Vampire Bangkok แวมไพร์ แบงค็อก

8.3

เขียนโดย justin

วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.33 น.

  23 ตอน
  1 วิจารณ์
  25.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556 13.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) ค้างคาวผีดูดเลือด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

นัทก้าวเท้าเดินออกจากร้าน เด็กเปิดประตูยกมือไหว้ก่อนจะเปิดประตูให้นัทเดินออกไป ทุกคนในผับเอ็มบอร์ต่างก็รู้ดีว่านัทคือน้องชายของอาร์ทผู้ซึ่งเป็นเจ้านายของเขาทุกคน น้องชายของเจ้าของร้านก็เปรียบเสมือนเจ้านายคนหนึงเช่นกัน

 

 

พนักงานทุกคนจึงให้ความเคารพกับนัทเหมือนกับเป็นตัวแทนของอาร์ท ถึงแม้ว่านัทจะไม่ได้มาแสดงบทบาทบริหารร้านหรือแสดงอำนาจบาตรใหญ่อะไร แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีของทุกคน

 

 

นัทมายืนหยุดตรงด้านหน้าผับเมื่อปรายตามองเห็นเด็กรับรถกำลังเข้าไปคลุกอยู่กับบรรดาเพื่อนๆเด็กเสิร์ฟอีกด้านหนึง จึงเดินเลี้ยวไปทางด้านหลังของผับ เส้นทางนี้เป็นถนนซึ่งเป็นส่วนหนึงของพื้นที่ผับ

 

 

อาร์ททำถนนให้เดินเข้าไปทางด้านหลังซึ่งเป็นซอยตัน มีที่กั้นทางติดป้าย ถนนส่วนบุคคลห้ามเข้า มีประตูขึงลวดตาข่ายปิดกั้นทับอีกที เส้นทางนี้เป็นเส้นทางเปลี่ยวมืดทึบ มีแสงไฟสลัวๆ จากเสาไฟฟ้าเพียงต้นเดียวที่ส่องสว่าง เลยจากเสาไฟนี่ไปจะมีต้นไม้ใหญ่สามต้นแผ่กิ่งก้านปลกคลุม จนแสงไฟไม่อาจสาดส่องไปถึงได้

 

 

นัทเคลื่อนตัวแทรกผ่านเข้าไปทางประตูขึงลวด ก้าวเท้าเดินย่ำไปตามทาง ที่จริงแล้วเส้นทางนี้อาร์ทตั้งใจทำไว้สำหรับเหล่าแวมไพร์ที่เดินทางไปมาในที่แห่งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตาของนักเที่ยวราตรีกับพนักงานร้านที่เป็นมนุษย์

 

ก่อนนัทจะเดินไปถึงเสาไฟ สายตาของเขามองเห็นเงาตะคลุ้มยืนคอยอยู่ใต้ต้นไม้เล็กๆ ที่ยืนต้นขึ้นคู่เป็นระนาบเดียวกับเสาไฟ

 

“ใครนะ”

 

นัทรำพึงในใจ ก่อนจะส่องสายตาเป็นประกายวาววับเพ่งไปที่ร่างปริศนานั้น เงาปริศนาที่ทอดตัวยาวฉาบไปบนถนนค่อยๆ เคลื่อนไหวปรากฏกายหญิงสาวเดินตรงมาที่นัท

 

สายตาแวมไพร์ของนัทมองเห็นก็จำได้ว่าเธอคือผู้หญิงสาวสวยที่ย่างกายเข้ามานั่งดื่มอยู่ที่หน้าเค้าเตอร์บาร์เพียงคนเดียว มิซากิ แวมไพร์สาวญี่ปุ่นนั้นเอง

 

“ไงจ๊ะ พ่อหนุ่มน้อย”

 

หล่อนเปรยขึ้นก่อนก้าวเท้าเดินมายืนตรงหน้าของเขา

 

“ว่ายังไง เงียบเชียว”

 

“คุณต้องการอะไร”

 

“ฮ่าๆ “

 

เธอหัวเราะร่วนก่อนจะยื่นมือเข้าไปลูบไล้ที่หน้าอกของเขา นัทถอยเท้าห่างออกไปจากหล่อน

 

“พ่อแวมไพร์หนุ่มน้อย การอยู่ตนเดียวไร้คู่มันเป็นความเหงาที่เปล่าเปลี่ยวนะ”

 

“มาเป็นคู่ชู้ชื่นกับข้าเถอะ แล้วเจ้าจะรู้รสดื่มด่ำชีวิตอย่างเสรี”

 

“ไม่จำเป็น ข้าไม่ได้ต้องการ”

 

นัทเผยอปากอวดเขี้ยววาววับ

 

“แวมไพร์ต้องอยู่คู่กับแวมไพร์ เจ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก”

 

 

ถึงตอนนี้หล่อนได้เปลี่ยนร่างเป็นแวมไพร์สาวจอมกระหาย หล่อนโผเข้าใส่ร่างของนัท จนล้มลงและนั่งคร่อมที่ตัวของแวมไพร์นัท นัทเคลื่อนตัวยืนขึ้นใช้มือพลักร่างหล่อนเกือบกระเด็นแต่หล่อนหายตัวมายืนอยู่ที่ด้านหลัง ใช้มือที่มีกรงเล็บขย่ำคอของแวมไพร์หนุ่มเอาไว้

 

 

“อืมม กลิ่นของเจ้าช่างหอมรัญจวนยั่วยวนใจข้านัก มา มะ มาเป็นคู่ขวัญมีเขี้ยวกับข้าเถอะ”

 

“ปล่อยข้านะ”

 

แวมไพร์หนุ่มสะบัดมือของหล่อนออกจากคอ ใช้หลังมือของเขาฝาดไปที่หัวของหล่อน แต่หล่อนหลบเคลื่อนตัวลอยไปในอากาศ ก่อนลงมาหยุดตรงหน้าของนัทอีกครั้ง ลอยเล็บของหล่อนทำให้คอของนัทเป็นรอยข่วนบาดลึกไป แต่ชั่วครู่บาดแผลนั้นก็สมานกันเข้าและจางหายไป

 

 

“บอกแล้วไง ฮ่าๆ ๆ เจ้าต้านข้าไม่ได้หรอก อายุของเจ้ายังน้อยเกินไป”

 

“นี่ถือว่าเป็นการให้โอกาสเจ้านะ มาเดินเคียงคู่กับข้า มาเป็นคู่ชีวันกันซะเถอะ”

 

หล่อนยังไม่ละความพยามหมายจะจุดไฟความกระหายของนัทให้ลุกขึ้น

 

“ข้าอยู่ได้โดยไม่ต้องมีใครมาเคียงคู่หรอก อย่ามายุ่งกับข้า”

 

“แหม ช่างใจแข็งเสียงจริง ถ้าไม่เลือกข้า ข้าก็อาจจะไม่ปล่อยเจ้าให้รอดไปได้นะ คิดดูให้ดีพ่อแวมไพร์หนุ่ม”

 

“เจ้าบังคับข้าไม่ได้หรอก และไม่มีวัน”

 

หล่อนโผเข้าใส่นัทอีกครั้งทำให้ตัวนัทถูกลากไปจนเกือบถึงเสาไฟที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่

 

 

.....ครึดดดด ..... หล่อนอ้าปากขึ้นหมายจะกัดที่ต้นคอของนัท ทันใดนั้นร่างของหล่อนก็กระเด็นล่วงหล่นไปอีกทาง แวมไพร์อาร์ทยืนจังก้าเผชิญหน้ากับมิซากิ ผู้ที่ทำให้หล่อนกระเด็นหลุดลอยไปเกือบไกล

 

 

“อย่ามายุ่งกับคนของข้า !!!”

 

อาร์ทแผดเสียงตะคอกใส่จนดังกังวานไปทั่ว

 

“โอ๊ะโอ้ว มีเจ้าของมาคุมซะด้วย”

 

หล่อนโผร่างเข้าใส่อาร์ทด้วยความรวดเร็วหมายจะจู่โจม อาร์ทพลิกตัวกลับบีบคอหล่อนและลากไปกับพื้นถนน ก่อนที่จะผลักร่างของหล่อนกระเด็นไปกระแทกกับเสาไฟฟ้า

 

“กลับไปซะ นังค้างคาวผี”

 

แวมไพร์สาวเอนกายลุกขึ้น ค่อยๆ ย่างกายก้าวเท้าย่ำเดินมาตรงหน้าของแวมไพร์อาร์ท หัวเราะเสียงดังลั่น

 

“ฮ่าๆๆๆ จนป่านนี้พวกเจ้ายังแบ่งชั้นวรรณะกับพวกพ้องของข้าอีกเหรอะ”

 

“ก็ตั้งแต่พวกพ้องของเจ้าทรยศพวกเรานั่นแหละ”

 

“แหมๆ จะอะไรกันนักกันหนาเชียว”

 

“อย่านึกว่าข้าไม่รู้นะ ว่าพวกพ้องของเจ้าร่วมมือกับนักล่าหมายจะทำลายพวกพ้องของข้า”

 

แวมไพร์สาวส่งสายตาเป็นประกายเดินตรงไปที่นัท

 

“ว่ายังไงหนุ่มน้อย ยังสนใจข้อเสนอของข้าอยู่หรือเปล่า”

 

“หุบปากของเจ้าซะ แล้วไปให้ไกลๆ”

 

อาร์ทพูดเสียงเรียบๆ

 

“เจ้าส่งลูกค้าของเจ้าด้วยคำพูดเช่นนี้เหรอ”

 

มิซากิปลายตาไปที่อาร์ท

 

อาร์ทโผเข้าไปคว้าที่ต้นคอของหล่อนมืออันทรงพลังบีบและยกขึ้นจนเท้าของหล่อนยกสูงขึ้นลอย

 

“อ๊ากก ปล่อยข้านะ”

 

มือของแวมไพร์อาร์ทยังกดบีบจนเล็บที่งอกออกมาฝังลึกลงไป เลือดของแวมไพร์สาวไหลซึมออกมาตามลอยเล็บ

 

“เอ๊อะ อ้า อ้าก ปล่อยข้า ปล่อยข้า ข้ายอมแล้ว”

 

 

ตอนนี้หล่อนรู้ว่าว่าพลังของหล่อนไม่อาจต่อกรกับอานุภาพของแวมไพร์อาร์ทได้ หากหล่อนยังดื้อดึงฝืนต่อสู้ต่อไปนางคงได้กลายเป็นผุยผงเป็นแน่

 

การยอมเพื่อรักษาชีวิตไว้ดีกว่าต้องมาตายครั้งที่สองตรงนี้ แวมไพร์อาร์ทเหวี่ยงหล่อนทุ่มลงไปกับพื้นจนหล่อนหล่นลงไปกองฟุบ หล่อนค่อยๆ พยุงร่างขึ้นมายืน มีเลือดไหลซึมออกมาที่มุมปาก หล่อนยกมือขึ้นปาดเลือดนั้น

 

 

“เจ้านี้เอง เรื่องของเจ้ากระฉ่อนไปทั่วในหมู่แวมไพร์ เจ้าผู้ได้ดื่มเลือดบริสุทธิ์ของจอมราชาแวมไพร์”

 

อาร์ทชำเลืองตามองไปที่แวมไพร์สาวอีกครั้ง

 

“ถ้ารู้อย่างนี้ ก็ไปให้พ้นซะ ก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจ”

 

“ใยเราไม่มาร่วมมือกันละ เจ้ากับข้า และเด็กของเจ้า”

 

“ข้าไม่สุงสิงกับพวกค้างคาวผี ตะกระ มูมมาม และป่าเถื่อนแบบพวกเจ้าหรอก”

 

“ป่าเถื่อนรึ ฮ่าๆๆๆๆ มันต่างกับพวกเจ้าตรงไหนล่ะ”

 

“มันต่างกันตรงที่ เผ่าพันธุ์ข้าสืบเชื้อสายมาจากราชาแวมไพร์ ไม่ใช่จากปีศาจร้ายอย่างเจ้าชีวิตของพวกเจ้า”

 

“ปีศาจร้าย เหอะ ข้าจะถือว่าเป็นคำชมจากเจ้าก็แล้วกันนะ”

 

“เจ้าอยากจะลองดีกับข้าอีกใช่ไหม”

 

 

อาร์ทโพเข้าบีบคอของหล่อนอีกครั้ง หล่อนสะบัดตัวหลุดออกจากเงื้อมมืออันทรงพลังของอาร์ท หล่อนปรายตาไปมองที่แวมไพร์นัทที่ยืนอยู่ด้านหลัง ยิ้มแสยะอย่างหมายตาเอาไว้

 

 

“ข้าถือว่า.... ข้าฝากไว้ก่อนก็แล้วกัน วันหน้าเราคงได้เจอกันอีกนะพ่อหนุ่มแวมไพร์”

 

หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงกังวานเล็กน้อย ก่อนจะเคลื่อนตัวเลือนหายไปในเงาดำของต้นไม้ใหญ่

 

 

...พรึบ พรึบ พรึบ..... เสียงกางปีกบินออกไปดังสะท้อนออกมากระทบหูของแวมไพร์ทั้งสองตน อาร์ทเอี้ยวตัวหันกลับไปมองนัทที่กำลังยืนจังก้าสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น

 

 

“เป็นไรบ้างรึเปล่า”

 

“อ่ะ ไม่หรอก เราแค่ตกใจนิดหน่อย”

 

นัทเหมือนตื่นจากภวังค์กับสิ่งที่สายตาเพิ่งได้เห็น

 

“เรากลับกันเถอะ”

 

“ได้สิ”

 

 

 

 

 

...................................*......................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา