรหรือป่าวครับ!”

                (คนไข้หมดสติอยู่กลางริมถนนค่ะ   ตอนนี้นอนพักอยู่ในห้องผู้ป่วยค่ะ   รบกวนช่วยมาที่โรงพยาบาลหน่อยได้มั้ยคะ   ทางเราโทรติดต่อญาติผู้ป่วยไม่ได้   เลยโทรมาที่เบอร์โทรออกล่าสุดน่ะค่ะ)

                “ผมจะส่งคนไปครับ  โรง’บาลอะไรครับ!”

                (โรง’บาล.... )

                “ครับขอบคุณครับ”

                ผมยกมือถือวางทับหน้าอกตัวเอง  ภาวนาขอให้มันอย่าเป็นอะไรเลย

                “ช่วยไปดูไอซ์ให้ฉันที   ส่งข่าวมารายงานอาการมันด้วย”  ผมสั่ง

                “ครับคุณหนู”

                “ฝากด้วยนะ...”

                ผมยิ้มบางๆให้พ่อบ้านของผม   ร่างสูงลุกเดินจ้ำออกนอกประตูไปตามคำสั่ง

                “แม่ครับ..  อย่าให้ไอซ์เป็นอะไรนะครับ   แม่ช่วยไอซ์ด้วยนะครับ..”

                ผมไม่รู้ว่าการขอร้องคนตายไปแล้วจะได้ผลมั้ย   แต่ผมก็อยากขอ....มันเป็นทางเลือกเดียวที่คนอย่างผมทำได้ในตอนนี้

 

 

 

 

 

                วันนี้เป็นวันที่ผมอยากให้คนเอาระเบิดมาลงมาที่สุด   เอาให้ตายยกงานกันไปเลย   ผมไม่ซีเรียสเพราะมันไม่ใช่บ้านผม   สวนโล่งกว้างถูกประดับประดาด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์     แค่งานหมั้นแท้ๆแต่จัดซะอย่างกับงานแต่งเลย  ผมนั่งอยู่ในศาลากว้างกลางสวนซึ่งตอนนี้มันผู้คนเข้ามารวมตัวกันอยู่มากมาย   บรรดาช่างภาพรัวชัตเตอร์ใส่ผมไม่ยั้ง    ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าดาราทำไมชอบใส่แว่นกันแดดตอนให้สัมภาษณ์   วันนี้ผมเข้าใจแล้วละ   ให้ตายเหอะแสบตาชะมัด

                “สวมแหวนเลยจ้าๆ^^”

                แม่ฝ่ายหญิงบอก   ผมลอบถอนหายใจเบาๆออกทางปาก   ผิดกับคู่หมั้นผมที่ยิ้มร่ารอรับแหวนจากผม   แหวนประดับเพชรเรียบๆถูกสวมเข้าไปที่นิ้วเรียวสวย   ผมยกมือเธอขึ้นมาจูบพอเป็นพิธีต่อไปก็เป็นตาเธอสวมแหวนให้ผม  

                “ต่อไปนี้เธอก็เป็นว่าที่ลูกเขยฉันแล้วนะ ฮ่าๆ^^”

                พ่อฝ่ายหญิงบอกแล้วหัวเราะกับพ่อผม    ก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นแหละพอเสร็จงานผมได้ยาผมก็ไปแล้ว!!

                “มองกล้องหน่อยค่ะๆ   เดี๋ยวจะจัดโต๊ะสัมภาษณ์ให้ทางโน่นนะคะ”

                ยุ่งยากชะมัด   ใส่แหวนเสร็จแล้วจบๆไปไม่ได้หรือไง   ผมพยายามตีหน้าให้ดูเป็นผู้เป็นคนมากที่สุดก่อนหันไปมองกล้องแต่ละตัวๆ   กว่างานจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายโมง   ไม่รู้ทำอะไรกันนักหนา   ผมปลีกตัวออกมาเดินตามหาพ่อ

                “จะมาเอายาแก้หรอ^^”  พ่อถามผม

                “งานจบแล้ว  เอายามาได้แล้ว”  ผมพูดเสียงเรียบ

                “ยา?  ยาอะไรหรอ?”

                “ก็ยาแก้ไอ้เชื้อบ้านั่นไง!!”

                อย่ามาเล่นลิ้นนะ  ไม่ขำ!!

                “อ่อ...ยานั่นน่ะหรอ”

                “ใช่!”

                “ของแบบนั้นไม่มีหรอก^^”

                เหมือนหินก้อนใหญ่ถล่มใส่หัวผมอย่างจัง   ผมกำหมัดแน่นอยากจะต่อยสวนไปที่ใบหน้าผู้บังเกิดเกล้าของผมจริงๆ!!

                “งั้นว่าที่ลูกเขยอะไรนั่นก็ไม่มีเหมือนกัน!!”

                ผมถอดแหวนราคาเหยียบล้านปาลงพื้นอย่างไม่เสียดาย   ผมยืนจ้องคนตรงหน้าอย่างโมโห   นี่ผมโง่มาก  โง่ที่เชื่อคนอย่างเขา!! 

                “แกจะแข็งข้อกับฉันหรอ!!”

                มือหยาบกร้านบีบคอผมพร้อมจิกนิ้วลงไปจนผมรู้สึกเจ็บ   ผมง้างมือนั่นออกแทบจะหักนิ้วเขาทิ้งเลยทีเดียว

                “ผมยอมคุณมามากพอแล้ว!”

                ผมสะบัดมือเขาทิ้งแล้วเดินออกมาก   ผมถอดเสื้อสูทร้อนอบอ้าวทิ้งไปตามทาง   ใครอยากใส่ก็เอาไปเลย   ผมเดินไปโบกแท็กซี่ไปมหาลัย   ผมจะใช้ห้องแลป     ผมไม่รู้ว่าผมจะทำยาแก้เชื้อที่คนพวกนั่นคิดกันมา3ปีภายในหนึ่งวันได้มั้ย   แต่ถึงจะยากแค่ไหนยังไงผมก็ต้องทำ

                “ไม่ต้องทอน!”

                ผมยื่นแบงค์พันให้แล้วรีบวิ่งลงจากรถ   ผมกดมือถือต่อสายหาอาจารย์ให้เขาเปิดแลปให้ผม  บอกตรงๆผมไม่ถนัดชีวะเอาซะเลย   ไม่รู้จะทำยาแก้ได้มั้ย   ผมวิ่งมาถึงประตูหนาสีขาวโพลน   ผมเปิดเข้าไปแล้วรีบทำความสะอาดเปลี่ยนชุดแล้วพุ่งเข้าไป

                “ดูรีบร้อนจังเลยนะ”  อาจารย์บอก

                “อาจารย์ช่วยอะไรผมหน่อยได้มั้ยครับ”

                “ได้อยู่แล้ว^^”

                อาจารย์ของผมเป็นเพื่อนเก่าพ่อ   ถ้าจะหาคนมาต่อกรแก้ทางของพ่อละก็คงต้องเป็นอาจารย์เนี่ยแหละ

                “ขอบคุณมากครับ”

                ผมยกมือไหว้ท่านด้วยความซึ้งใจ   ถ้าแม่ผมเลือกอาจารย์ก็คงดีสินะครับ

                “มาเริ่มกันเลยแล้วกันนะ^^” 

 

 

 

 

                ผมเงยหน้ามองนาฬิกาดิจิตอลข้างบน   ปาเข้าไปจะตีห้าแล้วหรอเนี่ย   อาจารย์หยิบขวดแก้วเล็กๆที่ปิดผนึกฝาเรียบร้อยมาให้ผม

                “หวังว่าจะได้ผล  ถ้าการคำนวณของพวกเราไม่ผิดพลาดกันละนะ^^”

                “มันต้องได้ผลแน่นอนครับ”

                “หวังว่านะ...”

                “ขอบคุณมากครับอาจารย์”

                ผมกอดคนตรงหน้า   มือหนาตบหลังผมเบาๆก่อนจะผละออก   ผมยิ้มให้เขาก่อนจะรีบขึ้นรถตรงไปที่โรงพยาบาล   การจราจรช่วงเช้าที่ต้องผ่านตลาดทำให้ผมอยากเอารถถังมาบอมผู้คนแถวนี้   คนรีบๆอยู่โธ่เว้ย!!

                “ค่ารถ”

                ผมยื่นเงินให้แล้วลงจากรถ   ถ้าวิ่งลัดตลาดแล้วข้ามฝากไปก็เจอโรง’บาล   ผมเลยเอาแบบนี้ดีกว่า   ผมวิ่งปนหอบเข้าไปข้างในตึกสีขาว   ผมไล่มองเบอร์ห้องไปเรื่อยๆ 

               

                แกร๊ก!

 

                ผมบิดประตูเข้าไปข้างใน   พ่อบ้านวิ่งเข้ามาหาผมเพื่อจะประคองแต่ผมดันเขาออกไปแล้วยื่นกล่องใส่ยากับเข็มให้เขาแทน

                “ฉีดให้ไอซ์หน่อย”

                มือผมสั่นเกินจะฉีดให้มัน   พ่อบ้านพยักหน้ารับ   เข็มปลายเล็กค่อยๆหายเข้าไปในเนื้อก่อนจะถูกดึงออกมาเบาๆ

                “เสร็จแล้วครับ”

                “ขอบใจมาก  ที่ช่วยดูแลไอซ์ให้....ขอบใจ”

                ผมพูดบอกเขา   ผมละเหนื่อยสุดๆ   ความอ่อนล้าจากการไม่ได้นอนทำให้ผมปวดหัวตึบๆ   ผมล้มตัวนอนหนุนหมอนบนโซฟาข้างๆแล้วหลับเป็นตาย    หวังว่ามันคงตื่นมาหลังผมนะ   ผมขอนอนซักชั่วโมงเถอะ   ไม่ไหวแล้วจริงๆ...

 

 

 

 

[ICE]

“อื้อ~”

ผมลืมตาบิดขี้เกรียจความรู้สึกหลับเต็มอิ่มจนจุกเลย   ผมมองเพดานสีขาวก่อนนึกย้อนไปเรื่องเมื่อคืน    สุดท้ายก็มาโรง’บาลอีกแล้ว  เบื่อชะมัดเข้าจนจะเป็นเพื่อนกับหมออยู่ละ-3-

“ตื่นแล้วหรอครับ^^”

ชายชุดสูทถามผม  เขาเลื่อนรถเข็นอาหารที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นมาใกล้ๆผม

ผู้ชายคนนี้พ่อบ้านไอ้เทมส์นี่

                “คุณ....-o-”

                “คุณหนูให้ผมมาดูแลคุณไอซ์น่ะครับ^^”

                ดูแลหรอ   บอกเลิกได้เจ็บมากแต่ก็ยังอุส่าห์สงสารส่งคนมาดูผมอีกหรอ   คงกลัวจะไปตายที่ไหนละมั้ง   ผมเบือนหน้าออกนอกหน้าต่าง   เผื่อว่าท้องฟ้าวันใหม่จะทำให้ผมใจชื้นขึ้นได้บ้าง  หรืออาจไม่เลย....

                “อย่าโกรธคุณหนูเลยนะครับ...”

                ผมหันไปทางพ่อบ้านอีกรอบ  

                “ที่คุณหนูทำไปทั้งหมดก็เพื่อคุณไอซ์นะครับ”

                “เพื่อผม?”  ผมทวน  มันน่ะหรอ!

                “ผมรู้ว่าคุณยังรู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดของคุณหนู.....แต่คุณหนูก็เจ็บปวดไม่แพ้คุณหรอกนะครับ”

                ผมก้มหน้านิ่ง  พูดมาได้จี้ใจมาก   ไอ้จบมั้ยๆยังวนเวียนอยู่ในหัวผมอยู่  

                “ที่คุณหนูต้องหมั้นกับคุณพลอยก็เพื่อจะเอายามารักษาคุณไอซ์   คุณคงยังไม่รู้ตัวสินะครับว่าโดนเชื้อแปลกๆที่คุณท่านเป็นคนผลิต”

                “ไม่เข้าใจ...”

                “ถ้าคุณหนูไม่ทำไม่หมั้นกับคุณพลอย   คุณท่านก็จะไม่ให้ยาแก้  แล้วคุณก็จะตาย...   แต่ดูเหมือนคุณหนูจะโดนหักหลังซะแล้วละครับ”

                “..........”

                “แต่อย่างน้อยก็หายามาช่วยคุณไอซ์ได้  เมื่อเช้ารีบวิ่งป่าราบมาหาคุณเลยละ   ตอนนี้สลบเหมือดไปแล้ว  จะเที่ยงแล้วแท้ๆยังไม่ตื่นเลย^^”

                ร่างสูงขยับตัวออกให้ผมเห็นคนที่นอนอยู่บนโซฟา   เส้นผมสีดำจับกันติดหนึบ   คงจะเปียกเหงื่อมา  ผมมองใบหน้าหล่อที่พ่นลมหายใจออกปากเบาๆ    ทำอะไรไม่เคยปรึกษาเลย   แค่จะบอกกันซักนิดก็ไม่ได้   ถึงมันจะช่วยผมแต่ผมก็ยังไม่หายโกรธมันเรื่องที่มันพูดไม่ดีกับผมหรอกนะ

                “ขอบคุณที่คอยดูแลผมนะ”  ผมบอก

                “ครับ  แต่ผมอยากให้คุณหายโกรธคุณหนูมากกว่า   สำหรับคุณหนูแล้ว....คุณไอซ์สำคัญมากนะครับ   ไม่เชื่อผมจะเมาท์ให้ฟัง  ฮ่าๆ^^”

                “เอาดิ”

                พ่อบ้านยิ้มไปหัวเราะไปเขาเล่าเรื่องราวสัมยเด็กให้ผมฟัง    เล่าว่าเทมส์แอบพกรูปผมไปโรงเรียนด้วย   แถมวันวาเลนไทน์ก็แอบเอาช็อกโกแลตทำเองมาหย่อนใส่ตู้ไปรษณีย์ให้ผมด้วย

                “อ่ะ!”

                ไอ้เทมส์ร้องเบาๆ  มันพลิกตัวตกโซฟาครับ   สมน้ำหน้า   ผมเดินลากสายน้ำเกลือไปดูคนที่ตกโซฟาแล้วยังหลับต่อได้ 

                “นี่ๆ”

                ผมเอานิ้วจิ้มมันเหมือนอาราเล่จิ้มอุนจิเล่น

                “เดี๋ยวผมลงไปเอาเสื้อผ้าคุณหนูในรถก่อนนะครับ^^”

                พ่อบ้านบอกแล้วเดินออกไป   ผมลูบใบหน้าคมที่ดูอิดโรยไปมา   ผมอยากจะโกรธ   จะเกลียด  จะอาฆาต  จะแก้แค้นที่มันทำเจ็บแสบแต่ผมก็ทำไม่ได้   ถึงเจ็บยังไงผมก็ยังเลิกรักมันไม่ได้  

                “ไอซ์...”

                มันปรือตาเล็กน้อย  ผมรีบวิ่งกระโดดขึ้นเตียงกลัวมันจับได้ว่าผมมานั่งมองมัน   ถ้าไม่มาขอโทษผมไม่หายงอนหรอกนะ!!

                “หลับยาวเลยแหะ”

                มันบ่นกับตัวเอง  เสียงรองเท้าเดินเข้าห้องน้ำไป  ผมกระดกหัวขึ้นมาเล็กน้อย  จะดูว่ามันทำอะไร  แต่มันก็เดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว   ผมเลยเด้งตัวลงไปนอนหลับเหมือนเดิม    มือเย็นๆลูบหัวผมไปมาก่อนจะเลื่อนลงมากุมมือผมเอาไว้

                “หายไวๆนะ”

                มันบอกแล้วกดริมฝีปากลงบนมือผม   กูจะเขินแล้วนะๆ   มือใหญ่วางมือผมลงข้างตัว

                “ไปก่อนนะ..”

                คำบอกลาสั้นๆที่ทำเอาหัวใจผมกระตุกวูบ  น้ำเสียงแผ่วเบาทำให้ขอบตาผมตื้นเขินขึ้นมา   ผมลืมตามองพลางคว้าแขนมันไว้ก่อนมันจะเดินหายไป   ใบหน้าหล่อหันมามองผม   แววตามันอ่อนลงชั่วครู่จะจะเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยแล้วดึงข้อมือผมออก

                “ไม่ให้ไป!!”

                ผมโถตัวกดเอวแกร่งไว้   ผมฝังใบหน้ากับเสื้อยับยู่ยี่ของมัน   ไม่ให้ไปไหนแล้ว!!  ไม่ให้ไป!!   ในเมื่อผมได้มันกลับมาแล้วทำไมมันต้องไปจากผมอีก!!

                “ปล่อยเถอะ..”

                “ไม่!!”

                “ฉันเบื่อแก!  ฉันเกลียดแก!  แกมัน่ารำคาญ!  ทีนี้ปล่อยได้หรือยัง”

                “ไม่ปล่อย!!”

                “งี่เง่า!”

                “งี่เง่าแล้วไง  กูรักมึงจบป่ะ!!!”

                ผมได้ยินมันถอนหายใจเฮือกใหญ่   ผมหมุนตัวหันมามองหน้าผมตรงๆ  มันมองผมนิ่งๆก่อนจะเลื่อนมือมาลูบแก้มปาดน้ำตาผมออก

                “ดื้อจริงๆ...”

                “กูรู้เรื่องหมดแล้ว  ทำไมทำอะไรไม่เคยบอกกู!!”

                “หมอนั่นบอกสินะ”

                “มึงตอบกูมา!”

                “ไม่จำเป็นต้องบอกแกนี่..”

                “ไม่จำเป็นหรอ!  กู....กูเป็นแฟนมึงนะ...”

                ถึงตอนนี้จะเลิกไปแล้ว   ตะ...แต่ กูหมายถึงก่อนเลิกอ่ะ-3-

                “อยากเจ็บตัวมากหรือไง!”  มันตะคอก

                “เจ็บก็เจ็บดิสาด  กูไม่กลัว!!”

                กูชิน  กูด้านจบป่ะ-*-

                “กู...ไม่ปล่อยมึงไปไหนแล้ว   มึงก็...อย่าไปจากกูนะ”

                ผมกอดเอวมันพลางกำเสื้อมันแน่น  มึงไปกูดึงขาดเลยคอยดู   กูไม่ซื้อใช้ด้วยจะบอกให้!!

                “ให้มันได้อย่างนี้สิ....  ทำไมดื้อนักนะ” 

                “รักมึงจบป่ะ!”

                “จบก็จบๆ”

                วงแขนใหญ่โอบกอดผม   กอดแน่นจนผมหายใจแทบไม่ออก

                “ฉันคิดถึงแก...”

                เสียงทุ้มกระซิบข้างหูผม   ผมยิ้มรับทั้งน้ำตา   ผมก็คิดถึงมันนะ   คิดเรื่องของมันอยู่ตลอด   ต่อไปนี้ของให้ความรักของผมราบรื่น  อย่ามีเรื่องร้ายๆอีกเลยนะ

 

                แกร๊ก!

 

                ชายร่างสูงใส่แว่นก้าวเท้าเข้ามาในห้อง   ผมกับเทมส์ผละตัวออกจากกันก่อนจะหันไปทางแขกผู้มาเยือน   ใบหน้าคมคายคล้ายกับเทมส์ฉีกยิ้มแล้วเดินตรงมาหาผม   ส่วนเทมส์ก็ดันผมให้หลบไปข้างหลัง  

                “ไม่น่าเชื่อว่าแกจะคิดยาแก้ได้ภายในวันเดียว  ฉลาดสมเป็นลูกฉันจริงๆ^^”   ผู้ชายคนนั้น  พ่อเทมส์สินะ  ผมก็ไม่เคยเห็นใกล้ๆเหมือนกัน

                “มาที่นี่ทำไม”  เทมส์ถามเสียงเย็น

                “ก็มาชื่นชมลูกรักไงละ  ไหนขอดูหน้าเด็กนั่นใกล้ๆหน่อยซิ”

                “ถ้าเข้ามาอีกก้าว   ผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่”

                “ดุจังเลยนะ  ฮ่าๆ”

                ผมไม่รู้ว่าพ่อลูกคู่นี้ไปกินอะไรกันมา   คนบ้ากับซุปเปอร์ไซย่ามายืนคุยกันได้    ไม่รู้ห้องจะแตกตอนไหน   ผมดึงเสื้อเทมส์หน่อยๆ   มันหันมามองผม

                “อย่าโกรธพ่อเลยเทมส์...”  ผมบอกมัน

                “เขาทำกับแกขนาดนี้แกยังจะ..!!”

                “เขาเป็นพ่อเทมส์นะ..”

                ไอ้บ้านี่ก็แปลก  บ้าทั้งบ้านอยู่กันเป็นครอบครัวดีๆก็น่าจะดีใจดันกัดกันซะได้

                “จริงๆเชื้อนั่นภายใน7วันมันก็สลายไปเองน่ะแหละ”  พ่อเทมส์บอก

                “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ  แต่คุณทำให้มันต้องเจ็บตัว!!”  เทมส์เถียง

                “โอเคฉันผิด   ฉันถือว่าเกมนี้แกชนะฉันก็แล้วกัน”

                “..................”

                “ฉันจะยอมให้แกคบกับเด็กนั่นก็ได้”

                ร่างสูงยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหันหลังออกประตูไป   ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่   ไม่เคยรู้สึกกดดันขนาดนี้มาก่อนเลย   บรรยากาศโคตรตึงเครียดอ่ะ-o-;

                “พ่อ มึงโหดจัง-o-”

                “อืม  คงมีมาอีกเรื่อยๆ  แต่ฉันจะไม่ให้เขาเข้าใกล้แกแล้ว”

                “อืม^^”

                โหดกว่านี้ก็ไม่กลัวแล้ว   ผมดึงมือไอ้เทมส์มาบีบให้มันคลายหน้าบึ้งๆของมันออก   แต่ไม่เลยหน้ามันยังโหดเหมือนจะไปฆ่าใครอยู่เลย   งั้นต้องทำแบบนี้แล้วละ

               

                จุ๊บ!

 

                ผมยื่นปากไปจูบปากมันเสี้ยววินาทีแล้วเอาออก   โฮกกกก  ตื่นเต้นเป็นบ้า-////-   เทมส์ทำหน้าเหวอๆก่อนจะดันแว่นเล็กน้อย

                “จะทำหรอ”  น้ำเสียงหื่นมากเลย-o-;

                “ป่าวซะหน่อย  กูแค่ไม่อยากเห็นมึงหน้าบึ้ง-3-”

                “รู้มั้ยฉันต้องอดหลับอดนอนทำยามาช่วยแก”

                “ขอบใจ^^”

                “ขอรางวัลหน่อยสิ”

                ไอ้คำความรางวัลของมันทำให้ผมต้องหดขาถอยตัวหนี 

“เดี๋ยวเลือดกูยังผลิตไม่ทัน    ตอนนี้กูหน้ามืดมาก  ไม่ไหวละนอนก่อนนะ-o-;;”

ผมล้มตัวนอนตะแคงคว้าผ้าห่มคลุมหัวตัวเองแต่ไม่วายมือซุกซนก็ล้วงเข้ามาดึงเสื้อผมออก   สบายเลยสิมึงชุดคนไข้เนี่ย   ดึงง่ายคลายสะดวก-o-;;  แถมกางเกงอยู่เฉยๆก็แทบจะหลุดแล้ว

“ในโรงพยาบาลนะเว้ย  เดี๋ยวพ่อบ้านมึงจะมาแล้วด้วย>///<”

“-*-”

“เอางี้มั้ยๆ”

ผมหันไปเสนอความคิดดีๆ   เอาให้รอดจากเงื้อมือมันไปก่อนซักพักนึงก็ยังดีT^T

“ไว้กูจะคอสชุดพยาบาลให้เอามั้ย^^;”

กูเอาใจโรคจิตอย่างมึงเลยนะเนี่ย   ชอบมั้ยๆ  หน้าหื่นๆอย่างมึงเอาแน่ๆกูว่า>///<

“ก็ดี”

กูว่าแล้วเชียว-o-;;

“งั้นตอนนี้ขอพักก่อนนะ  ไม่ไหวแล้วจริงๆ><”

“อืม  หายไวๆนะ^^”

“มึงด้วย  โทรมชิบหาย  ห้ามตายก่อนกูนะ-3-”

“ฉันก็ไม่ให้แกตายก่อนฉันหรอก^^”

ผมยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้ามัน   ผมมองเล็กน้อยก่อนจะยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวนิ้วผม  

.... มึงรู้มั้ยที่นิ้วก้อยเรามันมีด้ายแดงคล้องอยู่  ด้ายแดงที่ไม่มีวันขาด....

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา