อาเรเมตาเรีย - ปฐมกาลหายนะ

#2 คนในหิน Frozen men

เจ้าหน้าที่ที่ทำงานราชการในเขตเมืองหลวงโดนมากจะเป็นดิซ พวกลูกครึ่งลูกค่อนอย่างฟาร่า ไม่ค่อยมีโอกาสเข้ามาทำงานแที่นี่หรอก ฟาร่าโชคดีที่มีพ่อเป็นดิซเลือดบริสุทธิ์ และเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง จนอาจมีเสียงนินทาว่า ที่ฟาร่าได้งานทำ เพราะพ่อของเธอ แต่ฟาร่าเป็นโซลเฮย่าที่มีคะแนนทดสอบสูงสุดในรุ่น เธอเลยได้ทำงานในศูนย์อย่างไม่เป็นที่กังขา

ฟาร่า เป็นหญิงหม้าย อายุ 40 ปี ร่างสูงท้วมดูสุขภาพดี เธอมีผมสีน้ำตาลเข้มยาวสลวยมัดรวบไว้ เป็นเปียยาวเลยหลัง เธอสวมชุดยูนิฟอร์มของหน่วยงาน เป็นชุดสูทผ้าทอหนาสีเทาเข้ม ประดับตราสัญลักษณ์องค์กรไว้ที่อกเสื้อขวา และชื่อของเธอเป็นภาษาโซลที่อกเสื้อซ้าย ชุดยูนิฟอร์มจะบอกตำแหน่งของบุคคลผู้นั้น ซึ่ง หาขอบเสื้อขลิบสีขาว แสดงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับต้น หรือ ระดับ 1-3 ถ้าขลิบสีเหลือง เป็นเจ้าหน้าที่ระดับกลาง หรือระดับ 4-7 และระดับสูงชั้นยศไม่ต่ำกว่าโซลฮิลเดรท หรือระดับ 8 ขึ้นไป ขลิบขอบเสื้อจะเป็นสีทอง ส่วนระดับหัวหน้างาน ยูนิฟอร์มจะเป็นสีเทาอ่อน สูงกว่านั้นก็เป็นโซลมาสเตอร์ ซึ่งยังไม่เอ่ยถึงในตอนนี้

ฟาร่าทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่สอบสวนพิเศษระดับ 8 สังกัดหน่วยงานสอบสวนกลาง หน่วยงานสอบสวนพิเศษที่มีชื่อเรียกแตกต่างไปตามแต่ภารกิจ ซึ่งภารกิจนี้ใช้ชื่อว่า “ดาวตก”

ซากของวัตถุที่ตกถูกลำเลียงไปยังโกดังใหญ่ ทันทีที่ฟาร่ามาถึงอาคาร เลขาส่วนตัวก็รีบนำรายงานมายื่นทันที

“มีอะไรคืบหน้าบ้าง” ฟาร่าถาม

“ตอนสามทุ่มโดยประมาณ มีวัตถุพุ่งผ่านชั้นบรรยากาศตกลงที่เขตป่าเบลดิซซิโค่ ครึ่งชั่วโมงต่อมาทางการได้เคลื่อนย้ายซากวัตถุที่ตกนั้นมายังโกดังเบต้า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ระดับ3-6กำลังตรวจสอบอยู่ ตรวจสอบเบื้องต้น ไม่ใช่อุกกาบาต แต่อาจจะเป็นยานอวกาศ จากลูนค่ะ”

“ยานอวกาศลูน?” ฟาร่าสงสัย

ทั้งสองเดินมุ่งหน้าไปยังห้องประชุมใหญ่ ระหว่างนั้นก็ดูข้อมูลจากแท็บเล็ท เธอเปิดรูปดู ยังไงมันก็เป็นก้อนหินบุบๆ ไม่มีส่วนคล้ายยานอวกาศแต่อย่างใด

“ไม่น่าใช่ ยานอวกาศจากลูนทำไมดูเหมือนก้อนหินแบบนี้” ฟาร่าว่า

“คณะกรรมการท่านอื่นก็คิดแบบคุณ แต่จากการสแกน พบโลหะข้างใน”

ฟาร่าเดินเข้าห้องประชุมและลงนั่งประจำที่ ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน มิวโร หัวหน้าโครงการ “ดาวตก” และรองผู้อำนวยการหน่วยสอบสวนกลาง เขาดูหนุ่มกว่าอายุจริงหลายปี สวมเครื่องแบบเต็มยศของโซลฮิลเดรทโอเมก้า เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้ามาพร้อมหน้า ห้องประชุมก็ปิดสนิท และมิวโรก็เปิดการประชุมด้วยการกระแอมสองสามที

“ขออภัยทุกท่าน สำหรับการเรียกตัวฉุกเฉิน เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายท่านที่มีบ้านพักอยู่ที่หอคอยเขตเบลดิซซิโค่ บี16 และซี16 ซึ่งอยู่ในจุดที่เห็นเหตุการณ์มากที่สุด เจ้าหน้าที่ได้สแกนภายในพบเปลือกผนังเหล็ก และภายในเป็นโพรงกว้าง รวมถึง พบสัญญาณชีพภายในด้วย”

มิวโรแสดงภาพจำลองของวัตถุดังกล่าว พลางอธิบายต่อไปว่า “วัตถุนี้มีเปลือกนอกลักษณะคล้ายหิน” ขนาด 6 เมตรยาว 10 เมตร หนัก18 ตัน”

“รู้รึยังว่าข้างในมีอะไร” ฟาร่าเอ่ยขึ้น

“ในอีก 10 นาที เราจะลงไปดูพร้อมกัน” มิวโรกล่าว

คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ระดับสูงร่วม 30 คนต่างพากันลงมายังห้องรับรอง ที่อยู่เหนือโกดังที่วัตถุวางอยู่เบื้องล่าง เจ้าหน้าที่ 20 คนกำลังใช้เลเซอร์ตัดผิววัตถุนั้นนั้นออก เป็นช่องวงกลม ทันทีที่แท่นดูดจับเปลือบผิวที่ถูกตัดออกข้างในเป็นโพรง ขนาดเท่าฝ่ามือ เจ้าหน้าที่ส่งหุ่นยนต์จิ๋วเข้าไปสำรวจ เหล่าคณะหรรมการต่างสนใจภาพที่ส่งจากหุ่นจิ๋วใน

ตัววัตถุ ที่ปรากฎเป็นใบหน้าของมนุษย์ที่ถูกฝังข้างใน ไม่ใช่แค่คนเดียว มีถึงสี่คน

สิ่งที่น่าตกใจคือ มันไม่ใช่ยานอวกาศธรรมดา แต่เป็นยานแคปซูลที่บรรจุคนสามคนอยู่ข้างใน และเปลือกนอกที่เป็นเหมือนผลึกบางอย่าง ที่แท้คือแร่ควอทส์สีขาวขุ่นที่ก่อตัวขึ้นผ่านกาลเวลาอย่างน้อยสองพันปี

ในการนำร่างที่ฝังในแคปซูลทั้ง 3 คนออกมาเป็นเรื่องง่ายแต่ต่อจากนี้เป็นหน้าที่ การสืบสวนของฟาร่าล้วนๆ

เนื่องจากพอนำร่างออกจากหลอดแคปซูลที่ถูกฝังในผลึกแร่แล้วนักวิจัยจะนำร่างของพวกเขา เข้าแทงค์บำบัดและใช้เวลาหลายวันกว่าพวกเค้าจะฟื้นตัว ร่างที่อยู่ในแคปซูลทั้ง 3 คน 1 เป็นชายหนุ่มอายุ 20 กว่าผมสีทองตาสั้นชุด ที่ใส่เป็นชุดรัดรูปผิวมันคล้าย หนังเทียมสีเทาพวกเขาสวมถุงมือและรองเท้าทำ จากยางอีก อีกคนเป็น เด็กหนุ่มอายุ 16-17 เขามีกะโหลก ข้างขวาทำด้วยโลหะ และหญิงวัยกลาง คนอีกคนหนึ่งซึ่งทั้งสองแต่งตัวเหมือนชายคนแรก โชคร้ายสัญญาณชีพของเด็กหนุ่มกับหญิงวัยกลางคนหมดไปหลังถูกนำตัวเข้าแทงค์บำบัด ไม่กี่ชั่วโมง คงเหลือแต่ชายผู้นี้ผู้เดียว ดูจากบุคลิกลักษณะแล้ว ฟาร่าเข้าใจว่าชายคนนี้น่าจะเป็นผู้นำกลุ่ม

to be continue..