Thank For Your Smile...น้ำตา...ความฝัน...ความหวัง

-

เขียนโดย MightySoul

วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.50 น.

  26 บท
  0 วิจารณ์
  24.82K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2557 11.57 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) บทที่ 14 เพื่อนใหม่ (เพิ่มเนื้อหา)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 14

เพื่อนใหม่...

หลังจากนั้นไม่นาน ก็ถึงเวลาที่รถจะออกเดินทางต่อ ฉันและฮานะรวมถึงฟีล ยังคงนั่งที่รถตู้คนเดิม ยกเว้นว่ามีสมาชิกใหม่มาเพิ่มอีกหนึ่งตัว ก็คือแมวสีดำตัวน้อยๆที่เอาแต่นอนซุกในอ้อมแขนไม่ยอมหนีห่างไปไหน

แต่ทันทีที่ขาของฉันกำลังจะก้าวขึ้นรถ ก็คล้ายเจ้าแมวจะรู้งาน รีบกระโดดออกจากอ้อมแขนไปนั่งผึ่งพุงอยู่บริเวณที่นั่งเก่าของฮานะข้างๆฟีล แถมดูเหมือนว่ามันจะไม่ยอมขยับไปไหนนอกจากเก้าอี้ตัวนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะพยายามทั้งอุ้ม หรือหลอกล่อมันสักเท่าไหร่ก็ตาม

“นาโอะเธอนั่งตรงนี้ไปเถอะ เดี๋ยวฉันไปนั่งที่เก่าเธอเอง ท่าทางเจ้าแมวนี้จะอยากให้เธอนั่งตรงนี้แฮะ”

“อะ อืม ขอโทษด้วยนะ”

ฮานะเดินตรงดิ่งไปนั่งบริเวณเบาะทางด้านหลังข้างๆพนักงานที่เป็นหัวหน้าควบคุมการจัดเวทีที่เธอรู้จักคุ้นเคยกับเขาในระดับหนึ่ง ทำให้ตลอดการเดินทางของเธอคงจะไม่เงียบเหงาเกินไปนัก

ทันทีที่ฉันเดินเข้าไปนั่ง เจ้าแมวก็รีบกระโดดขึ้นมาบนไหล่ แถมร้องเหมียวๆเป็นเชิงคำสั่งให้รีบนั่งลงไป จนฉันอดไม่ได้ที่จะเอานิ้วไปจักจี้บริเวณจมูกมันซึ่งรู้สึกว่ามันจะชอบไม่น้อย จึงร้องเหมียวๆเป็นการใหญ่

แน่นอนฟีลนั่งติดฉัน และเขาก็เดินขึ้นมานั่งต่อจากฉันในเวลาไล่เลี่ยไม่ถึงสิบวินาที

“พี่สาว? ทำไมมานั่งตรงนี้อ่ะ” เป็นคำทักทายที่ให้ความรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าซะเหลือเกิน

“ทำไมล่ะ เสียใจล่ะสิ ที่ไม่ใช่ฮานะแสนหวาน แต่กลับเป็นสาวโหดอย่างฉันแทน”

“รู้ตัวก็ดีแล้วนี่ครับ”

“นายนี่มัน...” บอกตามตรงเลยว่า ความเป็นสุภาพบุรุษที่ฮานะบอกมานั้น ทำไมมันถึงช่างเลือนลางสำหรับฉันซะเหลือเกิน

เจ้าแมวดำกระโดดลงมายังที่ประจำ หรือก็คือในอ้อมแขน แต่คราวนี้มันกลับไม่เอาหัวซุกลงไปนอนเหมือนปกติ มันกลับเอาแต่จ้องมองฟีลตาเขม็งราวกับกลัวว่าชายคนตรงหน้าจะหายไปไหน

“พี่สาว แล้วพี่ตั้งชื่อให้แมวตัวนี้รึยังล่ะ จะได้เรียกมันได้ง่ายๆ”

“นั้นสินะ ยังไม่ได้คิดเลยเหมือนกันนะเนี้ย”

ทันทีที่ฟีลพยายามที่จะเข้าใกล้มัน ก็คล้ายว่าเจ้าแมวจะร้องขู่ให้ฟีลรักษาระยะห่างระหว่างฟีลและมันเอาไว้ ไม่ให้ใกล้กว่าที่เป็นอยู่

“เจ้าแมวตัวนี้ไม่เป็นมิตรเลยจริงๆ อืม...ให้ชื่อว่าเจ้าดำก็แล้วกัน”

“ไม่” ฉันตอบอย่างไม่ต้องคิด กับชื่อไร้รสนิยมที่ฟีลเสนอ

เขาทำท่าคิดเล็กน้อยก่อนที่จะเสนอใหม่ “งั้นเจ้าทมิฬดีมั้ยล่ะ”

ฉันแทบอยากจะเอาหัวไปโขกกับกระจกรถ เมื่อเจอชื่อที่คล้ายว่าฟีลจะพยายามคิดกลั่นออกมาจากสมอง

“พอเลยๆ เดี๋ยวฉันคิดเอง”

“ชื่อทมิฬก็ดีไม่ใช่เหรอ ดูเข้มแข็งจะตาย”

“แมวฉันเป็นผู้หญิงย่ะ”

“ห๊ะ เพศเมียหรอกเหรอ” ฟีลทำหน้างง เขาทำหน้างงกับเพศของแมวที่เขาเพิ่งจะเจ็บตัวช่วยมา

“แอนนา...ชื่อแอนนาดีไหม”

“เชยสุดๆ” ฟีลพูดโดยที่ไม่ดูแต่ล่ะชื่อสุดยอดความทันสมัยที่เขาคิดมาให้ก่อนหน้า

“หยุด นี่แมวฉัน มันชื่อแอนนา จบ” ฉันตัดบทเพราะกลัวว่าชายตรงหน้าที่คิดชื่ออะไรพิสดาร พิลึกกึกกือ ออกมาอีก

“เชอะ จะใช้ชื่ออะไรก็ตามใจ เพราะยังไงแมวสุดโหดของพี่สาว ก็สู้คริสโตเฟอร์ของผมไม่ได้หรอก”

“คริสโตเฟอร์?”

“ใช่ เป็นชื่อของนกพวงกุณแจที่พี่ให้มาไง” ทันทีที่ฟีลหยิบพวงกุญแจนกสีขาวออกมา เจ้าแอนนาก็ใช้อุ้มมือเล็กๆของมันพยายามคว้าพวงกุญแจนั้นเอาไว้

“นี่นายตั้งชื่อให้พวงกุญแจเนี้ยนะ”

“ทำไมเหรอพี่สาว ตั้งไม่ได้เหรอ”

“ปะ...เปล่าหรอก แค่แปลกๆน่ะ”

แต่แล้วรถตู้ก็เกิดเบรกกะทันหันเพราะสาเหตุอะไรบางอย่าง จนทำให้พวงกุญแจกระเด็นหลุดจากมือฟีลไปลงที่เบาะด้านหน้าที่มีคนนั่งอยู่

ขะ...ขอโทษครับ” ฟีลพูดในขณะที่ค่อยๆเอี้ยวตัวไปด้านหน้าเพื่อหมายจะขอพวงกุญแจคืน

แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร ชายที่นั่งอยู่บริเวณเบาะด้านหน้าก็หันหลังมาโดยที่ยังคงกำพวงกุญแจไว้ในมือ ซึ่งใบหน้าของชายคนนั้นก็ทำให้ฉันต้องระมัดระวังขึ้นในอีกระดับ เพื่อไม่ให้เรื่องนาโอะแดงขึ้นมา

“พวงกุญแจของนายเหรอ” ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตร น้ำเสียงที่คมคายดั่งคมมีดที่สามารถเฉือดเฉือนจิตใจทุกนางที่พบเห็น คือลักษณะเด่นของชายอายุราวๆยี่สิบห้าที่ฉันคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี

“ครับ ขอบคุณที่เก็บให้”

“ไม่เป็นไรหรอก” ชายหนุ่มส่งพวงกุญแจคืนกลับไปให้ฟีล ถึงแม้เรื่องทุกอย่างดูคล้ายจะจบลง แต่มันกลับเป็นจุดเรื่มต้นของเรื่องวุ่นๆต่อจากนี้

“พวกเธอสองคนเป็นเพื่อนของฮานะเหรอ”

“ครับ” ฟีลตอบอย่างไม่ลังเล ผิดกับฉันที่ได้แต่นิ่ง ไม่พูดอะไร

และดูเหมือนสิ่งนั้นจะทำให้เขาหันมาสนใจฉันมากกว่าปกติ “แมวน่ารักจังเลยนะครับ คุณผู้หญิง”

ฉันยังพยายามทำทีเป็นไม่สนใจต่อไป เพื่อหมายว่าเขาจะท้อและเลิกยุ่งกับฉันไปเอง

ถ้าฉันพูด เขาต้องจำเสียงฉันได้แน่ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ฉันมั่นใจในตอนนี้

แต่แล้วก็คล้ายมีเสียงสวรรค์มาช่วยอีกครั้ง เป็นเสียงสวรรค์ที่เคยช่วยฉันให้หลุดจากสถานการณ์อันตรายมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

“ยูกิ เลิกยุ่งกับเพื่อนฉันสักทีเถอะ เธอเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยพูดน่ะ” ฮานะส่งเสียงมาจากด้านหลัง

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย มันเป็นเรื่องระหว่างฉันกับแม่นางคนนี้แค่สองคนต่างหาก”

เมื่อฉันเห็นว่าฮานะคงไม่อาจช่วยฉันไปได้มากกว่านี้ ฉันจึงโบกมือขึ้นคล้ายเป็นสัญลักษณ์ให้เธอหยุด ถึงแม้ว่าฮานะเป็นห่วงฉันถึงขนาดไหน แต่ถ้านี่เป็นสิ่งที่ฉันต้องการ เธอก็คงจะขืนใจอะไรไม่ได้

ชายหนุ่มตรงหน้าส่งสายตาอันแสนหวานผสานกับใบหน้าที่หล่อเหลาจ้องมองเข้ามาผ่านทะลุแว่นตากันแดดคล้ายกับชาวประมงที่รอคอยการกินเหยื่อหลังจากที่เขาหย่อนเบ็ดลงไปในน้ำ

“ว่าไงคุณผู้หญิง จะพูดกับฉันได้รึยังล่ะ” เขาถือวิสาสะลูบหัวเจ้าแอนนา แต่แน่แปลกที่มันกลับไม่แสดงอาการขัดขืนเหมือนตอนที่ฟีลพยายามเอามือไปจับมัน

“หึๆๆๆ ไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็เป็นสุภาพบุรุษที่ไม่อยากทำให้หญิงสาวต้องเจ็บช้ำใจอยู่แล้ว”

และเรื่องที่กำลังจะเกิดต่อไปนี้ ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะย้อนเวลากลับไปและหยุดไม่ให้มันเกิดขึ้น ถึงแม้มันจะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม

“ไม่ทราบว่า คุณช่วยหุบปากเน่าๆของคุณ แล้วก็กลับไปอยู่ในที่ที่คุณควรอยู่ได้ไหมครับ ผมกลัวว่าถ้าเพื่อนของผมคลุกคลีกับคุณนานๆแล้ว เธอจะติดกลิ่นไม่ดีแล้วพลอยเสียเกียรติลงไปด้วย” ฟีลที่เงียบไปนานพูดขึ้นด้วยคำพูดที่ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากคนอย่างเขา

“ฟีล อย่า...” ฉันพูดไม่ออกเมื่อเห็นสายตาที่จริงจังและดุดันแต่ยังคงแฝงไว้ด้วยความขี้เล่นตามลักษณะนิสัยเดิม ฟีลในตอนนี้คงไม่ต้องเป็นห่วงแน่ๆ...ถ้าคนที่เขาเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ ยูกิ

“หึ เมื่อกี้นายพูดกับฉันว่ายังไงนะ” ยูกิหันมามองฟีลโดยละความสนใจไปจากฉัน

“อ้อ นี่คุณหูหนวกด้วยเหรอครับเนี้ย ช่างน่าสงสารจริงๆเลย”

“แก!!! กล้าพูดอย่างนี้กับฉันงั้นเหรอ”

“เปล่านะครับๆ ผมไม่ได้พูด คริสโตเฟอร์เขาฝากผมมาพูดต่างหาก” ฟีลไม่พูดเปล่า เขาทำท่าเอาพวงกุญแจรูปนกแนบไว้ที่หู พลางพยักหน้าคล้ายรับคำสั่งจากนกตัวนั้น ซึ่งมันทำให้ฉันอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

“อ้อๆ คริสโตเฟอร์ฝากมาบอกอีกว่า ถึงมันจะเป็นแค่นก แต่อย่างน้อยมันก็รู้ว่าคนที่เป็นสุภาพบุรุษ เขาจะไม่ทำแบบคุณแน่นอน อย่าเรียกตัวเองว่าสุภาพบุรุษเลยครับ กระดากปากเปล่าๆ”

ยูกิเริ่มทนไม่ไหวเมื่อฟีลใช้คำพูดที่เต็มไปด้วยคำแดกดัน และคำด่า และด้วยใบหน้าที่นิ่งสนิทปราศจากความกลัว ก็ยิ่งทำให้ยากที่จะอดกลั้นอารมณ์เอาไว้ไหว

“แล้วก็นะครับๆ การที่คุณทำให้ใครสักคนต้องเสียรอยยิ้มไปล่ะก็...ผมคงปล่อยคุณไว้ไม่ได้แน่ๆ ประโยคนี้คริสโตเฟอร์ไม่ได้บอกนะ แต่มาจากผมเองเลยต่างหาก”

ทันทีที่พูดจบ เสื้อของฟีลก็ถูกกระชากด้วยแรงมหาศาล แต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงนิ่ง ไม่ไหวติง ผิดกับยูกิที่แสดงสีหน้าของความโกรธออกมาอย่างชัดเจน

ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าเขาทำแบบนี้ไปเพราะรู้สึกไม่ชอบในตัวยูกิหรืออะไร แต่คงไม่ใช่เหมือนในนิทาน ที่เขาจะทำเพื่อปกป้องฉันหรอกมั้ง ก็ไม่รู้เหมือนกันสิ แต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่ฉันรู้ คือฉันรู้สึกดีใจแปลกๆที่ฟีลทำอย่างนี้ ราวกับใจของฉันหมายจะรอความช่วยเหลือจากเขามาตั้งแต่แรก ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำก็ตาม...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา