ร้ายเพ(ร)าะรัก

10.0

เขียนโดย giffgiw

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 15.42 น.

  5
  1 วิจารณ์
  7,232 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 16.07 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ตอนที่ 3 ความผิดที่ไม่ได้ทำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

ตอนที่ 3 ความผิดที่ไม่ได้ทำ

 

ณ กลางดึกของค่ำคืนหนึ่งที่นานมาแล้ว

 

ร่างบางในชุดนักศึกษาที่ชายเสื้อหลุดรุ่ย กำลังวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนจากความหื่นกระหายของชายสามสี่คนที่ไล่ล่าเธอมาไม่ลดละ ผมเผ้ายุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิง เนื้อตัวและใบหน้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ด้วยความเหนื่อยล้าและร่างกายที่หมดเรี่ยวแรงทำให้ขาของเธอไม่สามารถวิ่งต่อไปได้อีก ทันใดนั้นเองเอวบางก็ถูกกอดรัดจนขาลอยจากพื้น พร้อมๆ กับฝามือใหญ่ที่ตรงเข้ามาปิดปากของเธอไว้จนมิด เสียงอื้ออึงในลำคอก็ไม่สามารถเล็ดลอดออกมาได้แม้แต่นิด หญิงสาวเบิกตากว้าง ท่ามกลางความเงียบได้ยินเพียงเสียงหัวใจที่เต้นแรงด้วยความกลัวที่เพิ่มขึ้นเท่านั่น

 

‘ชู่ววว...’ ดวงหน้าเข้มของชายหนุ่มตรงหน้ายกนิ้วชี้ขึ้นจ่อไว้ที่ปากหยักได้รูปของเขา ส่งสัญญาณให้หญิงสาวในอ้อมกอดเงียบ และสงบลง 

 

‘หาผู้หญิงให้เจอ!’

 

เสียงของพวกบ้ากามที่ใกล้เข้ามาทำให้หญิงสาวยอมจำนนต่อสัญญาณมือของชายร่างสูงที่กอดเธอไว้แน่น พลางเงยหน้ามองเขาอย่างวิตกและสับสน เธอจับจ้องคนแปลกหน้าที่กำลังมองซ้ายมองขวาไม่วางตา

 

‘ไม่ต้องกลัวนะ... ฉันมาช่วยเธอ มานี่เร็ว...’ เสียงทุ้มต่ำกระซิบบอกเเผ่วเบาทำให้แววตากลมโตที่เคยสั่นไหวด้วยความหวาดกลัวค่อยๆ นิ่งสงบ เขาจูงมือของเธอหลบเข้าไปในซอกเล็กๆ ระหว่างตึก แสงไฟที่มืดสลัวทำให้กลุ่มคนพวกนั้นวิ่งผ่านเลยไปโดยไม่ทันสังเกต ทั้งสองจึงย่องออกมาอย่างเงียบๆ และวิ่งหนีไปอีกทาง

 

‘...เฮ้อออ! รอดจนได้’ เมื่อรู้สึกว่าปลอดภัยแล้ว ชายหนุ่มจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะปล่อยมือของหญิงสาวให้เป็นอิสระ

 

‘...ขอบคุณนะคะ’

 

‘ไม่เป็นไร’ ร่างสูงยักคิ้วเข้มและยิ้มบางๆ อย่างอบอุ่น ก่อนจะส่งถุงกระดาษไปให้ ‘นี่... ของเธอ’

 

‘ของฉัน?... อ๋อ ...นึกว่าทำหายไปซะแล้ว’ เธอยื่นมือไปรับและมองถุงใบนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปยิ้มกว้างให้คนตรงหน้า ‘ขอบคุณอีกครั้งนะคะ’

 

‘มันคืออะไรเหรอ’ คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างงวยงงทันทีที่เธอกำลังหยิบบางอย่างออกมาจากถุง

 

‘เป็นกล้องโพลารอยด์ที่ฉันจับฉลากได้มาจากที่ทำงานน่ะค่ะ’

 

‘อ่อ...’ คนตัวสูงเสยผมที่ยาวลงมาปิดหน้าออกพร้อมกับหย่อนก้นลงบนม้านั่งด้านหลัง ‘งั้นลองถ่ายดูดีไหม เผื่อว่ามันอาจจะเสียระหว่างทางที่วิ่งมา ...ชักไม่แน่ใจตอนมันกระแทก’

 

‘คะ? ...อ่า แต่ถ้ามันพังก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ’ หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างขบขัน เพราะใบหน้าเข้มแฝงไปด้วยความกังวลเพราะกลัวกล้องที่ถือมาจะใช้การไม่ได้ด้วยน้ำมือเขา เธอเดินไปนั่งลงข้างๆ ก่อนจะจัดการกับกล้องถ่ายรูป ‘...ฉันจะถ่ายให้นะคะ’

 

‘นั่งตรงนี้แหละ’ มือใหญ่คว้ากล้องไปก่อนที่หญิงสาวจะลุกขึ้นยืน เขายื่นตัวกล้องไปข้างหน้าและเอียงตัวเข้าไปใกล้ๆ กับเธอที่นั่งตัวแข็งทื่อแก้มชมพูระเรื่อด้วยความเขินอาย ‘เอาละนะ เป๊บซี่!!! ...เขย่าๆ แบบนี้ใช่ไหม ....โวว...ดูดีมากๆ เลยนะเนี่ย งั้นขอแล้วกันนะ’

 

หญิงสาวได้แต่ยิ้มแก้มป่องตอบกลับไป ทั้งที่ในใจเธออยากจะเป็นฝ่ายเก็บรูปใบนั้นไว้

 

‘ไปเถอะ พี่จะไปส่งที่บ้าน’

 

‘...แต่เรามาถึงแล้วล่ะค่ะ’

 

‘หือ? จริงดิ’ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรต่อ เขาก็ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือที่กำลังสั่นออกมาจากกระเป๋ากางเกง ...สร้อยเงินเส้นหนึ่งก็หล่นออกมาโดยที่เขาไม่รู้ตัวเช่นกัน ‘แป๊บนะ ขอรับโทรศัพท์ก่อน ...อือ ฉันอยู่ที่ร้านต้นไม้ วันที่คิดถึง ...นายเคยมาช่วยฉันเลือกต้นไม้ไปตกแต่งที่ทูเก็ทคลับไง อืมเจอกัน’ ระหว่างที่กดวางสาย ร่างสูงก็หันมาถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเองกับสิ่งที่ได้ยินก่อนหน้านี้ ‘เมื่อกี้ เธอว่า...นี่บ้านเธอเหรอ’

 

‘ค่ะ’ เธอตอบรับด้วยรอยยิ้ม ‘พี่เคยมาซื้อต้นไม้ที่นี่ด้วยเหรอ’

 

‘อืม ...มาบ่อยเหมือนกันแต่ไม่ยักเห็นเธอ’

 

‘ฉันคงจะติดงาน’ แสงไฟของรถคันหนึ่งวิ่งตรงมา ทำให้หญิงสาวหรี่ตาลงเพื่อหลบแสงจ้า

 

‘...เพื่อนพี่มาแล้ว เข้าบ้านไปเถอะ’ ฝ่ามือใหญ่วางลงบนศรีษะของเธอเบาๆ ‘ต่อไประวังตัวด้วยล่ะ’

 

‘ค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ แล้วเจอกันใหม่ ลาก่อนค่ะ’

 

หญิงสาวรอจนกระทั้งรถบีเอ็มสีขาวเคลื่อนตัวออกไปจนลับสายตา จึงหันกลับมาเก็บข้าวของที่วางอยู่บนม้านั่ง แต่แสงระยิบระยับทำให้เธอชะงัก ก่อนจะหยิบมันขึ้นมามองใกล้ๆ มีแหวนวงหนึ่งห้อยอยู่กับสร้อยสลักตัวอักษร ‘y&p’ เอาไว้ สร้อยที่เธอมั่นใจว่าจะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากคนที่ช่วยเธอจากพวกอันธพาลเมื่อสักครู่

 

‘แล้วฉันจะเอาไปคืนเขาได้ที่ไหนเนี่ย... ชื่อก็ไม่ได้ถาม โง่จริงๆ เลยฉัน’

 

เมื่อคืนฉันเผลอหลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว ...พวกเขาทิ้งฉันไว้ในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อคืน ข้างล่างน่าจะเป็นร้านเหล้าไม่ก็ร้านนม ...ฉันไม่แน่ใจ แต่ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยห้องนี้คงเก็บเสียงได้ อีตาทามคุงอะไรนั่นเอามือถือของฉันไป ไม่แค่นั้นยังเอากุญแจมือมาล่ามฉันไว้กับโต๊ะด้วย น่าโมโหที่สุด!

 

“....!!!” ไอ้หน้าหล่อตาดุอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ทำตัวหลอนเป็นบ้า “นี่! ฟังให้ดีนะ ฉันพูดความจริงไปหมดแล้ว ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรเลย ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้นไม่มีประโยชน์หรอกที่จะจับตัวฉันไว้ เข้าใจบ้างได้ไหม ฉันคิดว่านายอยากได้แหวนก็เลยพูดโกหกไปอย่างนั้น นอกนั้นก็เรื่องจริงทุกอย่าง ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันเป็นห่วงยาย”

 

แกร๊ก!!!

 

“....” อีตาทามนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษอยู่บนโซฟา เขาไม่ได้พูดอะไรแต่โยนกุญแจเฉียดหน้าฉันไปนิดเดียว หนอยไอ้หน้าหล่อ! ...แต่กุญแจนี่หมายความว่า “ฉันไปได้แล้วใช่ไหม นายเชื่อฉันแล้วเหรอ เห็นไหมล่ะว่าฉันไม่ได้ทำจริงๆ ส่วนค่าเสียหายฉันจะพยายามหามันมาคืนโดยเร็วที่สุด จริงสิ! ขอโทรศัพท์คืนด้วย”

 

ฉันมองหน้าเขาที่ยังคงไม่ละสายตาจากหนังสือพิมพ์ในมือ ขณะที่ล้วงโทรศัพท์มือถือของฉันออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้ววางไว้ที่โต๊ะกระจกด้านหน้า พอฉันก้มตัวลงไปเพื่อจะหยิบเจ้าเต่าล้านปีขึ้นมา ...ก็ต้องชะงักทันทีที่

 

“...ยายของเธอเปิดร้านขายต้นไม้ น้องของเธอเรียนมัธยมปลายที่เบอริเทจไฮสคูล ถ้าเธอคิดว่าจะทำในสิ่งที่ฉันไม่ได้สั่ง ลองจินตนาการดูว่าร้านขายต้นไม้ที่เหลือแต่ซากมันจะเป็นยังไง”

 

ทุกคำที่เขาพ้นออกมาจากปากบางเรียบนั่น มันทำให้ฉันหยุดนิ่งทุกการเคลื่อนไหวเพราะรู้สึกเจ็บจี๊ดในอก

ฉันกำมือถือเอาไว้แน่น ยืดตัวตรงจ้องมองคนตรงหน้าอย่างชิงชัง “นายมัน...”

 

“ถ้าเธอยังไม่พูดความจริง และฉันไม่ได้ตัวหมาลอบกัด อย่าคิดว่าเรื่องนี้มันจะจบ”

 

“ความจริง...ความจริงที่ฉันพูดเป็นร้อยๆ ครั้ง แล้วเนี่ยนะ” อยากจะกัดลิ้นตายซะตรงนี้ ไอ้คนบ้านี่จะเอายังไงกับฉัน

 

“งั้นเธอก็ภาวนาให้เพื่อนฉันฟื้นมาเป็นพยานให้เธอละกัน”

 

“....” เขาทำให้ความอดทนของฉันถึงจุดสิ้นสุด ใช่! ...ถ้าเขาฟื้นนายคงต้องเอาปิ๊บคลุมหัวแล้วล่ะ

 

“โทรไปบอกญาติเธอ...ว่าเธอจะไม่กลับบ้าน ฉันไม่ชอบความยุ่งยาก...มันน่ารำคาญ”

 

ฉันละสายตาจากเขา เหลือบมองหน้าจอมือถือที่หลับสนิท ...อดทนไว้ อดทนไว้ไอ้เพลง

 

...ทันทีที่เครื่องเปิดเสียงเรียกเข้าก็ดัง เฟรม! ...ไอ้น้องตัวแสบโทรมาได้ยังไงนะหรือว่าตำรวจจะ...

 

“เฟรม...!!”

 

(ยัยบ้า ทำไมต้องปิดมือถือด้วย ทำตัวเหมือนเด็กไปได้ ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงพี่นี่ไม่ไหวเลย ตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำไมไม่กลับบ้าน หลงทางรึไง)

 

ฉันต้องเลื่อนมือถือออกจากหูเพราะเสียงตะคอกของเฟรม

 

“...ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง ว่าแต่ ...รู้ได้ไงว่าพี่ไม่ได้กลับบ้าน”

(ช่างเหอะ ปลอดภัยก็ดีแล้ว ...ไอ้หมอนั่นถอนแจ้งความ ตำรวจบอกว่างั้นอะ เลยออกมาจากคุกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พี่ไปเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าเสียหาย คงไม่ได้ไปขอความช่วยเหลือจากยัยแม่มดใช่ไหม พี่เพลง ...พี่เพลง! อยู่ที่ไหน มาคุยกันที่บ้านเซ่!)

 

“เปล่า เปล่า ไม่ได้ไปหาแม่มดหรอก” ไอ้น้องตัวแสบนี่มันจะฆ่าฉันรึไง ...พูดมาละเอียดขนาดนั้นคงไม่ต้องกลับไปคุยที่บ้านแล้ว 

 

ว่าแต่เขาถอนแจ้งความแล้ว...

 

(งั้นเหรอ  แปลกจัง... จริงสิเมื่อคืนยายเป็นห่วงพี่มากเลย เฟรมก็เลยบอกไปว่าพี่ทำกิจกรรมกับเพื่อนที่มหา’ลัย) ยายคงเป็นห่วงมากที่ฉันไม่ได้โทรไปบอก โชคดีที่เฟรมออกจากคุกไม่งั้นยายคงนั่งรอทั้งคืนแน่ๆ

 

“...เฟรม คือพี่...ยังกลับไปไม่ได้ ...จะยังไม่กลับไปที่บ้านสักพักนะ” ที่ฉันต้องพูดแบบนี้เพราะอีตาทามกำลังมองฉันด้วยตาเสือหิวเลือด

 

(หมายความว่าไง มีเรื่องอะไรรึเปล่า กลับมาคุยกันที่บ้านสิ)

 

“เอาเป็นว่าพี่ปลอดภัยดี ไม่ต้องห่วง บอกยายด้วย ถ้าเสร็จธุระพี่จะรีบกลับ โอเคนะ”

 

(...บ้าชิบ ไม่ชอบแบบนี้เลย)

 

“นะเฟรม ...แค่นี้ก่อนนะ”

 

(เอางั้นก็ได้ ถ้ามีเรื่องอะไรก็โทรมาแล้วกัน)

 

“อือ...” อยู่ๆ ไอ้หน้าหล่อตาดุก็คว้ามือถือของฉันไป กดวางสายเรียบร้อย “นี่! นายทำบ้าอะไร”

 

...ฉันจะไม่ทนแล้วนะ!!!

 

“เธอจะได้ใช้มันตอนฉันอนุญาตเท่านั้น”

 

“นายมัน...!!!” นี่ชีวิตฉันจะถูกเขาควบคุมหรือไงเนี่ย โมโห โมโห แต่ทำอะไรไม่ได้!

 

“ฉันมีความเป็นคนพอที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มีสมองพอที่จะเข้าใจไหมว่าฉันหมายความว่าไง”

 

“...” อ๊ากกก! ฉันก็มีความเป็นคนพอไม่งั้นฉันฉีกร่างนายเป็นชิ้นๆ ไปแล้ว หมอนี่มันปีศาจชัดๆ

 

“ทำความสะอาดชั้นสองทั้งหมด อ่อ! รดน้ำต้นไม้ด้วย ถ้าตายแม้แต่ต้นเดียวฉันจะคิดสามเท่าของราคา ถ้าเรียบร้อยแล้วลงไปทำความสะอาดร้านชั้นล่าง จะมีคนบอกว่าเธอต้องทำอะไรบ้าง”

 

“หา!”

 

“คงไม่คิดว่าฉันจะขุนเธอให้อยู่อย่างสุขสบายหรอกนะ ต่อจากนี้เธอต้องทำงานชดใช้ค่าเสียหายรถฉัน ไม่งั้นน้องเธอก็ต้องเข้าไปนอนเล่นในคุกเหมือนเดิม จากนี้เธอเองก็จะตายทั้งเป็นจนกว่าฉันจะรู้ความจริงเรื่องอุบัติเหตุ จำใส่สมองกลวงๆ ของเธอเอาไว้”

 

“...นี่! นายฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง ทำไมถึงได้ไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพูดเลย”

 

“เธอเข้าใจที่ฉันพูดก็ดี” พอพูดจบเขาก็เดินหันหลังลงบันไดจากไป

 

“...เฮอะ!” ฉันไม่ได้รู้สึกขอบคุณเขาเลยแม้สักนิดที่ยอมถอนแจ้งความตาเฟรม เพราะความร้ายกาจของเขามันไม่ได้ลดน้อยลงเลยน่ะสิ

 

ฝันแน่ๆ...ฉันต้องฝันไปแน่ๆ ถ้านอนและตื่นมาอีกทีทุกอย่างอาจจะกลับสู่โลกปัจจุบัน ฉันจะได้ไปช่วยยายที่ร้าน ไปทำงานพิเศษที่โรงพยาบาล ได้ช่วยทำความสะอาดบ้านในวันหยุดกับน้องชายตัวแสบ และทุกอย่างจะต้องกลับมาเป็นปกติเมื่อฉันตื่นขึ้น ใช่แล้ว ใช่แล้ว...ต้องนอน จะได้ตื่น

 

“โว้ย! หลับ จงหลับ ทำยังไงดี นอนไม่หลับ นอนยังไงก็นอนไม่หลับ ฮือๆๆ” ฉันนอนกลิ้งอยู่บนโซฟาเหมือนคนไข้โรคจิตที่โรงพยาบาลที่ฉันทำงานอยู่ไม่มีผิด

 

“นี่! ป้า” ฉันรู้สึกว่ามีใครมาสะกิด เฟรมมาปลุกฉันทั้งๆ ที่ยังไม่หลับเหรอ ...หรือว่าฉันหลับไปแล้ว จริงดิ!

 

“นี่! ป้า เป็นลมบ้าหมูหรือไง ชักดิ้นชักงออยู่ได้”

 

ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาทีละข้าง ก็พบผู้ชายคนหนึ่ง...

 

“...นาย! นายเป็นใคร นี่ฉันตื่นแล้วเหรอ ทำไมฉันยังอยู่ที่เดิมล่ะ ทำไม?” ฉันเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง ...ผู้ชายหน้าตากวนๆ แต่ดูดี คงจะเป็นรุ่นเดียวกับตาเฟรม

 

“เสียสติไปแล้วแน่ๆ ...นี่ข้าวเช้า กินซะจะได้มีแรงทำงาน” เขาวางจานข้าวไข่เจียวฟูฟ่องน่ากินและแก้วน้ำบนโต๊ะกระจกใกล้ๆ กับที่ฉันนั่งอยู่ “...ว่าแต่ทำความสะอาดไปถึงไหนละ ถ้าเรียบร้อยแล้วรีบไปช่วยชั้นล่างด้วยนะครับ ร้านจะเปิดบ่ายสอง ...แต่สภาพแบบนี้ แน่ใจนะว่าทำแล้วน่ะ ป้าได้โดนเชือดแน่ๆ ถ้าพี่ทามกลับมา”

 

“นี่! เรียก ป้า ป้า อยู่ได้ ฉันเป็นป้านายเมื่อไร แล้วนายพูดเรื่องอะไร เข้ามาในความฝันฉันได้ไง ออกไป ออกไปเลยนะ”

 

“ความฝันบ้าบออะไร อย่าบอกนะว่าป้าบ้าไปแล้วน่ะ”

 

“ฉันไม่ได้บ้า อ๊ากกก...” ฉันทึ้งหัวตัวเองอย่างหงุดหงิดพยายามหลอกตัวเองแต่นี่มันความจริง ไม่ใช่ความฝัน

 

“จะต๊องไปไหนเนี่ย กินข้าวแล้วไปทำงานซะ ก่อนที่ป้าจะโดนพี่ทามย่างสด”

 

“คนที่จะถูกย่างตอนนี้น่ะคือ นาย!!! ฮึ่ย!” แล้วฉันจะทำยังไง นี่ไม่ใช่ความฝัน... ฉันก้าวฉับๆ ไปที่ระเบียง คว้าสายยางที่ใช้รดน้ำต้นไม้ “ฮือๆ...รดน้ำ รดน้ำ รดน้ำ...ต้นไม้” สัญลักษณ์ที่กระถางต้นไม้พวกนี้มันมาจากที่ร้านฉันทั้งนั้นเลยนี่... “สวัสดีต้นไม้ เราได้เจอกันอีกครั้งแล้วนะ ฉันคิดถึงพวกเธอมากๆ เลย ตอนนี้ฉันมีเรื่องกลุ้มใจสุดๆ เลยล่ะ ฮือๆๆ...”

 

“ยัยป้านี่ท่าจะเพี้ยนจริงๆ หลังจากที่โวยวายเป็นตุเป็นตะว่าฝัน ตอนนี้ก็มาคุยกับต้นไม้...เฮ้อออ!”

 

“นาย! หุบปากไปเลยนะ”

 

“ครับผม...ครับ งั้นเจอกันข้างล่างละกัน เร็วๆ ล่ะไม่งั้น...”

 

อีเด็กบ้านั่นทำท่าทำทางเชือดคอขู่ ฉันก็เลยถลึงตาโตๆ ใส่ก่อนที่เขาจะลงบันไดไป

 

สุดท้ายแล้วทางเลือกก็ไม่มี ...ฉันจึงตัดสินใจเข้ามาทำความสะอาดในห้องติดกับระเบียง หลังจากยืนรดน้ำต้นไม้เหมือนคนเมาค้างไร้ซึ่งสติเรียบร้อยแล้ว ห้องแรกที่ฉันเข้าไปคือห้องที่เคยมีผู้หญิงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินออกมา เป็นห้องอีตาทามนั่นแน่นอน ของทั้งหมดมีโทนสีขาวทั้งหมด เป็นห้องโล่งๆ สะอาดเรียบร้อยกว่าห้องของฉันซะอีก มีแค่เตียงขนาดคิงไซค์ แอลอีดีทีวี ชั้นหนังสือ และมีเสื้อผ้าในตู้แค่ไม่กี่ตัว มันบ่งบอกว่าเขาอยู่ที่นี่แค่ชั่วคราว ไม่แค่นั้นยังมีชุดชั้นในผู้หญิงอยู่ในถังขยะด้วย ให้ตาย! นายมันถ่อยจริงๆ

 

ฉันจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเลยรับรองได้ ฉันรื้อเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ออกมา เหยียบๆ และเหยียบ ที่นอนเหรอ... เละสุดๆ ไปเลย หนังสือบนชั้นกระเด็นกระดอนลงมาจากชั้น ...หึๆ ถ้ายังอยากให้ฉันอยู่ก็ให้มันรู้ไป

 

“สนุกพอรึยัง”

 

“...!!!” เขามาเมื่อไร ...ฉันถอยหลังหนีตามจังหวะที่เขาก้าวเข้ามาในห้องช้าๆ ...ขาของฉันสัมผัสถูกปลายเตียง แสดงว่าจนมุมแล้ว ไม่นะ! “โอ้ย! จะทำอะไรนะ ปล่อยนะ ปล่อยฉันสิ ไอ้บ้า!”

 

อีตาทามผลักฉันล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง และตรึงแขนทั้งสองข้างของฉันไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียว ฉันพยายามดิ้นสุดกำลังที่มีเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของเขา แต่มันเปล่าประโยชน์ ฉันจ้องนัยน์ตาสีดำดุดันมันบ่งบอกว่าเขาโกรธมากแค่ไหน ในระยะใกล้ขนาดนี้ทำให้ฉันเห็นชัดเจนว่าผิวของเขามันขาวซีดเนียนละเอียดสุดๆ ใบหน้าเรียวสวยได้รูป จมูกโด่งเป็นสันงดงาม ปากบางๆ ชมพูระเรื่อของเขา ประกอบเข้าด้วยกันได้อย่างไร้ที่ติ ฉันกำลังคิดเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย นี่มันระยะอันตรายชัดๆ ใจฉันมันเต้นแรงเหมือนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว ให้ตาย!

 

“เธอคิดว่ากำลังเล่นกับใครไม่ทราบ!” ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจทันทีที่เขาตะคอกฉันด้วยเสียงอันดังลั่น

 

“ฆ่าฉันเลยเซ่!”

 

“ฮึ! ฆ่าเธอแล้วเพื่อนฉันฟื้นรึไงวะ”

 

“นายจับฉันไว้ เขาจะฟื้นรึไงเล่า”

 

“เธอก็รับผิดชอบสิโว้ย!”

 

“ฉันเกลียดนาย!”

 

“ฉันไม่แคร์!”

 

“นายมันบ้า!”

 

เราตะโกนใส่กันอย่างบ้าคลั่ง ถึงฉันจะกลัวแค่ไหนแต่ความอดทนมันหมดไปนานแล้ว

 

“ปากดี...” เขาค่อยๆ เลื่อนหน้าลงมาใกล้ฉัน มากขึ้น ...มากขึ้น

 

“นายจะทำอะไร! ปล่อยนะ ปล่อยเซ่ ปล่อยฉันนะไอ้บ้า!” ฉันพยายามฝืนตัวหนี แต่นั่นยิ่งทำให้ฉันเจ็บที่ข้อมือ

 

“ปากก็บอกว่าไม่ แต่ในใจคงอยากจะแก้ผ้าเต็มทีแล้วสิท่า” ฉันรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขาอยู่ที่ซอกคอ ชาวาบไปทั่วร่างทุกครั้งที่ลมอุ่นๆ สัมผัสผ่านตามจังหวะการหายใจของคนที่คร่อมฉันอยู่ในลักษณะติดเรท

 

“เลว! นายมันเลว!!!” ฉันกัดฟันพูดด้วยความอดกลั้น

 

“คิดอะไร คิดว่าฉันจะทำอะไรผู้หญิงน่ารังเกียจแบบเธอ มันน่าขยะแขยงไม่ใช่หรือไง”

 

“...” ฉันมองหน้าที่ระบายด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันของเขานิ่งด้วยความโกรธแค้นที่สุดเท่าที่เคยมีมาในชีวิต “นายต่างหากที่โสโครก... ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!”

 

“โอ้ย! ยัยบ้า!!!” เขาปล่อยข้อมือทั้งสองข้างของฉันทันทีที่ถูกกัดเข้าเต็มแรงที่ต้นแขน ฉันพยุงตัวลุกขึ้นและถอยออกมาอย่างรวดเร็วให้ห่างจากเขามากที่สุดจนชิดหัวเตียง ฉันเหลือบมองเลือดที่ซึมออกมาจากแขนเสื้อเชิ้ตสีขาว ถ้าไม่มีเสื้อแม่จะกัดให้เนื้อหลุดเลย

 

“อยากลองดีนักใช่ไหม!” อีตาทามกระโจนเข้ามาจับขาทั้งสอง เขาปัดป้องเท้าและท่อนขาเรียวๆ ของฉันได้ทุกกระบวนท่าและทุกครั้งที่ฉันพยายามดิ้นสุดแรง ทั้งถีบ ทั้งเตะ แต่ก็ถูกเขากดให้คว่ำหน้าอยู่บนเตียงด้วยแรงที่มีมากกว่าในเวลาไม่ถึงนาที

 

“ปล่อยนะ! ปล่อยฉันเซ่ นี่!!!”

 

“...ฤทธิ์มากนักนะ!!!” เขาตะคอกใส่หูฉัน หลังจากเอากุญแจล็อคข้อมือฉันไว้ด้านหลังได้สำเร็จ เขาพลิกตัวฉันหงายขึ้น ...นั่น! เขากำลังจะทำอะไรน่ะ ถอดเน็คไท...ถอดทำไมยะ ...ม่ายยย!

 

“อ่อยอั้นอะ ไอ้อ้า (ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า)” ฉันพยายามพูดผ่านเน็คไท มันเคยหลุดรุ่ยอยู่ที่คอของเขาแต่ตอนนี้มันถูกมัดอยู่ที่ปากของฉันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว อีตาบ้านี่มันต่ำช้าสุดๆ ไปเลย กรี๊ด!!!

 

ตาบ้าทามลากฉันลงมาจากชั้นสองอย่างทุลักทุเลจนรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว ฉันพยายามตะโกนผ่านผ้าที่มัดไว้ให้พนักงานในร้านช่วย พวกเขาตกตะลึงน่าดูที่เห็นฉันกับหมอนี่ในสภาพยับเยินแบบนี้ แต่ก็ไม่มีใครคิดจะขัดขวางการกระทำของไอ้หน้าหล่อนี่สักคน ร้านยังไม่เปิดจึงไม่มีใครผ่านไปมาแถวนี้ ไม่งั้นอีตานี่ได้จบลงที่โรงพักแน่

 

เขาโยนฉันเข้าในรถสปอร์ตสีดำก่อนจะมัดฉันติดกับเบาะรถ ถ้าเดาไม่ผิดนี่คงเป็นคันใหม่เพราะมันคนละรุ่นกับที่น้องฉันทำเยิน บางทีฉันอาจจะเข้าใจแล้วว่าทำไมตาเฟรมถึงทำแบบนั้นถ้าเป็นฉันจะระเบิดทิ้งทั้งคันเลย โมโหๆๆ ...โว้ย!!!

 

อีตาทามขับรถกระชากด้วยความโมโหพาฉันไปตามทางด้วยความเร็วสูงจนฉันไม่กล้าที่จะมองไปข้างหน้า เวลาผ่านไปหลายนาทีถนนหนทางที่นี่ดูคุ้นตาจนฉันแปลกใจ เขาหยุดรถที่ถนนฝั่งตรงข้ามกับร้าน...!!! ร้านต้นไม้ของยาย...

 

ภาพที่ฉันเห็นคือยายกำลังรดน้ำต้นไม้หน้าร้าน ...ดีจังที่ยายยังแข็งแรง...

 

“จัดการได้” จัดการงั้นเหรอ... ฉันหันกลับไปมองหน้าอีตาปีศาจบ้าที่กำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคน

 

“อี่! อายอำอะไออ่ะ (นี่! นายทำอะไรน่ะ)”

 

ฉันมองกลับไปที่ร้าน เห็นผู้ชายใส่เสื้อเชิ้ตสีดำสองคน คนหนึ่งจับยายฉันไว้ อีกคนกำลังยกกระถางขึ้นและปล่อยมันลงกับพื้นทีละกระถาง

 

“ไอ่! อุดเอี๋ยวอี้ อุดอิ๊ อุด ฮือๆ...(ไม่! หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดสิ หยุด...)” ฉันพยายามตะโกนผ่านผ้าที่มัดปากไว้ น้ำตาของฉันมันก็เริ่มไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง ให้ตาย! นายมันเลว นายมันชั่วช้าที่สุด

 

“พอได้แล้ว ...ทำตามที่บอกไว้”

 

พอเขาวางโทรศัพท์พร้อมกับรถที่เคลื่อนตัวออกไป ฉันหันกลับไปมองที่ร้านจนลับสายตา แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เขายื่นมือมาแก้มัดที่ปากของฉัน

 

“ได้โปรด ได้โปรดอย่าทำแบบนั้นเลย...ฮือๆ ฉันยอมแล้ว ยอมแล้วจริงๆ ยอมรับผิดทุกอย่างเลย ฮือๆ”

 

“...ใครร่วมมือกับเธอ”

 

“ไม่มี...ไม่มีใครอีกแล้ว...ฮือๆ ฉันทำมัน ฉันทำแค่คนเดียว ฮือออ...”

 

“งั้นเธอคงชอบใส่นาฬิกาผู้ชายด้วยสินะ”

 

“อยากให้ฉันยอมรับ  ฉันก็รับแล้ว นายยังต้องการอะไรอีก นาฬิกาอะไร ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้อะไรแล้ว!!!” จะให้ฉันทำยังไง ในเมื่อฉันไม่รู้อะไรเลย ทำไมต้องทำอย่างนั้นต่อหน้ายายด้วย ไอ้บ้าจอมมารปีศาจชั่วร้าย! ไม่รู้จะเอาคำไหนมาด่าให้มันเจ็บแสบไปมากกว่านี้แล้ว ฮือออ...

 

ตลอดทางที่เขาขับรถออกมาจากทางหน้าบ้านฉัน เขาไม่ได้พูดอะไรอีกเลย ฉันพยายามหันหน้าไปอีกทางเพราะไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตาของฉันที่ยังคงมีอยู่ตั้งแต่เมื่อกี้ มันยังคงไหลอยู่อย่างนั้นไม่หยุดแม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา