Past-memories อดีต-ความทรงจำรักวุ่นๆกับยัยตัวร้าย

7.7

เขียนโดย Ryoko

วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 21.34 น.

  25 ความทรงจำที่
  44 วิจารณ์
  25.28K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 20.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

23) ค่ำคืนแห่งรัตติกาลสีเลือด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 ค่ำคืนแห่งรัตติกาลสีเลือด

 

 

          "แคลอ..ทำใจดีๆนะ!" ผมพูดพลางกุมมือของแคลอที่นอนหนุนตักผมและนิ่งไม่ยอมขยับตัวแต่อย่างใดอยู่ ผมมองแคลออย่างเป็นห่วงอาการของเธอเลือดที่เคยไหลออกมาจากบาดแผลของเธอเริ่มหยุดลงบ้างเล็กน้อยเพราะผมช่วยห้ามเลือดไว้บ้างแล้ว แต่บาดแผลก็ลึกเกินไป..เธอถูกแทงจากข้างหลังทะลุยันข้างหน้า...ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจิสะจะใช้ดาบแทงแคลอได้ขนาดนี้...จิตสังหารขั้นรุนแรง แต่ตอนที่ผมอยู่ในห้องร่วมกับเธอก็ไม่มีอะไรผิดปกติหรือทำให้เห็นถึงอารมณ์ที่รุนแรงถึงขนาดจะฆ่าคนได้ขนาดนี้..มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากที่เด็กนักเรียนชั้นมัธยมปี3จะลงมือทำร้ายร่างกายคนอื่นได้ขนาดนี้... ทำตัวไม่สมกับเป็นเด็กจริงๆ

          เอี๊ยด...!

          เสียงเบรกรถดังขึ้นทำให้ผมรู้ในทันทีว่าตอนนี้ผมได้มาถึงที่หมายแล้ว ซึ่งนั้นก็คือคฤหาน์สของผมและแคลอ ผมรีบเปิดประตูรถออกก่อนจะช้อนตัวแคลออุ้มขึ้นและพาเดินลงจากรถมุ่งตรงเข้าไปยังคฤหาน์สในทันที

          ปัง!

          ผมใช้เท้าถีบประตูให้เปิดออกเพราะไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้นที่ว่างพอจะมาเปิดประตูให้กับผมและผมก็ไม่ใจเย็นพอที่จะรอให้คนมาเปิดให้ได้เช่นกัน เรียสเทียสที่กำลังเช็ดบรรไดอยู่ได้ยินเสียงประตูดังลั่นขึ้นก็ตกใจและรีบหันมามองยังผม เธอทำสีหน้าตกใจสุดขีดเมื่อเห็นสภาพของแคลอที่ผมกำลังอุ้มอยู่เธอไม่รีรอที่จะวิ่งเข้ามาถามไถ่สุขภาพของแคลอ

          "คุณชายคะ! นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย!!" เรียสเทียสเอ่ยถามเสียงดังด้วยความตกใจ

          "ฉันเองก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรมากมาย แต่ตอนนี้ต้องรักษาแคลอก่อน ไม่งั้นเธอตายแน่!" ผมพูดพลางเดินขึ้นขั้นบรรไดมุ่งตรงไปยังห้องของแคลอในทันที เรียสเทียสเองก็เรียกคนใช้คนอื่นๆตามผมมาขึ้นมาบนห้องของแคลอติดๆ

          ผมวางแคลอลงบนเตียงอย่างเบามือเพราะกลัวว่าจะเผลอไปทำให้ปากแผลเปิดมากยิ่งกว่าเดิม เรียสเทียสให้คนใช้ที่เธอตามมาช่วยห้ามเลือดของแคลอให้หายสนิทก่อน ซึ่งมันก็ใช้เวลามากพอสมควรเพราะแผลนั้นมันลึกยิ่งกว่าที่พวกเธอคิดรวมทั้งยังโดนเส้นเลือดบางส่วนด้วยทำให้มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ผมยืนมองด้วยความเป็นห่วงผมได้แต่กัดฟันและกำมือแน่นด้วยความเป็นห่วง..ตอนนี้ผมเกือบจะบ้า ทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าควรหยิบจับช่วยอะไรดีเลยได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกอยู่อย่างนั้น ผมเองก็ใช้เวทย์รักษาไม่เป็นซะด้วย..แบบนี้ผมคงจะช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ

          "คงได้เท่านี้ล่ะค่ะ.." สาวใช้คนหนึ่งเอ่ยพูดขึ้นก่อนจะละมือออกจากแผลของแคลออย่างเบามือ

          "เข้าใจแล้ว..พวกเธอออกไปได้" เรียสเทียสเอ่ยสั่งสาวใช้ทั้งหมด พวกเธอขยักหน้าเชิงว่าเข้าใจก่อนจะพากันเดินออกจากห้องไป

          "แคลอจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?" ผมเอ่ยถามเรียสเทียสทั้งๆที่ตาก็ยังจ้องมองไปที่แคลอไม่ลดละ

          "ค่ะ.." เรียสเทียสเอ่ยตอบผมเสียงแผ่วเบา "อาการขององค์หญิงคือสภาพการขาดเลือด แจ่ถ้าเป็นอกตอบาดแผลเพียงเท่านี้ไม่สามารถทำให้ผู้ที่มีสายเลือดแวมไพร์อย่างองค์หญิงถึงกับหมดสติแบบนี้ได้หรอกนะคะ.."

          "หะ!?" ผมรีบหันขวับไปมองเรียสเทียสในทันทีที่จบคำพูดของเธอ..นี่เธอกำลังจะบอกกับผมว่ามันมีอะไรมากกว่าดาบธรรมดาที่แทงแคลอสินะ... อันที่จริง..ผมก็สงสัยล่ะนะว่าทำไม แค่โดนแทงไม่น่าจะทำให้เธอเจ็บหนักขนาดนี้ แต่สถานการณ์มันไม่ค่อยเอือมอำนวยให้ใช้สมองคิดเท่าไหร่...

          "ดิฉันว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น...บางทีดาบที่ใช้แทงองค์หญิงมันอาจจะมีเวทย์มนต์อะไรปนอยู่ทำให้ซึมเข้าไปในตัวขององค์หญิงและทำให้ท่านหมดสติ..." เรียสเทียสหยุดพูดชั่วขณะก่อนจะเอ่ยพูดต่อ "ถ้าเป็นแบบนี้..องค์หญิง...อาจจะเสียสมดุจในการควบคุมพลังเวทย์ก็ได้..." เธอเอ่ยคำพูดนั้นด้วยสีหน้ากังวนสุดๆ

          "ถ้าเป็นแบบนั้น..ก็เท่ากับว่า แคลอจะคลั่งอีกครั้งสินะ.." ผมมองแคลอด้วยสีหน้ากังวนยิ่งกว่าเดิม ในหัวผมตอนนี้ไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไร ควรทำอะไรต่อ...ไม่รู้เลยจริงๆ...ทำไมมันถึงต้องเกิดเรื่องแบบขึ้นกับผมและแคลอด้วย!!

          "อั่ก!!!" เสียงครวญครางเหมือนกำลังทรมานของแคลอที่นอนอยู่บนเตียงดังขึ้นทำให้ผมและเรียสเทียสหันไปมองด้วยความตกใจ เธอดิ้นทุรนทุรายราวกับขาดอากาศหายใจ มือกุมคอเอาไว้แน่น ดวงตาเบิกกว้าง แคลอส่งเสียงอูอีในลำคอเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้ เรียสเทียสรีบวิ่งไปดูอาการของแคลอด้วยความตกใจ พยายามถามไถ่สุขภาพแต่ก็ไม่ได้คำตอบนอกจากการกระทำที่ดูราวทรมานของแคลอเท่านั้น ผมได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้สมองผมไม่ประมวลอะไรเลยจริงๆ...

          "อาการของคุณหนูแย่แล้วค่ะ! จะทำยังไงดีคะคุณชาย!!?" เรียสเทียสหันมาถามผมด้วยท่าทางเป็นเดือนเป็นร้อนสุดๆ ผมก็ได้แต่ยืนเหงื่อตกทำอะไรไม่ถูกเช่นเดิม กูผมไม่รู้จริงๆว่าควรทำยังไงต่อ เพราะแคลอเป็นอะไรผมยังไม่รู้เลย แล้วจะทำอะไรได้!?

          "เรียกหมอ! ไปเรียกหมอมาเรียสเทียส!! ให้ด่วนที่สุดเลยนะ!!" ผมสั่งให้เรียสเทียสไปเรียกหมอซึ่งเธอก็รีบทำตามคำสั่งผม นี่เป็นหนทางเดียวที่ผมพอจะนึกออก ผมมองแคลอด้วยท่าทางสับสน..เธอเป็นอะไรกันแน่?

          "อั่ก!! ทรมาน!!!" แคลอครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวดและทรมานอย่างที่ผมเห็นได้ชัด ผมรีบนั่งลงเพื่อดูอาการแคลอในทันที และนั้น..ก็ทำให้ผมได้เห็นอีกครั้ง...

          หยาดน้ำตาสีเลือด..ที่ไหลรินลงมาจากตาซ้ายของแคลอ... อีกแล้ว! ทำไม!? ตาซ้ายของแคลอถึงเป็นแบบนี้!!? ..ผมใช้มือจับตาของแคลอที่เธอปิดสนิทแหกออกเล็กน้อยเพื่อที่จะดูว่ามีอะไรอยู่ในตาของเธอรึเปล่า..และนั้นก็ต้องทำให้ผมตกใจและช็อคอีกครั้ง... นัตย์ตาของแคลอที่ควรจะเป็นสีฟ้าสดใส บัดนี้..มันได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นสีม่วงเปล่งแสง... ผมได้แต่นั่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก นัตย์ตาสองข้างที่คนละสี..เรื่องแบบนี้เป็นไปได้งั้นเหรอ!?

          "อั่ก! ไม่!! ไม่!! เอามันออกไปที!!" แคลอเอ่ยร้องครวญครางออกมาอย่างทรมาน มือสองข้างของเธอยกขึ้นมากุมตาของซ้ายไว้พลางดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวด "ทรมาน! เอาตาข้างนี้ออกมาที!! อ้ากกกก!!"

          "แคลอ! ใจเย็นๆนะ!! อย่าทำแบบนี้!!" ผมเอ่ยปลอบแคลอพลางพยายามดึงมือของเธอที่กำลังพยายามที่จะควักลูกตาข้างซ้ายของเธอเองออกมาให้ได้ และเธอก็ขัดขืนผมเต็มที่! ..ตัวนิดเดียวแต่เอาแรงมาจากไหนตั้งเยอะกันนะ!?

          "ไม่! มันทรมาน!! ไม่! ไม่!! กริ๊ดดดดดดดดดด!!!!" แคลอกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทรมาน เธอลดมือที่กุมตาข้างซ้ายลงและเปลี่ยนมากุมหน้าอกแทน ดวงตาเบิกกว้างจนผมได้เห็นดวงตาของซ้ายของเธอได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น... มันไม่ใช่แค่เปลี่ยนสีธรรมดา... แต่ในนัยต์ตาข้างนั้นของเธอ.. มีวงแหวนเวทย์อยู่ด้วย!!

          "ไม่จริง..เป็นไปไม่ได้!" ผมเอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อตาตัวเองพลางเขยิบถอยหนีด้วยความหวาดกลัว.. ถึงจะไม่รู้ว่าควรกลัวอะไร แต่ก็สำผัสได้ถึงความน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากตัวของแคลอจนผมอดที่จะกลัวไม่ได้...

 

          น่ากลัว...

          

          "กริ๊ดดดดดดดดด!!!!!!" แคลอระเบิดกรีดร้องออกมาอีกครั้งก่อนที่ทุกอย่างบริเวณรอบเธอจะสั่นไหวราวกับแผ่นดินหวั่น ข้าวของกระจัดกระจายไปทั่วห้อง ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นหวั่น..ราวกับว่าคฤหาสน์นี้จะทะล่มลงมา..

          ความรู้สึกนี้มัน... เหมือนเคยเจอเรื่องราวแบบนี้มาก่อน..แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน เมื่อไหร่ กับใคร... ความรู้สึกหวาดกลัว..ที่สัมผัสได้ชัดเจนมากมายขนาดนี้.... ผมเคยรู้สึกแบบนี้เมื่อไหร่กันนะ!?

          "เจ็บปวด!!!"

 

          คุ้นเคย...

 

          "ทรมาน!!!"

 

          สัมผัส...

 

          "อยากตาย!!!"

 

          ความหวาดกลัวนี้...

 

          "หายไปซะ...!"

 

          เคยเจอ...

 

          "จงหายไปซะ...!"

 

          เคยสัมผัส...

 

          "หายไป...!!"

 

          เรื่องราวในอดีต...

 

          "จงหายไปซะ!!!!"

 

          จำได้แล้ว!!

 

          "กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"

 

 

 

          "หว่า... ผลเกินคาดแฮะ.." เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยพูดพลางแสยะยิ้มออกมาอย่างผู้มีชัย เมื่อได้มองภาพเหตุการณ์ผ่านทางมาญพลัง... ภาพที่หญิงสาวผมสีดำยาวสลวยกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมานและทำลายข้าวของบริเวณรอบตัวของเธอ... นัยต์ตาข้างซ้ายที่เปล่งแสงสีม่วงออกมาชวนน่าหลงใหล... ภายในดวงตราที่ปรากฏวงแหวนเวทย์อย่างเห็นได้ชัด...

          "น้องสาวนายนี้ไม่ใช่เล่นๆเลยนะ..." หญิงสาวผมดำยาวสลวยนัยต์ตาสีแดงกล่ำราวกับเลือดเอ่ยขึ้นในขณะที่กำลังมองภาพเหคุการณ์เดียวกันกับชายหนุ่มผ่านมาญพลัง ก่อนจะหันไปมองยังชายหนุ่มที่นั่งแสยะยิ้มอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่สูงกว่าหัวของเธอเสียด้วยซ้ำ

          "สมแล้ว..ที่เป็นแคลอ.." ชายหนุ่มว่าพลางแสยะยิ้มมองภาพเหคุการณ์ผ่านมาญพลังไม่วางตา

          "ขนาดไม่มีฉันอยู่ยังพลังมหาสารขนาดนี้.. ถ้าได้ฉันรวมเข้าไปคงจะน่ากลัวและไม่มีใครเทียบได้เลยล่ะ..." หญิงสาวแสยะยิ้มออกมาอย่างนึกสนุก เธอไม่คาดคิดว่าพลังของเด็กน้อยที่ถูกหยุดการเจริญเติบโตของร่างกายจะมีพลังมหาสารขนาดนี้ ทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้อยู่ในตัวของเด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว... น่าสนใจเสียจริงๆ

          "ไม่หรอก.. แค่นี้ก็ไม่มีใครสามารถเทียบเธอได้แล้ว..." ชายหนุ่มเอ่ยพลางแสยะยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นเท้าคางมองเด็กน้อยในเจออย่างไม่ลดละ

          "ฮึ! ดูท่านายจะสนใจเด็กนั้นเหลือเกินนะ" หญิงสาวมองพลายิ้มมุมปากและกอดอกอย่างไม่พอใจเล็กน้อย

          "แน่นอนสิ.. พวกเราไม่ได้เจอกันตั้ง 13 ปีนิ.." ชายหนุ่มว่าพลางยิ้ม

          "ถ้าคิดถึงนักก็โผล่หน้าไปหาสักหน่อยสิ...โผล่ไปดีๆอย่าเหมือนตอนเธอเพิ่งฟื้นล่ะ" หญิงสาวเสนอแนะความคิดให้กับชายหนุ่มที่ดูจะเป็นห่วงและโหยหาน้องสาวสุดที่รักซะเหลือเกิน

          "เป็นความคิดที่ดี แต่ต้องมั่นใจก่อนว่าถ้าฉันโผล่ไปเธอจะไม่โผร่ายเวทย์ใส่ฉันน่ะนะ..." ชายหนุ่มเอ่ยพลางยิ้ม เพราะเด็กน้อยนั้นได้เห็นเขาในโฉมหน้าที่เป็นคนทำลายเมืองของเธอเอาเสียแล้ว ถ้าเขาโผล่ไปพบกับเธอเธอก็คงจะไม่ลังเลที่จะจะหวดคมดาบใส่เขาเป็นแน่...

          "ก็ตามใจนาย.. ฉันจะไปหาอะไรทำสักหน่อย" หญิงสาวว่าพลางหันหลังให้กับชายหนุ่มและเดินหายเข้าไปในมุมมืดของเสา

          "ตามสบาย..." ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะหันไปสนใจหญิงสาวที่เดินหายไปเลยเสียนิด เพราะตอนนี้เขาสนใจเด็กน้อยตรงหน้ามากกว่า... อยากจะรู้เสียจริง..ว่าปีศาจในตัวของเธอจะทำอะไรได้บ้าง... เธอที่ไม่มีครอสในตัวแล้ว..จะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ยังไงกันนะ...

 

          "ขอให้สนุก...กับค่ำคืนแห่งความเจ็บปวดทรมาน...ค่ำคืนแห่งรัตติกาลสีเลือด หึหึ!"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา