ทอแสงรุ้ง

-

เขียนโดย ฉุยฉาย

วันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.46 น.

  7 ตอน
  3 วิจารณ์
  9,099 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2563 20.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ฝันร้าย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

          สองสาวฝาแฝดอายุราวๆประมาณ 15  ปี เดินจับมือออกเดินท่ามกลางหยาดฝนที่ตกลงมาปรอยๆหลังจากที่ฝนตกหนักมานานหลายชั่วโมง เด็กสองคนเดินไปร้องเพลงไปอย่างมีความสุข ที่ได้แอบออกมาเดินเล่นนอกบ้าน ซึ่งป้าของเด็กไม่ค่อยจะยินดีให้ออกมาตอนที่ฝนยังไม่หยุดตกเท่าไหร่นัก สองสาวร่างบาง ผิวคล้ำจากแสงแดด ใบหน้าของเธอมีแต่รอยยิ้ม อยู่ในขณะนี้ เด็กสาวสองคนกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามถนนลูกลังที่มีแต่หลุมแอ่งน้ำที่เกิดจากรอยล้อรถ  ซึ่งเต็มไปด้วย น้ำฝนที่ตกลงมารวมเป็นแอ่งน้ำเล็กๆ

“กานต์ ดูซิในแอ่งนั้นมีปลาด้วย”

           พลางชี้มือไปที่แอ่งน้ำเล็กๆนั้นด้วยความตื่นเต้น พี่สาวได้ยินดังนั้นรีบวิ่งไปที่แอ่งน้ำเล็กๆโดยมีน้องสาววิ่งตามมา เด็กทั้งสองนั่งยองๆจ้องมองปลาในแอ่ง

“ปลาหมอนี่นา เราช่วยกันจับมันโยนลงไปในบ่อใหญ่เหมือนเดิมดีกว่า เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะโดนจับไปกินได้นะนันท์”

          ว่าแล้วพี่น้องฝาแฝดก็รีบช่วยกัน นำปลาหมอ ตัวเล็ก ตัวใหญ่ ใส่ไว้ในชายเสื้อตัวใหญ่ที่สีมอมแมมไปด้วยตราบโครนและคราบต่างๆ เนื่องจากใส่ตัวนี้มาเป็นแรมปี ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เด็กสองคนช่วยกันหาปลาตัวเล็กๆจับโยนลงไปในบ่อใหญ่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะเธอเชื่อว่า การที่ได้ทำดีนั้น จะทำให้แม่ของเธอภูมิใจ

          ฝนยังตกปรอยๆอยู่ไม่ได้ขาดสาย มีกลุ่มเด็กชายและเด็กหญิงกลุ่มหนึ่งประมาณ 4-5 คน ถีบจักรยานตรงเข้ามาหาสาวน้อยฝาแฝด เด็กชาย คนหนึ่งรูปร่างใหญ่ ผิวขาว ท่าทางเจ้าเล่ห์ ซึ่งมีอายุ มากกว่า สองสาวประมาณ 2 ปี เดินตรงดิ่งเข้ามหาเด็กสองคน

“นี่เล่นน้ำกับพวกเราป่าว”

          คำเชิญชวนทำให้สองสาวถึงกับงงที่จู่ๆเด็กชายและพวกเข้ามาชวนเล่นน้ำ ซึ่งธรรมดาแล้ว เด็กพวกนั้นจะชอบแกล้ง สองสาวให้ร้องไห้กลับบ้านไปทุกครั้ง แฝดผู้พี่ดึงมือน้องสาวก้าวเท้าร่นถอยหลังถอยหลัง

“ไม่เล่น!!! พวกแกไปเล่นกันเองเถอะ”

           น้ำเสียงที่ตอบด้วยความมั่นใจ ของแฝดผู้พี่ทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งทิ้งจักรยานแล้วดึงแขนแฝดน้องไว้ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“เล่นเถอะน่าหนุกๆ”

          แขนที่ถูกดึงชักสะบัดกลับแบบถือตัว

“เราบอกว่าไม่เล่นไง ฟังไม่รู้เรื่องหรอ”

          แฝดน้องตวาดกลับและพาพี่สาว วิ่งหนี โดยมีเด็กๆพวกนั้นถีบจักรยานตามมาติดๆ

          เด็กชายร่างใหญ่และเพื่อนๆทิ้งจักรยานลงข้างทางและวิ่งตามเด็กสาวฝาแฝดไปไม่กี่ก้าวก็ดึงมือ ของแฝดผู้พี่ ผลักตกลงไปที่บ่อน้ำใหญ่ แล้วพวกเด็กทั้งหมดก็พากันกระโดดตาม โดยหารู้ไม่ว่า แฝดผู้พี่ ว่ายน้ำไม่เป็น  เด็กสาวพยายามตะเกียกตะกายเพื่อให้พ้นผิวน้ำ โดยที่เด็กพวกนั้นต่างก็ไม่ได้สนใจว่าเธอกำลังจะจมน้ำตาย น้องสาวฝาแฝดก็ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ริมบ่อ ไม่เพียงแต่มองพี่สาวกำลังจมน้ำตาย

  “ฮื้อ...ฮื้อ...ช่วยด้วย!! ช่วยด้วย  ช่วย กานต์ด้วย  กำลังจะจมน้ำ ช่วยด้วย ฮื้อ...”

          แฝดน้องได้แต่ร้องไห้เอามือปาดน้ำตาที่อาบแก้ม เต้นเร้าๆ ชี้ไปที่พี่สาวของตัวเอง ที่กำลังจะขาดใจตายอยู่ริมบ่อ เด็กสาวคนหนึ่งได้ยิน ก็ตกใจรีบว่ายน้ำมาทาง แฝดพี่ รีบดึงผมเด็กสาวขึ้นมาให้พ้นผิวน้ำ ตอนนี้เธอรอดมาได้อย่า หวุดหวิด

          ในบ้านปูนหลังเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ นานาชนิด ข้างบ้านยังมีแปลงผัก สวนครัวแปลงเล็กๆ บ่งบอกได้ว่า บ้านนี้ประหยัด ค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารทำครัวอยู่ไม่น้อย เสียงปากระป๋องใบเล็กๆที่บรรจุน้ำก็ ดังโครม!!!

“ชั้นบอกแล้วใช่มั๊ยว่า อย่าออกไปเล่นข้างนอก เอ็งสองคนก็ไม่ฟัง ที่นี้เป็นไง เกือบเอาชีวิตไม่รอด นี่ถ้าตายขึ้นมาไม่มีใครเค้ามาสงสาร ไอ้ลูก ไม่มีพ่อไม่มีแม่อย่างพวกเอ็งหร้อก มีแต่คนเค้าสมน้ำหน้า”

          นี่หรือคำพูดของป้าผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเด็กแฝดมาตั้งแต่ยังเล็กยังน้อยหลังจากพ่อของเด็กเสียชีวิตจากไปได้ 3-4 ปีคำพูดที่ดูถูกดูแคลนไม่ต่างจากคำพูดที่ทุกคนเคยต่อว่า ดูถูก เด็กทั้งสอง แต่ในตอนนี้นัยต์ตาแฝดผู้พี่แดงก่ำจากการสำลักน้ำจากการรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด เด็กสองคนยืนฟังคำพูดที่ไร้หัวใจ น้ำตาก็เริ่มไหลอาบแก้ม

“ไม่ต้องมาสำออยร้องไห้ให้เห็น ไปเลยนะ ไปอาบน้ำ  แล้วมาทำงานบ้านต่อ เห็นมั๊ยงานบ้านเยอะขนาดนี้ เอ็งสองคนยังหนีออกไปเที่ยวเล่น หาเรื่องตาย ชักช้าเดี๋ยวจะฟาดให้ ”

           พลางชี้หน้าด่าทำท่าจะตี ไล่เด็กๆให้ไปอาบน้ำชำระร่างกาย จนเด็กๆต้องวิ่ง ไปอาบน้ำ ข้างนอกบ้านอย่างรวดเร็ว

          หลังจากทำงานบ้านเสร็จ เด็กสาวสองคนนั่งอยู่ริมบันไดของบ้าน มองฝนที่ตกลงมาปรอยๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก น้องสาวถามพี่อย่างสงสัย น้ำตาก็เริ่มคลอเบ้า

 “กานต์ นี่ป้าเค้าเกลียดเรามากเลยหรอ ทำไม่เค้าไม่เคยปกป้องเราเลยสักครั้ง”

          พี่สาวเอามือปาดน้ำตาน้องสาวอย่างเบามือ ตอบน้องสาวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ จากการพยายามกั้นน้ำตา แต่ก็กั้นไว้ไม่อยู่

 “ก็ไม่รู้เหมือนกัน เค้าคงรักเรามั้ง”

           น้องสาวมองออกไปข้างนอกบ้าน

“แม่เคยบอกว่าเค้าจะกลับมาหาเรา กานต์ นานแล้วนะที่เรารออยู่อย่างนี้ เมื่อไหร่แม่จะมา”

          เสียงสะอื้นทำเอาพี่สาวเริ่มร้องไห้ออกมาเอาศรีษะซบกันด้วยความเศร้าเสียใจ ที่รอคอยให้แม่กลับมานานเท่าไหร่มันก็ยิ่งห่างไกลความจริงออกไปทุกที สองพี่น้องรู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีใครที่จะรัก หรือเอ็นดูเด็กสองคนนี้เลย  เพราะพ่อ แม่ ของเธอนะเหรอ แม่ของเด็ก หนีออกไปจากบ้านตั้งแต่เด็กแฝดมีอายุได้เพียง 5 ขวบ หล่อนหิ้วเสื้อผ้า ตุ๊กตา เดินออกจากบ้านโดยมีเด็กสองคนวิ่งตามถามว่า

“แม่จะไปไหน”  

เธอตอบกลับมาว่า “แม่กลับไปบ้านแป๊บเดียวลูก เดี๋ยวแม่จะกลับมาหานะ”

          เด็กจึงปล่อยมือให้แม่เดินจากไปท่ามกลางสายฝนที่เริ่มตกลงมาอย่างหนัก และรู้สึกได้ว่า กำลังจะโดนทิ้ง ส่วน พ่อของเด็ก สมัยยังหนุ่มๆเปรียบได้ว่าเป็นนักเลงประจำซอย แต่ไม่ค่อยจะสุงสิง หรือทำร้ายใครก่อน คนทั้งหมู่บ้านต่างจดจำได้ถึงวีรกรรม พ่อของเด็กได้ก่อนที่จะ เสียชีวิตไปเพราะโรคร้าย เนื่องจากติดยาเสพติด ซึ่งเขาพยายามเลิกมันให้ได้เพื่อลูก แต่ทว่าถึงเขาจะเลิกมันได้ ก็ไม่พ้น ความตายอยู่ดี 

               ไม่!!!!เสียงอุทานหลังจากที่หญิงสาวตื่นขึ้นมาในกลางดึก ใบหน้ามีแต่รอยเปื้อนน้ำตา เนื้อตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ นี่เธอฝันร้ายอีกแล้ว

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา