คณะนักสืบกิสบอน ไม่มีอะไรที่ไขไม่ได้

-

เขียนโดย moonmindec

วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 22.31 น.

  9 ตอน หญิงปริศนา
  6 วิจารณ์
  9,653 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2557 23.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) จิบกาแฟและมาการองจานใหญ่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

  กิสบอนเดินทอดน่องไปตามทางเดิน เขานึกถึงรอยยิ้มของแอนนา ยิ่งนึกยิ่งทำให้เขายิ้มกว้าง แต่คนอื่นที่เดินตามทางเดินก็คิดว่าเขาบ้า แต่คนอย่างเขาไม่เคยจะสนใจใครอยู่แล้ว เขาเดินไปเรื่อยๆจนหยุดอยู่หน้าโบสถ์เซ็นท์พอลที่เกิดเหตุ ในโบสถ์วันพุธช่างเงียบเหงา มีเพียงลุงแก่ๆมาสารภาพบาปกับหลวงพ่อ และยายๆแก่นั่งที่ม้านั่งสวดอ้อนวอดต่อพระผู้เป็นเจ้า เขาเดินดูไปเรื่อยๆ มันก็เป็นแค่โบสถ์ธรรมดาๆ เขามองรอยน้ำตาเทียนสีดำอยู่กลางโบสถ์ ช่างน่าแปลกใจที่ไม่มีใครทำความสะอาดโบสถ์ พูดถึงเรื่องความสะอาด เขาพยายามเพิ่งมองไปยังม้านั่ง ตู้วางหนังสือ มีฝุ่นเต็มไปหมด โบสถ์ช่างดูเก่าและไม่มีใครมาทำความสะอาด โบสถ์ช่างเงียบเหงาแลดูน่ากลัว บาทหลวงท่านหนึ่งเดินมาที่กิสบอน เขาโค้งให้บาทหลวง เพื่อทำความเคารพ

     "มาสารภาพบาปเหรอลูก?"

     "อ่อ ผมแค่กลับมาดูโบสถ์ที่พ่อผมเคยพามาตอนเด็กๆน่ะครับ เวลาผ่านไปหลายไป มันแลดูจะเก่าไปสักหน่อยมั้ยครับหลวงพ่อ" โกหกนิดหน่อยคงไม่บาปมั้ง กิสบอนคิด

กิสบอนเอานิ้วชี้ลูบที่ตู้หนังสือ ฝุ่นเกาะเต็มนิ้วของเขาและยื่นนิ้วให้บาทหลวงดู

     "โบสถ์นี้ ไม่ได้ดูหรูหราเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ผู้คนทำบุญกันน้อยลงต่างจากโบสถ์เซ็นท์จอนห์น ที่นั่นผู้ดี ขุนนางต่างเข้ากันเป็นประจำ ก็ต้องมีเงินปรับปรุงโบสถ์อยู่แล้วล่ะลูกเอ้ย"

บาปหลวงเดินตรงไปยังโถงด้านหน้า

     "บวกกับข่าวที่ครึกโครมตอนนี้ ลูกก็น่าจะเห็นในหนังสือพิมพ์ ชาวบ้านว่าเป็นอาถรรพ์ของคุณนายพรินสตัน มีคนบอกหลวงพ่อว่ากลัววิญญาณคุณนายพรินสตันจะเอาลูกเอาหลานเขาไป"

บาทหลวงและกิสบอนหยุดอยู่รูปปั้นพระเยซู กิสบอนถามหลวงพ่ออีกครั้ง

     "แล้วงานศพวันนั้น ศพเธอตั้งตรงไหนเหรอครับหลวงพ่อ?"

หลวงพ่อชี้ตรงโถงด้านหน้า ใกล้ๆม้านั่งแถวแรก 

     "อืม..ก็เหมือนปกติทั่วไปแหละลูก ข้าวของๆเธอก็ถูกฝังอยู่ในโลงพร้อมกับเธอ ตามธรรมเนียม"

กิสบอนรู้เท่าที่เขาต้องการแล้วจึงลาบาทหลวงกลับไป เขาเดินต่อไปเรื่อยจนไปถึงสำนักพิมพ์บิ๊กเบนนิวส์ เขาเปิดประตูสำนักงานเข้าไป ผู้คนต่างวิ่งวุ่น หอบเอกสารถือไปกันขวักไขว่ พวกที่นั่งอยู่กับโต๊ะก็หน้าดำคร่ำเครียดกดแป้นพิมพ์ดีด พิมพ์ข่าวก่อนจะเสนอบก. และเป็นใครไม่ได้นอกจากวิลเลียม เขาเป็นทั้งนักข่าวและบก. เขาเบื่อที่จะต้องนั่งทำงานอยู่กับโต๊ะเขาจึงเป็นนักข่าวที่คอยไล่หาข่าวบ้าง ตามเวลาที่เขาอยากทำ ซึ่งมันก็เหมือนงานชั่วคราว แต่งานเขาจริงๆก็หนีไม่พ้นการเป็น บก. การทำงานตั้งโต๊ะที่เขาเกลียดนักเกลียดหนา 

     "ว่าไงพ่อบก. ได้ข่าวอะไรมามั่ง"

กิสบอนมองหน้าเพื่อนที่ทำหน้าเบื่อสุดขีด เขาขยำกระดาษที่พนักงานเสนอข่าวมาแล้วมันไม่ได้เรื่องโยนทิ้งถังขยะ ซึ่งเขาจิตนาการว่า มันคือห่วงบาสเก็ตบอล

     "แกเห็นฉันทำอะไรล่ะ" 

วิลเลียมเอียงคอมองหน้ากิสบอนอย่างเบื่อสุดขีด เขายกหูโทรศัพท์เรียกเลขาเขาเข้ามาก่อนจะฝากงานให้เธอทำแทน

     "โอ๊ยย ไม่ไหวแล้วโว๊ย!!"

วิลเลียมตะโกนอยู่ในออฟฟิตของเขาอย่างเหลืออด เขาบิดขี้เกียจก่อนจะหยิบเสื้อคลุมและหมวกก่อนจะชวนกิสบอนออกนอกสำนักงาน

     "เห้ๆ อย่าโดดงานสิเจ้าบ้า"

     "ไปเถอะ ฉันอุดอู้อยู่ในนี้ละฉันจะบ้าตาย"

วิลเลียมจูงมือกิสบอนออกมายังสำนักงาน โดยที่มีเลขาของเขาวิ่งตามมาห้ามไม่ให้ไปไหนอยู่ไกลๆ

     "ไม่ได้นะคะ บก. ต้องเซ็นอันนี้ก่อนนะคะ อย่าไปไหนน๊าาา"

เอกสารกองสุมเลยหัวเธอ มันช่างดูหนักหนาสำหรับงานเลขาของสำนักพิมพ์นี้จริงๆ

     "ไม่สงสารเลขาแกหน่อยเหรอ แบกเอกสารท่วมหัวแบบนี้ทุกวัน"

กิสบอนเดินตามหลังวิลเลียมติดๆ เขาเดินไปเรื่อยๆจนไปถึงร้านกาแฟ วิลเลียมสั่งเอสเปรโซ2แก้วเผื่อกิสบอน และมาการองจานใหญ่ 

     "เอาน่าๆ เธอทำจนชินแล้วน่ะ อ้อ! ส่วนเรื่องที่นายไหว้วานน่ะ ฉันไปสืบมาละนะ" 

พนักงานเสิร์ฟกาแฟและมาการอง กิสบอนคว้ามาการองเข้าปากเป็นอย่างแรก เคี้ยวตุ่ยๆ ไม่สนใจวิลเลียม ก่อนจะจิบกาแฟตาม

     "เห้ยๆ สนใจฉันก่อน อย่าเพิ่งกินสิ ไอ่บ้ามาการองเอ้ย"

วิลเลียมดึงจานขนมมาวางที่ตักเขาแทน เพื่อให้กิสบอนสนใจ กิสบอนทำหน้ามุ่ยที่เขาอดกิน แต่ก็ยอมฟังวิลเลียมโดยดี

     "รีบๆว่ามา ฉันมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ"

เขาหน้ามุ่ย กอดอกมองวิลเลียมและจานมาการองสลับกัน

     "แหมม รีบทำงานหรือเพราะจานนี้หะ?"

วิลเลียมชูจานมาการองและทำหน้ายียวน แต่เพื่อนเขากลับทำหน้าบึ้งตึงกว่าเดิมเขาจึงเลิกเล่น

     "เอาล่ะเท่าที่ฉันสืบมา ตระกูลพรินสตันถือว่าเป็นผู้ดีมาตั้งแต่ปี 1788 ผู้ที่ทำคุณงามความดีให้แก่อังกฤษสืบทอดจนมาถึงปัจจุบัน ไม่มีอะไรด่างพร้อย แต่เสียอย่างเดียว..."

วิลเลียมพักจิบกาแฟ แต่กิสบอนอยากฟังจนแทบจะอดใจไม่ไหว

     "ตระกูลนี้ ตั้งแต่รุ่นทวดของชาร์ล มีนิสัยเจ้าชู้และมีบ้านเล็กบ้านน้อยเสมอ ทำให้คุณนายของบ้านพรินสตันต้องเสียใจไม่น้อย รวมถึงชาร์ลด้วยเขาก็มีบ้านเล็ก แต่แมรี่ไม่รู้ แต่ฉันไม่เข้าใจที่ว่าหญิงปริศนาทั้งสองบอกว่าฆาตกร คุณนายเอ็ดน่าคือฆาตกร แต่ประวัติเธอไม่มีอะไรด่างพร้อยเลย"

กิสบอนทำหน้าครุ่นคิด

     "คงเป็นความลับในตระกูลสินะ งั้น..เราไปกัน"

กิสบอนสั่งพนักงานเอามาการองใส่ถุงให้เขา และใช้ให้วิลเลียมคิดเงิน

     "แกมีเงินมากกว่าฉันตั้งเยอะ ยังจะให้ฉันจ่าย ว่าแต่...แกจะไปไหน"

วิลเลียมแซวกิสบอน แต่เขาดูลุกลี้ลุกลน

     "ล้วงความลับในตระกูลพรินสตันกันไง"

                                         จบตอนที่6

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา